ถ้าไม่โทรไป ในใจเชอร์รีนก็ไม่โกรธเท่านี้!
ชารีฟไม่มีหน้าที่อะไรเลย หน้าที่อย่างเดียวที่มีก็คือเชื่อฟังคำสั่งทับทิม!
ถ้าตอนนี้เขาอยู่ตรงหน้าเธอ ดูซิว่าเธอจะไม่แม้แต่จะตะปบกัดจนเขาปางตาย ในฐานะผู้ชายตัวใหญ่ แม้แต่สำนึกรับผิดชอบสักนิดก็ไม่มี
และเวลานี้เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตอนที่ย้ายของตอนเที่ยงได้ดึงกระเป๋าเงินออกมาวางไว้ที่นั่น ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีเงินเลย คืนนี้แม้แต่ที่ให้ค้างคืนก็ไม่มี!
คิดมาถึงตรงนี้ เธอจึงรีบโทรไปหานาโนกับยู่ยี่ แต่ทั้งคู่ไปทำธุระที่ต่างประเทศ
เมื่อวางสาย เชอร์รีนก็อ่อนระโหยโรยแรง ไม่อยากเชื่อว่าจะใช้เวลาในช่วงคริสมาสต์ไปแบบนี้
เธอสูดหายใจเข้าลึกแล้วหันหน้าไป แต่กลับปะทะเข้ากับดวงตาดั่งน้ำทะเลลึกของออกัส จึงเกิดอาการตัวสั่นเล็กน้อย ยื่นโทรศัพท์มือถือให้ “ทำให้คุณออกัสต้องขำแล้ว”
“ไม่มีปัญหา” ออกัสเอ่ยบางเบา ดวงตากวาดมองริมฝีปากอ่อนนุ่มแดงเรื่อของเธอ แววตาทอประกายวิบวับ
ภายในรถที่ชวนอึดอัด มีเพียงเสียงลมหายใจที่ไหลเวียนในอากาศ เชอร์รีนรู้สึกกดดันเล็กน้อย จึงหาเรื่องชวนคุยไปสุ่มๆ “เลอแปงรู้ได้ยังไงว่าฉันถูกส่งเข้าสถานีตำรวจ”
ริมฝีปากบางของออกัสยกยิ้มเล็กน้อยอย่างค่อนข้างสนุกสนาน “ที่มาช่วยคุณครูเชอร์รีนคือผม เกี่ยวอะไรกับเลอแปง”
“ฉันรู้ว่าระหว่างฉันกับคุณออกัสไม่ได้มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะมาช่วยฉันโดยไม่มีเหตุผล แน่นอนว่าเขาต้องเป็นคนขอให้คุณมา”
ไม่ต้องคิด เชอร์รีนก็สามารถรู้ที่มาได้
ออกัสยิ้มเล็กน้อยมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง “ใช้เวลาทั้งคืนด้วยกัน คุณครูเชอร์รีนไม่รู้สึกว่าความสันพันธ์ระหว่างเรามันลึกซึ้งกว่า……”
ตกใจตัวสั่นทันที เชอร์รีนตกใจจนตื่นตัว ถลึงตาใส่ชายหนุ่มด้วยความหงุดหงิด
“ก็แค่ความสัมพันธ์ลึกซึ้งชั่วข้ามคืนเท่านั้น ฉันไม่ได้มีเสน่ห์มาพอจะทำให้คุณออกัสตั้งใจมาช่วยฉันได้หรอก ไม่ใช่เหรอ”
คุณชายออกัสแห่งเมืองS สิ่งที่ขาดไม่ได้ที่สุดคือผู้หญิง ไม่ว่าจะหน้าอกอวบอิ่มและบั้นท้ายกลมกลึง หรือเอวบางร่างน้อยสะโอดสะอง ตราบใดที่เขากวักมือเรียก ผู้หญิงราวแมลงเม่า ก็ต่อแถวเวียนกันเข้ามาไม่มีขาด
ปกติแล้วเธอชอบการที่เท้าติดดิน แทนที่จะไปใฝ่ฝันถึงอะไรที่มันว่างเปล่าจับต้องไม่ได้
คนเรา ต้องรู้จักความเป็นจริง
ลูกกระเดือกขยับเล็กน้อย คำพูดนี้กระตุ้นให้ออกัสรู้สึกสนอกสนใจเป็นอย่างมาก เหมือนกำลังขบคิดอะไรบางอย่าง “ที่จริง คุณครูเชอร์รีน ใช้ได้ทีเดียว……”
เขา……เขา……เขา……
ระเบิดบึ้ม เชอร์รีนรู้สึกแก้มร้อน ทั้งตกใจทั้งโมโห “คุณออกัส ตอนนี้คุณกำลังหยอกล้อฉันเหรอ”
“ไม่……” เขาพูดเสียงทุ้มหนักแล้วหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบอย่างเคร่งขรึม “เปล่า กำลังหยอกล้อครูของประชาชน……”
น้ำเสียงทุ้มหนัก เมื่อพ่นคำหยอกล้อ กลับยิ่งเสียงแหบพร่า พาให้คนฟังรู้สึกหัวใจคันยุบยิบ
เชอร์รีนช็อก น้ำเสียงที่ตักเตือนเปลี่ยนไปเล็กน้อย “คุณออกัส!”
เพิ่งสิ้นเสียง น้ำเสียงทุ้มต่ำก็เข้าปกคลุมเธอ “อยากรู้ไหมว่าอะไรที่เรียกว่าหยอกล้อ”
“คุณคิดจะทำอะไร”
เชอร์รีนขมวดคิ้ว ไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของเขา
ทันใดนั้น ตัวของออกัสก็โน้มมาใกล้เธอ
กลิ่นอายอันตราย ค่อยๆ กดดันเข้ามา……
เชอร์รีนกลั้นหายใจ มองออกัสอย่างตึงเครียด ไม่กล้าพูด……
วินาทีถัดมา มือใหญ่ล็อกเข้าที่หลังศีรษะของเธอ กดเข้าหาตัว ริมฝีปากบางประกบลงบนริมฝีปากของเธอ
เธอตกตะลึงอยู่กับที่ ทันทีที่ได้สติ ก็กัดริมฝีปากของเขาอย่างรุนแรง ขณะที่เขากำลังเจ็บ จึงรีบผลักเขาออกไป
“ออ! กัส!”
เชอร์รีนประคองร่างกายที่อ่อนแรงและวิงเวียนของตัวเองไปหดตัวชิดหน้าต่าง ออกห่างจากเขา
แต่ออกัสกลับเลิกคิ้ว ริมฝีปากบางกระตุกยิ้มเล็กน้อย
ทำไมต้องหยุดเล่นสนุกกับครูของประชาชนด้วยล่ะ มันค่อนข้างน่าสนใจไม่ใช่เหรอ
ผ่านไปนาน มองดูแก้มของเธอที่แดงก่ำอยู่แล้ว ยิ่งแดงเข้าไปอีก ก่อนที่เขาจะถอยสายตาไปและพูดอย่างเกียจคร้านว่า
“แค่ล้อเล่นน่ะ คุณครูเชอร์รีน……”
มีใครล้อเล่นแบบนี้บ้าง เชอร์รีนทั้งโกรธและมองเขาอย่างระแวดระวัง แล้วหันตัวหนีไม่พูดกับเขาอีก!
รถวิ่งไปท่ามกลางความเงียบ ถึงหน้าบ้านตระกูลสิริไพบูรณ์ จึงหยุดจอด
เชอร์รีนราวกับยกภูเขาออกจากอก รีบร้อนต้องการลงจากรถ ทันใดนั้นพลันมีสองมือยื่นเข้ามา!