บทที่ 300 ตัดเส้นทางก้าวหน้า ตรวนเก้าผนึกราชันเซียนนิรันดร์
ราชันเซียนนิรันดร์ทั้งสามคนกลั้นหายใจ รอจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญก้าวข้ามไปสู่เขตแดน
ทั้งหมดนี้ จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญที่อยู่ในสถานะที่จะก้าวข้ามเขตแดนนั้นไม่ได้รับรู้
ตามที่ราชันบรรพบุรุษนิรันดร์ได้กล่าวไว้โอกาสที่จะได้ก้าวข้ามจากเซียนนิรันดร์สูงสุดไปสู่เขตแดนราชันเซียนนิรันดร์นั้นสามารถพบโดยบังเอิญได้แต่ไม่สามารถกําหนดขึ้นมาเอง
ด้วยพรสวรรค์ของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญนั้นแม้ว่าการก้าวข้ามไปสู่เขตแดนราชันเซียนนิรันดร์จะเป็นเพียงแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น
แต่นั่นจะต้องใช้เวลามากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
ที่นี่ในวันนี้เมื่อได้มองเห็นความหมายที่แท้จริงของผู้กุมชะตาเสี้ยวหนึ่งจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญก็มั่นใจที่จะตัดตรงก้าวข้ามเขตแดนเข้าสู่ราชันเซียนนิรันดร์และช่วยประหยัดเวลาได้มากยิ่งขึ้น
และในเรื่องนี้สําหรับจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญผู้ที่กระตือรือร้นที่จะก้าวข้ามไปสู่เขตแดนที่สูงขึ้นเพื่อไปพบกับจ้าวแห่งเกาะสุขาวดีโดยเร็วที่สุด โดยไม่ต้องสงสัยว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะปฏิเสธเป้าหมายนี้
ดังนั้นนางจึงเลือกที่จะก้าวข้ามไปในทันทีที่ได้รับสัญญาณว่ากําลังจะก้าวเข้าไปในเขตแดนที่สูงขึ้น
แน่นอนว่าจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญเลือกวิธีนี้เพราะมีตัวตนของราชันแดนนิรันดร์สามคนอยู่นางคาดหวังว่าถึงแม้ว่านางจะก้าวข้ามเขตแดนอีกฝ่ายก็จะไม่ทําร้ายนางดังนั้นนางจึงไม่ได้ระมัดระวังตัว
อย่างไรก็ตามจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญเพิ่งมาถึงแดนนิรันดร์เมื่อไม่นานมานี้และไม่ทราบ
ประวัติศาสตร์ของดินแดนแห่งนี้
หากนางรู้ว่าราชันผู้กําแหงของแดนทมิฬหลายคนมาถึงแดนนิรันดร์และทําให้แดนนิรันดร์ได้รับความสูญเสียอย่างเจ็บปวดนางก็คงจะไม่เลือกทําเช่นนี้
แต่ตอนนี้ เมื่อมาถึงจุดนี้แล้วการพูดถึงสิ่งเหล่านั้นก็ไร้ความหมาย ตอนนี้จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญหมกมุ่นอยู่กับสภาวะการก้าวข้ามไปสู่เขตแดนใหม่อย่างเต็มที่ลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง
ในตอนนี้ผิวกายของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญต่างเรืองแสงส่องประกายราวกับดวงอาทิตย์
หลายร้อยล้านดวงที่ประชันแสงกันจนผู้คนไม่กล้ามองมันตรงๆ
จากร่างกายของนาง เส้นสายของแก่นแท้ของวิถีแห่งเต๋าได้ปรากฏขึ้นและปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของนางราวกับว่ามีดอกไม้สามดอกรวมกันอยู่บนนั้น
ในแก่นแท้ของวิถีแห่งเต๋าพลังจิตวิญญาณดึกดําบรรพ์ของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญก็ได้รวมตัวเป็นภาพของตัวนางเองนั่งขัดสมาธิอยู่ในนั้นเปล่งแสงสว่างสดใสราวกับว่าได้เปลี่ยนเป็นสุริยันอันเป็นอมตะนิรันดร์ส่องฉายไปยังโลกโบราณทั้งสิบทิศในตอนต้นของยุคแรกเริ่มใครเทศนา… …
วิถีแห่งเต๋าที่มิอาจมองเห็นได้ให้กําเนิดฟ้าดินวิถีแห่งเต๋าอันโหดเหี้ยมได้ขับเคลื่อนดวงตะวัน
และจันทรา วิถีแห่งเต๋าที่นิรนามได้บํารุงเลี้ยงทุกสรรพสิ่งชื่อที่แข็งแกร่งวิถีแห่งดวงตะวัน…..ลึกลับลึกลับประตูแห่งความมหัศจรรย์… …
หมื่นวิถีสั่นสะท้านเป็นสําเนียงเต๋าอันเพริศพริ้งประดุจดังเสียงศักดิ์สิทธิ์เดียวในฟ้าดิน
แม้แต่ยอดยุทธ์แดนนิรันดร์มากมายที่ถูกราชันเฉียนย้ายออกไปห่างไกลหลายล้านลี้หลังจากได้ยินเสียงของวิถีแห่งเต๋าอันลึกลับลึกล้านี้พวกเขาต่างก็ตื่นตะลึงแม้แต่บางคนก็ถึงกับสั่นสะท้านและนั่งขัดสมาธิลงตรงจุดนั้นนี่คือการสร้างสรรค์ที่สุดยอด!
เมื่อมีผู้เข้มแข็งก้าวข้ามเขตแดนไปสู่ราชันเซียนนิรันดร์จะเคลื่อนเจตจํานงวิถีแห่งสวรรค์และเจตจํานงทั้งหมดจะมารวมอยู่ด้วยกันที่นี่
ในเวลานั้นวิถีแห่งเต๋าทั้งหมดจะมาบรรจบกันเปิดเผยให้เห็นอย่างชัดเจนที่สุดและสําหรับผู้ที่ได้มาภายหลังคนอื่นๆนี่เป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิต
หากว่าพวกเขาอยู่ในเขตแดนเซียนนิรันดร์เช่นเดียวกันพวกเขาสามารถใช้โอกาสนี้ในการรู้แจ้งวิถีและฝึกฝนให้ก้าวข้ามไปยังเขตแดนที่สูงกว่าได้
และเหตุผลที่ราชันเฉียนไม่ได้ส่งยอดยุทธ์แดนนิรันดร์เหล่านี้ออกไปไกล แต่ยอมให้พวกเขาอยู่ห่างออกไปนับล้านลี้ก็เพราะเหตุผลนี้
โอกาสในการก้าวข้ามไปสู่ราชันเซียนนิรันดร์นั้นพบได้แต่ไม่สามารถตามหาได้การได้สังเกตการก้าวข้ามไปสู่เขตแดนราชันเซียนนิรันดร์ของผู้ที่แข็งแกร่งย่อมได้รับประโยชน์มากมายอย่างแน่นอน
“บูม!”
กระแสพลังที่เพิ่มขึ้นจากร่างของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญนั้นทรงอํานาจและศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้นกว่าเดิม
เสียงสวดคาถาอันศักดิ์สิทธิ์และเสียงของวิถีแห่งเต๋าล้วนแสดงออกมาเปรียบเสมือนวัฏจักรของเวลาเปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นของสวรรค์
เหนือศีรษะของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญ“ร่างที่นั่งอยู่เหนือหัวของนาง”ดูเหมือนจะกลายเป็นรูปปั้นที่ศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นเรื่อยๆ หมื่นวิถีไม่คงอยู่หมื่นภัยพิบัติไม่กล้ากรายราวกับจะคงอยู่ชั่วนิจนิรันดร์
จิตวิญญาณลอยขึ้นจากร่างกายเชื่อมโยงกับแดนลับทั้งห้า สุดท้ายก็มาบรรจบกันร่างขนาดเล็กก่อเกิดพลังงานอันหาที่เทียบได้ยาก
และ “ร่าง” นั้น ที่นั่งขัดสมาธิอยู่เหนือศีรษะของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญก็ได้มองขึ้นไปยังสวรรค์ราวกับจะทําลายโซ่ตรวนและเครื่องคุมขังของพิภพได้รับวิถีทางอันยิ่งใหญ่อิสระอันยิ่งใหญ่และการปล่อยวางอันยิ่งใหญ่
“เต๋าได้ประจักษ์ขึ้นแล้ว!ตราบใดที่นางได้ปลดเปลื้องพันธนาการฟ้าดินก็จะสามารถเลื่อนระดับเป็นเขตแดนราชันเซียนนิรันดร์ได้ราชันบรรพบุรุษนิรันดร์พูด
“เมื่อผู้ที่ได้มาภายหลังฝึกฝนแดนลับทั้งห้าให้กลายเป็นนิรันดร์ จากนั้นก็ควบแน่นพลังของแดนลับทั้งห้าจุติเป็นร่างเต๋าของตนเอง
เมื่อก้าวข้ามเขตแดนก็จะมีพันธนาการฟ้าดินคอยปิดกั้
ตราบใดที่พวกเขาสามารถทําลายพันธนาการนี้ได้นั่นก็หมายความว่าได้ก้าวข้ามเขตแดนได้สําเร็จ
ในทางกลับกัน ก็จะเป็นการก้าวข้ามที่ล้มเหลว
และการที่จะทําลายพันธนาการเหล่านี้ได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นกับรากฐานของพวกเขาเองซึ่งถ้ารากฐานของคนผู้นั้นทรงอํานาจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ก็จะมีโอกาสได้ชําระจิตวิญญาณให้
และถ้าไม่สามารถหลุดพ้นจากพันธนาการของฟ้าดินได้ก็จะไม่สามารถบรรลุเขตแดนราชันเซียนนิรันดร์ได”
ในขณะที่เสียงของราชันบรรพบุรุษนิรันดร์จบลงมิติด่ามืดก็เริ่มผันผวนโซ่ตรวนที่ควบแน่นจากอักขระเก้าสีจํานวนนับไม่ถ้วนก็ได้ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าและพุ่งไปที่เหนือศีรษะของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญ
ดูเหมือนว่ามันต้องการสะกัดกั้นกีดกันจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญจากการก้าวข้ามไปสู่เขตแดนราชันเซียนนิรันดร์อย่างสมบูรณ์!
“นั่นมันตรวนเก้าผนึกราชันเซียนนิรันดร์!”
หลังจากเห็นโซ่ตรวนเก้าสีที่ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าราชันเฉียน ราชันบรรพบุรุษนิรันดร์
ราชันดอกบัวทั้งสามคนต่างก็มีใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความตกใจ
พวกเขาไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นตรวนเก้าผนึกราชันเซียนนิรันดร์ปรากฏขึ้นอีกครั้งในวันนี้!
จอมยุทธ์เซียนนิรันดร์ที่จุดสูงสุดของเขตแดนนั้นเมื่อพวกเขาก้าวข้ามไปสู่เขตแดนราชัน
เซียนนิรันดร์ ก็จะขึ้นอยู่กับศักยภาพและเบื้องหลังของพวกเขาว่าแข็งแกร่งหรือไม่ฟ้าดินจะกําหนดความยากของโซ่ตรวนผนึกที่แตกต่างกันสําหรับการสะกัดกั้นพวกเขาจากการก้าวข้ามไปยังเขตแดนใหม่
โซ่ตรวนแบ่งออกเป็นสามระดับ ได้แก่ สามสี หกสี และเก้าสี
ยิ่งโซ่ตรวนวิถีแห่งเต๋ามีสีสันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งยากในการก้าวข้ามมากเท่านั้น
ปกติแล้วเมื่อราชันเซียนนิรันดร์ทั่วไปก้าวข้ามนั้นพวกเขามักจะพบกับการระดับของโซ่ตรวนสามสีเท่านั้น
เช่นเดียวกับราชันเซียนนิรันดร์โบราณผู้ทรงอํานาจอย่างราชันบรรพบุรุษนิรันดร์ในขณะที่เขาก้าวข้ามไปสู่เขตแดนใหม่เขาเกือบจะไม่ถึงเงื่อนไขของโซ่ตรวนหกสีตรวนหกผนึกราชันเซียนนิรันดร์
สําหรับตรวนเก้าผนึกราชันเซียนนิรันดร์นั้นมันเป็นเพียงแค่ตํานานที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ
เท่านั้น ไม่เคยมีใครเห็นหรือได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้มาตั้งแต่สมัยโบราณจวบปัจจุบันไม่คิดว่ายามเมื่อตัวตนนี้ก้าวข้ามเขตแดนนางจะดึงดูดตรวนเก้าผนึกราชันเซียนนิรันดร์!