หวึ่งง-
จินซุงซึ่งเป่าผมให้แห้งด้วยเครื่องเป่าผมเปลี่ยนเสื้อผ้าของเขาอย่างรวดเร็วแล้วออกจากบ้านเพื่อพบกับฮาริน
‘ตามที่คาดไว้ ฉันคิดว่ามันเป็นพรที่ได้เกิดมาเป็นผู้ชาย’
เวลาที่จินซุงพร้อมที่จะออกไปข้างนอกรวมถึงการอาบน้ำของเขาก็ใช้เวลาน้อยกว่า 15 นาที
ถ้าเขาเป็นผู้หญิงมันเป็นเวลาสั้นๆที่เขาจะไม่สามารถล้างฟองแชมพูทั้งหมดในเส้นผมของเขาได้เลย
หากเป็นเช่นนั้นจินซุงอาจไม่แม้แต่ขยับเท้าข้างในแคปซูลเลยแม้แต่น้อย
‘ดูเหมือนว่าอากาศค่อนข้างเย็นนะ…’
จินซุงที่ค้นตู้เสื้อผ้าของเขาและโยนเสื้อแจ็กเก็ตเขาถูกกดดันให้ซื้อในช่วงต้นปี เดินไปที่สถานีพร้อมกับเสียงฝีเท้าเบาๆ
ยังมีเวลาอีกเล็กน้อยจนกระทั่งถึงเวลาที่เขาควรจะได้พบกับฮาริน
“ฉันควรซื้อขนมปังครีมคัสตาร์ดระหว่างทางไปดีมั้ย?”
ทันใดนั้นเมื่อนึกถึงขนมปังครีมคัสตาร์ดที่ฮารินชอบ เขาก็เข้าไปในร้านเบเกอรี่ที่ปากซอยก่อนที่เขาจะมาถึงสถานี
ดิ๊ง- ดิ๊ง-
อย่างไรก็ตาม ณ สถานที่นั้นจินซุงสามารถพบกับคนที่ไม่คาดคิด
“จับได้แล้ว!”
ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากยูฮยอน
เขาวิ่งเข้าไปหายูฮยอนที่เจอที่ร้านเบเกอรี่ระหว่างทางไปโรงเรียน
“อะไรน่ะ? นายหมายความว่าไงว่าจับฉันไดัแล้ว? นายกำลังพูดถึงอะไรกัน?”
ขณะที่จ้องไปที่จินซุงที่ถามด้วยอาการงุนงง ยูฮยอนพูดต่อ
“ฉันจะลักพาตัวนายไปโรงเรียนไม่ว่าวันนี้จะเป็นอะไร อย่าคิดแม้แต่จะกลับบ้านอีกครั้ง”
ด้วยคำพูดที่มุ่งมั่นของยูฮยอน จินซุงยิ้ม
“ไม่ต้องห่วงเลย ฉันไปโรงเรียนแน่ล่ะ”
อย่างไรก็ตาม ความสงสัยของยูฮยอนไม่ได้หายไปอย่างง่ายดาย
“อย่าพูดให้ฉันขำหน่อยเลย นายคิดว่าฉันไม่รู้หรอ? ตามความจริงที่ว่านายมาที่ร้านเบเกอรี่เพราะขนมปังของนายหมดแล้ว นายจะหิวขณะที่นายเล่นเกม”
เหตุผลของยูฮยอนนั้นค่อนข้างชัดเจน แต่จินซุงปฏิเสธจริงจัง
“อ่อ ไม่นะ ฉันบอกนายแล้ว ฉันควรจะได้พบกับฮารินที่สถานี ฉันจะไปโรงเรียนกับฮาริน ไม่ต้องกังวล”
ดวงตาทั้งสองของยูฮยอนเบิกโพลง
“ห้ะ? นายจะไปเจอกับฮารินหรอ?”
และยูฮยอนเบะปาก
“น่ะ นี่นายออกมารับฮารินหรอ?”
จินซุงตอบดัวยอาการขมขื่น
“ชะ ใช่”
“โอ้…”
ยูฮยอนเข้าหาข้างๆหูของเอียนและถามอย่างระมัดระวัง
“พวกนายคบกันยังอ่ะ?”
“Hmm… That…”
“อืมม… นั่น…”
จินซุงแสดงอาการเขินอาย
ขณะนั้นยูฮยอนส่ายหน้าและเดาะลิ้น
“จิ๊ จิ๊ ตอบตามความจริงมาเร็วๆ”
“อะไรน่ะ?”
“นายเป็น…ขันทีใช่ไหม?”
ในการโจมตีของยูฮยอนที่เฉียบแหลมพอที่จะไปถึงหัวใจจินซุงกลายเป็นคนโง่เหมือนปลาทอง
“พูดงี้ได้ไง…!”
“นายปฏิเสธมันไม่ได้นะ”
“ไม่ มันเป็นเพราะฉันประหลาดใจมาก ทำไมนายถึงทำให้คนปกติเป็นขันทีล่ะ?”
“ไม่หรอก ถ้านายไม่ใช่ขันที ถ้างั้นทำไมนานถึงยังไม่สารภาพกับผู้หญิงที่สวยอย่างฮารินที่ปฏิบัติตัวอย่างดีกับนายสักทีล่ะ?”
สักครู่หนึ่ง จินซุงไม่สามารถหาคำที่จะตอบโต้กลับมาได้
“Ha, what to do with this stifling dude.”
“ฮ่า ฉันจะทำยังไงดี”
ขณะที่มองไปยังยูฮยอนที่ถอนหายใจราวกับว่ามันเป็นงานของเขาเมื่อพวกเขาออกจากร้านเบเกอรี่ จินซุงก็เต็มไปด้วยความโกรธ
“เฮ้ แล้วนายล่ะ? เรื่องของนายน่ะ เป็นโสดดีหรอ คนโสดไม่ควรเป็นแบบนั้นกับคนอื่นนะ”
คำพูดของจินซุงเต็มไปด้วยความห่อเหี่ยว ยูฮยอนแสดงรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจ
“อะไรนะ? นายพูดว่าใครเป็นคนโสดนะ?”
“นายนั่นแหละ ฉันพูดถึงนายอยู่”
“วูฮู้”
ยูฮยอนที่สวมรอยยิ้มของผู้ชนะได้เดินนำหน้าและหัวเราะจินซุง
“พี่ไม่ได้เป็นคนโสดอีกต่อไปแล้วไอ้น้อง”
“…!”
นั่นเป็นคำพูดที่เหมือนกับสายฟ้าแลบ
อย่างไรก็ตามจากนั้น
จากที่ไกลออกไป เขาเห็นเงาที่คุ้นเคยวิ่งมาหาพวกเขา
“ยูฮยอน!”
เสียงราวกับหยดน้ำผึ้ง
จินซุงที่ตรวจสอบต้นเสียงก็ตกใจ
“มะ… ไม่มีทางใช่ไหม?”
“ฮุฮุ ฉันเพิ่งคบกับมินอาเมื่อสองวันที่แล้วจินซุง”
ชั่วครู่หนึ่งเมื่อรู้สึกถึงความสูญเสียที่พุ่งทะยานไปข้างหน้าเหมือนสึนามิ จินซุงหย่อนถุงขนมปังที่เขาถือไว้กับพื้น
ตุบ-
มินอาซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานในแผนก VR เดียวกันและยูฮยอนที่เขาคิดว่าอยู่ในหน่วยเดี่ยวเดียวกันกับเขา ไม่พอใจเพียงแค่เป็นคู่และกลายเป็นแผนก CC
“…”
สำหรับจินซุงซึ่งยืนด้วยท่าทางงุนงง ยูฮยอนก็ทำตัวเหินห่างจากคำสุดท้ายทิ้งไป
“พี่ไปก่อนนะไอ้น้อง นายต้องมาโรงเรียนด้วยการจับมือฮารินนะ! นายห้ามกลับบ้าน!”
ยูฮยอนไม่ลืมคำขอของเขาจนกระทั่งจากไป
จินซุงพึมพำกับสีหน้าที่ไร้อารมณ์
“แกนะแก…”
* * *
ดวงตาทั้งสองของคาร์วินผู้รับผิดชอบการต้อนรับของกิลด์โลตัสได้จมลงไปกับการตรวจสอบใบสมัครทั้งหมดที่ซ้อนกันไว้สูง
“ว้าว อิทธิพลของวิดีโอตัวอย่างนั้นเยอะจริงๆ ไม่ว่าฉันจะมองยังไงก็ไม่สิ้นสุดสักที”
กิลด์โลตัสซึ่งได้รับอันดับค่อนข้างสูงในขณะนี้ ก็ได้รับจำนวนของการสมัครอย่างไม่มีสิ้นสุด
อย่างไรก็ตามเพียงไม่กี่วันที่ผ่านมาพวกเขาได้รับใบสมัคร 2,000 ใบ
The fact that they went as far as raising the level restriction to 90, which was quite high, was even more surprising.
ความจริงที่ว่ายิ่งพวกเขายิ่งเพิ่มเลเวลจำกัดเป็น 90 ซึ่งค่อนข้างสูงยิ่งแปลกใจมากขึ้น
“ฉันควรเพิ่มเลเวลจำกัดเป็นประมาณ 110 ดีไหม?”
ก่อนอื่นให้ตัดผู้เล่นทั้งหมดที่มีเลเวลต่ำกว่า 100 คาร์วินถอนหายใจอย่างต่อเนื่องในขณะที่ดูแอปพลิเคชั่นสำหรับจดหมายตอบรับซึ่งยังมีอีกหลายร้อยรออยู่
อย่างไรก็ตามเนื่องจากตัวของฮาร์วินเองซึ่งอยู่ในทีมผู้บริหารอยู่ในช่วงเลเวล 110 นั่นจะไม่ยุติธรรม
“ไหนดูสิ ที่เหลือของกิลด์ตอนนี้คือ…”
ก่อนที่ระบบอาณาเขตจะเปิดขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับว่าอันดับของกิลด์นั้นสูงหรือต่ำ จำนวนคนทั้งหมดของกิลด์ถูกจำกัดไว้ที่ 200 คนไม่ว่าจะยังไง
อย่างไรก็ตามด้วยการสร้างระบบฐาน เมื่อใดก็ตามที่มีฐานเพิ่มเติมที่ครอบครองโดยกิลด์ จำนวนสมาชิกกิลด์สูงสุดที่สามารถรับได้ก็จะเพิ่มขึ้น
Of course, the maximum number of guild members expandable wasn’t just with the number of bases owned, but also applied with the rank.
แน่นอนว่าจำนวนสมาชิกกิลด์สูงสุดที่สามารถขยายได้นั้นไม่ได้มีเพียงจำนวนฐานที่เป็นเจ้าของ แต่ยังใช้ได้กับอันดับ
ปัจจุบันฐานของกิลด์โลตัสนั้นอยู่ที่เดียวคือเมืองโลตัสที่อยู่ในระดับ ‘เมือง’
ฐานที่เป็นระดับเมืองเพิ่มจำนวนสมาชิกกิลด์สูงสุด 50 คนและด้วยเหตุนี้จำนวนสมาชิกกิลด์สูงสุดที่สามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกได้ในกิลด์โลตัสคือ 250 คน
“Since we’ll be able to merge Ollibus Village tomorrow or the day after as well…”
“เนื่องจากเราจะสามารถรวมหมู่บ้านโอลิบัสในวันพรุ่งนี้หรือวันต่อไปได้เช่นกัน…”
ถ้าหมู่บ้านโอลิบัสซึ่งเป็นระดับหมู่บ้านกลายเป็นฐานของกิลด์ จำนวนคนสูงสุดจะเพิ่มขึ้นอีก 25 คนและถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะค่อนข้างอีกยาวนาน
คาร์วินขยี้ที่มัวในขณะที่เขาเริ่มอ่านจดหมายทุกฉบับอย่างละเอียด
“เฮ้อ… ฉันควรขอให้ฟิโอลันช่วยในการสัมภาษณ์”
เมื่อพวกเขาผ่านการกรองเป็นครั้งสุดท้ายที่เหลือส่วนใหญ่จะเป็นผู้เล่นในช่วงเลเวล 100-110 และมีความแตกต่างในเลเวลเช่นนั้น มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะคิดออกว่าพวกเขาเป็นผู้เล่นที่เหมาะสมกับกิลด์หรือไม่ ถ้าพวกเขามีหนึ่งหรือสองเลเวลที่มากกว่า
ด้วยเหตุนี้การสัมภาษณ์จึงเป็นสิ่งจำเป็น
คาร์วินที่เหนื่อยล้าจากการสัมภาษณ์มากก็ถอนหายใจขณะที่เขาบ่น
“ช่วงนี้ฉันจะขึ้นไปที่กรุงโซลเพื่อให้พี่ๆเลี้ยงอาหารให้ฉันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”
“ปาร์คจินซุง ปาร์คจินซุงนิ!”
“โว้ว เขาคือเอียน! เอียนมาที่โรงเรียนของพวกเรา!”
ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเกาหลี
และในหอประชุมขนาดใหญ่นั้นมีการจัด VR แคปซูลสิบอันไว้ตรงกลาง
That incredible cheer poured out to Jinsung, who went in and was preparing for the game.
กำลังใจที่เหลือล้นนั้นไหลออกมาสู่จินซุงผู้ที่เข้ามาและกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเล่นเกม
“พวกเขารู้ไอดีของฉันได้ยังไง?”
สำหรับจินซุงผู้ที่ยังไม่รู้ความจริงที่ว่าใบหน้าของเขาถูกขายให้เด่นชัดในการออกอากาศเกม มันเป็นสถานการณ์ที่งุนงง
“ฮ่า เพราะมันดังมากฉันสงสัยว่าฉันจะสามารถมุ่งเน้นไปที่เกมได้ไหม”
จินซุงบ่นขณะปิดฝาแคปซูล
วู้วววว-!
ความตื่นเต้นที่เหลือเชื่อสามารถรู้สึกได้แม้ในแคปซูลที่ปิดสนิท
แน่นอนว่ามันไม่เหมือนกับความตื่นเต้นของการแข่งขัน E-sports กับแผนกนี้เป็นเรื่องเหลือเชื่อ
บางคนเริ่มจดจำใบหน้าของจินซุงที่โผล่ขึ้นมาบนหน้าจอหลักของหอประชุมและเมื่อถึงตอนนั้นบรรยากาศก็เริ่มทวีขึ้น
นักศึกษาแผนก VR ซึ่งกำลังนั่งอยู่ด้านหนึ่งของหอประชุม แสดงออกที่น่ายินดีเมื่อพวกเขาเริ่มดูการแข่งขัน
“เฮ้ ยูฮยอนการแข่งขันครั้งนี้คือหมายเลขอะไรอ่ะ?”
“ตอนนี้… เนื่องจากเราเอาชนะแผนกพลศึกษาและแผนกบริหารธุรกิจ มันเป็นแผนกที่สามน่ะ”
“ถ้างั้นถ้าเราแค่ชนะครั้งนี้มันก็จะเป็นรองชนะเลิศใช่ไหม?”
“ใช่ ฉันคิดว่างั้น”
“ฮ่า…”
เซวอนหันไปมองกล่องแห่งวิญญาณที่ซ้อนอยู่ด้านหนึ่งของหอประชุม
“งั้นเราสามารถดื่มได้มากมายใช่ไหมยูฮยอน?”
ยูฮยอนพยักหน้าขณะที่กำกำปั้นแน่น
“แน่นอน จากที่ฉันเห็น จินซุงมันยังไม่ได้อุ่นเครื่องเลย”
“อะไรนะ? จริงหรอ?”
ตอนนี้เกมที่จินซุงกำลังเล่นในฐานะตัวแทนของแผนก VR เป็นเกมประเภท AOS ที่ให้ความรู้สึกเหลือเชื่ออย่างไม่น่าเชื่อมาระยะหนึ่งแล้ว
เกม AOS เกมแรกที่มีระบบ VR นำมารวมเข้าด้วยกันคือ League of Chaos
เกม AOS เป็นเกมที่ดำเนินการตามวิธีการของผู้เล่นห้าคนในแต่ละทีมจบลงด้วยผู้เล่นทั้งหมดสิบคนและพวกเขาต้องโจมตีค่ายของฝ่ายตรงข้ามภายในแผนที่ที่กำหนด แต่ประเภท AOS ใน VR มีความรู้สึกแตกต่างจากเมื่อ มันเป็นเกม PC AOS ที่มีอยู่แล้ว
เมื่อเกม AOS เป็นเกม PC จึงมีข้อจำกัดเมื่อผู้เล่นควบคุมตัวละคร
ไม่ว่าผู้เล่นจะยอดเยี่ยมขนาดไหน ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังเล่นเกมในขณะที่ใช้เมาส์และแป้นพิมพ์และไม่เกี่ยวข้องกับความสามารถของผู้เล่น มันเป็นโครงสร้างที่ถ้าพวกเขาใช้สกิลเดียวกันมันก็ช่วยไม่ได้ที่จำนวนความเสียหายเท่ากัน
อย่างไรก็ตาม AOS ใน VR ไม่ใช่อย่างนั้น
ด้วยการต่อสู้ใน VR ขึ้นอยู่กับการพัฒนาของการควบคุมพลังของบุคคลหนึ่ง องค์ประกอบของ ‘การควบคุม’ ทำหน้าที่สำคัญที่พวกเขาสามารถชนะได้ในการแข่งขัน 5 : 1
แม้ว่าพวกเขาจะต้องใช้สกิลการโจมตีเดียวกัน ขึ้นอยู่กับวิธีการโจมตีและกำหนดเวลาความเสียหายของพวกเขา ความเสียหายที่ได้รับแตกต่างกันอย่างไม่น่าเชื่อ
และในการแข่งขันสองนัดสุดท้ายที่เพิ่งจัดขึ้น จินซุงแสดงความสามารถอย่างล้นเหลือของเขา
เขาแบกเกมที่เกี่ยวข้องกับคน 5 คนด้วยความแข็งแกร่งของเขาเอง
อย่างไรก็ตามตามคำพูดของยูฮยอนซึ่งคิดว่าเขายังไม่อุ่นเครื่องอย่างสมบูรณ์จนถึงตอนนี้ เซวอนก็จ้องมองไปที่หน้าจอด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวัง
“เอาล่ะ แสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณมีด้านนี้ด้วยเช่นกัน จินซุง!”
ฝ่ายตรงข้ามในครั้งนี้คือแผนกวิทยาการคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นทีมที่แข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณจินซุงที่แสดงความแตกต่างของความสามารถที่ล้นเหลือของเขาในการแข่งขันสองนัดสุดท้าย ไม่มีใครในแผนก VR กำลังคิดว่าจะแพ้
“ฉันกังวลเล็กน้อยเพราะซันจังก็เก่ง แต่จินซุงยังเก่งอย่างครอบคลุมและอื่นๆอีกมากมาย”
ด้วยเซวอนพูดด้วยความตื่นเต้น ยูฮยอนพยักหน้า
“นายพนันได้เลยว่าเขาเป็นเพื่อนที่ได้รับข้อเสนอให้เป็นโปรเพลเยอร์ที่เล่นในโรงเรียนมัธยมแน่นอน ถ้าตัดแม่ของเขาเขาออกไป…”
“…”
ในขณะที่ทั้งสองคนพูดคุยกัน เกมก็เริ่มต้นขึ้นและบรรยากาศของหอประชุมเริ่มลุกโชนมากขึ้น
ตำแหน่งของจินซุงในเกม AOS คือกลาง
เนื่องจากเขาเป็นผู้โจมตีหลักของทีมที่สามารถขึ้นหรือลงเมื่อใดก็ตามที่เขาต้องการในขณะที่เขาดูแลทีม มันเป็นตำแหน่งที่แสดงให้เห็นมากที่สุดในเกม AOS
และราวกับว่าเขาพยายามที่จะทำตามความคาดหวังของนักเรียนแผนก VR ภายในเวลาเพียง 3 นาทีของการเริ่มเกมจินซุงก็คว้าการสังหารแรกมาได้
นอกจากนั้นใบหน้าของจินซุงก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอครู่หนึ่งและเสียงเชียร์ออกมาจากทุกทิศทุกทาง!
อย่างไรก็ตาม นั่นเพิ่งแค่เริ่มต้น
“อะ อะไรวะเนี่ย? การเคลื่อนไหวแบบนั้นเป็นไปได้ยังไง?”
“ไม่นะ คนคนหนึ่งจะตอบสนองความเร็วแบบนั้นได้ยังไง? เขาเป็นคนหรอน่ะ?”
เสียงอุทานเต็มไปด้วยความประหลาดใจโผล่ขึ้นมาจากทุกที่
จินซุงแสดงความเป็นไปได้ในทางทฤษฎีเท่านั้นราวกับว่าเขากำลังกินไก่ขณะที่เขาเริ่มกดดันทีมฝ่ายตรงข้าม
ฮีโร่ที่จินซุงกำลังเล่นอยู่นั้นเป็นรูปแบบสกิลที่มีความรู้สึกคล้ายกับส่วนผสมของนักเวทและแอสซาซินหากเปรียบเทียบกับอาชีพของเกม RPG
ด้วยสกิลการวาร์ปที่มีระยะเวลาคูลดาวน์ที่สั้น เช่นเดียวกับเวลาสกิลในการฟื้นฟูที่สามารถสร้างตัวแปรได้มากมาย
อย่างไรก็ตามเนื่องจากพลังชีวิตของมันน้อยอย่างมาก หากควบคุมพลาดเพียงเล็กน้อยก็เป็นตัวละครที่อ่อนแอที่สามารถตายได้เช่นกัน
‘อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่โดนโจมตีก็เท่านั้นแหละ’
ในขณะที่นึกถึงคำที่จินซุงใช้ในขณะที่พวกเขาเล่น League of Chaos ยูฮยอนก็แสยะยิ้ม
“โว้ว เขาปีนกำแพงนั่นแหละไปตรงนั้น!”
“ไม่นะ เขารู้ได้ยังไงไรว่าพวกเขาอยู่ที่นั่นและยิงเดาๆหรอ? คุณแน่ใจหรือไม่ว่าเขาไม่ได้แฮ็กแมพน่ะ?”
จินซุงก่อกวนสมรภูมิเหมือนปลาที่เจอน้ำ
เกมกำลังเข้าสู่ช่วงกลางก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัวและจากจุดฆ่าที่เขาเก็บมาจนถึงตอนนี้ จินซุงกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อจนถึงจุดที่ไม่มีใครไม่สามารถแตะต้องเขาได้
เมื่อใดก็ตามที่จินซุงยิงออกมา ผู้เล่นของแผนกวิทยาการคอมพิวเตอร์กลายเป็นแสงสีเทาอย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อข้อความ ‘Quadra kill’ ซึ่งปรากฏขึ้นเมื่อสี่ในห้าฮีโร่ฝ่ายตรงข้ามถูกสังหารทีละตัวโผล่ขึ้นมานักเรียนของฝ่าย VR ได้ยืนขึ้นพร้อมกัน
ยูฮยอนตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น
“Penta Kill ไปเลย!”
และแสงสีขาวที่พุ่งออกมาจากมือทั้งสองของจินซุงทะลุผ่านด้านหลังคอของผู้เล่นฝ่ายวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่เหลืออยู่ล่าสุดก่อนที่มันจะผ่านไป