ตอนที่ 1351 ทัวร์หนึ่งวันในสุสาน (5)
กะโหลกศีรษะนั่นเหลือแต่กระดูก เบ้าตาที่กลวงโบ๋ของมันหันมาทางจวินอู๋เสีย มองแวบแรกเหมือนมันกำลังจ้องจวินอู๋เสียอยู่เลย
ถ้านี่เป็นเจ้าแมวดำล่ะก็ เดาได้เลยว่ามันคงจะเป็นลมหมดสติไปทันที
แต่จวินอู๋เสียแค่เหลือบมองไปทางมันอย่างสงบนิ่ง
“เจ้าจี๊ด!” เสียงของเด็กหญิงแฝงความไม่พอใจ นางก้าวข้ามกองสมบัติมาที่หน้าบัลลังก์หยกและหยิบกะโหลกขึ้นมา
หนูนรกที่ยังคงคายสมบัติออกมาอย่างมีความสุข ตัวแข็งทื่อไปทันทีจากเสียงตะโกนของเด็กหญิง ไข่มุกเรืองแสงที่มีขนาดเท่าไข่ไก่เพิ่งออกมาได้แค่ครึ่งเดียว ยังคาอยู่ในปากของหนูนรกที่ยืดออกกว้าง มันยืนกระพริบตาปริบๆด้วยสีหน้าว่างเปล่าใส่เจ้านายของมัน
“ข้าบอกกี่ครั้งแล้ว? อย่าเก็บกระดูกคนเลวพวกนั้น!” เด็กหญิงพูดอย่างไม่พอใจพร้อมขมวดคิ้วจ้องกะโหลกศีรษะมนุษย์ในมือ สายตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ
หนูนรกพ่นไข่มุกเรืองแสงออกมาอย่างรวดเร็ว และรีบวิ่งไปตรงหน้าเด็กหญิง จากนั้นมันก็ยืนด้วยขาหลังและยื่นอุ้งเท้าเล็กๆสองข้างของมันออก
เด็กหญิงยื่นกะโหลกมนุษย์ให้กับหนูนรก และพูดว่า “ของสกปรกแบบนี้ ย่อยมันไปซะ อย่าให้มันมาทำให้ที่ของท่านจักรพรรดิแห่งความมืดแปดเปื้อน”
ทันทีที่พูดจบ นางก็ใช้แขนเสื้อเช็ดตรงจุดที่กะโหลกศีรษะกลิ้งไปก่อนหน้านี้
หนูนรกไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากกลืนกะโหลกมนุษย์กลับเข้าปากของมันไป
“ถ้าเจ้าโยนของสกปรกแบบนี้ออกมาอีก ข้าจะลงโทษเจ้า” เด็กหญิงเตือนหนูนรกด้วยสีหน้าเข้มงวดหลังจากเช็ดทำความสะอาดพื้นแล้ว
หนูนรกพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง จากนั้นก็โอ้เอ้อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะคายสมบัติออกมา พอห้องโถงเต็มแล้ว หนูนรกถึงได้ปิดปากของมัน
เด็กหญิงเดินตรวจสถานที่รอบนึง หลังจากเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติ นางก็เดินไปทางประตูที่อยู่ด้านใน ผลักประตูให้เปิดออกและนำหนูนรกไปกับนาง ขณะที่ขาของนางเพิ่งก้าวออกไป นางก็ทำท่าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ นางโผล่หน้ากลับเข้าไปและพูดเข้าไปในห้องโถงที่เต็มไปด้วยสมบัติว่า
“เจ้าจะไม่ออกมาเหรอ? ข้าจะปิดประตูแล้วนะ ถ้ายังไม่ออกมา เดี๋ยวก็ติดอยู่ที่นี่หรอก เจ้าเปิดประตูนี้เองได้ไม่ได้หรอกนะ”
เสียงนั้นดังก้องอยู่ภายในห้องโถงขนาดใหญ่และกระทบใจของจวินอู๋เสีย
คำพูดพวกนั้น ดูเหมือนว่าจะพูดกับนาง
หรือว่าเด็กหญิงคนนั้นสังเกตเห็นนางแล้ว?!
“ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ทำร้ายเจ้าหรอก ถ้าเจ้าไม่มีเรื่องอะไร ก็ไปเดินเล่นกับข้าซิ ถ้าถูกขังอยู่ที่นี่ เจ้าจะไม่สามารถออกไปได้นะ” เด็กหญิงพูดอย่างใจเย็น
จวินอู๋เสียลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เห็นได้ชัดว่าเด็กหญิงพบตัวนางแล้ว แต่นางไม่รู้สึกถึงความมุ่งร้ายใดๆจากน้ำเสียงของเด็กคนนั้น
ครู่ต่อมา จวินอู๋เสียก็เดินออกมาจากใต้บัลลังก์หยกอย่างช้าๆในร่างของแมวดำตัวน้อย
ทันทีที่เด็กหญิงเห็นจวินอู๋เสีย ใบหน้าของนางก็มีรอยยิ้มสดใสขึ้นมา
“ที่แท้ก็แค่แมวนี่เอง วิญญาณของเจ้าค่อนข้างสับสน ข้าสัมผัสถึงแกนกลางเจ้าไม่ได้ ไม่ต้องห่วงนะ ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นร่างวิญญาณ ข้าไม่ทำร้ายเจ้าหรอก มาซิ ตามข้ามา”
จวินอู๋เสียลังเลอีกครู่ ก่อนจะเดินเข้าไปนางอย่างช้าๆ ดวงตาของหนูนรกที่นอนพาดอยู่บนไหล่ของเด็กหญิงเบิกกว้างขึ้นทันทีเมื่อมันเห็นจวินอู๋เสีย สายตาของมันดูสับสนงุนงงเล็กน้อย
มันเคยเจอแมวดำตัวนี้มาก่อน แต่……ดูเหมือนจะแตกต่างไปเล็กน้อย วิญญาณของมันให้ความรู้สึกที่ต่างไปจากเดิม
จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นมองเด็กหญิงตัวเล็กที่ยิ้มกว้าง ขณะยกอุ้งเท้าออกเดินไปข้างหน้า
นางเดินผ่านประตูหิน แล้วเด็กหญิงคนนั้นก็ปิดประตูพร้อมด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า