ตอนที่ 135

Taming Master

“เพื่อให้เป็นเควสต์ที่แชร์กับกิลด์ทั้งหมด นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นแบบนี้”

“ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นเควสต์อาณาจักรและระดับความยากคือ SS”

ธงขนาดใหญ่ที่มีสัญลักษณ์ของอาณาจักรไคม่อนปักอย่างงดงามและอยู่ด้านล่างนั้น ธงของกิลด์ไททั่นกระพือไปตามนั้น

และที่หัวธง สมาชิกกว่าสองร้อยของกิลด์ไททั่นมุ่งหน้าไปยังที่ใดที่หนึ่ง

“เตรียมพร้อมนะเอมิลี่ เราใกล้ถึงทะเลทรายชิคาร์แล้ว”

“ค่ะ ชยาคราน”

เกราะโลหิตรวมถึงดาบใหญ่สองเล่มที่แขวนอยู่ที่เอวทั้งสองข้างของเขา

ชยาครานซึ่งมีชื่อเสียงเป็นอาชีพวอริเออร์อันดับ 1 ในเซิฟเวอร์เกาหลี เข้าสู่ทะเลทรายชิคาร์

ทะเลทราบชิคาร์ซึ่งเลเวลเฉลี่ยของมอนสเตอร์ทั่วไปอยู่ในช่วง 130 ก็ยังถือว่าเป็นสถานที่ที่ไม่โหดร้ายสำหรับผู้เล่นส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่ลังเลในฝีเท้าของชยาคราน

“ชยาคราน”

“มีอะไร”

“ฉันไม่รู้เกี่ยวกับทะเลทรายชิคาร์เลย แต่นายคิดว่าเราจะสามารถผ่านทะเลทรายสกายที่จะปรากฏขึ้นหลังจากนี้ด้วยพลังการต่อสู้นี้ได้ไหม?”

เมื่อซีลรอนถาม ชยาครานคิดสักครู่หนึ่ง

“อืมม”

ทะเลทรายสกายเป็นพื้นที่ที่เอียนบุกเบิกด้วยกันกับทหารของอาณาจักรระหว่างทำเควสต์ฟักไข่กริฟฟิน

ทะเลทรายสกายเป็นพื้นที่ทะเลทรายกว้างใหญ่ที่ล้อมรอบสกายไฮแลนด์

เมื่อเปรียบเทียบกับสกายไฮแลนด์มันเป็นพื้นที่ที่มีระดับต่ำกว่า แต่ถึงอย่างไรก็ตามมันเป็นสถานที่ที่อันตรายอย่างยิ่งที่เลเวลเฉลี่ยมากกว่า 150 ความกังวลของซีลรอนก็เพิ่มขึ้น

ในปัจจุบันเลเวลเฉลี่ยกลุ่มเดินทางของกิลด์ไททั่นอยู่ที่ 120 ปลายๆ

ชยาครานเป็นหัวหน้ากิลด์ที่เลเวลสูงอย่างไม่น่าเชื่อในเลเวลที่มากกว่า 140 และซีลรอนที่อยู่ที่ 2 ในการจัดอันดับอาชีพอัศวินก็อยู่ในเลเวลที่ยอดเยี่ยมที่เลเวล 130 ปลายๆ ถึงกระนั้นสกายไฮแลนด์ก็เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ตั้งแต่เลเวล 150 ช่วยไม่ได้ที่จะเป็นอันตราย

ชยาครานที่คิดเสร็จแล้วได้พูดอย่างช้าๆ

“แม้ว่าเราจะอ้อมออกไปเล็กน้อย เราก็ต้องฝ่าจุดนี้เพราะเราต้องผ่านมันเพื่อที่จะไปยังทวีปกลาง”

เอมีลี่ที่อยู่ข้างๆพวกเขาพูดด้วยท่าทางกังวล

“ฉันคิดว่าคงจะเป็นการดีกว่าที่จะข้ามชายแดนไปทางเหนือของทวีปแทน หากเป็นเช่นนั้นเราอาจถูกโจมตีโดยทหารของอาณาจักรลัสเปล แต่ฉันคิดว่าพวกเขาอาจอ่อนแอกว่ามัมมี่หรือพระที่ปรากฏในทะเลทรายสกายแทน…”

เมื่อเอมิลี่พูด ชยาครานส่ายหน้า

“ไม่สิ ถ้างั้นมันจะสายเกินไปและถ้าเราถูกจับโดยกิลด์ระดับสูงของลัสเปลขณะเดินอยู่ มันจะกลายเป็นปัญหาเอาได้”

“นั่นก็จริง”

ขณะที่เดินผ่านทางทะเลทรายที่เท้าของเขาจมลงถึงข้อเท้า ชยาครานคิดกับตนเอง

‘กิลด์แรกที่ก้าวเข้ามาในพื้นที่ของทวีปกลางจะต้องเป็นกิลด์ไททั่น’

นับตั้งแต่เริ่มต้นเมื่อไคลันเปิดขึ้นครั้งแรก เขาได้ครอบครองเนื้อหาทั้งหมดเสมอ

เขาไม่ใช่ผู้เล่นคนแรกที่ได้เปลี่ยนอาชีพเป็นอาชีพวอริเออร์ แต่เป็นคนที่ถึงเลเวล 50 และสร้างหอคอยอาชีพวอริเออร์และเขายังผูกขาดพื้นที่จำนวนมากและรางวัล ‘ผู้ค้นพบครั้งแรก’ ของดันเจี้ยน

ชยาครานเป็นผู้เล่นที่รู้ดีกว่าคนอื่นว่า ‘การครอบครอง’ นั้นเป็นผลของ ‘กำไรที่ดี’ ที่มาจากในเกมยังไง

เพราะอย่างนั้นการอัปเดตขนาดใหญ่จึงเป็นโอกาสอีกครั้งของเขา

‘ต้องขอบคุณเควสต์อาณาจักรที่ฉันสำเร็จเมื่อสองวันที่แล้ว ฉันยังได้คะแนนพิเศษอีก 2,000 คะแนน เราจำเป็นต้องครองทวีปกลางอย่างรวดเร็วและรับผลประโยชน์จากเลเวลของกิลด์ด้วย’

และผู้เล่นคนหนึ่งโผล่ขึ้นมาในหัวของเขาทันที

มันเป็นผู้เล่นซัมมอนเนอร์ที่เมื่อเร็วๆนี้ได้กลายเป็นหัวข้อสนทนาขนาดใหญ่ภายในชุมชน

และแม้ว่าจะเป็นเพียงชั่วครู่หนึ่ง มันก็เป็นผู้เล่นที่เขาประดาบด้วยเมื่อเขาหยุดที่เกาะปาสคาลเพราะเควสต์

ในขณะที่คิดถึงเอียน ของชยาครานก็เบะปาก

‘เอียน… มันอาจจะดีถ้าฉันได้เจอเขาอีกครั้ง…’

ก่อนที่เขาจะพบเอียน ชยาครานคิดว่าอาชีพ ‘ซัมมอนเนอร์’ โดยทั่วไปแล้วจะเป็นอาชีพ PvE ที่ไร้ประโยชน์เป็นพิเศษ

เนื่องจากซัมมอนเนอร์ส่วนใหญ่เขาพบมาจนตอนนี้อ่อนแออย่างมาก

อย่างไรก็ตาม เอียนนั้นแตกต่าง

แม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับโคลนของเขาที่สามารถแสดงความสามารถที่แท้จริงได้เพียงครึ่งเดียวของเขา แต่เขาก็ยังจนมุมให้แก่เอียนอยู่

‘มันคงจะดีถ้าฉันได้พบเขาที่ทวีปกลาง แน่นอนถ้าเราต้องต่อสู้อย่างตรงๆ เขาจะไม่เป็นคู่ที่เหมาะสมสำหรับฉันหรอก’

อย่างไรก็ตาม มีบางส่วนที่ชยาคราจกำลังคิดผิดอยู่

เนื่องจากเอียนที่ชยาครานพบตอนนั้นก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์

ณ จุดนั้นในบรรดาสัตว์เลี้ยงของเอียนมีเพียงฮัลลิที่ต่อสู้ด้วย

เรียกได้ว่าเป็นบทลงโทษที่ไม่น้อยไปกว่าชยาครานซึ่งร่างกายหลักหายไป

ขณะที่ชยาครานคิดอยู่ก็ได้ยินเสียงใครบางคนจากปาร์ตี้กิลด์

“ศัตรูปรากฏตัวด้านหน้า!”

ชยาครานหันโดยสัญชาตญาณ

และสิ่งที่จับตามองของเขาคือกลุ่มมอนสเตอร์ที่เลเวล 140

“พวกเราจะเผชิญหนัากับพวกมัน ทุกคนอยู่ในรูปแบบการต่อสู้!”

เมื่อชยาครานพูด ผู้เล่นของกิลด์ไททั่นเคลื่อนไหวตามคำสั่ง

และร่างของชยาครานพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

‘เร้าใจกันหน่อย…?’

“อะแฮ่ม…!”

จินซุงซึ่งตื่นจากการนอนหลับก็ตกใจเล็กน้อยกับความมืดอย่างมาก

นี่เป็นเพราะไม่ว่าจะเป็นตอนกลางดึก แสงไฟจากถนนควรลอดมานิดหน่อยก็เป็นเรื่องปกติที่เขาจะเห็นหน้าของเขาสักหน่อย อย่างไรก็ตามมุมมองของเขาเป็นสีดำสนิท

“อ่อ ฉันหลับในแคปซูลเมื่อวานนิ?”

จินซุงซึ่งจำได้ว่าเขาอยู่ในแคปซูล รู้สึกถึงมือของเขาและหลังจากพบปุ่มเขาก็กดลงไปอย่างมั่นคง ขณะที่เขาพึมพำ

“ฉันจำได้คร่าวๆ… ทันทีที่เควสต์เสร็จสมบูรณ์ฉันคิดว่าฉันหมดสติในทันที…”

จินซุงที่ออกมาจากแคปซูล ยืดแขนทั้งสองข้างออก

“เอ่อออ แต่ตอนนี้กี่โมงแล้ว? รุ่งสาง?”

เขาตรวจสอบเวลามันเป็นเวลา 5 โมงเช้า

เมื่อเขาคิดถึงเวลาที่เขาหลับไปเมื่อวานนี้ เขาก็เข้าใจอย่างถ่องแท้

“ถึงอย่างนั้น ฉันก็หลับไปมากกว่า 12 ชั่วโมง ไม่ต้องสงสัยเลยทำไมฉันรู้สึกสดชื่น…”

จินซุงจ้องไปที่แคปซูลรุ่นใหม่สักครู่หนึ่ง

การตกแต่งภายในของแคปซูลแบบเก่านั้นค่อนข้างสะดวกสบายเช่นกัน แต่รุ่นแคปซูลใหม่นั้นให้ความรู้สึกสดชื่นราวกับว่าเขานอนบนเตียงของเขาและตื่นขึ้นมา

Jinsung turned his gaze towards his bed that was in one corner of his room, and mumbled to himself.

จินซุงหันจ้องมองไปที่เตียงของเขาซึ่งอยู่ในมุมหนึ่งของห้องของเขาและพึมพำกับตัวเอง

‘ฉันควร… ทิ้งเตียงของฉันไหม?’

จินซุงไตร่ตรองอย่างจริงจัง

อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขารู้สึกว่าถ้าเขาทำอย่างนั้นเขาจะกลายเป็นคนพิการ (?) เขาจึงตัดสินใจที่จะเอาไว้ก่อน

จินซุงซึ่งต้องการตรวจสอบรางวัลของเควสต์ที่ประสบความสำเร็จตามสัญชาตญาณกำลังจะกลับเข้าไปในแคปซูลอีกครั้ง แต่ก็หยุดและยืนนิ่ง

นั่นก็เพราะว่าท้องของเขาร้อง

“อ่า… มันก็เป็นเวลาตั้งสองวันแล้วที่ฉันได้กิน…”

จินซุงปิดแคปซูลอีกครั้งและไปยังห้องครัว

ช่วงที่เขาตระหนักถึงความหิวโดยของเขา ความว่างเปล่าในท้องของเขาไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้

‘อืมม แต่นี่มันกลิ่นอะไร?’

จินซองซึ่งมองเข้าไปในกระเป๋าที่น่าสงสัยซึ่งอยู่ด้านบนของโต๊ะก็งุนงง

นี่เป็นเพราะมันมีกล่องอาหารกลางวันที่ยังคงมีความร้อนเล็กน้อย

นอกจากนั้นยังมีบันทึกที่เขียนด้วยลายมือน่ารักบนโน้ตโพสต์อิทขนาดเล็ก

 

  • สามารถทานซุปในขวดได้ในขณะที่ข้าวผัดนำไปอุ่นในไมโครเวฟประมาณ 3 นาทีแล้วกินซะ!

 

“…”

จินซุงซึ่งอ่านบันทึกก็งุนงง

‘แม่หรอ? ไม่สิ ไม่มีทางที่แม่จะมาแล้วก็ไปเลย… แต่ถ้าแม่มาแล้วไปเลยก็ไม่มีทางเลยที่ฉันจะมีชีวิตอีกต่อไป…’

และอีกไม่นานเขาก็จำได้ว่าเป็นฮาริน

‘ดูเหมือนว่าฮารินจะมาแล้วก็ออกไป เธอเล่นเกมนิดหน่อยก่อนออกไปหรอ?’

ลองมาคิดดู เขารู้สึกว่าเขาได้กลิ่นน้ำหอมของฮารินเล็กน้อยในบ้านของเขา

แครก-

จินซุงที่ดึงเก้าอี้ออกและนั่งลง เปิดกล่องอาหารและเริ่มกิน

บนโน้ตนั่น มันบอกว่าให้อุ่นก่อนที่จะกิน แต่ข้าวผัดของฮารินนั้นอร่อยแม้ว่าจะกินโดยไม่ต้องทำอะไร

“ว้าว… นี่มันอร่อยจริงๆ!”

อาหารที่เขากินเป็นครั้งแรกใน 48 ชั่วโมงนั้นอร่อยมากและหลังจากกินกล่องอาหารกลางวันเสร็จในพริบตา จินซุงก็ยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อเขานอนบนเตียงของเขา

จินซุงซึ่งหยิบสมาร์ทโฟนที่อยู่บนหัวเตียงของเขาได้ส่งข้อความหาฮาริน

 

  • ฮาริน ฉันกินแล้วนะ! ขอบคุณจริงๆ… T T ไว้เจอกันที่โรงเรียนนะ!

 

และก่อนที่เอียนจะวางสมาร์ทโฟนลง

ฮารินก็ได้ตอบกลับมา

 

  • ฉันคาดว่านายจะมารับฉันที่หน้าสถานีเวลา 3:30 ในตอนบ่ายนะ!

 

“…”

จินซุงที่เห็นข้อความก็งุนงง แต่จากนั้นเขาก็ยิ้มขณะที่พยักหน้า

“แน่นอน… ฉันได้รับอาหารแสนอร่อยขนาดนี้ ทำไมฉันถึงจะทำไม่ได้ล่ะ?”

จินซุงที่อยู่ในอารมณ์ที่ดีเท่าที่จะเป็นไปได้ เดินไปที่แคปซูลด้วยฝีเท้าเบาๆ

อีก 9 ชั่วโมงที่เหลือก่อนจะถึง 3:30 ในตอนบ่าย

 

* * *

 

  • ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งไคลัน

 

เอียนที่ได้ยินการแจ้งเตือนการเข้าสู่ระบบอย่างคุ้นเคยขณะที่เขาเข้าสู่เกมก็มองไปรอบๆ

‘มันเป็นห้องนอนส่วนตัวของลอร์ด เนื่องจากฉันถูกบังคับให้ออกจากระบบดูเหมือนว่าฉันถูกย้ายมาที่นี่’

เอียนที่ลุกขึ้น ก่อนอื่นเปิดหน้าต่างข้อมูลและเริ่มตรวจสอบรางวัล

สิ่งแรกที่จับตาของเขาคือชื่อเสียงของเขา

‘ฮ่า ชื่อเสียงของฉันมากกว่าเลข 7 หลักแล้ว’

ชื่อเสียงของเขาที่เขาสะสมมาจนตอนนี้อยู่ที่ 1.2 ล้านหน่วย

เอียนแสดงท่าทางพึงพอใจ

‘ถ้ามันมากขนาดนี้ ฉันไม่ควรที่จะเลื่อนขึ้นฉายาเป็นไวส์เคาท์แล้วหรอ?’

จำนวนชื่อเสียงที่ใช้เมื่อเลื่อนขั้นจากบารอนเป็นไวส์เคาท์คือ 800,000 หน่วย

อย่างไรก็ตาม การเลื่อนขั้นตัวเองเมื่อเขามีชื่อเสียงประมาณ 800,000 หน่วยไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก

นี่เป็นเพราะถ้าชื่อเสียงที่ลอร์ดมีนั้นต่ำ ความซื่อสัตย์ของผู้ติดตามจะลดลงและความเชื่อมั่นของสาธารณะจะลดลงด้วย

ก่อนที่เขาจะทำเควสต์อาณาจักร ชื่อเสียงของเอียนไม่ได้มากกว่า 850,000 หน่วย

อย่างไรก็ตาม เพราะว่าเขายังเหลือค่าชื่อเสียง 200,000 หน่วย แม้จะเลื่อนขั้นตอนนี้ซึ่งเขามีชื่อเสียงมากกว่า 1 ล้านหน่วย เขารู้สึกว่าไม่มีปัญหาอะไร

เอียนเปิดหน้าต่างข้อมูลและไปที่แท็บเลื่อนขั้นฉายา

‘เลื่อนขั้นกันเถอะ’

ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ฉายาไวส์เคาท์นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นแม้จะเป็นการเลื่อนขั้นไปยั

เมืองขนาดใหญ่ซึ่งเป็นระดับต่อไปหลังจากระดับของเมือง

เอียนกดปุ่มเลื่อนขั้นโดยไม่ลังเล

ตามดัวยข้อความระบบโผล่ขึ้นมา

เมื่อเขาเห็นว่ามันโผล่ขึ้นมาเป็นข้อความสีเขียว ดูเหมือนว่ามันเป็นข้อความที่ถูกส่งไปยังสมาชิกกิลด์ของเขาทั้งหมด

 

  • ผู้เล่น ‘ลอร์ด’ ฉายาของเอียนได้เลื่อนขั้นจาก ‘บารอน’ เป็น ‘ไวส์เคาท์’
  • เมื่อฉายาของท่านได้รับการเลื่อนขั้นให้สูงขึ้นชื่อเสียงของกิลด์ก็เพิ่มขึ้น 10,000 หน่วย
  • เมื่อฉายาของลอร์ดเพิ่มขึ้นความเชื่อมั่นสาธารณะของดินแดนเพิ่มขึ้น 5 หน่วย

 

ข้อความระบบแสดงรายการทั้งหมดในครั้งเดียว

และเมื่อข้อความสีเขียวจบลง ข้อความสีขาวที่ปรากฏขึ้นเฉพาะเอียนโผล่ขึ้นมา

 

  • เมื่อฉายาของท่านถูกเลื่อนขั้น จำนวนสูงสุดของ NPC ที่ท่านสามารถลงทะเบียนเป็นผู้ติดตามของท่านเพิ่มขึ้น 5 หน่วย
  • เมื่อฉายาของท่านเพิ่มขึ้น ความซื่อสัตย์ของผู้ติดตามของท่านเพิ่มขึ้น 5 หน่วย

 

เอียนผู้อ่านข้อความต่างก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นบางสิ่งบางอย่างหลังจากเห็นเนื้อหาที่ความซื่อสัตย์ของผู้ติดตามของเขาเพิ่มขึ้น

‘ความซื่อสัตย์ของผู้ติดตามของฉันปกติอยู่ที่เท่าไหร่กัน?’

เอียนเปิดหน้าต่างข้อมูลที่เป็นรายชื่อของผู้ติดตามและเริ่มตรวจสอบความซื่อสัตย์แต่ละคน

 

  • รายชื่อผู้ติดตาม (ความซื่อสัตย์)

ความซื่อสัตย์สูงสุดคือ 100 หน่วย

  • ซีเรีย

เลเวล : 110 / อาชีพ : ซัมมอนเนอร์ / ระดับ : Heroic

ความซื่อสัตย์ : 98

  • มัลลเลี่ยม

เลเวล : 107 / อาชีพ : วอริเออร์ / ระดับ : Rare

ความซื่อสัตย์ : 85

  • เทนพุส

เลเวล : 114 / อาชีพ : พระ / ระดับ : Common

ความซื่อสัตย์ : 82

  • เซริอุส

เลเวล : 109 / อาชีพ : นักเวทมตร์ / ระดับ : Unique

ความซื่อสัตย์ : 90

  • โรโรยเทน

เลเวล : 110 / อาชีพ : วอริเออร์ / ระดับ : Rare

ความซื่อสัตย์ : 85

  • ไคซาร์

เลเวล : 246 / อาชีพ : วอริเออร์ / ระดับ : Mythological

ความซื่อสัตย์ : 5

 

‘เป็นไปตามที่คาด ยิ่งคุณให้ความสนใจกับพวกเขามากเท่าไหร่ความซื่อสัตย์ยิ่งมากเท่านั้น…’

ผู้ติดตามที่เอียนให้ความสนใจมากที่สุดก่อนที่เขาจะแต่งตั้งไคซาร์คือซีเรียซึ่งมีระดับสูงสุด

และตามที่คาดเซริอุสซึ่งระดับสูงสุดถัดไปก็มีความซื่อสัตย์ตามซีเรีย

เอียนซึ่งเห็นอย่างนั้นเหมือนถูกต่อยภายใน

‘มันเป็นค่านิยมเล็กน้อยหรอ?’

ในขณะที่การสะท้อนตนเองเล็กน้อย (?) การแสดงออกของเอียนซึ่งตรวจสอบรายชื่อสุดท้ายของผู้ติดตาม ช่วยไม่ได้ที่จะหน้าบึ้งทันที

“…เป็นไปตามที่คาด เขาไม่ได้เรียกฉันแค่เจ้าหนูลอร์ดโดยไม่มีเหตุผล”

ความซื่อสัตย์ของผู้ติดตามใหม่ไคซาร์อยู่ที่ 5 หน่วย

Even this was Loyalty that formed because Ian was just promoted to Viscount, so his original Loyalty was at 0.

แม้แต่สิ่งนี้คือความซื่อสัตย์ที่เกิดขึ้นเพราะเอียนเพิ่งได้เลื่อนขั้นเป็นไวส์เคาท์ ดังนั้นความซื่อสัตย์ดั้งเดิมของเขาจึงอยู่ที่ 0 หน่วย

เอียนกังวลในทันที

‘ฉันควรทำอย่างไรถ้าไคซาร์ทำร้ายโดยบังเอิญ?’

หากความซื่อสัตย์ของเขาอยู่ที่ประมาณ 5 หน่วย มันเป็นค่าต่ำพอที่มันจะไม่แปลกถ้าเขาจะระเบิดใส่หลังของหัวของเอียนในระหว่างการล่า

หลังจากนั้นเหงื่อได้ไหลเต็มหลังของเอียน

‘ถ้าไคซาร์ระเบิดใส่หลังหัวของฉัน มันอาจจะจบเกมสำหรับฉันในตรงนั้น…’

ไคซาร์ผู้ติดตามที่น่ากลัวมากกว่าไข้ทรพิษ!

เอียนส่ายหน้าขณะที่เขาเดินไปเพื่อจะออกจากห้องของลอร์ด

แกร๊ก-

และขณะที่เขาเปิดประตูห้องนอน

“ไวส์เคาท์ ท่านอาการดีขึ้นหรือยังครับ?”

เอียนได้ยินเสียงที่คุ้นเคยและเอียนหันไปจุดที่เสียงมาตามธรรมชาติ

“หืมม?”

คนนั้นที่เรียกเอียนไม่ใช่ใครอื่นนอกจากพอลลีน

‘ทำไมพอลลีนถึงอยู่ที่นี่?’

เอียนถามพอลลีน ด้วยท่าทางสงสัย

“ท่านพอลลีน ทำไมท่านถึงอยู่ที่นี่ล่ะ…?”

เมื่อเอียนถาม พอลลีนแสดงมารยาทของเขาเล็กน้อย ขณะที่เขายื่นม้วนกระดาษที่ทำด้วยผ้าแดงไปยังเอียนอย่างสุภาพ

“นี่คือจดหมายที่พระราชาบอกให้มาให้แกท่านเมื่อท่านตื่นแล้ว”

และเมื่อเอียนรับมัน พอลลันพูดต่ออีกครั้ง

“และพระราชาให้คำสั่งกับกระผมให้รับใช้ท่านจากนี้ไป”

กึก-

พอลลีนแสดงให้เห็นถึงมารยาทของเขาอีกครั้งด้วยท่าทางที่มีระเบียบวินัย

ตามนั้น ข้อความระบบโผล่ขึ้นด้านหน้าของเอียน

กริ๊ง-

 

  • ‘อัศวินสายฟ้าพอลลีน’ ต้องการจะกลายเป็นผู้ติดตามของท่าน