ตอนที่ 173

Black Tech Internet Cafe System

“ว้าว! เจียงเสี่ยวหยูที่เพิ่งเดินลงมาข้างล่างอ้าปากค้าง” เธอแปลกใจมากที่คาเฟ่ของเราตอนนี้ชั่งกว่างขวาง “นี่คาเฟ่ของเราจริงๆ หรอ!?”

 

เธอวิ่งออกไปหน้าร้าน “หืม? ข้างหน้าไม่เห็นใหม่ ..”

 

“ทำไมเธอมายืนอยู่หน้าประตูละ?” นาหลันฮงวูที่เพิ่งมาถึงเอ่ยถามเมื่อเห็นเจียงเสี่ยวหยูยืนเก้ๆ กังๆ

 

ฟางฉีทำหน้านิ่ง “ก็แค่ขยายร้าน ทำไมต้องทำท่าประหลาดใจกันแบบนั้น!”

 

“เจ้าพูดถูก!” นาหลันฮงวูมองไปที่ประตู “อ่อที่ยืนอยู่ตรงนี้เพราะอึ้งสินะ”

 

เขาเปิดประตูเดินเข้าไปในร้าน

 

“…”

 

ดวงตาของเขาเบิกโพง “ใหญ่มาก”

 

ซูเทียนจิทำหน้าประหลาดใจ “นี่ผู้อยู่เบื้องหลังเขากำลังจะเปลี่ยนร้านให้เป็นรัฐหรอ?”

 

“จากนี้ไปเราไม่สามารถเรียกที่นี่ว่าร้านค้าเล็กๆ ได้อีก” ตงชิงลี่พูดอย่างตื่นเต้น “ที่นี่เปลี่ยนแปลงเป็นร้านที่ยิ่งใหญ่โดยใช้เวลาเพียงหนึ่งคืน! มีคอมพิวเตอร์มากมาย นี่ท่านผู้อยู่เบื้องหลังทำให้ท่านหรอ?”

 

“หืม? เบาะนี่นุ่มกว่าขนสัตว์ปีศาจอีก” จางวันยูนั่งเล่นอยู่บนโซฟา “มันเด้งมาก”

 

“จริงหรอ? ขอฉันลองบ้าง”

 

เจียงเสี่ยวหยูหันมา “ฉันลองด้วย!”

 

ฟางฉีทำหน้าเซง “พวกท่านจะเล่นมั้ย?”

 

“รีบหรอ? มันไม่ต้องต่อแถวแล้วนี่” ซูเทียนจิเอนหลังบนโซฟา “พวกเธอเตรียมบะหมี่ให้ข้าด้วย!”

 

“รับทราบค่ะท่านอาจารย์!” เฟงหัวและยูซินเดินไปเตรียมบะหมี่อย่างสนุกสนาน

 

ฟางฉียืนนิ่ง ..

 

“เอาละ กินบะหมี่กันเถอะ!” พวกเขาไม่สามารถเล่นเกมไปกินไปได้ในเวลาเดียวกัน นาหลันฮงวูจึงเลือกนอนพักบนโซฟาที่นุ่มสบาย “นี่เมื่อไรเจ้า่จะปล่อยละครกระบี่เทพสังหารตอนที่เจ็ดและแปดสักที?”

 

“จะทำการเพิ่มตอนเฉพาะวันพฤหัสเท่านั้น” ฟางฉีที่นอนเล่นอยู่บนโซฟาตะโกน “เสี่ยวหยูข้าขอบะหมี่ด้วยคน!”

 

เจียงเสี่ยวหยูทำหน้ามุ่ยน้ำตาคลอ ฮือออ .. ฉันทำได้แค่เตรียมบะหมี่ แต่ไม่สามารถลิ้มรสมันได้เลย

 

 

ฟางฉีที่รับบะหมี่มาจากเสี่ยวหยู เขาเปิดฝาระบายความร้อนพลางดูรายการภารกิจในหน้าอินเทอร์เฟซของระบบ

 

คนอื่นรอบข้างต่างนั่งหัวเราะและพูดคุยในขณะที่กินบะหมี่อย่างเอร็ดอร่อย

 

ในขณะที่พวกเขากำลังนั่งจับกลุ่มกัน ลูกค้าใหญ่ก็เริ่มทยอยเข้ามาในคาเฟ่ ซงฉิงเฟิงและคนอื่นๆ เดินเข้ามาประจวบกับที่เขาเห็นฟางฉีเขียนอะไรบางอย่างลงบนกระดานดำ

 

“ท่าน! กำลังเขียนอะไรอยู่น่ะ?” หลังจากชื่นชมบรรยากาศใหม่รอบๆ ร้านแล้ว ซงฉิงเฟิงและเพื่อนๆ ก็เดินเข้าไปหาเจ้าของร้าน “เอาดี? นี่รายการใหม่อีกแล้วหรอ?”

 

“ใช่แล้ว!” ฟางฉีพยักหน้า

 

“เพื่อเดิมเต็มความว่างเปล่าหลังจากดูละครกระบี่เทพสังหาร นี่เป็นส่วนหนึ่งในการจัดการกับจิตใจที่ไม่มั่นคง ฝึกฝนความแข็งแกร่งให้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คาเฟ่ของเราได้สร้างเกมนี้ให้พวกท่านโดยเฉพาะ” ฟางฉีกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

“ไซเลนต์ฮิลล์?” ซูฉีซินที่เดินตามหลังมาด้วยเอ่ย “หืม .. เป็นเวลานานพอสมควรที่คาเฟ่ไม่ได้ลงเกมใหม่”

 

“เกมใหม่?” นาหลันฮงวูและซูเทียนจิที่เดินผ่านมาได้ยินพอดี แม้ที่นี่จะมีรายการใหม่มาอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ไม่เห็นเกมใหม่ๆ มาระยะหนึ่งแล้ว

 

ซูเทียนจิเองเล่นเกมเซียนกระบี่พิชิตมารผ่านไปแล้วสามครั้ง แถมเธอยังคงเล่น CS อยู่เช่นเดิมหากมีคู่แข่งที่มีความสามารถน้อยกว่าเธอ

 

นาหลันฮงวูเองก็ไม่แพ้เธอ เขาเล่น Diablo Act III ผ่านแล้วและกำลังรอ Act IV อยู่ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาส่วนมากไปกับการตามหาไอเทมใหม่ๆ และก็ยังคงเล่น CS กับผู้เล่นหน้าใหม่เช่นกัน

 

ในขณะที่พวกเขารอการเพิ่มตอนของละครกระบี่เทพสังหาร นี่ถือเป็นข่าวดีในการสร้างความบันเทิงให้ตัวเอง

 

 

“ไซเลนต์ฮิลล์?” พวกเขามองหน้ากัน ชื่อนี้ .. ค่อนข้างแปลก

 

“เพื่อจัดการกับจิตใจที่ไม่มั่นคง? และความอ่อนแอ?” นาหลันฮงวูทำหน้าครุ่นคิด “มันเป็นเกมที่ฝึกจิตใจให้แข็งแกร่งหรอ? คนหนุ่มสาวสมัยนี้ช่างทรหด”

 

“เป็นเรื่องที่ดีน่าคิดพิจารณา” ซูเทียนจิมองหน้าฟางฉีและเอ่ยด้วยความปนะหลาดใจ

 

เธอกำลังตกอยู่ในภวังค์ นี่เกมร้านนี้สามารถพัฒนาจิตของคนและขจัดความชั่วร้ายในใจได้ด้วยหรอเนี่ย!?

 

นี่เป็นคุณสมบัติของเกมที่เหมาะกับคนหนุ่มสาวมาก แต่สำหรับผู้ปลูกฝังอย่างเธอแล้ว การฝึกฝนขั้นสูงสุเที่ยากเย็นคือการเอาชนะความชั่วร้ายในขณะการเพาะปลูก

 

ซูเทียนจิเองก็กำลังสงสัยว่าเธอมีจุดอ่อนหรือไม่และเกมจะช่วยจัดการกับมันได้หรือเปล่า

 

ฟางฉีหยักไหล่และตอบกลับ “ที่นี่เราให้บริการครบวงจร”

 

“เกมใหม่ดีมั้ย? มันสามารถพัฒนาจิตใจให้แข็งแกร่งหรอ?” ซูฉีซินในฐานะผู้เล่นที่มีประสบการณ์มากเอ่ยถาม เธอมีความแข็งแกร่ง แต่จิตใจของเธอในตอนนี้ไม่ค่อยมั่นคงสักเท่าไรเนื่องจากความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วแถมยังชอบลองสิ่งใหม่ๆ ดังนั้น “ท่าน! ข้าขอเปิดใช้งาน ไซเลนต์ฮิลล์!”

 

ฟางฉีเอ่ยเตือน “อย่างไรก็ตามเกมนี้น่ะ มีการตั้งค่าบางอย่างที่พิเศษแตกต่างจากเกมอื่น ตัวอย่างเช่น ระหว่างการต่อสู้พวกท่านไม่สามารถออกจากโหมดความเป็นจริงได้และไม่สามารถลดความรู้สึกเจ็บปวดต่ำกว่าครึ่งนึง”

 

เขาอธิบายการตั้งค่าของเกมใหม่ ตัวอย่างเช่นใน Resident Evil หากผู้เล่นยอมแพ้การต่อต้านและใกล้ตายพวกเขาสามารถออกจากโหมดเสมือนจริงได้โดยเลือกใช้การควบคุมจากแป้นพิมพ์และใช้เมาส์แทนเพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด

 

อย่างไรก็ตาม .. เกมนี้ใหม่นี้ พวกเขาไม่สามารถออกจากความเป็นจริงได้จนกว่าตัวละครจะตาย หากเลือกตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งแล้วก็ต้องเล่นให้จบเป็นครั้งไป

 

นอกจากนี้ระบบจะปิดการสื่อสารจากโลกภายนอกโดยอัตโนมัติ หากผู้เล่นเข้าสู้พล็อตเรื่องหลักแล้วทางระบบจำทำการตั้งค่าตัวเลือกใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงมลภาวะทางเสียง เพื่อไม่ให้รบกวนผู้อื่นและไม่ให้ผู้อื่นรบกวน

 

“วันนี้ท่านไม่ได้เล่นเกมใหม่มช่มั้ย?” นาหลันหมิงสื่อเดินเข้ามาถาม

 

ฟางฉีเหลือบมองไปรอบๆ ร้าน “ตอนนี้ฉันยังไม่พร้อมเท่าไร ขอยืนดูก่อน”

 

“โอ้ งั้นฉันขอดูด้วย” นาหลันหมิงสื่อซื้อโค้กหนึ่งควรพร้อมยืนดูเช่นกัน

 

“เราจะเล่นมันกันมั้ย?” จางวันยูหันไปถาม

 

“ดูก่อนละกัน” ตงชิงลี่ตอบกลับ เธอยังคงเล่นเกมเซียนกระบี่พิชิตมารและ Diablo ติดลมอยู่

 

“ฉันอยากดูเกมใหม่ด้วย” เจียงเสี่ยวหยูเองเอ่ย

 

“ฮ่าๆ ๆ ๆ เราเล่นเกมใหม่กันมั้ยวันนี้” หลินเซียวและซูเหลียวหัวเราะ “นี่ซงฉิงเฟิง เจ้าลองเล่นและสำรวจเกมเลย!”

 

“ท่านอาจารย์ เล่นด้วยกันมั้ย​?” เฟงหัวและยูซินเปิดใช้งานเกมเป็นที่เรียบร้อย

 

“นี่เจ้า เกมนี้มีตัวเลือกสำหรับผู้เล่นหลายคนมั้ย?” ซูเทียนจิถาม

 

“ไม่”

 

“พวกเจ้าเล่นไปก่อนละกัน” ซูเทียนจิพูดกับลูกศิษย์ด้วยน้ำเสียงนิ่ง

 

“รับทราบท่านอาจารย์!”

 

“ฉันขอดูก่อนละกัน”