กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 454
“ใช่ๆๆ เมื่อคืนข้าดื่มหนักไปหน่อย ตอนนี้ยังเวียนหัวอยู่เลยพูดอะไรไร้สาระ หัวหน้าเผ่า ท่านอย่าได้เก็บคำพูดของข้าไปคิดเป็นจริงเป็นจังเลย”

กู้ชูหน่วนลูบคาง

นางรู้ว่าพวกเขากังวลเรื่องการรวบรวมไข่มุกมังกรทั้งเจ็ดให้ครบ แต่พวกเขาไม่อยากให้นางกังวล จึงพูดแบบนี้เพื่อให้นางสบายใจ

ผู้อาวุโสสูงมองกู้ชูหน่วนอย่างเฉยเมยและเอ่ยเรียบๆ ว่า “ท่านหัวหน้าเผ่าเพิ่งกลับมาถึง น่าจะยังเหนื่อยอยู่ พวกเจ้าออกไปก่อนเถิด ปล่อยให้หัวหน้าเผ่าได้พักผ่อน”

ผู้อาวุโสหลายคนยังไม่อยากออกไปและอยากคุยกับกู้ชูหน่วนอีก แต่เมื่อผู้อาวุโสสูงมองพวกเขาด้วยสายตาที่เยือกเย็น พวกเขาจึงจำต้องออกไปก่อน

ตอนแรกก็รักษาหัวหน้าเผ่า จากนั้นก็ไปรักษาอี้เฉินเฟยต่อ พวกเขาใช้พลังมากเกินไป ดังนั้นจึงควรกลับไปทำสมาธิปรับพลังปราณเสียก่อน

“ท่านหัวหน้าเผ่า ข้ารู้ว่าท่านมีความผูกพันกับเฉินเฟยมาตั้งแต่เด็ก แต่ว่า… ท่านอย่าได้ทุกข์ใจเกินไปเลย ทุกคนในเผ่าหยกจะทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อหาไข่มุกมังกรให้เจอโดยเร็วที่สุด เฉินเฟยเป็นเด็กที่มีจิตใจดี เขาเองก็ไม่อยากให้ท่านเป็นทุกข์”

“ขอบคุณท่านผู้อาวุโส ข้าว่าท่านคงเหนื่อยมากเหมือนกัน ท่านกลับไปพักผ่อนเถิด”

“อื้ม”

กู้ชูหน่วนนั่งอยู่ที่ปลายเตียง นางยื่นมือที่ดูเหมือนต้นหอมของตนเองลูบใบหน้าที่คมชัดของเขา ใบหน้าที่ขาวซีดดั่งเซียนที่ถูกเนรเทศลงมายังโลกมนุษย์

ในความทรงจำที่มี ทุกครั้งที่อี้เฉินเฟยมองนาง ใบหน้าของเขาจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นและอ่อนโยน

นางหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอี้เฉินเฟยจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม ยิ้มให้นางอย่างอบอุ่น เรียกนางว่าแม่สาวโง่ เรียกนางว่าอาหน่วน

“ท่านพี่เฉินเฟย ข้ารู้สึกว่าไหล่ของข้าหนักอึ้ง มีเรื่องที่ต้องแบกรับไว้มากมาย แต่ข้าคิดไม่ออกว่าแท้จริงแล้วข้าควรจะทำอย่างไร ตอนนี้… ดูเหมือนข้าจะเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว ว่าหนึ่งในภารกิจที่หนักอึ้งของข้าคือการตามหาไข่มุกมังกร ใช่หรือไม่ท่านพี่เฉินเฟย”

เนื่องจากยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บและการผนึกพลังยังไม่เสถียร เหล่าผู้อาวุโสแห่งเผ่าหยกจึงบังคับให้กู้ชูหน่วนอยู่ที่นี่ต่ออีกสองสามวัน

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมากู้ชูหน่วนได้เรียนรู้หลายอย่างเพิ่มเติมเกี่ยวกับเผ่าหยก

ที่นี่ไม่ใช่แค่หมู่บ้านเดียวที่มี แต่ยังมีหมู่บ้านอีกหลายสิบแห่ง แต่ละแห่งมีผู้อยู่อาศัยอยู่หลายร้อยหลายพันคน คล้ายกับเป็นครอบครัวโบราณหรือไม่ก็รัฐเล็กๆ ที่อยู่ห่างไกลจากโลกภายนอก

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผู้อาวุโสสูงบอกชาวบ้านว่าไม่ให้รบกวนนางตามใจชอบหรือเปล่า ผู้คนในหมู่บ้านจึงไม่มีใครกล้าเข้ามารบกวนนาง จะมีก็เพียงเด็กซนๆ แค่ไม่กี่ที่แอบหนีมาเล่นกับนาง

กู้ชูหน่วนค่อยๆ คุ้นเคยกับพวกเขา ขนบธรรมเนียมที่เรียบง่ายของที่นี่ทำให้นางเพลิดเพลินจนลืมเวลา

พระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า สีเหลืองทองของแสงแดดดูเหมือนจะถูกเคลือบด้วยแสงทองเป็นชั้นๆ แสงนั้นโปรยปรายลงมาในหมู่บ้านจนทำให้สถานที่แห่งนี้ดูศักดิ์สิทธิ์ขึ้นกว่าเดิม

กู้ชูหน่วนกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของอี้เฉินเฟย นางอยากจะออกจากเผ่าหยกเร็วๆ และออกตามหาไข่มุกมังกรอีกสองลูกที่เหลือ นางตื่นแต่เช้าและไม่แปลกใจเลยที่เห็นว่าตรงหน้าประตู มีชาวบ้านวางผักสด เนื้อปลาและผลไม้มากมายเอาไว้

ฟ้าเพิ่งจะสาง ทว่าชาวบ้านในหมู่บ้านต่างไปลงทุ่งทำงานกันแล้ว

กู้ชูหน่วนกวาดตามองผ่านๆ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่นางมักจะรู้สึกว่าคนในหมู่บ้านมีจำนวนน้อยลงไปมาก ก่อนหน้านี้ตอนที่ฟ้ายังไม่สาง ที่ลำธารและในทุ่งหน้าจะมีชาวบ้านพากันส่งเสียงหัวเราะตลอด มองมาจากนอกหมู่บ้านก็ยังเห็น

วันนี้แม้แต่พวกเด็กแสบที่อยู่ในหมู่บ้านก็ไม่โผล่หน้ามาให้เห็น

“วันนี้มาเช้าเลยนะท่านหัวหน้าเผ่า”

อาหนิวกลับมาจากการล่าสัตว์และทักทายนางด้วยรอยยิ้มมาแต่ไกล

กู้ชูหน่วนจำเขาได้ เขาขึ้นชื่อว่าเป็นพวกหลงภรรยาแบบไม่มีใครเกิน ถ้าภรรยาของเขาบอกว่าตะวันออก เขาจะไม่กล้าไปตะวันตก ปกติเขาจะปรนนิบัติภรรยาอย่างพิถีพิถันประหนึ่งกำลังปรนนิบัติจักรพรรดิ

โดยเฉพาะหลังจากภรรยาตั้งครรภ์ เขาก็ยิ่งเอาใจใส่ ประคบประหงมยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม

“อื้ม ท่านไปล่าสัตว์มาทั้งคืนเลยหรือ” กู้ชูหน่วนยิ้มน้อยๆ และกวาดตามองไก่ป่า กระต่ายป่า นกอินทรีตัวใหญ่และสัตว์อื่นๆ ที่อยู่บนหลังของเขา

“ช่วงนี้เมียของข้าไม่ค่อยอยากอาหาร ข้าเลยถือโอกาสตอนนางหลับรีบไปล่าไก่ป่ากลับมาสองสามตัว ลองดูว่านางจะกินได้เยอะขึ้นหรือไม่ ท่านก็รู้ว่าตอนนี้นางกำลังท้อง จำเป็นต้องบำรุงมากๆ”

ใบหน้าของอาหนิวแดงระเรื่อและลูบที่ด้านหลังของตัวเองอย่างไม่สบายใจเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็คิดอะไรขึ้นมาได้และหยิบไก่ป่าสองตัวส่งให้กู้ชูหน่วน

“ท่านหัวหน้าเผ่า สองตัวนี้ข้ามอบให้ท่านเอาไปบำรุงร่างกาย”

“ไม่ต้องหรอก ท่านเอาไปให้ภรรยาของท่านเถิด แต่ถ้าข้าจำไม่ผิด ตอนนี้ภรรยาของท่านท้องได้เก้าเดือนแล้วนี่นา อีกไม่นานก็คงคลอดแล้ว พอดีเลย ท่านเอาไปบำรุงให้นางเถิด ตอนคลอดเป็นช่วงเวลาที่เหนื่อยมาก”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของอาหนิวก็ชะงักทันที ใบหน้าที่กระดากอายเต็มไปด้วยทุกข์ที่มิอาจคลี่คลาย

“ข้าพูดอะไรผิดไปหรือเปล่าอาหนิว ท่านกับท่านอาสะใภ้หนิวรักกันดีขนาดนี้ อีกทั้งท่านยังดูแลนางอย่างดี ลูกของท่านจะต้องคลอดออกมาอย่างปลอดภัยแน่นอน ที่ข้าพูดเมื่อครู่นี้ท่านอย่าไปใส่ใจเลย”

อาหนิวฝืนยิ้มและเอ่ยอย่างร้อนใจว่า “ไม่ใช่ๆๆ ไม่เกี่ยวอะไรกับท่านหัวหน้าเผ่าเลย ที่ท่านพูดนั้นถูกต้องแล้ว ผู้อาวุโสไป๋เฉ่าย้ำเตือนข้าอยู่หลายครั้งว่าอย่าละเลยเรื่องอาหารบำรุง ไม่อย่างนั้นเด็กจะคลอดยาก ข้ารู้ว่าท่านหัวหน้าเผ่าหวังดีกับข้า”

“แล้วท่านกังวลเรื่องใดหรือ”

“ใกล้จะสิบห้าแล้ว ไม่รู้ว่า..” เมื่อพูดคำว่าสิบห้า ร่างกายของอาหนิวก็สั่นสะท้านอย่างหยุดไม่ได้ เขาไม่คิดจะพูดอะไรไปมากกว่านี้

อาสะใภ้หนิวที่กำลังท้องโตเดินออกมาพอดี นางตะโกนเรียก “ต้าหนิว ออกไปล่าสัตว์ตอนกลางคืนอีกแล้วรึ เจ้าจึงหายไปทั้งคืน อ๊ะ อาหน่วน เหตุใดจึงมาแต่เช้า หรือว่าเจ้าบ้าต้าหนิวไปรบกวนท่านอีกแล้ว”

“เมียจ๋า เหตุใดจึงออกมาข้างนอกเช่นนี้เล่า ทำไมไม่พักผ่อนอยู่ในเรือน ถ้าได้รับบาดเจ็บขึ้นมาจะทำอย่างไร มาๆ ข้าจะช่วยประคองเจ้าเอง”

“ให้ตายเถอะ วันๆ เอาแต่กินๆ นอนๆ อยู่ในเรือน เจ้าอยากให้ข้าคลอดยากหรืออย่างไร”

“น่าๆๆ อย่าพูดอะไรเป็นลางสิ ลูกของเราจะต้องคลอดออกมาอย่างปลอดภัยแน่นอน”

มุมปากของกู้ชูหน่วนยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นสองสามีภรรยาที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นในหมู่บ้าน แต่พวกเขาก็เป็นสามีภรรยาที่รักกันและมองกันและกันด้วยแววตาที่รักใคร่ เห็นแล้วรู้สึกอิจฉาจริงๆ

“อาหน่วน อาหนิวของท่านเป็นพวกอยู่ไม่นิ่ง ล่าไก่ป่ากับกระต่ายป่ามามากขนาดนี้เรากินไม่หมดหรอก ท่านแบ่งไปบำรุงร่างกายเถิด”

อาหนิวสองสามีภรรยามีน้ำใจมาก กู้ชูหน่วนไม่กล้าปฏิเสธ ดังนั้นจึงได้แต่รับเอาไว้

“จริงด้วยอาหนิว เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าคนในหมู่บ้านดูลดน้อยลงกว่าเดิมล่ะ”

“เอ่อ… มัน…” ต้าหนิวตกใจ

อาสะใภ้หนิวชิงตอบไปว่า “ที่หมู่บ้านถัดไปมีงานมงคลน่ะ คนในหมู่บ้านของพวกเราหลายๆ คนไปงามที่หมู่บ้านนั้น ท่านเลยเห็นว่าคนหายหน้าหายตาไปเยอะ”

“งั้นเหรอ…”

“อย่างนั้นละ ข้าจะโกหกท่านไปทำไม”

กู้ชูหน่วนเหลือบมองพวกเขาอย่างสงสัย

เหตุใดนางจึงรู้สึกว่าพวกเขาดูตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม ทั้งยังหลบสายตานางอีก

แม้จะนึกสงสัย ทว่าสถานที่แห่งนี้ก็ถูกตัดขาดจากโลก ในหมู่บ้านมีผู้อาวุโสสูงสิบคน แต่ละคนมีทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่นางจะต้องกังวล

อาหนิวกับภรรยารีบขอตัวลา ขณะที่จากไปนั้น นางรู้สึกว่าแววตาที่มีความสุขของพวกเขาแฝงไปด้วยความกังวล แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะกังวลที่ท้องใหญ่เกินไปและกลัวจะคลอดยากหรือเปล่า

กู้ชูหน่วนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และคิดจะไปบอกลาผู้อาวุโสสูงและคนอื่นๆ

ทว่าผู้อาวุโสสูงกลับเป็นฝ่ายพาผู้อาวุโสหก ผู้อาวุโสเจ็ดและคนอื่นๆ มาหา

ผู้อาวุโสสูงและคนอื่นๆ ปฏิบัติต่อนางอย่างให้เกียรติ แต่พวกเขากลับบอกให้นางออกไปจากเผ่าหยก

กู้ชูหน่วนแปลกใจ “ออกจากเผ่าหยก?” นี่เป็นการหลอกอะไรนางหรือเปล่า นางยังเป็นหัวหน้าเผ่าคนหนึ่งมิใช่รึ

ผู้อาวุโสเจ็ดกล่าวว่า “เป็นแค่การจากไปชั่วคราวเท่านั้น อีกไม่กี่วันท่านจะกลับมาก็ย่อมได้”

“ผู้เฒ่าเจ็ด” ผู้อาวุโสสูงเอ่ย

“รู้แล้วๆ ข้าจะหุบปาก ไม่พูดอะไรทั้งนั้น”

ผู้อาวุโสสูงเอ่ยอย่างเคารพว่า “ท่านหัวหน้าเผ่า เรื่องมีอยู่ว่าอาการบาดเจ็บของท่านใกล้จะหายดีแล้ว คนของเทพแห่งสงครามกำลังตามหาท่านอยู่นอกเขตอาคมทุกวัน ขุดดินไปแล้วหนึ่งเมตร หากยังเป็นเช่นนี้ ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะต้องพบที่อยู่ของเผ่าหยกเป็นแน่ เผ่าหยกเป็นสถานที่ที่แยกออกจากโลก เชื่อว่าท่านคงไม่อยากจะทำให้ที่นี่แปดเปื้อน”

กู้ชูหน่วนพิจารณาคำพูดของผู้อาวุโสสูงอย่างรอบคอบ

คำพูดของเขาสมเหตุสมผล แต่นางไม่เชื่อว่าผู้อาวุโสสูงผู้สง่าผ่าเผยแห่งเผ่าหยกจะทำอะไรเยี่ยจิ่งหานไม่ได้