“สาวน้อย เรามาคุยกันก่อนดีมั้ย”

ปรมาจารย์วิญญาณเริ่มคุยกับเสี่ยวฮัว ในขณะที่เขามั่นใจว่าเขาไม่สามารถเอาชนะเสี่ยวฮัวได้หากต่อสู้กัน และสองพี่น้องดู๋ก็ยังคงต่อสู้อยู่กับหยวน ไม่ช้าหรือเร็ว พวกเขาก็ต้องแพ้

ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว เขาทำได้เพียงแต่อ้อนวอนขอการให้อภัยจากเสี่ยวฮัว

“ทำไมเราไม่เจรจากันก่อนละ ถ้าเจ้าปล่อยให้สองพี่น้องนั่นออกจากที่นี่ เราจะชดเชยปัญหาที่พวกเขาก่อให้กับพวกเจ้า”

“ปล่อยพวกเขาไปงั้นหรอ แต่พวกเขาเป็นคนที่เข้ามาหาเรื่องพี่หยวนก่อนนะ”

เสี่ยวฮัวตอบด้วยสีหน้าเฉยเมย

“ข้าไม่ปฏิเสธว่าพวกเขาผิด แต่เจ้าไม่ได้รับอะไรจากการฆ่าพวกเขา ครอบครัวเขาก็จะทำทุกอย่างเพื่อล้างแค้นเจ้า การตายของสองพี่น้องดู๋จะทำให้ตระกูลดู๋ทั้งหมดไล่ล่าเจ้า”

“ตระกูลดู๋งั้นหรอ ข้าไม่เห็นเคยได้ยินเลย”

เสี่ยวฮัวกล่าว

“…”

ปรมาจารย์วิญญาณตกตะลึง แม้ว่าตระกูลดู๋จะไม่ใช่ตระกูลที่ทรงพลังที่สุดในโลก แต่พวกเขาก็มีชื่อเสียงในโลกแห่งการฝึกพลัง เพราะพวกเขามีผู้เชี่ยวชาญระดับปรมาจารย์วิญญาณภายในตระกูลของพวกเขา และแม้ว่าบางคนจะไม่รู้ถึงความสำเร็จนั้น แต่ก็น่าจะรู้ถึงชื่อเสียงของพวกเขา

“นอกจากนี้ถ้าข้าฆ่าพวกเจ้าทั้งสามคน ตระกูลดู๋จะรู้ได้อย่างไรว่าใครฆ่าพวกเจ้า แม้ว่าพวกเจ้าคนใดคนหนึ่งจะหนีรอดไปได้ แต่ใครจะรู้ว่าพวกข้าเป็นใคร จะไปหาพวกข้าได้อย่างไร?”

เสี่ยวฮัวถามด้วยสายตาเย็นชาไม่เข้ากับท่าทางเด็กๆ ของเธอ

ปรมาจารย์วิญญาณหน้าซีดลงในทันทีที่ได้ยินคำพูดของเสี่ยวฮัว และเขาก็เริ่มตระหนักว่าที่เสี่ยวฮัวพูดนั้นจริงทั้งหมด ใครจะรู้เกี่ยวกับคนร้ายที่ฆ่าพวกเขา พวกเขาไม่มีวันรู้ความจริงได้!

“ได้โปรดเมตตาเถอะนะ! ไม่จำเป็นต้องฆ่ากันเพราะเรื่องเล็กๆน้อยๆเช่นนี้ใช่ไหม สองคนนั้นเป็นเพียงเด็กรุ่นหลังที่ปล่อยให้ความหยิ่งผยองครอบงำพวกเขา! และข้าแน่ใจว่าแม้แต่นายน้อยของเจ้าก็คงเคยทำผิดพลาดมาก่อนเหมือนกัน!”

ปรมาจารย์วิญญาณเริ่มอ้อนวอนต่อเสี่ยวฮัว

“อย่าเปรียบเทียบพี่หยวนกับเจ้าสองคนนั้น! พี่หยวนเขาเป็นพี่ชายใจดี่ที่มาเล่นกับข้าในยามที่ไม่มีใครยอมเล่นด้วยเลย!”

ทันใดนั้นเสี่ยวฮัวก็ตะโกนขึ้น พลังของเธอก็พุ่งออกไปทันที โดยที่เธอไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเขา แต่พลังของเสี่ยวฮัวก็เผลอทำให้ปรมาจารย์วิญญาณกับหายใจไม่ออก

“ข้า…หายใจ…ไม่ออก…!”

ปรมาจารย์เริ่มสำลักเพราะเกิดอาการขาดอากาศหายใจ

ในขณะที่หยวนฟาดสองพี่น้องล้มลงกับพื้น เขาสังเกตเห็นออร่าที่เป็นลางไม่ดีอยู่ข้างหลัง ทำให้เขาหันกลับไปมอง

“เสี่ยวฮัว!”

เมื่อเขาเห็นการแสดงออกที่ไม่พอใจบนใบหน้าของเสี่ยวฮัว ความคิดเริ่มแรกของเขาก็คือปรมาจารย์วิญญาณกำลังทำอะไรกับเธอ ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจสองพี่น้อง และรีบวิ่งไปหาเสี่ยวฮัวในทันที

“เจ้าเป็นยังไงบ้างเสี่ยวฮัว?!”

“หืม?”

เมื่อได้ยินเสียงของหยวน เสี่ยวฮัวก็หลุดจากความโกรธ และหันไปมองหยวนที่จ้องมองเธอด้วยสีหน้าเป็นห่วง

“เจ็บตรงไหนงั้นหรอ?!”

หยวนถามเธอ

“เสี่ยวฮัวไม่เป็นไรพี่หยวน”

“อย่างนั้นหรอ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

หลังจากรู้ว่าเสี่ยวฮัวปลอดภัย หยวนก็สังเกตเห็นปรมาจารย์วิญญาณที่นอนอยู่บนพื้นและกำลังหอบหนักจนคิดว่าไปวิ่งมาราธอนมาเลยทีเดียว

“เกิดอะไรขึ้นกับเขา?”

หยวนพึมพำกับเสี่ยวฮัว

“เสี่ยวฮัวไม่รู้”

เธอยักไหล่เหมือนว่าเธอไม่รู้เรื่องอะไร

หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้ว ปรมาจารย์วิญญาณก็พูดออกมา

“ได้โปรด…ข้าขอร้อง…อย่าฆ่าข้า…”

“นั่นไม่ใช่เรื่องที่ข้าจะตัดสินใจ”

เสี่ยวฮัวพูดและหันไปมองที่หยวนที่ดูเหมือนจะตกตะลึง

“เจ้าพูดเรื่องอะไร ทำไมข้าต้องฆ่าพวกเจ้าด้วย”

หยวนถามปรมาจารย์

“เอ๊ะ! เจ้าไม่ได้จะฆ่าพวกเราหรอ?”

ปรมาจารย์วิญญาณมองหยวนด้วยความตกใจ

“ใช่สิ ข้าแค่โกรธเล็กน้อยกับเรื่องในวันนี้ แต่ข้าไม่เหมือนบางคนที่จะฆ่าผู้อื่นเพียงเพราะเขาทำให้ผู้อื่นโกรธเคือง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะไม่ฆ่าใคร ข้าก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน”

หยวนพูดกับเขา

“ขอบคุณมากพ่อหนุ่ม! ข้าจะพาสองคนนั้นกลับทันที และเราจะไม่มาวุ่นวายกับเจ้าอีก!!”

ปรมาจารย์วิญญาณกอดเขาด้วยน้ำตา

“เดี๋ยวก่อน! ใครจะให้เจ้าออกไปเร็วขนาดนั้น”

จู่ๆหยวนก็พูดขึ้น

“ฮะ?”

ปรมาจารย์วิญญาณมองหยวนด้วยความตกใจ

“ตั้งแต่แรกข้าก็ไม่ได้คิดจะต่อสู้กับสองคนนั้น ข้าใช้พลังงานส่วนใหญ่ไปกับการต่อสู้ครั้งนี้ และข้าเพิ่งใช้เงินไป 500 เหรียญทองกับการเตรียมตัวเมื่อไม่นานมานี้ ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าข้าเสียเงินไปป่าวๆ เจ้าจะชดเชยอย่างไรกับเหตุการณ์นี้?”

หยวนพูดกับเขาพร้อมขมวดคิ้ว

“…”

ไม่ใช่แค่ปรมาจารย์วิญญาณ แม้แต่เสี่ยวฮัวก็มองหยวนด้วยสายตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ

“โอ้ แน่นอน ถึงแม้จะไม่มากนัก แต่ข้าจะให้เจ้าทั้งหมดที่ข้ามี”

ปรมาจารย์วิญญาณรีบดึงกระเป๋าของเขายื่นให้กับหยวน ราวกับกำลังถวายเครื่องบูชาแก่พระเจ้า

‘ข้าไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันไหนที่ข้ากลายเป็นเหยื่อของการขู่กรรโชก และมันยังเป็นเพียงนักรบวิญญาณฝึกหัดอีกด้วย!’

เขาร้องไห้ในใจ ความภาคภูมิใจของเขาในการเป็นปรมาจารย์วิญญาณแตกเป็นเสี่ยงๆ

หยวนกระแอมในลำคอ และรับกระเป๋าเงินอย่างไม่รู้สึกอับอาย จากนั้นก็พูดว่า

“ขอบคุณสำหรับการบริจาคนะ”

‘บอกว่าการบริจาคงั้นหรอ!’

เขาคิดในใจ แต่ไม่กล้าที่จะพูดออกมาดังๆ เพราะกลัวหยวนเปลี่ยนใจและฆ่าพวกเขาทั้งหมด

“พวกเจ้าไปได้แล้ว”

หลังจากได้รับอนุญาตจากหยวน ปรมาจารย์วิญญาณก็รีบไปจับตัวสองพี่น้องดู๋และออกจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว

“เดี๋ยวก่อน! เจ้าจะพาพวกเราไปไหน! เรายังไม่แพ้มันเลย!”

“ให้ข้าสู้กับมันก่อน คืนนี้ข้านอนไม่หลับถ้าไม่ได้จัดการมัน!”

พี่น้องดู๋พยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดออกจากการจับของปรมาจารย์วิญญาณ แต่พวกเขาก็ขัดขืนไม่ได้ พวกเขาถูกพาไปอย่างง่ายดายและหายไปในไม่กี่อึดใจต่อมา