บทที่ 12 ขอโทษ ฉันคิดผิดไป

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

ด้วยบทเรียนจากอดีตก่อนหน้านี้ เชอร์รีนจึงคว้าจับมือใหญ่ ตำหนิอย่างโกรธจัด “คุณจะทำอะไรอีก”

มือขาวอ่อนนุ่มมากและผอมบางมาก จับไม่เต็มมือ จับมือเธอแบบนี้ ออกัสรู้สึกว่าในก้นบึ้งหัวใจปั่นป่วนอย่างอธิบายไม่ได้

ออกัสนัยน์ตาลึกล้ำ เสียงกดต่ำ “คุณครูเชอร์รีนคิดว่าตอนนี้ผมจะทำอะไร”

เชอร์รีนเค้นเสียงลอดไรฟัน!

“หวังว่าคุณออกัสจะไม่ทำพฤติกรรมที่คลุมเครือพวกนั้นอีกจะดีที่สุด! ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ!”

ได้ยินดังนั้น ออกัสจึงแกล้งโน้มตัวเข้ามาทีละนิดๆ เชอร์รีนกัดฟัน รีบเอนหลังพิงหลบเขา

ข้างหลังเป็นเบาะ แม้ต้องการหลบ จะหลบไปที่ไหนได้

ดังนั้น เธอจึงถูกบีบให้อยู่กึ่งกลางระหว่างเบาะกับร่างกายสมชายชาตรีของเขา ใบหน้าของคนสองคนใกล้กัน จนปากแทบจะสัมผัสกันอยู่รอมร่อ

น้ำเสียงของออกัสแหบพร่าทันที “คุณครูเชอร์รีน ผมคลุมเครือกับคุณยังไง หืม?”

ใบหน้าของเขาระบายความร้อนออกมา เชอร์รีนเอนศีรษะไปด้านหลัง ตัวสั่นเล็กน้อย

กัดฟันแน่น ก่อนจะตะคอกเสียงดัง “ก็คลุมเครือแบบที่คุณกำลังทำกับฉันอยู่ตอนนี้ไง!”

“ใช่เหรอ” ออกัสกดนิ้วเรียวยาวลง เกิดเสียงคลิก “ปลดแล้ว”

ปลดแล้วอะไร

เชอร์รีนมองเขาอย่างไม่เข้าใจ แต่เห็นเขาส่งสัญญาณมองมาที่หน้าอกของเธอ

เธอก้มมองหน้าอก ตอนนี้เพิ่งสังเกตเห็นเข็มขัดนิรภัย เมื่อครู่เขา…..แค่ช่วยปลดเข็มขัดนิรภัยให้เธอเท่านั้น……

ชั่วพริบตาเดียว เธอแก้มร้อน มันแดงราวกับหยดเลือด! แทบอยากให้ในรถมีรูหนูให้เธอมุดลงไป!

อับอาย! อับอายขายหน้าเกินไปแล้ว! ชีวิตนี้ไม่เคยอับอายขายขี้หน้าคนขนาดนี้มาก่อนเลย!

ออกัสปล่อยมือของเธอ และเลิกคิ้ว

“เข้าใจผิดว่าผมทำนอกลู่นอกทางต่อคุณ คุณครูเชอร์รีนควรพูดขอโทษหรือเปล่า”

ครั้งนี้เป็นเธอที่ผิดจริงๆ เชอร์รีนไม่มีอะไรจะพูด หน้าแดง พูดเสียงแผ่ว “ขอโทษ!”

แต่ออกัสกลับยังไม่พอใจ “ทำไมขอโทษ”

ฟู่ เชอร์รีนสูดหายใจเข้าลึก แล้วเปลี่ยนเรื่อง “คุณออกัส ถึงบ้านแล้ว”

เขานั่งเฉยไม่ขยับเขยื้อน “คุณครูเชอร์รีน ในเมื่อคำพูดก็พูดแล้ว ก็ควรพูดให้ชัดเจนอีกหน่อยไม่ใช่เหรอ”

ปรี๊ด ความโกรธพุ่งขึ้น เธออดกลั้นไว้ให้ลึกที่สุด เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “เข้าใจผิดคิดว่าคุณออกัสจะล่วงเกินฉัน ฉันเสียใจเป็นอย่างสูง!”

“รู้สึกเสียใจก็ดี……”

ออกัสเลิกคิ้ว เปิดประตูรถก้าวลงไป เชอร์รีนตามหลัง หัวใจปะทุความโกรธ อับอาย……

สองคนเดินตามกันเข้าคอนโด เลอแปงรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นมาเนิ่นนานแล้ว ทันทีที่เห็นเชอร์รีน ก็ยิ้มกว้างทันที

ออกัสจงใจตวัดตาจ้องมองเลอแปงอย่างลึกล้ำ เขาจึงยืดหลังนั่งตัวตรงทันที

ริมฝีปากบางส่งเสียงหึเบาๆ เขาโยนเสื้อโค้ตสีดำลงบนโซฟา จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้อง

ทันทีที่พี่ใหญ่หายตัวไปแล้ว เลอแปงถึงได้ผ่อนลมหายใจโล่งอก คำพูดแฝงความกังวล “ครูครับ ทำไมครูถึงถูกส่งไปสถานีตำรวจล่ะครับ”

“มีบางเรื่องมันยากจะพูด ไม่ได้จะชัดเจนเพียงแค่พูดไม่กี่คำ” เชอร์รีนพูด

เลอแปงยักไหล่ และไม่ถามอีก ใบหน้าที่โดดเด่นเต็มไปด้วยความกระจ่างแจ้ง “ผมเข้าใจครับ ใครๆ ก็มีช่วงเวลาที่หุนหันพลันแล่นทั้งนั้น ครูก็คน ธรรมชาติแล้วก็ไม่มีข้อยกเว้น……จ๊อกจ๊อก…….”

ยังไม่ทันสิ้นเสียงดี ท้องก็พลันส่งเสียงร้องออกมา เชอร์รีนขมวดคิ้ว ทั้งวันไม่ได้ทานอะไรเลย ตอนนี้เธอก็รู้สึกหิวนิดหน่อย จึงถามเลอแปงว่าอยากทานอะไร

เลอแปงบอกว่าอยากทานเกี๊ยว ตอนเทศกาลฤดูหนาวไม่ได้ทานเกี๊ยว วันนี้จึงอยากทานเป็นพิเศษ!

เชอร์รีนยิ้ม วันนี้ยังไงก็เพราะการขอของเลอแปงถึงโชคดีได้ออกมา จึงถือเป็นการตอบแทนเขา!

หลังจากอาบน้ำเสร็จ ออกัสเปลี่ยนเป็นชุดลำลองอยู่บ้าน เส้นผมยังคงมีน้ำหยดน้อยๆ ก่อนที่จะออกจากห้อง ได้ยินเสียงดังคมชัด เหมือนการสับมีดลงบางสิ่ง

ก้าวเข้าห้องนั่งเล่น เห็นเชอร์รีนในมือถือมีด กำลังสับเนื้อสัตว์ และเลอแปงกำลังวนเวียนรอบตัวเธอไม่หยุด

ได้ยินเสียงฝีเท้า เลอแปงจึงหันตัวมา ใบหน้าที่โดดเด่นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “พี่ใหญ่ ครูกำลังทำเกี๊ยวครับ”

เชอร์รีนยังคงสับเนื้อสัตว์ต่อไม่ได้หันไป คิ้วขมวดเล็กน้อย ออกัสไม่ได้พูดอะไร ดวงตาล้ำลึกเพียงมองกวาดแผ่นหลังของเธอไป แล้วนั่งลงบนโซฟาเปิดทีวีดูข่าวการเงิน

เมื่อดวงตาที่น่าสะพรึงกลัวละสายตาไป เชอร์รีนก็ถอนหายใจโล่งอก มีสมาธิจดจ่อห่อเกี๊ยวต่อไป

น้ำเดือดแล้ว ใส่เกี๊ยวขาวอวบอ้วนเหมือนกับเงินตำลึงลงไป ต้มไปสักพัก เธอตักเกี๊ยวใส่จานสีเขียว ครุ่นคิดก่อนจะจัดสามจาน

เมื่อเห็นดังนั้น เลอแปงจึงบึนปาก พูดเสียงเบาๆ “พี่ใหญ่ของผมไม่ทานเกี๊ยวไส้กุยช่ายครับ เขาไม่ชอบเพราะกุยช่ายมีกลิ่น”

ได้ยินดังนั้น มือของเชอร์รีนพลันหยุดกึก ผู้ชายคนนั้นมีปากที่จุกจิกจริงๆ เลย!

จากนั้นเธอจึงลงมืออีกครั้งโดยการหั่นผักชีฝรั่งผสมลงไปกับไส้เนื้อ แล้วห่ออีกหนึ่งจาน ใส่ลงไปในน้ำและต้มมัน

คอนโดหรูก็มีข้อดีของคอนโดหรู ลงไปชั้นล่างก็มีซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ ผลไม้ ผัก เนื้อ อะไรที่ควรมีก็มีหมด

เธอซื้อกุยช่ายและเนื้อ แล้วก็ซื้อผักชีฝรั่งด้วยจำนวนหนึ่ง เดิมทีตั้งใจเอาผักชีฝรั่งใส่ลงไปในน้ำส้มสายชูที่ผสมกับซอสถั่วเหลืองเป็นน้ำจิ้ม คิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะมีประโยชน์อย่างอื่น

เกี๊ยวทั้งหมดพร้อมเสิร์ฟ เลอแปงนำเกี๊ยวมาเสิร์ฟบนโต๊ะน้ำชา

ออกัสหรี่ตาชำเลืองมองเขา เลอแปงยักไหล่แล้วพูดว่า “เดิมทีคุณครูเชอร์รีนห่อเกี๊ยวไส้กุยช่ายครับ พอได้ยินผมบอกว่าพี่ใหญ่ไม่ทานกุยช่ายก็เลยตั้งใจห่อผักชีฝรั่งกับเนื้อให้ต่างหากครับ แถมยังเป็นเกี๊ยวสามเซียนด้วย พี่ใหญ่ช่างได้รับการปรนนิบัติดูแลอย่างดีจริงๆ! ทั้งอิจฉาทั้งหมั่นไส้เลย!”

คิ้วขมวด ตลอดกระบวนการทั้งหมดเขาไม่ได้พูดอะไรเลย ในสายตามักจะมีแววสำรวจจับผิดอยู่ตลอดเวลา

เชอร์รีนวางจานลง เงยหน้าขึ้นสบตาออกัส พลันสะดุ้ง แต่กลับยังพูดอย่างเปิดใจ “วันนี้รู้สึกขอบคุณคุณออกัสมากจริงๆ!”

“คุณควรขอบคุณผมให้มากๆ” เขาเสียงทุ้มต่ำแหบพร่า ริมฝีปากบางกระตุกยิ้มเล็กน้อย หยิบตะเกียบมาคีบเกี๊ยว ทานอย่างสุภาพสง่างาม

“พี่ใหญ่ อร่อยไหมครับ” เลอแปงไล่ถาม

ได้ยินอย่างนั้น ใจเธอก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา มีความตึงเครียดเล็กน้อย แม้จะแกล้งๆ ทานเกี๊ยวตลอดเวลา แต่ก็อดจะเหลือบมองไม่ได้

สายตาของออกัสมาตกที่ใบหน้าของเธอ ใบหน้าเล็กขาวเนียนแดงก่ำ ดูนุ่มนวลมาก มีคราบแป้งติดอยู่เล็กน้อย แต่ไม่ได้ดูน่าตลกเลย กลับดูน่าสนใจ……

แววตาเขามีประกายบางอย่าง หลังจากดื่มน้ำซุปแล้ว ถึงได้ขยับปากพูดออกมาไม่กี่คำ “ก็ไม่แย่……”

คำพูดเหล่านี้สามารถออกจากปากที่จุกจิกเรื่องกินได้ เชอร์รีนพอใจแล้ว แต่สายตาเขาที่มองเธอมากลับเหมือนการมองเหยื่อ เธอจึงก้มหน้าหลบ

ออกัสถอนสายตาไป ทานเกี๊ยวด้วยท่วงท่าสง่างามไม่รีบไม่ร้อนจนถึงก้นชาม ถึงขนาดว่าน้ำซุปยังเหลือแค่ครึ่งชามอีกด้วย

เขาลุกขึ้น ขณะที่ขายาวกำลังจะก้าวออกไป แต่เหมือนว่าจะคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงเอ่ยปากว่า “ในเมื่อคืนนี้คุณครูเชอร์รีนไม่มีที่ไป ก็อยู่ที่นี่ไปแล้วกัน เพียงแต่ของในครัว ต้องเก็บกวาดทำความสะอาดให้เรียบร้อย”

“……….”

เชอร์รีนใจสั่น เงยหน้าขึ้นฉับพลัน ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะพูดแบบนี้ แต่หัวใจรู้สึกขอบคุณจริงๆ

เช้าวันรุ่งขึ้น

เชอร์รีนตื่นตอนหกโมงครึ่งเช่นเคย หลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็เจ็ดโมงแล้ว

เมื่อเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น เธอเห็นเลอแปงนั่งอยู่บนโซฟา จึงถามว่า “พี่ชายเธอล่ะ”

เพราะให้ตนค้างหนึ่งคืน ไม่ว่ายังไงก็ควรบอกขอบคุณต่อหน้า

เลอแปงยังคงหาวอยู่ ครึ่งหลับครึ่งตื่น “ไปวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าครับ มันเป็นนิสัยของเขา……”

คลับคล้ายคลับคลาว่าจะมีความผิดหวังเล็กๆ ในหัวใจ เชอร์รีนพูดกับเลอแปงอีกไม่กี่คำ ฝากเขาบอกขอบคุณแทนตัวเอง จากนั้นจึงออกจากคอนโดไป……