ตอนที่ 144 ชายแท้หักง่าย / ตอนที่ 145 ใครให้ความร่วมมือใคร

[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ

ตอนที่ 144 ชายแท้หักง่าย

 

 

ทันทีที่ชุยหังกลับไปถึงที่นั่งของเขา ชย่าอวี่ชิวก็ถามขึ้นว่า: “แฟนนายหรอ”

 

 

“ไม่ใช่ ครูฝึกซ่งน่ะ” ชุยหังว่า

 

 

ชย่าอวี่ชิวผงะและถามว่า: “นายติดต่อกับครูฝึกจริงๆ หรอเนี่ย”

 

 

“นายก็มีไม่ใช่หรอ” ชุยหังถามกลับ

 

 

ชย่าอวี่ชิวพูดขึ้น: “ฉันก็แค่มีข้อมูลการติดต่อแต่ไม่เคยติดต่อมาก่อนเลย นายนี่เก่งจริงๆ เลย สามารถทำให้ครูฝึกของพวกนายโทรมาหาก่อนได้ด้วย ทำไมหรอ เขาก็ชอบนายหรอ”

 

 

ประโยคนี้กระทบใจในทันที คำพูดหลายคำที่ชย่าอวี่ชิวพูดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจต่างก็บังเอิญตรงกับใจชุยหังหมด

 

 

“นายเลิกพูดเรื่องนี้เถอะ นายคิดว่าพวกเขาทุกคนตาบอดหรือไงถึงจะได้มาชอบฉันกันหมด” ชุยหังว่า

 

 

ชย่าอวี่ชิวพูดขึ้น: “ความหมายของนายก็คือฉันตาบอด?”

 

 

“ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นอยู่แล้ว เอาเป็นว่าไม่ได้มีคนมาชอบฉันเยอะขนาดนั้น โอเค” ชุยหังว่า

 

 

ชย่าอวี่ชิวพูดขึ้น: “ไม่เป็นไร นายไม่ต้องกินปูนร้อนท้องไปหรอก ยังไงซะตอนนี้นายก็มีแฟนแล้ว ถึงอยากดูแลก็วนมาไม่ถึงให้ฉันดูแลหรอก”

 

 

“อย่าพูดแบบนี้สิ ฉันอึดอัดใจแล้วเนี่ย” ชุยหังกล่าว

 

 

ชย่าอวี่ชิวมองเขาแล้วพูดขึ้น: “อันที่จริงก็ไม่มีอะไร เพียงแต่ว่าถ้าเป็นแฟนกับคนที่เป็นทหารจริงๆ นายก็ควรจะระวังให้ดีหน่อย”

 

 

“ระวังอะไร แนวโน้มใช้ความรุนแรง?” ชุยหังถาม

 

 

ชย่าอวี่ชิวพูดขึ้น: “ไม่ใช่ เพราะตรงเกินไปต่างหาก ผู้ชายแท้แข็งกร้าวเป็นเหล็ก ถ้างอมากเกินไปก็จะหักเอา ถ้างอไม่พอก็อาจจะเด้งกลับแบบเดิม”

 

 

ชุยหังตกใจมาก อันที่จริงนี่ก็เป็นสิ่งที่เขากังวลอยู่เช่นกัน

 

 

ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดมากขนาดนี้ แต่ตอนนี้ถ้าไม่คิดเลยก็ดูจะไม่ค่อยอยู่กับความเป็นจริงเท่าไหร่

 

 

เพราะในเมื่อตนคบหากับหลูจื้อแล้ว ปัญหาที่จะต้องคิดพิจารณามันจะมากขึ้นเรื่อยๆ

 

 

ปัญหาบางอย่าง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่อยากคิดถึงมัน แต่ต่อไปในอนาคตก็ยังต้องเผชิญหน้ากับมันแน่นอน

 

 

นี่คือโลกความเป็นจริง ไม่มีทางสมบูรณ์แบบได้อย่างที่จินตนาการไว้

 

 

“ทำไมนายถึงได้พูดน่ากลัวขนาดนี้ เหมือนกับนายมีประสบการณ์มาก่อนยังไงอย่างนั้น” ชุยหังพูดกับชย่าอวี่ชิว

 

 

“ถึงแม้ว่าฉันจะไม่มีประสบการณ์ แต่ว่าคนที่อยู่นอกเกมส์มักจะมองทะลุปรุโปร่งไง” ชย่าอวี่ชิวกล่าว

 

 

ชุยหังครุ่นคิดและพูดว่า: “ในบางครั้งถ้านายไม่ประสบพบเจอกับตัวเองสักครั้ง ก็จะไม่มีทางเป็นคนนอกเกมส์ที่ประสบความสำเร็จนะ”

 

 

“นายอธิบายแบบนี้ฉันสามารถเข้าใจเป็นว่านายกับครูฝึกซ่งอะไรนั่นมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันได้ไหม” ชย่าอวี่ชิวถาม

 

 

ชุยหังพูดขึ้นทันทีว่า: “นายคิดมากเกินไปแล้ว ไม่มีจริงๆ ฉันสาบานกับพระเจ้าเลย”

 

 

ในเมื่อเขาไม่ได้เดาหมายหัวถึงหลูจื้อ ตนพูดแบบนี้ก็ไม่มีอะไรผิดแปลก

 

 

ชย่าอวี่ชิวไม่ได้พูดอะไรอีก ในเมื่อชุยหังถึงกับให้คำสาบานที่เต็มไปด้วยความจริงใจแล้วแน่นอนว่าเขาก็จะทำเหมือนว่าเมื่อครู่นี้เขาไม่ได้พูดอะไร

 

 

“เมื่อไหร่มีเวลาให้ฉันเจอแฟนนายคนนั้นหน่อยสิ ให้ฉันได้ดูว่าฉันแพ้ให้เขาตรงไหน” หลังจากผ่านไปสักพักชย่าอวี่ชิวก็ถามขึ้น

 

 

ชุยหังพูดขึ้น: “นายไม่เคยได้ยินหรอว่า แสดงความรักมากไปมักตายเร็ว ดังนั้นฉันไม่คิดจะให้พวกนายได้เจอเขาหรอก”

 

 

“พูดอย่างกับตัวเองเป็นแรงงานใต้ดินยังไงอย่างนั้นเลย ลึกลับขนาดนั้นเลยหรอ ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งไม่ใช่หรอ ทุกอย่างที่เขามีฉันเองก็มีเหมือนกัน” ชย่าอวี่ชิวว่า

 

 

“นั่นมันก็ไม่แน่หรอก ไม่ว่ายังไงก็ไม่ให้ดู”

 

 

หลังจากออกจากร้านเกี๊ยวตงเป่ยแล้วชุยหังก็ถามชย่าอวี่ชิวว่า: “ไปไหน ไปร้านเน็ตหรือว่าจะกลับหอพักเลย?”

 

 

“กลับหอพักเถอะ ในร้านอินเทอร์เน็ตก็ไม่มีอะไรสนุกเลย ตอนนี้เกมพวกนั้นแต่ละอันนับวันยิ่งไม่มีคุณภาพขึ้นเรื่อยๆ แล้ว” ชย่าอวี่ชิวว่า

 

 

“อืม ก็จริง ร้อนเกินไปด้วย ไปร้านเน็ตฯ คนเยอะขนาดนั้นไม่ว่ากลิ่นอะไรก็คงมีหมด แถมยังมีพวกไม่มีมารยาทสูบบุหรี่ ถอดรองเท้าพวกนั้นอีก กลิ่นพวกนั้นมันสะเทือนอารมณ์สุดๆ จริงๆ” ชุยหังกล่าว

 

 

ระหว่างทางกลับไปหอพัก เขาก็ส่งวีแชทไปหาหลูจื้อ

 

 

[เมื่อกี้ฉันพึ่งไปกินข้าวกับเพื่อนเสร็จ ตอนนี้กำลังเดินกลับหอ นายกินข้าวหรือยัง]

 

 

ผ่านไปนานหลูจื้อถึงตอบกลับเขาว่า: [กินแล้ว ฉันกินโรงอาหาร]

 

 

[เจริญอาหารขนาดนั้นเชียว ขนาดคอนกรีตเสริมเหล็กนายยังกินได้หรอ] ชุยหังจงใจพูดเล่นกับเขา

 

 

[ถ้านายยังซนกับฉันอีก คราวหน้าฉันจะจองห้องแล้วจับนายกินซะเลย]

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 145 ใครให้ความร่วมมือใคร

 

 

ชุยหังหน้าแดงแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้หลูจื้อจะไม่ได้อยู่ข้างกายเขาแต่ว่าประโยคนี้ก็ทำให้เขารู้สึกหัวใจเต้นแรง

 

 

[พูดตามตรง ฉันไม่รู้เลยว่ามันต้องทำยังไง ถึงตอนนั้นฉันควรให้ความร่วมมือนายยังไง] หลูจื้อส่งมาอีกข้อความ

 

 

ชุยหังถอดถอนใจ อย่าตรงไปตรงมาขนาดนี้ได้ไหม ทำเหมือนกับตนเคยทำมาก่อนยังไงอย่างนั้น

 

 

อะไรที่เรียกว่าควรให้ความร่วมมือกับตนยังไง หรือว่าตนเป็นพวกประเภทที่ดูแล้วเหมือนพวกประสบการณ์ช่ำชองหรอ

 

 

“เรียนรู้เองสิ ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าฉันต้องให้ความร่วมมือกับนายยังไง ฉันยังอยากบอกว่าต่อไปนี้ฉันจะให้ความร่วมมือกับนายเลย” ชุยหังตอบกลับไป

 

 

ตอนนี้หลูจื้อไม่ได้ตอบข้อความกลับมาเป็นเวลานาน ไม่รู้ว่าเขาช็อกไปแล้วหรือเปล่า หรือว่ามีธุระอื่นเข้ามาชั่วคราว

 

 

ในเมื่อเรื่องสภาพแวดล้อมในกองทัพทหารเขาก็ไม่ค่อยรู้ เขาไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะมีเวลา ตอนไหนที่ไม่มีเวลา

 

 

โดยปกติถ้าหลูจื้อจะส่งข้อความให้เขาล่ะก็ ถ้าเขาเห็นพอดีก็จะตอบกลับในทันที

 

 

“วันนี้ฉันคงไม่ต้องไปส่งนายกลับหอแล้วใช่ไหม” ชย่าอวี่ชิวถาม

 

 

ชุยหังพูดขึ้น: “ถ้านายยังอยากจะแบกฉันล่ะก็ ฉันก็ไม่รังเกียจนะ”

 

 

“ถ้านายไม่กลัวแฟนนายเห็นเข้า ฉันก็ไม่ถือสา” ชย่าอวี่ชิวกล่าว

 

 

ชุยหังคิดสักพักแล้วก็ช่างมันดีกว่า

 

 

ถ้าเรื่องนี้ถูกหลูจื้อรู้เข้าจริงๆ คงจะกำจัดตนในทันทีแน่

 

 

ตอนที่เดินผ่านสนามกีฬา ชุยหังมองภาพบรรยากาศในนั้นด้วยความรู้สึกเต็มไปด้วยชีวิตชีวา

 

 

ถึงแม้ว่าอากาศจะร้อนมาก แต่ผู้ชายหลายคนกำลังถอดเสื้อเล่นบาสเก็ตบอล ตามตัวเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ เวลาป้องกันตั้งรับคงจะไถลออกไปเลยแน่ๆ

 

 

ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่มีทางที่จะปิดกั้นความฝันด้านกีฬาบาสเกตบอลเยาวชนนี้ได้เลย

 

 

ชุยหังถอดถอนใจแต่ว่าไม่ได้อยากจะเข้าร่วม

 

 

เพราะความรู้สึกที่มีเหงื่อไหลเหนอะหนะเกาะตามตัวมันไม่สบายเอามากๆ จริงๆ

 

 

“นายมองอะไร” ชย่าอวี่ชิวถาม

 

 

ชุยหังพูดขึ้น: “ไม่มีอะไร ดูพวกเขาเล่นบาสฯ”

 

 

“นายดูบาสฯ หรือว่าดูคน?” ชย่าอวี่ชิวถามขึ้นอีกครั้ง

 

 

“ดูคนอะไรเล่า” ชุยหังผงะตกใจ

 

 

“ร่างกายเกลี้ยงเกลาเงาวับเยอะแยะขนาดนี้นายไม่มองหรอ” ชย่าอวี่ชิวพูดติดตลก

 

 

ชุยหังพูดขึ้น: “นายหลบไปเลยไป ฉันก็มีจรรยาบรรณมากนะ นี่มีอะไรน่าดูกันถ้าเก่งนักก็ถอดกางเกงด้วยเลยสิ”

 

 

พูดจบขนาดตัวเขาเองยังอดขำตัวเองไม่ได้เลย

 

 

“ไปเถอะ กลับหอกัน ไม่งั้นอีกเดี๋ยวจะมียุงแล้ว” ชุยหังว่า

 

 

เขาเกลียดชังยุงที่เมืองเอ้อพวกนี้เข้ากระดูกดำเลย เหมือนกับว่ามีไว้เพื่อรังแกคนต่างถิ่นโดยเฉพาะ แบบที่เรียกได้ว่าโหดร้าย

 

 

เมื่อกลับมาถึงห้อง 426 เขานอนสบายๆ อยู่บนเตียงชั้นบนของตัวเองก่อนจะกางมุ้งกันยุงลงด้วย ชุยหังมีความรู้สึกเหมือนมเหสีจากตำหนักเย็นกลับเข้าวังยังไงอย่างนั้น

 

 

ในตอนนี้ข้อความของหลูจื้อพึ่งจะส่งมา

 

 

[ฉันมีเวลาเรียนที่ไหน นายไม่มีอะไรทำก็หาวีดีโอสักสองสามคลิปมาดู ศึกษาดีๆ สักหน่อยสิ]

 

 

ชุยหังแทบจะกระอักเลือด การปฏิบัติแบบนี้ของเขามันช่างลื่นไหลเกินไปแล้ว

 

 

[นายคิดว่าพวกเด็กนักศึกษาว่างแล้วต่างก็ชอบหาดูหนังประเภทนั้นหรือไง] ชุยหังถาม

 

 

คำตอบของหลูจื้อยิ่งทำให้เขาสงสัยในชีวิตมากขึ้น: [นักเรียนคนไหนไม่ดู? ขนาดครูยังแอบดูเลย]

 

 

ชุยหังหัวเราะออกมา คำตอบนี้มันช่างสมบูรณ์แบบจริงๆ

 

 

“เหลาอู่นายกินข้าวแล้วหรอ” ถังเฉิงถาม

 

 

ชุยหังพูดขึ้น: “ไปกินเกี๊ยวตงเป่ยที่ถนนตั้วลั่วมา ถ้ามีเวลาพวกนายก็ลองไปชิมดูได้นะ รสชาติดีมากทีเดียว”

 

 

“นายรู้จักร้านที่เป็นรสชาติอาหารตงเป่ยได้ยังไง ฉันอยากหาร้านก๋วยเตี๋ยวอันฮุย”

 

 

จ้าวหลินก็พูดขึ้น: “ฉันก็อยากหาร้านบะหมี่กุ้ยหลิน”

 

 

“ทางฝั่งถนนตั้วลั่วน่าจะมีอยู่มั้ง” ชุยหังถาม

 

 

“ไม่มี พวกเราไปดูมาจนทั่วแล้ว ได้ยินมาว่าที่ซอยเทศบาลฮู่ปู้เซี่ยง [1] ถึงจะมีพวกอาหารถิ่นของแต่ละท้องที่ เหลาอู่ถ้ามีเวลาพวกเราไปกินที่นั่นกันเถอะ” ถังเฉิงว่า

 

 

ชุยหังพูดขึ้น: “ได้สิ ทำไมพวกเขาสามคนถึงไม่อยู่กันหมดเลยล่ะ”

 

 

เหล่าเอ้อร์ เหล่าซานแล้วก็เหล่าลิ่วต่างก็ไม่อยู่ในห้องพัก เตียงนอนว่างเปล่า

 

 

“พวกเขาไปโรงอาหารสองแล้ว ได้ยินว่าที่นั่นมีขนมของส่านซีอยู่ เหล่าซานพาพวกเขาไป”

 

 

 

 

——

 

 

[1] ซอยเทศบาลฮู่ปู้เซี่ยง 户部巷 เป็นซอยเล็กๆ ตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง และได้ชื่อเรียกนี้เนื่องจากเป็นซอยข้างเทศบาลเมื่อสมัยราชวงศ์ชิง ปัจจุบันตั้งอยู่ในย่านคึกคักที่สุดของเขตอู่ชาง เมืองอู่ฮั่น เมืองเอกมณฑลหูเป่ย ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น “ซอยอาหารเช้าอันดับหนึ่ง” และเป็นศูนย์รวมอาหารว่างทานเล่น ดังนั้น ซอยเก่าฮู่ปู้เซี่ยงจึงเป็นอีกหนึ่งศูนย์รวมความหลากรสยอดนิยมของเมืองอู่ฮั่น