“ทำไมหรือ”
มือเล็กๆ ที่คิดไม่ซื่อ ทันใดนั้นก็ถูกกดเอาไว้ เจียงหลีมองชายรูปงามผู้นั้นด้วยใบหน้าใสซื่อ
ดวงตาที่แวววาวคู่นั้นของเขา มืดมัวลงเล็กน้อย “เจ้าซนอีกแล้ว”
“ซนอย่างนั้นหรือ” เจียงหลีดึงมือออกจากใต้ฝ่ามือของเขา ตอนที่ดึงออก ได้ใช้ปลายนิ้วเขี่ยที่กลางฝ่ามือของเขา เซ่าตี้ทำมือขยำ เมื่อเห็นแววตาที่มีเสน่ห์ของนางเปล่งประกาย เขาก็ยิ่งรู้สึกคันไม้คันมืออยากที่จะจับ
ยั่วยวน!
นับวันยิ่งชอบยั่วยวนขึ้นเรื่อยๆ!
เซ่าตี้แววตามืดสลัว ก็รู้อยู่ว่านางตั้งใจ แต่กลับถูกนางยั่วยวนได้อย่างง่ายดาย
จ้องมองใบหน้าเล็กๆ ที่อยู่ตรงหน้า เหมือนเขาคาดเดาได้แล้วว่าไม่กี่ปีหลังจากนี้ นางจะมีเสน่ห์ยั่วยวนขนาดไหน ปล่อยสาวงามทรงเสน่ห์แบบนี้ไว้ต่อหน้าผู้คน เขาจะวางใจได้จริงๆ หรือ
“ทำไมท่านถึงไม่พูดไม่จา”
ท่าทางที่เคร่งเครียดและเงียบๆ ของเขา ทำให้ความคิดที่อยากจะแกล้งเขาของเจียงหลียิ่งมากขึ้น นางเลื้อยขึ้นไปตามตัวของเขาเหมือนดั่งกับงูอย่างไรอย่างนั้น คุกเขาลงบนขาทั้งสองข้างของเขา มือทั้งสองข้างคล้องอยู่ที่คอของเขา ในแววตาที่สดใสเต็มไปด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์
“…” ท่าทางแบบนี้ของนาง จะให้เขาพูดอย่างไร
“ลงมา” เซ่าตี้ออกคำสั่ง
แต่เจียงหลีกลับส่ายหัว แล้วเบะปาก “ไม่เอา”
“…”
“เจียงหลี” เขาพูดเตือนด้วยเสียงแหบ แต่สายตากลับมองไปที่หน้าอกที่เริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นของนางอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
ถ้าได้สัมผัส ต้องรู้สึกดีมากแน่เลย! ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัว แต่ชั่วพริบตา เข้าก็ได้สติ แล้วด่าในใจว่า สมควรตาย! คิดอะไรบ้าๆ เช่นนั้นได้อย่างไร
“ท่านกำลังคิดอะไรอยู่หรือ” ทันใดนั้น ใบหน้าที่งดงามก็เข้ามาใกล้ ทำให้เขาใจคอไม่ดีเป็นอย่างมาก
ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเคร่งขรึมขึ้นมา เขาจะดึงมือของนางออกแต่คิดไม่ถึงว่านางจะรัดแน่นยิ่งกว่าเดิมอีก
“ลู่เจี้ย ข้าคิดถึงท่าน”
คำพูดที่ไร้เรี่ยวแรงของนาง เหมือนว่าได้กำจัดพละกำลังในตัวเขาทั้งหมด และก็ทำให้เขาล้มเลิก แล้วเอามือออก โธ่ สุดท้ายก็ใจไม่แข็งพอ
ใจแข็งไม่พอที่จะทำให้นางรู้สึกไม่ดีและผิดหวัง
ตัวเองกลายเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร ใบหน้าที่เยือกเย็นของเซ่าตี้ กลับปิดบังแววตาที่อ่อนโยนไว้ไม่ได้
“ข้าไปเป่ยโหรวในครั้งนี้ ได้เจอคนๆ หนึ่ง” เจียงหลีมองจ้องที่ตาทั้งสองข้างของเขา แล้วจู่ๆ ก็พูดขึ้นมา
เซ่าตี้เงยหน้าขึ้นมามองนาง สีหน้าเย็นชาขึ้นมา “หรงจิ่งหรือ”
ฮะ
เจียงหลีปากกระตุก ที่นางจะบอกไม่ใช่หรงจิ่ง รับรู้ได้ถึงลมหายใจที่เย็นลงของเขา นางรีบพูดว่า “ไม่ใช่เขา แต่เป็นไป๋เซี่ยงเลี่ย”
ไป๋เซี่ยงเลี่ย
คือใครกัน ไม่รู้จัก
เซ่าตี้ขมวดคิ้ว ความทรงจำในชาติที่แล้ว ได้ลืมเขาคนนี้ไปหมดแล้ว
เห็นท่าทางของเขา เจียงหลีถามหยั่งเชิงว่า “ท่านยังจำเรื่องตอนที่ข้าไปตามหาเต่าเสวียนกังในอาณาเขตหลิงอู่ได้หรือไม่”
อาณาเขตหลิงอู่ เต่าเสวียนกัง
เซ่าตี้ขมวดคิ้วหนักเข้าไปอีก เหมือนว่ากำลังพยายามนึก
เจียงหลีสังเกตสีหน้าของเขาไป พูดอย่างช้าๆ ไป “ตอนนั้น เพราะว่าข้าหลอมรวมเข้ากับเต่าเสวียนกัง แล้วถูกผู้คนล้อมโจมตี”
เหมือนว่าความทรงจำของเซ่าตี้จะถูกปลุกให้ตื่น ลึกๆ ในแววตาของเขาเผยภาพเหตุการณ์ออกมา
ในอาณาเขตหลิงอู่ เขาอุ้มเด็กผู้หญิงที่หลอมรวมกับเต่าเสวียนกังอยู่ แล้วสลบไปท่ามกลางวงล้อม จิตสังหารที่โหดเหี้ยมในใจแทบอยากจะทำลายทุกอย่าง
“คนที่ทำร้ายเจ้า ข้าจะไม่มีทางปล่อยไป”
เขาพูดแบบนี้ แล้วก็ทำแบบนี้ เขาปล่อยพลังจิตที่แข็งแกร่ง ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นหายไปจากอาณาเขตหลิงอู่อย่างสิ้นเชิง
“เดิมที ตอนนั้นเขาอยู่ข้างกายข้าตลอด” เสียงของเจียงหลี ดึงเขากลับมายังความเป็นจริง
ภาพความทรงจำนั้น สลายหายไปจากในดวงตาของเขา สายตาของเขามองไปยังใบหน้าที่งดงามของนาง
“ลู่เจี้ย ขอบคุณนะ” เจียงหลีพูดอย่างจริงใจ
ขอบคุณที่เขาปกป้องนางไว้อย่างดี ขอบคุณที่เขาค่อยอยู่ข้างๆ และแอบทุ่มเทให้กับนาง
ท่าทางที่ซาบซึ้งนี้ของนาง กลับทำให้ในใจของเซ่าตี้รู้สึกไม่สบอารมณ์ เขาสีหน้าเย็นชา พูดเสียงขรึมว่า “ไม่ต้องขอบคุณข้า นั่นไม่ใช่ข้าที่เป็นคนทำ”
“…” ฮะ เอาอีกแล้ว
แบบนี้มันน่าหึงใช่ไหม เจียงหลีอยากจะถามเขาจริงๆ ว่าความรู้สึกที่ถูกตัวเองสวมเขามันเป็นอย่างไรรึ
แต่ว่า นางยังไม่อยากตาย ดังนั้นคำถามนี้ห้ามถามออกไปเด็ดขาด
“ไม่ใช่เจ้าหรอกหรือ เช่นนั้นเพราะอะไร ที่ข้าคิดก็คือท่านนะ” เจียงหลีเข้ามาใกล้เขา น้ำเสียงที่ยั่วยวน ทำให้เกิดอารมณ์
ปลายจมูกของนาง ถูปลายจมูกของเขา ริมฝีปากสีแดงพ่นลมหายใจออกมา กลิ่นอายที่อยู่รอบๆ สัมผัสทั้งห้าของเขา ริมฝีปากของนาง จะใกล้ก็ไม่ใกล้ จะห่างก็ไม่ห่าง เหมือนดั่งขนนกที่เดี๋ยวเข้ามาใกล้ อีกเดี๋ยวก็ห่างไกลออกไป ด้วยท่าทางของนาง ทำให้ใจของเขาเต้นแรงเป็นจังหวะ
“พอได้แล้ว อย่าเล่นกับไฟ!” เขาอดทนและควบคุมอารมณ์ด้วยจิตใจที่แน่วแน่
แต่ทว่า ร่างกายที่ยิ่งตื่นเต้น กลับเผยให้ความไม่สบายใจและความไม่สงบของเขาในตอนนี้ออกมา
“ท่านพูดมาสิ ว่าแท้จริงแล้วใช่ท่านหรือไม่” แต่ว่า เจียงหลีกลับไม่สนคำเตือนของเขา ยังคงอยู่ใกล้ๆ ริมฝีปากของเขา
ทุกครั้งที่เขาอยากจะจูบริมฝีปากแดงๆ ของนาง นางก็ดูเหมือนตกใจกลัว แล้วก็ถอยไป ทุกครั้งที่เขาอดทนควบคุมอารมณ์ไว้ นางก็เข้ามายั่วยวนอย่างไม่กลัวตาย
เด็กผู้หญิงที่งดงาม ยิ้มอย่างสวยหยาดเยิ้ม ทุกสายตาของนางล้วนแต่เต็มไปด้วยความดึงดูด แม้แต่นักปราชญ์ที่ได้มาอยู่ตรงหน้านาง ก็ทำได้เพียงสลัดคราบความสูงส่ง แล้วยอมจำนนต่อความงามของนาง
ฟุบ!
ทันใดนั้น เซ่าตี้ก็ยืนขึ้น แล้วจับสาวน้อยพาดไว้บนบ่า
เจียงหลีตกใจ ดิ้นอยู่บนบ่าของเขา “ท่านจะทำอะไร ปล่อยข้าลงนะ” ชายผู้นี้ทำไมถึงได้ทำอะไรที่ไม่เหมือนคนอื่นเขานะ
เซ่าตี้ยิ้มเยาะในใจ
โดนมาแล้วสองครั้ง เขาจะหลงกลอีกได้อย่างไรเห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้ยั่วเขาเอาสนุก จะทำให้เขามีอารมณ์ แต่ไม่ได้จะยอมให้เขาจริงๆ
จะให้เซ่าตี้ผู้สง่าผ่าเผยเสียหน้าและจนตรอกต่อหน้านาง อีกทั้งปล่อยให้นางหนีไปทุกครั้งได้อย่างไร
แปะ ในขณะเดียวกันกับที่เขาพูดเตือน ก็ตบที่บั้นท้ายกลมกลึงของนางด้วย
ความรู้สึกดีจากมือที่ได้สัมผัส ทำให้จิตใจหวั่นไหว
โชคดีที่เขาควบคุมอารมณ์ได้ดีมาก ถึงได้ๆ สติกลับมาในระยะเวลาอันสั้น แบกเจียงหลีต่อไป เดินมุ่งไปยังอ่างอาบน้ำหลังห้องบรรทม
“นี่ ปล่อยขาลงนะ” เจียงหลีดิ้นไม่หลุด ก็เลยไม่ดิ้นแล้ว
เขาเมินคำพูดของนาง นางก็ขี้เกียจพูดแล้วเหมือนกัน
พยายามหันหน้าไปมองที่ๆ จะไป ทันใดนั้นนางก็ยิ้มออกมาอย่างงดงาม “ที่แท้ท่านก็อยากลงอ่างด้วยกันกับข้าหรือ รีบบอกสิ ได้อาบน้ำกับชายรูปงามอย่างท่านแบบนี้ เป็นธรรมดาที่ข้าจะไม่ปฏิเสธ ไม่ต้องบุ่มบ่ามเช่นนี้”
เจียงหลีอยู่บนบ่าของเขา มือที่ซุกซนจะจับบั้นท้ายเขา
ป้าบ!
“ทำตัวดีๆ หน่อย”
เพียงแต่ ยังไม่ทันได้ลูบ ก็ถูกเขาตีก้น เพื่อตักเตือน
เจียงหลีเก็บมืออย่างไม่ยินยอม ท่านมีสิทธิ์อะไรถึงตีก้นข้าได้ แต่ข้า แม้แต่จะจับก้นสักทียังไม่ได้เลย
“สิทธิ์ของข้า” เขาพูดอย่างมีอำนาจ คิ้วที่งดงามของเขายกขึ้นเล็กน้อย ปากของเขายิ้มอย่างดีใจ
“…” เจียงหลีนิ่งไป นี่มันเหตุผลอะไรกัน!
ได้ยินเสียงน้ำ
ที่ตามมาติดๆ เจียงหลีก็รู้สึกได้ว่าตัวเองถูกโยนลงไป
ตูมมม!
เสียงน้ำที่โดนกระทบดังขึ้น เจียงหลีจมลงไปในน้ำ
…………………….