เทาเท่คุ้นเคยกับเสียงของหลินจือเป็นอย่างดี เขาขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย แววตามีความประหลาดใจอย่างเหลือเชื่อผาดผ่าน
และสายตาของทุกคนที่อยู่ด้านล่างเวทีก็ถูกดึงดูดจากหญิงสาวที่เดินขึ้นไปบนเวทีพร้อมกับไมโครโฟน ใบหน้าของเธอไม่ได้เป็นที่รู้จัก แต่ก็สวยสะดุดตามาก
เธอสวมใส่ชุดกระโปรงแดงพลิ้วไสว สีสันสดใส หรูหราและสง่างาม
แม้ว่าด้านล่างเวทีจะมีดาราดังมากมายนั่งอยู่ แต่รูปร่างหน้าตาและความสง่างามของเธอก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใครเลย
มีพนักงานพยายามจะเข้ามาห้ามเธอ แต่เธอพูดกับพนักงานอย่างสุภาพและอ่อนโยนว่า“ฉันชื่อหลินจือ สถานะของฉันในตอนนี้คือภรรยาของประธานเทาเท่ ฉันมีคำพูดสักสองสามคำที่อยากจะพูดกับประธานเทาเท่ของพวกคุณ”
ด้านล่างเวทีมีเสียงอุทานดังขึ้น ภรรยาของประธานเทาเท่? ประธานเทาเท่ของเราแต่งงานแล้วเหรอ ?
ทุกคนต่างพากันสงสัยในสิ่งที่สาวชุดแดงพูด แต่เมื่อเห็นประธานเทาเท่ที่ยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ด้วยใบหน้าที่เย็นชาและไม่ได้ห้ามปรามอะไร ก็ถึงได้เชื่อในสิ่งที่สาวชุดแดงคนนี้พูด
หากประธานเทาเท่ของพวกเขาแต่งงานแล้วจริงๆ ถ้าอย่างนั้นซูซีคือยังไง ?
เมียน้อยเหรอ ?
ในขณะที่ทุกคนยังคงงงงวยกับเรื่องที่เทาเท่แต่งงานแล้ว สาวชุดแดงก็มองไปยังผู้คนด้านล่างอย่างสงบนิ่งและพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า“ แต่อีกไม่นานฉันก็ไม่ใช่สะใภ้ตระกูลฟอเรนาอีกต่อไปแล้ว”
ทุกคนต่างพากันตกใจขึ้นมาอีกครั้งจนอ้าปากค้าง
ในมือหลินจือถือเอกสารแล้วเดินเข้าไปหาเขา
ในใจของเทาเท่มีลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้น
เป็นไปตามคาด หลินจือพูดกับเขาอย่างใจเย็นว่า“เทาเท่ เราหย่ากันเถอะ นี่เป็นบันทึกข้อตกลงการหย่าที่ฉันขอให้ทนายร่างขึ้นมา คุณวางใจได้ ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สมบัติของตระกูลฟอเรนาทั้งสิ้น ฉันจะไปแต่ตัว ”
เธอยิ้มให้เขาอย่างสง่าผ่าเผย แล้วยื่นเอกสารข้อตกลงนั้นไปยังด้านหน้าของเขาด้วยรอยยิ้ม
เทาเท่กัดฟันและพูดเรียกสติเธอ“หลินจือ!”
ทันทีที่เขาพูดจบ ตรงหน้าก็มีบางอย่างลอยเข้ามา เมื่อเขาได้สติก็เพิ่งเห็นว่าหลินจือกำลังปาเอกสารใบนั้นมาที่ตรงหน้าเขา หน้าอกของเทาเท่ก็แทบจะระเบิดออก
“เทาเท่ ฉันขอให้คุณกับผู้หญิงที่คุณปรารถนารักกันจนแก่จนเฒ่า มีความสุขมากๆ”เมื่อเธอพูดจบก็ถือกระโปรงขึ้นหันหลังแล้วเดินจากไป
หลังจากที่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวจู่ๆเธอก็หันกลับมาอีกครั้ง ยิ้มอย่างสดใสให้เขาแล้วพูดว่า“เออนี่ เกือบลืมบอกเลย ประธานเทาเท่พรุ่งนี้แปดโมงครึ่ง เจอกันที่สำนักงานเขตนะคะ คราวนี้อย่าเบี้ยวนัดฉันอีกล่ะ”
ด้านล่างเวทีก็แตกฮือ
เทาเท่ยืนอยู่บนเวทีแล้วมองไปยังหญิงสาวชุดแดงที่สง่างามและนิ่งสงบ หลุบตาลงอย่างชั่วร้าย
เยี่ยม
คนอย่างเทาเท่ที่โตมาจนป่านนี้แล้วยังคร่ำหวอดอยู่ในวงการธุรกิจมานานหลายปี ไม่เคยมีใครกล้าทำให้เขาต้องเสียหน้าแบบนี้ในที่สาธารณะมาก่อน
หลินจือเป็นคนแรก
และเขาก็ใช้ชีวิตอยู่กับหลินจือมาสามปี ไม่เคยรู้มาก่อนว่าหลินจือจะมีนิสัยที่แข็งกร้าวแบบนี้ และไม่เคยรู้มาก่อนว่าเวลาที่เธอแต่งองค์ทรงเครื่องแล้ว……จะดึงดูดสายตาได้มากขนาดนี้
หลินจือก่อเรื่องซะขนาดนี้ ทุกคนต่างคิดว่าเทาเท่จะต้องหัวฟัดหัวเหวี่ยง แล้วสั่งยกเลิกงานเลี้ยงประจำปีที่รื่นเริงนี้ ไม่คิดว่าเขาจะสั่งให้งานเลี้ยงนี้ดำเนินไปต่อ จากนั้นก็เดินลงจากเวทีด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
ทุกคนต่างพากันชื่นชม บอสใหญ่ยังไงก็คือบอสใหญ่ ความแข็งแกร่งของจิตใจไม่ธรรมดาจริงๆ ถูกปาเอกสารหย่าใส่หน้าขนาดนี้ ยังสง่าและนิ่งสงบได้
แต่ดอกไม้เพียงชั่วค่ำคืนอย่างสะใภ้ตระกูลฟอเรนาก็ช่างสวยงามมากจริงๆ เย็นชา ดึงดูดสายตา ยากที่จะลืมเลือน
หลังจากที่เทาเท่นั่งลงกับที่ซูซีที่อยู่ข้างๆก็ถามเขาด้วยความเป็นห่วงว่า“เทาเท่ คุณโอเคไหม?”
เทาเท่เม้มริมฝีปากและไม่ได้ตอบอะไร ซูซีก็พูดต่อว่าหลินจืออย่างโกรธเคือง “หลินจือนี่ก็ช่างไม่รู้อะไรเอาซะเลย นี่มันที่ไหนทำไมเธอถึงต้องมาก่อเรื่องแบบนี้ด้วย ? เธอรู้หรือเปล่าว่าสถานะของผู้ชายแบบคุณนั้นหน้าตามันสำคัญมากแค่ไหน!”