ผู้เล่นที่เปิดใช้งานคลิกที่ไอค่อนเพื่อเริ่มเกม
ขณะเดียวกันลูกค้าใหม่ๆ ก็เดินเข้ามาในร้าน เจียงเสี่ยวหยูเองต้องรีบวิ่งไปที่เคาน์เตอร์เพื่อรับเงิน ก่อนจะรีบวิ่งกลับมาตั้งหน้าตั้งตาดูอีกครั้ง
ผู้เล่นไม่สามารถเสือกตัวละครในเกมได้ เนื่องจากมีตัวละครเพียงตัวเดียวซึ่งเป็นเพศชาย คล้ายๆ กับเกมเซียนกระบี่เทพสังหารที่มีหลี่เสี่ยวเหยาตัวเอกเป็นคนเดียว
เมื่อมองดูชายหนุ่มรูปงามผิวขาวพร้อมกับผมสีทอง “นี่คนต่างชาติเหมือน Resident Evil ใช่มั้ย?” คนดูต่างสงสัย
ผู้เล่นหลายคนไม่ได้เห็นชาวต่างชาติในเกมนี้เป็นเกมแรก แต่พวกเขาเคยเห็นมาก่อนทั้งในเกม Resident Evil, Diablo และ CS มาก่อนหน้านี้ ตอนนี้พวกเขาเริ่มคุ้นเคยกับภาพของชาวต่างชาติบางแล้ว หลังจากเล่นเกมไปสักพักก็เริ่มเข้าใจในโลกและภาษาต่างประเทศมากขึ้น
แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่รู้ว่ามีประเทศอื่นๆ อยู่ในโลกจริงหรือไม่ แต่พวกเขาก็ใช้วิธีนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสำรวจอารยธรรมใหม่ๆ พวกเขารู้สึกเหมือนได้เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศขณะที่นั่งอยู่ในคาเฟ่
ซูเทียนจิยิ้มและส่ายหัว ซงฉิงเฟิงเองก็กำลังเดินทางเข้าสู้โลกใหม่ในเกม
ผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่ต้องการการแจ้งเตือนเนื่องจากข้อมูลจำนวนมากล้วนถูกเก็บไว้ในความทรงจำของพวกเขาโดยอัตโนมัติ ทั้งพล็อตเรื่องการเดินทางรวมไปถึงชีวิตของตัวละครหลัก
ไม่เพียงแต่ตัวผู้เล่นเกมเองเท่านั้นที่สามารถจดจำได้ แต่คนอื่นๆ เช่นนาหลันหมิงสื่อพร้อมเพื่อนๆ เองที่ได้รับชมอยู่เบื้องหลัง พวกเขาเองก็จำได้แม้แต่รายละเอียดเล็กๆ บนหน้าจอ
“จดหมายจากภรรยาเขาหรอ?”
จากคำพูดในจดหมายสามารถสัมผัสได้ถึงความรักของภรรยาที่มีต่อสามีซึ่งเป็นตัวละครหลักของเกม แต่
“ภรรยาของเขาเสียชีวิตไปเมื่อสามปีที่แล้ว”
หัวใจของทุกคนซวนเซ พวกเขามองหน้ากันอย่างสงสัยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
บรรยากาศที่น่าขนลุกเริ่มก่อตัวขึ้น
ซงฉิงเฟิงควบคุมตัวละครในเกม ตอนนี้ตัวละครของเขายืนอยู่ที่เนินเขาพิงรั้วและจองมองหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยหมอก
เขารู้สึกตัวสั่นอย่างไม่มีเหตุผล “ข้า .. รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ..”
“ฉีซิน .. ฉันไม่อยากเล่นต่อแล้ว” เฉินชิงชิงพูดด้วยน้ำเสียงกลัวปนเศร้า
“อย่าไปกลัว!” ซูฉีซินสนับสนุน “นี่มันหมายความว่าจิตใจของเธอกำลังอ่อนแอ เธอต้องเล่นเกมนี้ให้มากกว่าเดิม”
เฉินชิงชิงเงียบไป
“ฉันรู้สึกว่าเกมนี้แปลก ..” ซูเทียนจิที่ยืนอยู่ข้างหลังเฟงหัวและยูซินพึมพำ “มันมีอะไรผิดปกติ?”
“พวกเจ้ากลัวอะไร? ซูเทียนจิตะโกนถาม “ข้าจะดูว่ามันมีเทคนิคและบทบาทอย่างไรบ้าง”
“ไหนทักษะ มันใช้ทักษะอย่างไรกัน”
ไม่มีรูปแบบของทักษธปรากฏขึ้น ซูเทียนจิรู้สึกไม่เข้าใจอย่างมาก “นี่เจ้าของร้าน ใช้ทักษะอย่างไร?”
“ไม่มีทักษะพิเศษ”
“…” ซูเทียนจิ
“…” ซูฉีซิน
“…” ซงฉิงเฟิง
“ก่อนที่จะได้อาวุธดีมา” ซงฉิงเฟิงพึมพำ “เราคงต้องเล่นคล้ายกับตัวละครหลักใน Resident Evil ..”
“ไม่นะ! นี่ท่านอาวุธอยู่ที่ไหน?” ในไม่ช้าก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น
แม้แต่คริสเองก็ยังมีทักษะการต่อสู้ระยะประชิดและมีดสั้นติดตัวมาแต่เริ่ม
“ไม่มีอาวุธ” ฟางฉีตอบ
หลินเซียวขยับร่างกายท่าทางของเขาในเกม “ไม่มีทักษะการต่อสู้ระยะประชิดหรอ?”
“ไม่มี”
“ถ้าเขาไม่มีอะไรเลย ข้าจะเล่นเกมนี้ยังไง?” สีหน้าของซูเทียนจิหมอง “ตัวละครหลักมีอะไรบ้าง?”
“ขออภัยที่ต้องแจ้งให้ทราบ แต่ .. ตัวละครหลักในเกมนี้เป็นแค่คนธรมมดา”
“…”
ผู้เล่นทุกคนสตั้น
เห็นได้ชัดว่าหมอกที่อยู่ตรงหน้าเต็มไปด้วยอัตรายและไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้างหน้า ตอนนี้พวกเขารู้อย่างเดียวว่าตัวละครหลักเป็นเพียงแค่คนธรรมดา!
“ก็ดีที่เล่นเป็นแค่คนธรรมดา” นาหลันฮงวูที่ยืนอยู่ข้างหลังเอ่ย “ หากมีทักษะพวกเขาก็อาจไม่เปิดเผยจุดอ่อนภายในใจ”
เฉินชิงชิงอยากจะออกจากเกมให้รู้แล้วรู้รอด ถึงแม้ตอนนี้เธอยังคงสื่อวสารกับโลกภายนอกได้ แต่เธอก็ยังคงรู้สึกกลัวจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ดี
ในความจริงแล้วสาระสำคัญของเกมสยองขวัญหลายเกมนั้น มักเป็นการทอดลองความคิดของผู้เล่น ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัว ฝึกให้พวกเขาได้ลองจนสามารถเดินผ่านความน่ากลัวนั้นมาได้
เกมสยองขวัญที่สร้างขึ้นไม่น่ากลัวเท่าความสยองที่เกิดจา่กจินตนการของตัวเอง!
ใยเวอร์ชั่นนี้ดูสมจริงมาก ซึ่งนั่นหมายความว่ามันเป็นเวอร์ชั่นที่ทำให้เกิดความกลัวได้มากกว่าภาคอื่นๆ ผู้เล่นที่มีจิตใจอ่อนเอมักจะถูกควบคุมโดยจินตนาการที่คิดตะเลิดไปไกลของตัวเอง
นาหลันหมิงสื่อกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “เนื่องจากตัวละครหลักในเกมนี้เป็นแค่คนธรรมดา แต่เขาสามารถขับรถมายังสถานที่แห่งนี้ได้ นั่นหมายความว่าหากคนธรรมดาอย่างเขากล้าที่จะเข้าไป ฉันว่าก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่เราต้องกลัว ..”
“ใช่! แม้แต่คนธรรมดาอย่างเขายังกล้ามาที่นี่ ดังนั้นฉันเดาว่าสิ่งเดียวที่น่ากลัวคือบรรยากาศรอบข้างที่ชวนขนลุก” หลันยันกล่าว “แม้ว่าจะมีอันตรายที่เรายังไม่พบ แต่ฉันเชื่อว่าพวกท่านต้องจัดการได้แน่”
“เจ้าคิดยังงั้นหรอ?” เฉินชิงชิงที่ขี้กลัวเอ่ยถาม
“เจ้าจะได้รู้เมื่อลองด้วยตัวเอง” ซูเทียนจิพูดให้กำลังใจ
“นี่ท่าน! ทำไมท่านไม่เล่นละ” เฟงหัวและยูซินหันไปหาฟางฉีและถามด้วยความสงสัย
“ข้าอยากลองดูก่อน ข้ากำลังคิดว่าคืนนี้จะถ่านยทอดสด”
“คืนนี้?”
“ถ่ายทอดสด?”
พวกเขามองหน้ากันไปมา
บทสนทนานี้ได้ขจัดข้อสงสัยในใจของคนอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ
“ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว! มันแค่ทำให้ข้าตกใจเท่านั้น”
“ดูสิ! ข้าบอกแล้วว่ามันไม่เป็นไร” ซงฉิงเฟิงที่เริ่มเดินลึกเข้าไปในหมอกหนา บรรยากาศนั้นดูเงียบกว่าเดิม ขณะเดียวกันเขาพบว่าไม่มีใครคอบกลับคำพูดของเขา .. ไม่มีเสียงใดๆ รอบตัวเขาเลย
เขาจำได้ว่าฟางฉีเคยบอกก่อนหน้านี้ว่าจะทำการปิดใช้งานการสื่อสารภายนอกหลังจากเข้าสู้พล็อตเรื่อง
เมื่อเดินไปตามถนนบนภูเขาเข้าไปสักพัก เขาเข้าไปในสุสานและได้พบกับ NPC ตัวแรก เขาได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในไซเลนต์ฮิลล์พร้อมได้คำแนะนำ
เกมนี้เริ่มแปลกกว่าเดิม ไม่นานหลังจากนั้นผู้เล่นเดินไปตามถนนบนภูเขาอันว่างเปล่าเมื่อเดินเข้าไปในเมืองก็ได้พบกับรอยเลือด หลังจากได้เห็นรอยเลือกก็พบเขากับร่างหนึ่งที่สะดุดล้มลงไปในหมอกหนาทึบ
พวกเขาวิ่งตามเพื่อไปดูร่างที่ล้มลง แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า .. ร่างนั้นหายไปแล้ว
ในตอนนี้แม้แต่ตชิงลี่และหลันยังที่เฝ้าดูจากด้านหลังยังรู้สึกตัวสั่นแทนซงฉิงเฟิงและคนอื่นๆ
“ช่างน่าขนลุกที่พวกเขาเดินโซซัดโซเซ เข้าไปในสถานที่แบบนี้โดยไร้ความสามารถใดๆ” นาหลันฮงวูพูด “เกมนี้ค่อนข้าง ..”
.. จู่ๆ ผู้เล่นก็พบกับเสียงวิทยุและศพที่นั่งคุกเข่าบนพื้น พวกเขาเดินเข้าไปใกล้มากขึ้นเพื่อตรวจสอบ แต่แล้ว .. ก็รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวบางอย่างที่อยู่ข้างหลัง
เมื่อมองกลับไปพวกเขาเห็นร่างที่บิดเบี้ยวยืนอยู่!
“อ้าาาา”
“อ่าาาาา”
“อ้าาาาาาา”
พวกเขารู้สึกตกใจทำไรไม่ถูก! ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย!
แม้แต่นาหลันหมิงสื่อที่ยืนอยู่ข้างๆ ฟางฉีเอง ก็รู้สึกเหงื่อแตกและมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป จากซีดแล้วซีดลงอีก ขณะกำลังยืนมองเหตุการณ์ของซงฉิงเฟิงและคนอื่นๆ
พวกเขารู้สึกกลัวจนขาดสติ!