บทที่ 321 หลังสามวัน

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 321 หลังสามวัน
ได้ยินหลี่หยานบอก ว่าต่อไปบริษัทจะให้การสนับสนุนไป๋เสี่ยวเชี่ยนกลุ่มพนักงานต่างก็มาคอยประจบประแจง

“ได้ยินว่าในตอนนั้นพี่ไป๋ได้ที่สอง แรกเริ่มเดิมทีเป็นคู่แข่งยืนหนึ่งของหลิวหรูยู่”

“ในรอบชิงชนะเลิศ จู่ๆก็ถอนตัว จึงทำให้หลิวหรูยู่ได้ที่หนึ่งไป”

“ใช่ใช่ ไม่คิดว่าเธอจะมา”

“พี่ไป๋ ในตอนนั้นทำไมจู่ๆพี่ถึงถอนตัวล่ะ ไม่อย่างนั้นที่หนึ่งต้องเป็นของพี่แน่ๆ”

หลี่หยานยิ้มเยาะและกล่าว“ในตอนนั้นที่เสี่ยวเชี่ยนถอนตัว นั้นก็เพราะ ไม่ชอบวิธีการทำงานของหลิวหรูยู่ ”

“เพื่อให้ได้ตำแหน่ง ถึงกับต้องขายเรือนร่างของตัวเอง ”

“น่าขำ ตอนนี้เธอยังกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นสาวบรืสุทธ์อีก”

“ฉันว่า นักร้องอย่างเสี่ยวเชี่ยนที่มีความสามารถ และบริสุทธิ์ผุดผ่องต่างหาก ที่เป็นสาวบรืสุทธ์ตัวจริง ”

“เสี่ยวเชี่ยน วันนี้คุณมารายงานตัวใช่ไหม ? เจอประธานหวางหรือยัง?”

ไป๋เสี่ยวเชี่ยนพูดอย่างลำพอง“ฉันเจอประธานหวางแล้ว เขาให้ฉันมารายงานตัวที่บริษัทก่อน เพื่อจะได้คุ้นเคยกับสถานที่”

“ส่วนเรื่องรายละเอียด เขาจะคุยกับฉันตอนค่ำ ”

“พี่หยาน ห้องทำงานของฉันพี่เตรียมไว้ให้หรือยัง?”

เธอลุกขึ้นยืน มองเห็นห้องทำงานห้องใหญ่ที่อยู่ไกลๆ ยิ้มเยาะแล้วกล่าว“ฉันว่าห้องนี้ไม่เลวนะ”

“จากนี้ไป ที่นี่จะเป็นห้องทำงานของฉันแล้วกัน”

“พี่หยาน รบกวนพี่ ช่วยเอาของที่รกรุงรังพวกนั้นออกไปให้หมดด้วยนะ!”

“หยุด!”เห็นเธอเดินตรงไปที่ห้องทำงาน หยางหรงก็รีบมาขวางที่ทางเดินตรงหน้า

“นี่เป็นห้องทำงานของหรูยู่ เธอเป็นใคร คู่ควรใช้ห้องทำงานนี้เหรอ”

คิ้วของไป๋เสี่ยวเชี่ยนเลิกขึ้น“เธอหมายถึงนังแพศยาหลิวหรูยู่งั้นเหรอ?”

“เธอ——”

“หุบปาก!”พี่หรงตบไปที่ใบหน้าของไป๋เสี่ยวเชี่ยนฉาดหนึ่ง ยิ้มเยาะแล้วกล่าว

“นังบ้า ทำไมตอนนั้นเธอถึงต้องถอนตัว ไม่รู้ตัวเองเลยหรือไง?”

“กล้าดียังไงมาใส่ร้ายหรูยู่”

“เธอมีสิทธิ์อะไรไปเทียบกับเขา?”

“นี่เธอกล้าตบฉันเหรอ?”มือไป๋เสี่ยวเชี่ยนกุมไปที่ใบหน้า กรีดร้องด้วยความโมโห“ใครก็ได้มานี่เร็ว!”

“มาจับตัวนังบ้าคนนี้เอาไว้ !”

“กล้าลงไม้ลงมือได้ยังไง ?”

“จะมากเกินไปแล้ว!”คนที่อยู่รอบๆบริเวณ ต่างก็พูดโพล่งออกมา

ฉินเทียนเดินเข้ามาหา แล้วดึงพี่หรงไปไว้ด้านหลัง

เขาจ้องมองไป๋เสี่ยวเชี่ยน ยิ้มเยาะแล้วกล่าว“หากผมเดาไม่ผิด บัญชีผู้ใช้เวยป๋อชื่อ‘สาวมีปีก’ คือคุณใช่ไหม?”

ไป๋เสี่ยวเชี่ยนผงะ แล้วตอบ“ใช่แล้วยังไง?”

“ฉันยังรู้ด้านมืดของหลิวหรูยู่อีกเยอะ แต่แค่ไม่พูดออกไปก็เท่านั้น”

“แล้วนายเป็นใคร ?มาถามฉันทำไม?”

หลี่หยานรีบพูดขึ้นมา “พ่อรูปหล่อ นายเป็นศิลปินหน้าใหม่ อยากจะมาเซ็นสัญญากับบริษัทของเราใช่ไหม?”

“ต้องบอกว่า นายตาถึงมาก ศิลปินฝึกหัดของซิงถูเรา ในวงการมีชื่อเสียงอย่างมาก ”

“เพียงแต่ว่า นายเลือกคนผิด นายคิดว่าหยางหรงเป็นนักปั้นมือทองงั้นเหรอ?”

“นายยังไปปกป้องเธออีก?”

ไป๋เสี่ยวเชี่ยนกัดฟันพูด“พี่หยาน บริษัทของเราคงไม่รับคนมั่วซั่วแบบนี้หรอกใช่ไหม !”

“ตอนนี้ ฉันขอสั่งให้ไล่เขาออกไป !”

หลี่หยานยิ้มเยาะแล้วกล่าว “ใจเย็นๆ”

แล้วกล่าว“พ่อรูปหล่อ คุณสมบัติของนายถือว่าไม่เลวเลย ฝึกฝนดีๆ ไม่แน่อาจจะเป็นศิลปินคนต่อไปก็ได้ ”

“แต่ตอนนี้ ถ้านายตบหยางหรงสักฉาด ฉันรับปากว่าจะเซ็นสัญญากับนาย เป็นไง?”

ได้ฟังคำพูดของเธอ ทุกคนต่างก็มีสายตาที่เย้ยหยัน

นี่หลี่หยานกำลังจะเล่นงานฉินเทียนกับหยางหรงอย่างนั้นเหรอ

ฉินเทียนเป็นเด็กใหม่ที่หยางหรงแนะนำมา หากตบหน้าหยางหรงต่อหน้าทุกคน เกรงว่าต่อไปหยางหรงคงไม่มีหน้าจะสู้ใครในวงการนี้ได้อีก

“รีบลงมือสิ จะรีรออะไร!”

“วันนี้หากนายทำให้ฉันพอใจได้ ต่อไปในบริษัท ฉันไป๋เสี่ยวเชี่ยนจะคุ้มครองนายเอง!”

“พ่อรูปหล่อ จะบอกอะไรให้รู้ ประธานหวางรับปากฉัน ต่อไปจะสนับสนุนฉัน”

“ใช้เวลาไม่นาน ฉันก็จะสามารถแทนที่หลิวหรูยู่ได้ เป็นผู้หญิงหมายเลขหนึ่งของบริษัท”

ได้ฟังคำพูดของไป๋เสี่ยวเชี่ยน หญิงสาวที่อยู่บริเวณโดยรอบก็ยิ่งจะประจบสอพลอมากขึ้น

ผู้หญิงหมายเลขหนึ่งของบริษัท ช่างเป็นตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่จริงๆ

ฉินเทียนกวาดมองด้วยสายตาที่เย็นชา ยิ้มเยาะแล้วกล่าว“หรูยู่อยู่ที่บริษัทมานานขนาดนี้ พวกคุณไม่เคยได้รับการดูแลช่วยเหลือจากเธอกันเลยเหรอ?”

“ตอนนี้ มีเรื่องเกิดขึ้นกับเธอ อีกทั้งก็ยังถูกคนใส่ร้าย พวกคุณก็เหยียบย่ำซ้ำเติมกันแล้วเหรอ?”

“ผมขอเตือนพวกคุณ อยากได้ดิบได้ดีไม่ใช่เรื่องผิด แต่ว่า ก็อย่าลืมพื้นฐานของการเป็นคน!”

เมื่อได้ฟังคำพูดของเขา ผู้หญิงหลายคนก็พากันก้มหน้าลง

พูดตามตรง ในตอนที่หลิวหรูยู่อยู่ เธอเป็นเหมือนพี่สาวคนโต ใครกันที่ไม่เคยถูกเธอดูแลและช่วยเหลือมาก่อน ?

บางคนที่ได้ดิบได้ดีจนในตอนนี้ นั้นก็เพราะหลิวหรูยู่ได้ยกเอางานโฆษณาสินค้าและงานแสดงบางส่วน ให้กับพวกเขาไป

“นี่นายเป็นใครกัน?”

“อยากจะมาเซ็นสัญญาที่นี่ ก็พูดจาระวังหน่อย !” หลี่หยานมีสีหน้าที่สลด

ฉินเทียนยิ้มเยาะแล้วกล่าว“ในเมื่อประธานหวางไม่อยู่ ผมไปหาเขาที่อื่นแล้วกัน ”

“ส่วนผมจะเป็นใครนั้น สามวันให้หลังเราค่อยเจอกัน ”

“ถึงตอนนั้น พวกคุณก็รู้เอง ”

“พี่หรง เราไปกันเถอะ !”

ออกจากบริษัทมา หยางหรงยังคงมีอารมณ์กรุ่นโกรธ เธอเป็นคนที่เข้มแข็งมาโดยตลอด ตอนนี้กลับทนไม่ไหวจนต้องร้องไห้ออกมา

“หวางเฉียงคงหลบซ่อนตัวไปแล้ว คุณจะทำยังไงต่อไป ?”เธอถามอย่างอัดอั้นตันใจ

สถานการณ์ของบริษัทในตอนนี้ ทำให้เธอตระหนักรู้ ว่าเหตุการณ์นั้นเลวร้ายกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก

ตอนนี้ เธอรู้สึกเหมือนไร้เรี่ยวแรงที่จะพลิกฟื้นคืนตัวได้

ฉินเทียนพูดด้วยรอยยิ้ม“ตอนนี้คุณปล่อยข่าวให้สื่อ ”

“หลังสามวัน ที่บริษัทซิงถู หลิวหรูยู่จะบอกเล่าเรื่องราวทุกอย่าง ต่อสาธารณชน ”

“ถึงตอนนั้น เชิญทุกคนมาเป็นสักขีพยานด้วย ”

หยางหรงพูดอย่างประหลาดใจ “คุณบ้าไปแล้วหรือไง ?”

“เรื่องแบบนี้ จะให้หลิวหรูยู่มาปรากฏตัว แล้วพูดชี้แจงอะไร ?”

ฉินเทียนพูดด้วยรอยยิ้ม“วางใจเถอะ ผมมีวิธีของผม”

“คุณแจ้งข่าวเสร็จ ก็หมดหน้าที่ของคุณ ในช่วงนี้ คอยดูแลอยู่เป็นเพื่อนหรูยู่ให้ดี ”

“หลังสามวัน พาเธอมาที่บริษัท”

“ถึงตอนนั้น ความอยุติธรรมทุกอย่างที่เธอได้รับ ผมจะเรียกร้องมันคืนให้เธอเอง ”

แม้หยางหรงจะไม่รู้ว่าฉินเทียนนั้นต้องการจะทำอะไร แต่เมื่อเห็นฉินเทียนที่มีความมั่นอกมั่นใจเช่นนี้ ก็จึงพยักหน้าตอบตกลง

“เอ่อนี่”ก่อนจะไป คิดอะไรขึ้นมาได้ เธอก็กำชับฉินเทียน“หาตัวหวางเฉียงนั้นไม่มีประโยชน์หรอกนะ”

“เขาในตอนนี้เป็นเหมือนสุนัขตัวหนึ่งของจ้าวซวู่”

“หากคุณมีวิธี ฉันว่าคุณไปหาฟู่เจียงจะดีกว่า”

“เขาเป็นหุ้นส่วนของหวางเฉียง และเป็นรองประธานบริษัท ถือหุ้นอยู่สิบเปอร์เซ็นต์”

“คนคนนี้นับว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหรูยู่ ในตอนนั้นเขาเป็นคนที่แนะนำหรูยู่มาที่ซิงถูเอง ”

“แต่ทว่า หลังจากที่เกิดเรื่อง โทรศัพท์มือถือของเขาก็ปิดเครื่อง ฉันรู้ว่าเขากำลังหลบซ่อนตัวอยู่ แต่ไม่รู้จะไปหาเขาได้ที่ไหน”

“หากเขายอมออกมาพูด ก็น่าจะมีประโยชน์อยู่บ้าง”

ฉินเทียนพยักหน้า“ผมรู้ว่าต้องทำยังไง”

“คุณอยู่ดูแลหรูยู่ให้ดีก็พอ ”

หยางหรงรับคำเสียงเบา“ฉันรู้ว่าเรื่องมันยุ่งยากมาก ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ แต่ฉันก็ต้องขอบคุณคุณแทนหรูยู่ด้วยที่ช่วยเหลือเธอ”

“คุ้มค่าแล้วกับมิตรภาพนี้ที่เธอมีให้คุณ”

พูดจบ ก็จากไปอย่างกังวลใจ

จากนั้น ฉินเทียนก็กดโทรหาเนี่ยชิงหลง

“เหล่าเนี่ย ฉันมาที่เมืองหลวงแล้ว โผล่หัวมาหาอะไรดื่มกัน”

“ให้ตายสิ!”

“ลูกพี่ จริงเหรอเนี่ย?”

“ผมยิ่งมีโรคหัวใจอยู่ อย่าโกหกผมนะ !”ในสาย เนี่ยชิงหลงเอะอะโวยวาย

ฉินเทียนหัวเราะและก่นด่า“อย่าพูดมาก ร้านเหล้าเดิมของเรา ฉันจะรอนายที่นั่น”

“อย่าลืมพกเงินมาด้วย นายเลี้ยงนะ ”

พูดจบ ก็วางสายไป