เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1117 อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด

แปลโดย iPAT

 

อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด

 

ฟางหยวนเคยได้ยินตำนานเกี่ยวกับอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดมานานแล้ว แต่เขาไม่รู้ว่าไข่ของมันมีลักษณะอย่างไร

 

อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิดบนเส้นทางแห่งห้วงมิติ เมื่อมันโตเต็มวัย มันสามารถเดินทางได้อย่างอิสระในสวรรค์ทั้งเก้ารวมถึงการเข้าออกถ้ำสวรรค์สวรรค์ต่างๆ

 

นี่เป็นความสามารถที่น่าอัศจรรย์

 

ระหว่างสวรรค์ชั้นต่างๆมีกำแพงพลังงานกีดขวางอยู่ขณะที่ถ้ำสวรรค์แยกตัวออกจากโลกใบนี้อย่างสมบูรณ์

 

แต่อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดสามารถเดินทางไปยังสถานที่เหล่านั้นได้ด้วยสัญชาตญาณและความสามารถบนเส้นทางแห่งห้วงมิติของมัน

 

มันมีพลังการต่อสู้เทียบเท่ากับผู้อมตะระดับแปดและยังบินได้รวดเร็วมาก ไห่ฟานสามารถเก็บไข่ของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเอาไว้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาต้องจ่ายด้วยราคามหาศาล

 

จุดอ่อนเดียวของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดก็คืออายุขัยของมัน

 

มันมีอายุขัยเพียงแปดสิบปีเท่านั้น

 

หากเปรียบเทียบ มนุษย์ธรรมดาที่มีอายุขัยหนึ่งร้อยปียังเหนือกว่ามันในแง่มุมนี้

 

สัตว์อสูรแรกกำเนิดที่มีอายุขัยน้อยกว่ามนุษย์ นี่เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจเพราะโดยทั่วไปสัตว์อสูรแรกกำเนิดมักมีอายุขัยหลายแสนปี

 

อย่างไรก็ตามมันมีความสามารถในการยืดอายุ

 

ก่อนมันจะตายด้วยความชรา มันจะวางไข่

 

ภายในไข่ใบนี้จะมีความทรงจำทั้งหมดที่มันสะสมมาตลอดชีวิต

 

ลูกนกที่เกิดจากไข่ใบนี้จะกลายเป็นอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดที่มาพร้อมกับความทรงจำในชีวิตก่อนหน้ารวมถึงร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่เคยมี หากไม่เกิดอุบัติเหตุใดๆ อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดจะเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

 

แน่นอนว่าในช่วงเวลาที่มันอยู่ในไข่หรือเป็นลูกนกแรกเกิด มันจะอ่อนแอมาก

 

หลังจากเข้าใจสิ่งนี้ ฟางหยวนสามารถคาดเดาบางสิ่ง ‘ไข่ที่ตายแล้วของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดที่ไห่ฟานทิ้งไว้มีเบื้องหลัง!’

 

เหตุใดไห่ฟานต้องทิ้งไข่ใบนี้เอาไว้?

 

เห็นได้ชัดว่าอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเคยไปที่ถ้ำสวรรค์ของไห่ฟานมาก่อน นี่คือกุญแจที่จะนำไปสู่ถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

 

ผู้อมตะเผ่าไห่พยายามค้นหาถ้ำสวรรค์ของไห่ฟาน แต่จากความทรงจำของไห่เจิ้ง พวกเขายังไม่พบสิ่งใด

 

‘มรดกที่แท้จริงของไห่ฟานต้องอยู่ในถ้ำสวรรค์ของเขาเอง นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก โดยปราศจากวิธีบนเส้นทางอาหาร มันจะดีที่สุดที่เขาจะเก็บวิญญาณอมตะไว้ที่นั่น’

 

‘ถ้ำสวรรค์ของไห่ฟานไม่ต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติใดๆ ตามความทรงจำของไห่เจิ้ง ไห่ฟานเคยได้รับเศษชิ้นส่วนของสวรรค์เก้าชั้น หากข้าเดาไม่ผิด ก่อนตาย เขาต้องผสานมันเข้ากับถ้ำสวรรค์ของตนเอง’

 

‘น่าเสียดายที่เขาไม่มีวิญญาณอายุยืน’

 

‘แต่เหตุใดไข่อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดที่อยู่ในรังอินทรีย์ถึงเป็นไข่ที่ตายแล้ว?’ ฟางหยวนกำลังเผชิญหน้ากับคำถามที่ยากลำบาก

 

มีสองคำตอบที่เป็นไปได้

 

หนึ่งคือไข่อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดใบนี้ตายไปตามธรรมชาติ ไห่ฟานทิ้งไข่ที่มีชีวิตเอาไว้ แต่เนื่องจากไม่มีผู้ใดสามารถรับสืบทอดมรดกของเขาเป็นเวลานานเกินไป ดังนั้นไข่อินทรีย์ใบนี้จึงตายไปในที่สุด

 

ความเป็นไปได้ที่สองคือไข่อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดใบนี้ยังไม่ตายแต่ต้องใช้วิธีการพิเศษบางอย่างเพื่อปลุกมันให้ตื่นขึ้น

 

หากเป็นกรณีแรก ฟางหยวนจะไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ เขาสามารถเพียงขายรังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์และไข่ที่ตายแล้วออกไปเท่านั้น

 

จากมุมมองของฟางหยวน แน่นอนว่าเขาต้องการให้เป็นกรณีที่สองมากกว่า

 

แต่หากต้องใช้วิธีการพิเศษ แล้วมันคือสิ่งใด?

 

‘หากเป็นกรณีที่สอง ข้าจะปลุกไข่ใบนี้อย่างไร?’ ฟางหยวนคิด

 

แต่หลังจากคิดอย่างยาวนานเขาก็ยังไม่ได้รับคำตอบ

 

นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก

 

ไข่ใบนี้ดูเหมือนตายไปแล้วจริงๆ มิฉะนั้นฟางหยวนจะไม่สามารถยืนยันเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดายตั้งแต่แรก

 

‘หากข้าเป็นไห่ฟาน ข้าจะทิ้งเงื่อนงำบางอย่างเอาไว้เบื้องหลังเพื่อให้บุตรหลานของข้าแก้ปัญหาและรับสืบทอดมรดก’ ฟางหยวนคาดเดา

 

เขารู้สึกว่าตนเองมองข้ามบางสิ่งไปโดยไม่รู้ตัว

 

‘หากข้าใช้ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมอีกครั้งกับไข่ที่ตายไปแล้ว มันจะตื่นขึ้นหรือไม่?’ ฟางหยวนสันนิษฐาน

 

แต่เขายังไม่ได้ทำทันที

 

เนื่องจากนี่เป็นเพียงสมมติฐานและยังไม่มีหลักฐานสนับสนุน

 

ฟางหยวนเป็นคนรอบคอบ ดังนั้นเขาจึงใช้ทักษะบนเส้นทางแห่งปัญาวิเคราะห์ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเหล่านั้น

 

เพียงไม่นานเขาก็ค้นพบบางสิ่ง

 

สิ่งใด?

 

ท่าไม้ตายเหล่านี้ดูเหมือนจะถูกดัดแปลงมาก่อน รุ่นดั่งเดิมของมันยังดีกว่ารุ่นใหม่

 

ไห่ฟานพยายามทำสิ่งใด?

 

ฟางหยวนนึกถึงบันทึกทางประวัติศาสตร์ของเผ่าไห่ที่อยู่ในความทรงจำของไห่เจิ้ง

 

ไห่ฟานมักสั่งสอนชนรุ่นหลังว่า ‘พวกเจ้าต้องคิดวิเคราะห์ด้วยตนเองและอย่าเชื่อถือประสบการณ์ของรุ่นพี่โดยไม่คิดให้รอบคอบ มีเพียงการเรียนรู้จากพวกเขาและคิดวิเคราะห์ด้วยตนเองเท่านั้นที่จะทำให้พวกเจ้าสามารถก้าวไปข้างหน้า’

 

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนต้องพิจารณาท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเหล่านี้ใหม่อีกครั้ง

 

เขาพยายามลบการดัดแปลงที่ล้มเหลวของไห่ฟานออกไป นี่ทำให้เขาค้นพบสิ่งที่น่าตกใจบางอย่าง

 

‘ท่าไม้ตายเหล่านี้ไม่ใช่ความล้มเหลวแต่พวกมันสามารถผสานงานกันและทำให้เกิดเป็นท่าไม้ตายใหม่!’

 

‘ไห่ฟานเพิ่มขั้นตอนที่ไม่จำเป็นเข้าไปโดยเจตนา ท่าไม้ตายเหล่านี้ต่างมีข้อบกพร่องหนึ่งหรือสองจุด แต่เมื่อพวกมันหลอมรวมกัน พวกมันกลับทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ!’

 

สิ่งที่ทำให้ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจมากที่สุดก็คือมันเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งเลือด

 

ผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ยิ่งใหญ่ไห่ฟานใช้ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งเลือด?

 

แต่นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก

 

ตั้งแต่บรรพชนบ่อเลือดปรากฏตัวขึ้น ทุกคนรู้จักพลังอำนาจของเส้นทางแห่งเลือดเป็นอย่างดี กองกำลังระดับสูงทั้งหมดลอบค้นคว้าเรื่องนี้อย่างลับๆ

 

นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แต่ในสิบนิกายโบราณของภาคกลางโดยยังไม่ต้องกล่าวถึงผู้อมตะของภาคเหนือที่คลั่งไคล้ความแข็งแกร่ง

 

ฟางหยวนมีความมั่นใจเกี่ยวกับเส้นทางแห่งเลือดมากกว่าเส้นทางแห่งการหลอมรวม

 

หลังจากทั้งหมดเขาเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งเลือด

 

ด้วยความสำเร็จบนเส้นทางแห่งเลือด ฟางหยวนเข้าใจทันทีว่าท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งเลือดนี้มีไว้เพื่ออินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด!

 

แต่ท่าไม้ตายนี้ยังไม่สมบูรณ์

 

เมื่อตระหนักถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนไม่รู้สึกผิดหวัง ตรงข้ามดวงตาของเขากลับส่องประกายขึ้น

 

‘ไห่ฟานต้องมีท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งเลือดที่สมบูรณ์ แต่เขาทิ้งท่าไม้ตายเพียงครึ่งไว้กับทายาท’

 

‘เขาไม่ส่งต่อท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งเลือดที่สมบูรณ์แบบให้ทายาทโดยตรงแต่ใช้วิธีการบางอย่างเพื่อปกปิดมันเอาไว้’

 

‘แรงจูงใจของเขาต้องเป็นการทดสอบผู้สืบทอด พวกเขาต้องแก้ปัญหานี้ด้วยตนเอง เหตุผลที่สองคือเส้นทางแห่งเลือดไม่สามารถเปิดเผย หากคนนอกรู้ว่าไห่ฟานใช้วิธีการบนเส้นทางแห่งเลือด มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ไห่ฟานไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์นี้’

 

ฟางหยวนสามารถคาดเดาความคิดของไห่ฟาน

 

ตอนนี้เขามั่นใจมากว่าไข่อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดยังไม่ตายอย่างสมบูรณ์แต่ถูกผนึกเอาไว้

 

นี่จะทำให้เรื่องต่างๆง่ายขึ้น!

 

ฟางหยวนไม่ใช่ผีดิบอมตะอีกต่อไป เขาสามารถใช้เลือดจากร่างกายของตนเองได้อย่างง่ายดาย

 

อย่างไรก็ตามขณะที่เขากำลังจะใช้ทักษะบนเส้นทางแห่งเลือด เขากลับหยุดการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน

 

‘เกือบไปแล้ว! ข้าเกือบพลาดบางสิ่ง!’ หน้าผากของฟางหยวนปกคลุมไปด้วยเม็ดเหงื่อ

 

เหตุใดไห่ฟานจึงทิ้งท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งเลือดเอาไว้ให้กับบุตรหลาน?

 

มันไม่ใช่เรื่องแปลกจริงๆงั้นหรือ?

 

ทุกคนรู้ดีว่าไห่ฟานเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งกาลเวลา เขาสามารถทิ้งวิธีการบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเอาไว้และนั่นยังเป็นวิธีที่ดีกว่า

 

แต่เขากลับเลือกใช้ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งเลือด เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?

 

มีเพียงเหตุผลเดียวที่เป็นไปได้ นั่นคือเส้นทางแห่งเลือดสามารถทำบางสิ่งขณะที่เส้นทางแห่งกาลเวลาไม่สามารถทำ

 

ในฐานะปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งเลือด ความคิดแรกของฟางหยวนก็คือการตรวจสอบสายเลือด!

 

มรดกที่แท้จริงของไห่ฟานมีไว้สำหรับบุตรหลานเผ่าไห่ มรดกของผู้อมตะในเผ่ามักถูกเก็บไว้ให้สมาชิกเผ่าและเงื่อนไขแรกของการรับสืบทอดก็คือความเกี่ยวข้องทางสายเลือด น้อยคนนักที่จะทิ้งมรดกของตนเองไว้ให้กับผู้อื่น

 

วิญญาณทัศนคติและท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเป็นสองขั้นตอนแรกในการตรวจสอบ

 

สำหรับขั้นตอนที่สาม มันคือการตรวจสอบสายเลือดด้วยวิธีการบนเส้นทางแห่งเลือด

 

‘หากผู้สืบทอดไม่มีสายเลือดของเผ่าไห่ มันอาจเกิดข้อผิดพลาดขึ้นกับไข่ที่ตายแล้วใบนี้หรือบางทีอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดที่ฟักออกมาอาจกลายเป็นศัตรูกับคนผู้นั้น’

 

นึกถึงเรื่องนี้ฟางหยวนรู้สึกราวกับเหงื่อไหลลงมาจากหน้าผากของเขามากขึ้น

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสัตว์อสูรแรกกำเนิดกลายเป็นศัตรู มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่

 

อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดรวดเร็วมาก ฟางหยวนไม่สามารถวิ่งหนีจากมัน ขณะเดียวกันพลังป้องกันของเขาก็อ่อนแอเกินไป เมื่อเกิดการปะทะ เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน

 

‘ดูเหมือนข้าต้องใช้สายเลือดที่เหมาะสมในการปลดผนึกไข่ใบนี้เท่านั้น’ ฟางหยวนหยุดเคลื่อนไหวอย่างชาญฉลาด

 

หลายวันต่อมา

 

มุมหนึ่งของมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

เส้นผมของไห่เจิ้งยุ่งเหยิง ใบหน้าของเขาแสดงให้เห็นถึงความเหนื่อยล้า

 

ฟางหยวนบังคับผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งบินเข้าไปหาไห่เจิ้ง

 

ร่างของไห่เจิ้งสั่นสะท้านขึ้นราวกับถูกฟ้าผ่า เขาตะโกนด้วยความหวาดกลัวและตกใจ “เจ้า! เจ้าต้องการสิ่งใด?”

 

ฟางหยวนเคยค้นวิญญาณของไห่เจิ้ง แต่ลืมเรื่องนั้นไปก่อน ตอนนี้เขาใช้วิธีการทุกประเภทเพื่อทรมานไห่เจิ้ง สภาพของไห่เจิ้งในเวลานี้กล่าวได้ว่าความตายยังดีกว่า

 

ไห่เจิ้งเป็นเชลยศึกของฟางหยวน จนถึงตอนนี้เขายอมแพ้แล้ว ท่าทางที่สง่างามของเขาหายไปอย่างสมบูรณ์

 

แต่เขาไม่สามารถกระทั่งกัดลิ้นฆ่าตัวตาย

 

‘ไห่เจิ้งยังมีคุณค่า แม้เผ่าไห่จะล่มสลายไปแล้ว แต่ไห่ลั่วหลันยังมีชีวิตอยู่’ นี่คือความคิดของฟางหยวน

 

ดังนั้นไห่เจิ้งจึงอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถตายหรืออยู่อย่างเป็นสุข

 

“อย่ากังวล นี่น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ข้ามั่นใจมาก” ผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งเผยรอยยิ้มขณะเคลื่อนที่เข้าใกล้ไห่เจิ้งมากขึ้น

 

ไห่เจิ้งกรีดร้อง “เจ้าบอกว่ามันเป็นครั้งสุดท้ายเสมอ! ไม่ ไม่ อา…”