ตอนที่ 139

Taming Master

เมื่อเทียบกับตอนที่พวกเขามาเดินทางกับเอียนเพื่อการฟักไข่กริฟฟิน เฮลเลี่ยมและอัศวินก็แข็งแกร่งขึ้น

และนั่นก็เหมือนกันสำหรับเอียนเช่นกัน

เขายังคงไม่สามารถเผชิญหน้ากับพัชเยาซึ่งเลเวลมากกว่า 180 และเทราโนด้อนซึ่งใกล้เคียงกับเลเวล 200 แต่เขาได้ถึงจุดที่เขาสามารถทำงานได้ด้วยตัวเองได้

ยิ่งไปกว่านั้นกับไคซาร์ซึ่งเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งจนถึงจุดที่ยากที่จะแยกแยะผู้ที่เหนือกว่าระหว่างเฮลเลี่ยมกับเขา ในการเข้าร่วมกับพวกเขาในแหล่งล่าที่น่ากลัวที่สกายไฮแลนด์ก็กลายเป็นดันเจี้ยนที่หอมหวานดุจน้ำผึ้ง

“ว้าว… เอียนนายล่าในสภาพแวดล้อมแบบนี้ตลอดเวลาเลยหรอ?”

ท่ามกลางความชื่นชม ฟิโอลันส่งความอิจฉาไปให้เขา

เอียนเกาหลังหัวของเขา

“ไม่นะ มันก็นานมาแล้วสำหรับฉัน…”

อย่างไรก็ตามข้อแก้ตัวของเอียน (?) ถูกปัดออกโดยคำพูดของเฮิร์ซ

“ไอ้นี่นิได้รับการฟาร์มที่สุดยอดแบบนี้อยู่คนเดียว… ไม่สงสัยเลยว่าทำไมนายถึงเพิ่มเลเวลได้ไว”

ฟิโอลันก็พยักหน้าขณะที่เห็นด้วย

“ฉันเห็นด้วย เอียนนี่มันมากเกินไป ได้โปรดมองกลับไปที่สมาชิกกิลด์สักหน่อยเถอะ”

“ถูกต้อง ถูกต้อง!”

ทันใดนั้นเอียนก็กลายเป็นลอร์ดที่เห็นแก่ตัวซึ่งไม่ได้ดูแลสมาชิกกิลด์ของเขา

“…”

อย่างไรก็ตามผ่านการล่าที่ราบรื่นของพวกเขา ปาร์ตี้ของเอียนเดินผ่านสกายไฮแลนด์ในไม่ช้าและเข้าใกล้ทวีปกลาง

หลังจากนั้นไม่นานมีม่านสีขาวปรากฏขึ้นต่อหน้าของปาร์ตี้

นั่นคือเส้นขอบมิติที่มองเห็นได้ทุกครั้งที่มีการข้ามพื้นที่

มันเป็นข้อพิสูจน์ว่าพวกเขามาถึงทวีปกลางแล้ว

ฟิโอลันที่เดินไปยืนอยู่ตรงหน้าของมัน ถามเอียนด้วยสีหน้ากระวนกระวาย

“เป็นไปได้ไหมที่เราจะเป็นคนแรกน่ะ เอียน?”

“ใครจะไปรู้ หากกิลด์ยักษ์เคลื่อนตัวเร็วก็เป็นไปได้ว่าพวกเขามาถึงก่อน…”

และคนที่ตอบการสนทนาของคนสองคนคือไคซาร์ที่ปรากฏมาจากด้านหลัง

“เราน่าจะเป็นคนแรกเพราะไม่มีใครที่รู้สภาพทางภูมิศาสตร์ของสถานที่แห่งนี้ดีกว่าฉัน”

เมื่อคำเหล่านั้น เอียนพยักหน้าในใจของเขา

‘แน่นอน… เรามาถึงรวดเร็วอย่างมาก’

ส่วนจากทะเลทรายสกายไปยังแท่นบูชาท้องฟ้าเป็นทะเลทรายจึงสามารถมองเห็นขอบฟ้าที่ว่างเปล่าได้

อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาผ่านแท่นบูชาท้องฟ้าและเข้ามาใกล้กับทวีปกลาง หุบเขาหินก้อนใหญ่ก็เรียงตัวชิดกันและแน่นอนว่าถ้าไม่ใช่ไคซาร์ พวกเขาจะเสียเวลามากในการหาเส้นทางที่ถูกต้อง

“ถ้างั้น… เข้าไปดูกัน”

เอียนเดินด้วยก้าวใหญ่ๆ

เนื่องจากรางวัลผู้ค้นพบครั้งแรกนั้นถูกแบ่งปันกับสมาชิกปาร์ตี้ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันจึงไม่สำคัญว่าใครจะเข้ามาก่อน

และทันทีที่เอียนผ่านกระแสแห่งแสงสว่าง ข้อความของระบบก็โผล่ขึ้นมาต่อหน้าสมาชิกทุกคนของกิลด์โลตัส

กริ๊ง-

 

  • ท่านเป็นผู้คนพบของทวีปกลางคนแรก ‘ชิคาร์’
  • ชื่อเสียงของท่านเพิ่มขึ้น 100,000 หน่วย
  • รางวัลที่ได้รับจากมอนสเตอร์ทั้งหมดในทวีปชิคาร์จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า (หากท่านเป็นผู้ค้นพบครั้งแรกของดันเจี้ยนรางวัลค่าประสบการณ์ที่ได้รับจะทับซ้อนกัน)
  • ชื่อเสียงของกิลด์โลตัสเพิ่มขึ้น 100,000 หน่วย

 

เมื่อข้อความของระบบที่ไหลมาเทมา สมาชิกกิลด์ทั้งหมดรวมถึงเอียนต่างก็ยิ้ม

“ฮ่า เราได้เพิ่มชื่อเสียงให้กับกิลด์เป็นแสน! นอกจากนี้เรายังปฏิบัติตามข้อกำหนดสำหรับการเลื่อนขั้นได้ในทันที”

เมื่อเฮิร์ซพูด เอียนพยักหน้า

“ดูเหมือนว่าเราจะไม่ต้องไปทำสงครามดินแดนอย่างน่ารำคาญแล้ว”

และประโยคที่ดึงดูดสายตาของเอียนก็คือรางวัลที่เพิ่มขึ้นสำหรับการล่าตามที่คาดไว้

นอกเหนือจากนั้นด้วยคำอธิบายที่เป็นมิตรว่าบัฟผู้ค้นพบคนแรกของดันเจี้ยนจะทับซ้อนกัน ดวงตาของเอียนก็เปล่งประกาย

‘ไปถึงเลเวล 130 กัน! ถัาฉันแค่เจอดันเจี้ยนเดียว ฉันจะถึงมันในทันที!’

เอียนหันไปมองไคซาร์ซึ่งเป็นบัสที่ยอดเยี่ยมและไคซาร์ที่ได้พบกับเอียนก็เงยหน้าขึ้น

“ทำไมนายถึงมองฉันหยาดเยิ้มขนาดนั้น เจ้าหนูลอร์ด”

เอียนดูเหมือนจะอารมณ์ดีแม้กระทั่งในคำพูดว่าเจ้าหนูลอร์ด ตอนที่เขาตอบขณะที่กำลังหัวเราะ

“นายไม่ต้องรู้หรอก ฮ่าฮ่า”

เอียนก็ดึงจดหมายที่เขาได้รับจากพระราชาออกมาแล้วอ่านมันอีกครั้ง

มันเพิ่งถูกเรียกว่าจดหมายราชวงศ์ แต่ในกรณีของเอียน มันก็คล้ายกับคำแนะนำเควสต์ที่เนื้อหานั้นได้รับการอธิบายอย่างละเมียดละไม

 

  • • การสำรวจโบราณสถานแห่งชิคาร์

ในโบราณสถานของชิคาร์นั้น ‘จอกศักดิ์สิทธิ์ของโฮลดรีม’ ถูกซ่อนอยู่ที่นั่น

น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในจอกศักดิ์สิทธิ์ของโฮลดรีมทำให้การเติบโตของฐานของทวีปกลางเร็วขึ้นสองเท่าและจะลดเวลาที่ใช้ในการยึดฐานครึ่งหนึ่ง

เรามาเอาจอกศักดิ์สิทธิ์ของโฮลดรีมก่อนอาณาจักรไคม่อนและใช้เป็นหลักในการยึดฐานมากขึ้น

ระดับความยากเควสต์ : SS

เงื่อนไขเควสต์ : ไม่ทราบ

เวลาจำกัด : ไม่มี

*ถ้าผู้เล่นของอาณาจักรไคม่อนได้รับจอกศักดิ์สิทธิ์ก่อน เควสต์จะล้มเหลว

 

‘จอกศักดิ์สิทธิ์ของโฮลดรีมหรอ… มันบอกว่าไม่มีการจำกัดเวลา แต่มันเป็นโครงสร้างที่เราช่วยไม่ได้ที่จะเคลื่อนที่อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้’

เอียนถามไคซาร์

“นายรู้ไหมว่าโบราณสถานของชิคาร์อยู่ที่ไหน?”

เมื่อเอียนถาม ไคซาร์พยักหน้าโดยไม่ลังเล

“แน่นอน โบราณสถานของชิคาร์ตั้งอยู่ในใจกลางของทวีปกลาง”

“ถ้างั้นอะไรคือจอกศักดิ์สิทธิ์ของโฮลดรีมล่ะ?”

การแสดงออกของไคซาร์มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

“อืมม? จอกศักดิ์สิทธิ์ของโฮลดรีมหรอ… ฉันรู้จักโฮบดรีม แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินชื่อว่าจอกศักดิ์สิทธิ์ของโฮลดรีม”

เอียนผิดหวังเล็กน้อย แต่เขาก็พยักหน้า

เนื่องจากแม้แต่ความจริงที่ว่าเขารู้ที่ตั้งของโบราณสถานก็ช่วยได้มากแล้ว

“เข้าใจละ”

ไคซาร์พูดด้วยอาการสงสัย

“ถ้างั้นไอเทมที่เรียกว่าจอกศักดิ์สิทธิ์ของโฮลดรีม เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เหลือเชื่องั้นหรอ?”

ตาทั้งสองของไคซาร์ลุกวาว

เมื่อเขาจ้องมองซึ่งคล้ายกับตอนที่เขาต้องการดาบใหญ่แห่งความมืดเฟนเรียร์ เอียนก็ตกใจขณะโบกมือของเขา

“มะ มันไม่ใช่อะไรแบบนั้น มันเป็นไอเทมที่พระราชาบอกฉันมาให้หามัน”

“อ่อ… เข้าใจแล้ว”

มีเพียงแค่สิ่งนี้ที่หันความสนใจของเขาได้

ในขณะที่มองรูปแบบนั้น เอียนก็พึมพำกับตัวเอง

‘อย่างไรก็ตามเป็นไปได้ไหมที่ฉันจะหาไอเทมดีๆและมอบให้กับไคซาร์ ฉันจะเพิ่มความซื่อสัตย์ของเขาได้ไหม?’

เอียนรู้สึกอย่างยิ่งว่าเป็นไปได้

 

* * *

 

“ความจริงที่ว่ารางวัลผู้ค้นพบครั้งแรกไม่ได้ปรากฏขึ้นหมายความว่ามีบางคนก้าวเข้าสู่ทวีปตอนกลางก่อน”

เมื่อชยาครานพูด ซีลรอนที่ตามมาข้างหลังพยักหน้า

“ถูกต้องหัวหน้า ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาจะมาถึงเร็วกว่าเราได้ยังไง… แต่ดูเหมือนว่ามีผู้เล่นที่มาถึงก่อนแล้ว”

และเอมิลี่มี่ตามพวกเขามาได้พูดเสริม

“โอกาสที่จะเป็นกิลด์ดาร์ครูน่านั้นสูงสุดใช่ไหม?”

เช่นเดียวกับกิลด์ไททั่น กิลด์ดาร์ครูน่าส่งคนเดินทางไปยังทวีปกลางทันทีที่การอัพเดทครั้งใหญ่สิ้นสุดลง

ตามชื่อของพวกเขาในการเป็นกิลด์หมายเลข 1 ความคิดของเอมิลี่ก็ตรงไปตรงมา “อืมม… เรามาช้าไปหนึ่งก้าวเช่นกัน…”

ชยาครานขมวดคิ้วเล็กน้อย

เขารีบเร่งไปมากเพื่อที่จะก้าวไปสู่ทวีปกลางก่อนที่กิลด์ดาร์ครูน่า แต่ต้องคิดว่าเขามาช้าในที่สุดก็ทำให้เขาโกรธเล็กน้อย

“เราจะทำอะไรตอนนี้? มันจะเป็นการดีที่สุดสำหรับเราที่จะหาฐานและครอบครองมันก่อนหรือไม่?”

เมื่อซีลรอนพูด ชยาครานส่ายหน้า

“ไม่ เรามีบางสิ่งที่ต้องทำก่อนหน้านั้น”

ชยาครานเบะปาก

‘เราอาจสูญเสียบัฟผู้ค้นพบคนแรกของทวีปไปให้กิลด์ดาร์ครูน่า แต่เราควรจะได้รับจอกศักดิ์สิทธิ์ก่อน’

เหตุผลที่ทำให้ชยาครานมั่นใจนั้นง่ายๆ

นี่เป็นเพราะคนที่ได้รับเควสต์จอกศักดิ์สิทธิ์ของโฮลดรีมนั้นคือเขา

เควสต์อาณาจักรนั้นแตกต่างจากเควสต์ปกติ ดังนั้นเควสต์เดียวกันจึงไม่ให้กับผู้เล่นหลายคน

และมันก็เป็นเรื่องยากสำหรับเควสต์ที่จะมีอีกอันหนึ่ง

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็หมายความว่ากิลด์ดาร์ครูน่าไม่รู้ด้วยซ้ำถึงการมีอยู่ของจอกศักดิ์สิทธิ์ของโฮลดรีม

‘ตราบใดที่เราแค่ได้รับจอกศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นเราสามารถพลิกกลับจากการสูญเสียที่ไม่ได้รับรางวัลผู้ค้นพบครั้งแรก’

นอกเหนือจากนั้น ในไม่ช้าอัศวินของอาณาจักรไคม่อนที่ถูกส่งไปช่วยเหลือพวกเขาโดยพระราชาไคมอนจะมาถึงทวีปกลางในไม่ช้า

ชยาครานหันกลับมาพูดกับซีลรอนและเอมิลี่

“เราจะไปที่ใจกลางของทวีปกลาง”

เมื่อนั้น เอมิลี่ถามกลับด้วยเสียงที่งุนงง

“ห้ะ? ถ้าเช่นนั้นความอุดมสมบูรณ์ของฐานที่ล้อมรอบอยู่ล่ะ?”

ซีลรอนก็จ้องไปที่ชยาครานด้วยสีหน้างุนงงและชยาครานพูดอีกครั้งหนึ่ง

“ตราบใดที่เราแค่พบกับจอกศักดิ์สิทธิ์ของโฮลดรีมในโบราณสถานก่อน การฟื้นฟูฐานจะไม่เป็นปัญหาเลย”

ดูเหมือนว่ากิลด์แห่งอาณาจักรของศัตรูไม่ได้อยู่ในความคิดของชยาครานเลย

 

* * *

 

ฟู้ว ปัง ตู้ม!

นอกเหนือจากหลุมอเวจีที่ระเบิดออกมาจากแขนทั้งสองของดุ๊กเดแล้ว ลมหายใจของเรคก็ปกคลุมไปด้วยความรุนแรง

และการกระแทกของพินหลังจากนั้นมอนสเตอน์จำนวนมากก็กลายเป็นพายุทรายและหายไป

 

  • ท่านได้สังหารวิญญาณความอาฆาตของสงครามทะเลทราย ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 128,910 หน่วย
  • ท่านได้รับคะแนนพิเศษ 5 หน่วย

 

มอนสเตอร์ที่ปรากฎหลังจากเข้าสู่ทวีปกลางนั้นอ่อนแอกว่าพัชเยาและเทราโนด้อนที่ปรากฏในสกายไฮแลนด์

มอนสเตอร์ที่ปรากฏตัวมักถูกเรียกว่า ‘วิญญาณความอาฆาตของสงครามทะเลทราย’ และรูปลักษณ์ของพวกมันนั้นเป็นของกลาดิเอเตอร์ที่ทำจากทราย

เลเวลของมอนสเตอร์อยู่ในช่วง 150 ต้นๆ

พวกมันเป็นมอนสเตอร์ที่อยู่ในเลเวลเดียวกันกับผู้คุมเรือนจำที่เอียนต่อสู้ในเกาะปาสคาลหลายครั้ง

‘ตามที่คาด การล่านี่มันสุดยอด!’

พวกมันเป็นมอนสเตอร์เลเวลต่ำกว่าพัชเยาและเทราโนด้อน แต่เมื่อจำนวนของพวกมันสูงกว่าหากเปรียบเทียบกับระดับความยากจึงไม่แตกต่างกันมากนัก

อย่างไรก็ตามเอียนมีความเชี่ยวชาญในการล่าฝ่ายตรงข้ามในจำนวนมาก เขาก่อกวนสมรภูมิเหมือนปลาที่พบน้ำ

“ซีเรีย ฮิลดุ๊กเดที!”

“ค่ะ ท่านลอร์ด!”

และต้องขอบคุณไคซาร์ที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อใดก็ตามที่ดูเหมือนว่ามันจะยากเกินไปและแก้ไขสถานการณ์ก่อนที่จะหายไปอีกครั้ง ปาร์ตี้ของเอียนก็สามารถที่จะก้าวไปข้างหน้าได้โดยไม่ขัดข้อง

‘แต่คะแนนพิเศษคืออะไร? ฉันรวบรวมทีละเล็กทีละน้อยตั้งแต่เสร็จสิ้นเควสต์ครั้งสุดท้ายและตอนนี้ฉันมีเกือบ 20,000 หน่วยแล้ว’

คะแนนพิเศษเป็นสินค้าใหม่ที่เริ่มรวบรวมไว้ที่ด้านบนของคลังของเขา

ในตอนนี้ เขายังไม่รู้ว่าจะใช้สินค้านี้ได้ยังไง แต่เขามั่นใจว่ามันจะมีบทบาทสำคัญในอนาคต

‘จะพูดไปแล้วถึงแม้ฉันจะต่อสู้ด้วยพิน แต่ก็ไม่มีอะไรจะพูดมากนัก’

เอียนจ้องไปที่เฮลเลี่ยมเล็กน้อย

เมื่อเขาอัญเชิญพินครั้งแรก เขาก็ดึงเขาออกมาโดยไม่คิดอะไรมาก แต่ในขณะที่ล่าเขาจำได้ถึงการมีอยู่ของเฮลเลี่ยมและอัศวินของอาณาจักร

‘ฉันแค่เป็นห่วงเกินไปเหรอ? แต่แล้วอีกครั้ง…ใครจะคิดว่ามีไข่แฝดอยู่ในนั้น?’

ขณะที่เอียนคิดต่างๆนาๆ กลุ่มมอนสเตอร์ปรากฏขึ้นอีกครั้งตรงหน้าของเขา

และมอนสเตอร์ดูเหมือนไม่มีอะไรมากไปกว่าก้อนค่าประสบการณ์ในสายตาของเอียน

“พอลลีน ซื้อเวลาจากด้านหน้าให้หน่อย!”

“ครับ ท่านลอร์ด!”

หลังจากกลายเป็นผู้ติดตาม ฉายาของเอียนที่พอลลีนเรียกก็เปลี่ยนไปด้วย

จากฉายา ‘ไวส์เคาท์’ เป็นฉายา ‘ลอร์ด’

ความซื่อสัตย์ของเขาก็สูงมากจนถึงขั้นที่ไม่สามารถเทียบได้กับของไคซาร์เพราะมันขึ้นไปแล้วประมาณ 80 หน่วย

ในขณะเดียวกันความซื่อสัตย์ของไคซาร์ก็ลดลง 1 หน่วย ในขณะเดียวกันและกลายเป็น 4 หน่วย

เสียงถอนหายใจออกจากปากของเอียนอีกครั้ง

‘มันคงจะดีถ้าฉันจะสั่งไคซาร์ได้ตามที่ฉันต้องการ…’

เพราะไคซาร์เคลื่อนไหวจริงๆตามที่เขาพอใจขณะที่เขาโผล่ไปรอบๆแผนที่ เอียนรู้สึกเหมือนว่าเขาสูญเสียค่าประสบการณ์

นี่เป็นเพราะแม้ว่ามันจะเป็นคนที่อยู่ในปาร์ตี้เดียวกันหรือผู้ติดตาม หากพวกเขาล่าในสถานที่ที่ห่างกันพวกเขาไม่สามารถแบ่งปันค่าประสบการณ์กันได้

และเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเกือบจะฆ่ามอนสเตอร์ที่ปรากฏขึ้นเสร็จสิ้น ราวกับว่าเขาได้อ่านใจของเอียน ไคซาร์ก็ปรากฏตัวในสายตาของเขา

“ข้าคิดว่าข้าเจอมันแล้ว ลอร์ด”

“หืมม…? นายเจอโบราณสถานหรอ?”

“ถูกต้อง”

และในขณะที่เขาตามหลังไคซาร์ สถาปัตยกรรมยักษ์ที่แผ่ลงมาเบื้องล่างหุบเขาสูงชันก็ปรากฏตัวขึ้น

และนั่นคืออาคารหินที่ยิ่งใหญ่ที่ชวนให้นึกถึงปิรามิด

จุดแตกต่างจากปิรามิดเล็กน้อยคือมียอดเขาเล็กๆหลายแห่งล้อมรอบยอดเขายักษ์

เอียนแสดงอาการดีใจ

“เอาล่ะ ถ้างั้นไปตรงนั้นกันเร็วๆเถอะ”

สมาชิกปาร์ตี้คนอื่นๆที่ฆ่ามอนสเตอร์ที่เหลืออยู่ข้างหลังก่อนที่เขาจะรู้ตัวและเข้าหาพวกมันก็มองไปที่โบราณสถาน

อย่างไรก็ตามจากนั้น คำที่คาดไม่ถึงออกมาจากปากของไคซาร์

“อย่างไรก็ตาม มันมีปัญหาอยู่นะ ลอร์ด”

“มันคืออะไร?”

ไคซาร์ชี้ไปสักจุดหนึ่งเมื่อเขาพูดต่อ

“ตรงนั้นคือทางเข้า แต่ข้าเห็นบางคนเข้าไปในนั้นก่อนแล้ว”

“…?”

ตอนนั้นเอียนรู้สึกว่าทั้งโลกของเขาพังทลายลง

‘อะไรวะเนี่ย? มีคนมาถึงเร็วกว่าพวกเราได้ยังไง?’

แทนที่จะรู้สึกถึงวิกฤตที่ใครบางคนสามารถได้รับจอกศักดิ์สิทธิ์ได้ก่อน ความโกรธ (?) ที่เขาสูญเสียรางวัลผู้ค้นพบครั้งแรกของดันเจี้ยนก็ปกคลุมเขา

ต่อหน้าเฮลเลี่ยมซึ่งเข้าหาด้านข้างของเอียน เอียนจึงจ้องมองขณะที่พูด

“รีบไปกันเถอะ เราไม่สามารถเสียจอกศักดิ์สิทธิ์ไปได้”