ตอนที่ 1352 ทัวร์หนึ่งวันในสุสาน (6)
หลังจากผ่านประตูหินไปก็มีทางเดินกว้าง เทียบกับทางเดินที่มีเสาหินที่นางเดินผ่านมาก่อนหน้านี้ ทางเดินนี้สว่างกว่าและสะอาดกว่ามาก จากผนังไปจนถึงพื้น ก่อด้วยอิฐสีขาวทั้งหมด จวินอู๋เสียไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าวัสดุที่ใช้ทำอิฐคืออะไร แต่อย่างน้อยนางก็แยกความแตกต่างได้ว่า พวกมันไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่ในอาณาจักรล่าง
เด็กหญิงคนนั้นดูเหมือนจะไม่คิดเป็นศัตรูกับเจ้าแมวดำที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกระทันหัน นางเดินไปข้างๆเจ้าแมวดำขณะที่ถือถังน้ำไว้ในมือ
“เจ้าแยกตัวออกมาจากเจ้านายเหรอ? รู้ไหมว่าพวกเจ้าไม่ควรมาที่นี่น่ะ? เอาเถอะ ข้าเห็นว่าวิญญาณของเจ้าไม่ได้อยู่ในสภาพที่มั่นคง ได้รับบาดเจ็บสาหัสมาเหรอ?” เด็กหญิงถามเจ้าแมวดำด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างเป็นกังวล
จวินอู๋เสียหยุดเดินและมองไปที่เด็กหญิงอย่างระแวง
ตัวแมวดำนั้นเป็นร่างวิญญาณ เด็กหญิงคนนั้นจึงมองว่านางเป็นภูติประจำตัว
แต่……
เด็กคนนั้นเจอนางได้อย่างไร?
เด็กหญิงดูเหมือนจะเข้าใจคำถามที่ไม่ได้พูดออกมาของจวินอู๋เสีย นางลงนั่งยองๆมองจวินอู๋เสียอย่างยิ้มแย้ม
“อยากรู้เหรอว่าข้าเจอเจ้าได้ยังไง?”
จวินอู๋เสียพยักหน้า
เด็กหญิงหัวเราะเบาๆและชี้ไปที่จมูกของตัวเองพลางพูดว่า “เพราะข้าคือคนเผ่าวิญญาณไงล่ะ คนเผ่าวิญญาณจะมีประสาทสัมผัสที่ไวต่อวิญญาณมากที่สุด ข้ายังสัมผัสได้ด้วยนะว่าวิญญาณของเจ้าในตอนนี้ค่อนข้างสับสน ข้าเห็นว่าเจ้าไม่มีพลังที่แข็งแกร่ง ถึงได้ยอมให้เจ้าตามข้ามาได้ เจ้าก็เหมือนเจ้าจี๊ด ไม่มีพิษมีภัย ถ้าเจ้าเป็นพวกคนเลวที่เป็นอันตรายล่ะก็ ข้าก็คงไม่ดีกับเจ้าแบบนี้หรอก รู้ไหม?”
เด็กหญิงพูดช้ามาก สิ่งที่นางตั้งใจจะพูดออกมาก็ค่อนข้างสับสน
จวินอู๋เสียรู้สึกว่าเด็กหญิงคนนี้ต้องถูกตัดขาดจากโลกภายนอกมานานเกินไป ความสามารถในการแสดงออกของนางเกือบจะใกล้เคียงกับที่จวินอู๋เสียเป็นในตอนแรกๆ แต่ความแตกต่างระหว่างพวกเขาก็คือ เด็กหญิงคนนี้ไม่ได้ปิดปากเงียบหรือไม่เต็มใจพูด ตรงกันข้าม ดูเหมือนนางจะชอบพูดเอามากๆ
ขนาดแค่เรื่องที่ว่านางรู้เรื่องร่างวิญญาณได้ยังไง นางยังพูดได้มากมายขนาดนี้
นั่นเป็นจุดที่จวินอู๋เสียยอมรับว่าตัวเองด้อยกว่า……
แต่คำพูดของเด็กหญิงก็ดึงดูดความสนใจของจวินอู๋เสียเหมือนกัน
เผ่าวิญญาณ……
อิงซู่เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่า หนูนรกจะมีแนวโน้มจับคู่กับคนของเผ่าวิญญาณมากกว่า และดูจากความสัมพันธ์ระหว่างเด็กหญิงคนนี้กับหนูนรกแล้ว ก็เดาตัวตนของนางได้ไม่ยาก
คนของเผ่าวิญญาณเกิดมาพร้อมความชอบวิญญาณ เนื่องจากจวินอู๋เสียและเจ้าแมวดำสลับวิญญาณกัน วิญญาณของพวกเขาจึงสับสนวุ่นวายโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เด็กหญิงคิดว่าจวินอู๋เสียเป็นภูติประจำตัวที่ได้รับบาดเจ็บ ไม่มีความสามารถในการโจมตี
นั่นทำให้เด็กหญิงวางใจและลดการระวังลง
แทนที่จะพูดว่าเด็กหญิงคนนี้ประมาท ควรจะพูดว่านางแค่มั่นใจเต็มที่มากกว่า
จวินอู๋เสียไม่คิดว่าเด็กหญิงที่สามารถเปิดประตูหินได้จะเป็นคนอ่อนแอปกป้องตัวเองไม่ได้ ยิ่งกว่านั้น การจะได้รับเลือกให้อยู่ที่สุสานจักรพรรดิแห่งความมืด นางต้องได้รับคัดเลือกมาอย่างดีจากคนของราชอาณาจักรแห่งความมืด นอกจากนั้น ถ้าเด็กหญิงมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่สร้างสุสานจักรพรรดิแห่งความมืด เช่นนั้น……นางก็มีอายุไม่ต่ำกว่าพันปีแล้ว!
“แต่ข้าเกรงว่าเจ้านายของเจ้าคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ก็ไม่เป็นไรเนอะ! ถึงเจ้านายเจ้าตายไป เจ้าก็สามารถกลับไปที่โลกวิญญาณและรอเจ้านายใหม่ก็ได้” เด็กหญิงพูดอย่างไร้เดียงสา นางพูดเรื่องความเป็นความตายเหมือนมันเป็นเรื่องง่ายๆสบายๆ
จากนั้นเด็กหญิงก็ลุกขึ้นยืนและเปิดประตูหินอีกบานตามทางเดินพร้อมกับถือถังน้ำไว้ในมือ ภาพที่เห็นด้านหลังประตูหินบานนั้นเหมือนกับที่จวินอู๋เสียเห็นในห้องโถงห้องที่แล้ว มีสมบัติมากมายนับไม่ถ้วนกองอยู่เต็มพื้น