เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1118 พลังการต่อสู้ของอินทรีย์สวรรค์

แปลโดย iPAT

 

ใบหน้าของไห่เจิ้งบิดเบี้ยวขณะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

 

ฟางหยวนไม่สนใจและยังใช้ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งเลือดต่อไป

 

ด้วยการใช้วิญญาณสมบัติเลือดเป็นแกนกลาง เขาสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งเลือด

 

เลือดในร่างกายรวมถึงไขกระดูกของไห่เจิ้งถูกดึงออกมาภายนอก

 

ผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งของฟางหยวนกลืนกินมันเข้าไปทั้งหมด

 

ไห่เจิ้งเสียเลือดมากเกินไปจนหมดสติ ตอนนี้ร่างกายของเขาซูดผอมใบหน้าซีดขาวราวกับคนที่ตายไปแล้ว

 

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย็นก่อนส่งวิญญาณระดับมนุษย์จำนวนมากเข้าไปในหูรูของไห่เจิ้งและเคลื่อนที่เข้าสู่กระแสเลือด

 

ในไม่ช้าร่างกายของไห่เจิ้งก็เริ่มกลับสู่สภาพปกติ อย่างไรก็ตามจิตใจของเขายังเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า

 

เขาค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นและพึมพำ “เก็บข้าไว้ เก็บข้าไว้ ข้ายอมแพ้ ข้าจะภักดีต่อนายท่าน…”

 

ฟงหยวนไม่ตอบ

 

ไห่เจิ้งยังพูดซ้ำๆ

 

ฟางหยวนไม่สนใจที่จะมีผู้ใต้บังคับบัญชาเช่นไห่เจิ้ง

 

ฟางหยวนต้องระวังผู้อมตะเผ่ามนุษย์วิหคจ้าวจงอยู่แล้วโดยไม่ต้องกล่าวถึงไห่เจิ้งที่ไม่สามารถไว้ใจ

 

ในความเป็นจริงหลังการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน เมื่อฟางหยวนรู้ว่าตนเองถูกควบคุมโดยเจตจำนงสวรรค์ มันทำให้เขายิ่งไม่ไว้ใจผู้ใดมากขึ้นไปอีก

 

หลังจากดูดเลือดของไห่เจิ้ง ร่างผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งก็ส่องแสงสีแดงเลือดออกมา

 

ภายใต้การจ้องมองอย่างคาดหวังของฟางหยวน แสงสีแดงเลือดค่อยๆจางหายไปขณะที่ผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งได้รับสืบทอดสายเลือดของเผ่าไห่มาอย่างสมบูรณ์

 

“สำเร็จ!” ฟางหยวนตื่นเต้นมาก

 

หลายวันที่ผ่านมาเขาพยายามเตรียมความพร้อมสำหรับการหลอมรวมไข่อินทรีย์

 

การปลอมแปลงสายเลือดเผ่าไห่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา

 

ฟางหยวนเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งเลือดที่มีรากฐานที่ลึกซึ้งตั้งแต่ชีวิตก่อนหน้า

 

แต่เขายังต้องคำนึงถึงท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งเลือดของไห่ฟาน กล่าวโดยสรุป ไห่เจิ้งถูกทรมานมาหลายครั้งก่อนที่ฟางหยวนจะประสบความสำเร็จ

 

“แต่ข้ายังไม่สามารถใช้มันกับไข่อินทรีย์ ข้าต้องผสานท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งเลือดเข้ากับท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย นั่นจะทำให้ข้ามีความมั่นใจมากขึ้น!”

 

ฟางหยวนใช้เวลาครึ่งเดือนในขั้นตอนนี้

 

หากไม่ใช่เพราะความสำเร็จระดับปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งเลือดและเส้นทางแห่งปัญญา เขาจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างง่ายดายเช่นนี้

 

ตอนนี้เหลือเวลาอีกประมาณหนึ่งเดือนก่อนที่ภัยพิบัติพิภพครั้งที่สี่จะมาถึง

 

เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ฟางหยวนเริ่มดำเนินการทันที

 

ดังคาด ภายใต้ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งเลือด ไข่อินทรีย์เริ่มปรากฏร่องรอยแห่งชีวิต

 

แปดวันแปดคืนต่อมาเปลือกไข่แตกออก นกตัวน้อยคืบคลานออกมา

 

แม้มันจะพึ่งถือกำเนิดแต่ร่างกายของมันก็ไม่เล็ก เมื่อมันยืน มันมีความสูงเท่ากับเด็กชายวัยห้าขวบ

 

อินทรีย์น้อยมองผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งและแสดงออกราวกับเห็นบิดามารดาของมัน

 

“มานี่” ฟางหยวนพูดผ่านร่างผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง

 

อินทรีย์น้อยกระโดดเข้าไปหาผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งและจ้องมองอย่างไร้เดียงสา

 

ผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งลูบศีรษะอินทรีย์น้อยอย่างแผ่วเบา

 

อินทรีย์น้อยก้มศีรษะลงโดยไม่ขัดขืน มันเปิดปากและส่งเสียงร้องราวกับพยายามเรียกร้องความสนใจจากฟางหยวน

 

ฟางหยวนกล่าวชื่นชมในใจ ‘ไห่ฟานผู้นี้ช่างยอดเยี่ยมนัก เขาลบความทรงจำของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดในชีวิตก่อนหน้าออกไปแล้ว มิฉะนั้นมันอาจกลายเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิดที่ดุร้ายและไม่สามารถควบคุม’

 

‘ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งเลือดไม่ใช่ทักษะกดขี่ทาส แต่ผลลัพธ์ของมันทำให้เป้าหมายเกิดความรู้สึกใกล้ชิดกับผู้ใช้งานราวกับพบญาติสนิทที่มีสายเลือดเดียวกัน’

 

‘ด้วยวิธีนี้ มันไม่ใช่เรื่องยากที่มันจะนำข้าไปยังถ้ำสวรรค์ของไห่ฟาน’

 

ขณะที่ฟางหยวนกำลังคิดเรื่องเหล่านี้ อินทรีย์น้อยกลับส่งเสียงร้องอย่างกระวนกระวาน

 

“หิว?” ฟางหยวนควบคุมผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งให้ชี้นิ้วไปที่รังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์ “ไปกินมัน”

 

อาหารของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดคือคริสตัลสวรรค์!

 

หลังจากได้รับอนุญาต อินทรีย์น้อยส่งเสียงร้องอย่างมีความสุขและกระโดดเข้าไปจิกคริสตัลสวรรค์

 

มันยังไม่ได้กลืนเข้าไปแต่หันไปหาผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง

 

ผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งเผยรอยยิ้มและกล่าวอย่างอบอุ่น “กินเถอะ”

 

อินทรีย์น้อยยกหัวของมันขึ้นและกลืนคริสตัลสวรรค์ชิ้นเล็กเข้าไปทันที

 

มันจิกกัดคริสตัลสวรรค์ราวกับชิ้นเต้าหู้ นี่ทำให้ฟางหยวนรู้สึกตกใจเล็กน้อย

 

มันคู่ควรกับการเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิดอย่างแท้จริง

 

‘นี่หมายความว่านับจากนี้เป็นต้นไปข้าจะได้ครอบครองพลังการต่อสู้ระดับสัตว์อสูรแรกกำเนิด แต่ตอนนี้มันยังเด็กเกินไป พลังการต่อสู้ของมันยังไม่สูงนัก’

 

‘ดูเหมือนมันจะเข้าใจคำกล่าวของข้า นี่ต้องเป็นสิ่งที่ไห่ฟานจัดเตรียมไว้ แม้มันจะถูกลบความทรงจำแต่มันยังสามารถเรียนรู้ภาษามนุษย์’

 

‘อย่างไรก็ตามมันยังมีข้อบกพร่อง!’

 

‘ข้าต้องอำพรางสายเลือดของข้าเพื่อทำให้อินทรีย์สวรรค์ตัวนี้รู้สึกใกล้ชิด มิฉะนั้นมันอาจโจมตีข้า’

 

ฟางหยวนคำนึงถึงทุกแง่มุมที่อาจเกิดขึ้น

 

ในช่วงหลายวันนี้ฟางหยวนใช้ผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งคอยเฝ้ามองอินทรีย์น้อยกินอาหาร

 

อินทรีย์น้อยไม่ได้กินอาหารตลอดเวลา หลังจากกิน มันจะมาคลอเคลียผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งก่อนจะงีบหลับไป

 

ไม่กี่วันต่อมารังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์ก็ถูกกินไปครึ่งหนึ่ง

 

ความเร็วในการบริโภคระดับนี้ทำให้ฟางหยวนรู้สึกปวดหัว

 

เพื่อให้ได้รับพลังการต่อสู้ระดับแปด เขาต้องใช้ทรัพยากรอมตะที่ล้ำค่า ราคาของมันถือว่าสูงมาก

 

อินทรีย์น้อยเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นอินทรีย์หนุ่ม

 

ตอนนี้มันมีความสูงเท่ากับฟางหยวนแล้ว

 

เมื่อถึงเวลาสุกงอม ฟางหยวนไม่เสียเวลารออีกต่อไป

 

เขานำวิญญาณอมตะและวิญญาณระดับมนุษย์กลับมาจากร่างของผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งและใช้ท่าไม้ตายใบหน้าที่คุ้นเคยกับร่างกายของตนเอง

 

ท่าไม้ตายใบหน้าที่คุ้นเคยรุ่นปัจจุบันเหนือกว่ารุ่นดั่งเดิมของมันไปแล้วโดยการเพิ่มวิญญาณอมตะสมบัติเลือดและวิญญาณระดับมนุษย์ดวงอื่นๆ

 

ด้วยวิธีนี้ฟางหยวนจึงสามารถปลอมแปลงสายเลือดของตนเอง

 

ฟางหยวนเดินทางออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาก่อนจะปล่อยอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดออกมา

 

อินทรีย์สวรรค์เห็นร่างจริงของฟางหยวนและไม่มีข้อสงสัยใดๆ มันจิกฝ่ามือของฟางหยวนเบาๆและใช้ศีรษะถูไหล่ของฟางหยวนอย่างเป็นมิตร

 

ฟางหยวนยิ้มและออกคำสั่งอินทรีย์หนุ่ม “พาข้าไปยังถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน ข้าต้องการรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน”

 

อินทรีย์หนุ่มแสดงท่าทางงุนงงเล็กน้อย แต่หลังจากชั่วครู่มันก็สามารถจดจำบางสิ่ง มันกรีดร้องและกางปีกออก

 

เห็นดังนั้นฟางหยวนรีบกระโดดขึ้นไปบนแผ่นหลังของมันทันที

 

อินทรีย์สวรรค์กรีดร้องและแบกฟางหยวนทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้

 

กระแสอากาศพัดผ่านใบหูของฟางหยวนอย่างรุนแรง

 

ฟางหยวนต้องกระตุ้นใช้วิญญาณบางดวงจึงจะสามารถนั่งอยู่บนแผ่นหลังของอินทรีย์สวรรค์ได้อย่างมั่นคง

 

เขาพอใจมากกับความเร็วของอินทรีย์ตัวนี้ มันไม่ด้อยกว่าวิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติ

 

สิ่งสำคัญที่สุดก็คืออินทรีย์สวรรค์ตัวนี้ยังเป็นอินทรีย์วัยเยาว์ มันยังห่างไกลจากอินทรีย์ที่โตเต็มวัยอีกมาก เมื่ออินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเติบโตขึ้น มันจะมีขนาดใหญ่กว่าปลาวาฬหลายเท่า

 

ฟางหยวนประเมิน ‘พลังการต่อสู้ในปัจจุบันของมันยังไม่ถึงระดับแปด ตอนนี้มันอยู่ระดับหก’

 

แม้มันจะมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งห้วงมิติอยู่มากมายแต่มันไม่มีวิญญาณในการครอบครอง พลังการต่อสู้ของมันคือร่างกายของมันเท่านั้น สัตว์อสูรมีร่างกายที่แข็งแกร่งตามธรรมชาติโดยเฉพาะสัตว์อสูรแรกกำเนิด

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ฟางหยวนเคยเห็นอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด ความคิดที่ว่ามันจะมีพลังการต่อสู้ระดับแปดตั้งแต่เกิดเป็นเรื่องเข้าใจผิด

 

แต่ฟางหยวนไม่ผิดหวัง เขายังมั่นใจในพลังการต่อสู้ของมันที่จะพัฒนาสู่ระดับแปดในอนาคต

 

อินทรีย์สวรรค์เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ฟางหยวนมอบคริสตัลสวรรค์ให้มันเป็นครั้งคราว

 

ในช่วงเวลานี้เขาลอบประเมินไห่ฟานใหม่อีกครั้ง

 

จากความทรงจำของไห่เจิ้ง ไห่ฟานได้รับการยกย่องอย่างมาก

 

การนำเผ่าไห่สู่ความรุ่งโรจน์และทิ้งชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ไม่ใช่เรื่องง่าย

 

ฟางหยวนตรวจสอบวิธีการรับสืบทอดมรดกของไห่ฟานราวกับกำลังต่อสู้กับไห่ฟานในแง่ของความเฉลียวฉลาด

 

นี่เป็นการแข่งขันที่ไม่ธรรมดา

 

ไห่ฟานทิ้งท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งเลือด รังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์ และไข่ที่ตายแล้วของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเอาไว้เบื้องหลัง ฟางหยวนต้องคิดวิเคราะห์อย่างหนักเพื่อคลี่คลายปัญหาเหล่านี้

 

หลังจากทั้งหมดตัวตนที่สามารถก้าวเข้าสู่ระดับแปดล้วนไม่ใช่คนทั่วไป

 

มรดกของผู้อมตะระดับแปดไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับ

 

ผู้อมตะเผ่าไห่ทุ่มเทความพยายามมานานหลายปีแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ แน่นอนว่านี่เป็นเพราะการสูญเสียวิญญาณทัศนคติ

 

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีเพียงคนฉลาดเช่นฟางหยวนเท่านั้นที่สามารถคว้าโอกาสและเดินทางไปยังถ้ำสวรรค์ของไห่ฟาน

 

‘เมื่อไปถึงถ้ำสวรรค์ของไห่ฟาน ข้าจะได้รับมรดกที่แท้จริงของเขาทันทีหรือไม่? ข้ารู้สึกว่าการทดสอบของไห่ฟานยังไม่จบเพียงเท่านี้’

 

‘แต่ยิ่งมีการทดสอบมากเท่าใด มรดกของเขาก็ยิ่งน่าสนใจมากเท่านั้น มันไม่ใช่เรื่องเลวร้าย’