[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]

บทที่ 416: พาสาวงามเที่ยว!

ที่อพาร์ทเมนท์ของหลิงหยุนในเมืองจิงฉู..

รถแท็กซี่คันหนึ่งเคลื่อนตัวเข้าไปจอดที่ด้านหน้าอพาร์ทเมนท์อย่างช้าๆ และหญิงสาวคนหนึ่งก็ก้าวออกมาจากรถ

หญิงสาวรูปร่างเซ็กซี่ หน้าตาสวยงาม ผิวขาวสดใส ยืนอยู่ท่ามกลางแดดจ้า ผิวของเธอสว่างไสวยิ่งกว่าชุดเดรสสีขาวที่สวมใส่อยู่เสียอีก

และเธอก็คือตำรวจหญิงคนสวยหลินเมิ่งหานนั่นเอง หลังจากหายหน้าหายตาไปจากจิงฉูราวสิบกว่าวัน หลินเมิ่งหานก็กลับมาที่นี่อีกครั้ง เธอไม่มีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาด้วย มีเพียงกระเป๋าถือผู้หญิงเล็กๆเพียงหนึ่งใบ หลินเมิ่งหานยืนนิ่งอยู่หน้าอพาร์ทเมนท์ครู่ใหญ่คล้ายกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่..

คนขับรถแท็กซี่ได้แต่จ้องมองเรือนร่างที่เซ็กซี่ของหลินเมิ่งหาน และดูเหมือนว่าคงจะไม่ยอมออกจากตรงนั้นหากบังเอิญไม่มีผู้โดยสารโบกต่อ เขาก็คงยินดีที่จะนั่งมองหญิงสาวหน้าตาสะสวยคนนี้อย่างมีความสุขต่อไปเรื่อยๆ

“ผู้หญิงอะไรสวยชิบหาย! ทั้งหน้าตา รูปร่าง.. ล้านคนจะมีสวยแบบนี้สักคน!”

คนขับรถแท็กซี่ได้แต่พึมพำกับตัวเอง ก่อนจะขับรถออกไปอย่างเสียดาย..

หลังจากที่ยืนนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ หลินเมิ่งหานก็เดินขึ้นไปรอหลิงหยุนอยู่ที่หน้าห้อง

“คนใจร้าย.. ความจริงถ้าไม่ได้เจอนาย น่าจะดีกว่า..” น้ำตาใสๆค่อยๆไหลอาบแก้มของหลินเมิ่งหาน..

……..

หลิงหยุนขับรถกลับเข้าไปในตัวเมืองจิงฉูอีกครั้งหลังจากที่เพิ่งขับออกมาจากที่นั่น..

“นี่ถังเมิ่ง.. ในจิงฉูโรงแรมใหนดีที่สุด.. บอกมาเร็วเข้า!”

วันนี้ในแหวนพื้นที่ของหลิงหยุนมีเงินสดถึงสองล้าน และเขาก็กำลังจะพาฉินตงเฉี่วยไปทานอาหารดีๆ

ถังเมิ่งตอบกลับไปโดยไม่ต้องคิด “โรงแรมแชงกรีล่า.. อาหารที่นั่นใช้ได้เลย ฉันเคยไปกินมาแล้ว! นี่พี่จะเลี้ยง..”

หลังจากได้คำตอบ หลิงหยุนก็กดตัดสายทิ้งทันที และไม่แม้แต่จะพูดตอบถังเมิ่ง วันนี้เป็นวันครอบครัว หลิงหยุนไม่สามารถพาคนอื่นไปด้วยได้

แต่เมื่อกดวางสายไปแล้ว หลิงหยุนก็เพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่า เขาไม่รู้ว่าโรงแรมนี้ตั้งอยู่ที่ใหน จึงหันไปถามหนิงหลิงยู่

“หลิงยู่.. รู้ไม๊ว่าโรงแรมแชงกรีล่าอยู่ที่ใหน?”

หนิงหลิงยู่หัวเราะคิกคักและตอบบกลับไปว่า “นี่พี่ไม่รู้จริงๆเหรอ.. ก็อยู่ตรงข้ามกับสำนักงานเขตเจียงหนานไง!”

หลิงหยุนยิ่งงงเข้าไปใหญ่ เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าสำนักงานเขตเจียงหนานอยู่ตรงใหน?

โรงแรมแชงกรีล่านั้น นับว่าเป็นแลนด์มาร์คของเมืองจิงฉูเลยก็ว่าได้ และเป็นสถานที่ที่ผู้คนส่วนใหญ่นิยมไปทานกัน และก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเฉพาะคนร่ำรวยมีฐานะเท่านั้น เพราะมีโซนสำหรับอาหารที่ราคาไม่แพงสำหรับบคนทั่วไปด้วย

และจากการนำทางของหนิงหลิงยู่ หลิงหยุนก็สามารถขับรถไปถึงหน้าโรงแรมแชงกรีล่าได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

หลัจากจอดรถเรียบร้อยแล้ว หลิงหยุนก็เดินนำฉินตงเฉี่วยและหนิงหลิงยู่เข้าไปภายในโรงแรม จัดการจ้องห้องส่วนตัวที่ดีที่สุด และเริ่มสั่งอาหาร

หลิงหยุนนั้นนับว่าเป็นชายหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร ส่วนฉินตงเฉี่วยและหนิงหลิงยู่ก็งดงามราวกับเทพธิดา ทั้งสามคนจึงตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนที่อยู่ที่นั่น บรรดาสาวเสริฟต่างก็พยายามหักห้ามใจที่จะไม่แอบมองหลิงหยุนให้บ่อยนัก ส่วนสายตาของหนุ่มนั้นก็ไม่ต่างจากสายตาของสาวๆมากนัก

หญิงสาวที่ได้พบเห็นหลิงหยุนในตอนนี้ ต่างก็พากันคิดว่าเขาคือชายหนุ่มร่างสูงที่ไม่เพียงหล่อเหลา ร่ำรวย ขับรถหรูเท่านั้น แต่ยังควงสาวสวยพร้อมกันถึงสองคน ไม่ว่าใครเห็นต่างก็อดที่จะอิจฉาหลิงหยุนไม่ได้

และเพื่อไม่ให้หนิงหลิงยู่ห้ามปราม หลิงหยุนจึงแอบสั่งอาหารกับเด็กเสริฟด้วยเสียงที่เบา เขาสั่งของที่อร่อยที่สุดและแพงที่สุดมาจำนวนมาก โดยไม่สนใจเรื่องสนนราคาแม้แต่นิดเดียว

แต่แล้วฉินตงเฉี่วยกลับเป็นฝ่ายอดรนทนไม่ได้ นางเหลือบมองหลิงหยุนพร้อมกับร้องเตือน

“นี่.. สั่งเยอะแบบนี้ เจ้ากินหมดหรือยังไง?”

หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับวางเมนูอาหารลงบนโต๊ะและหันไปพูดกับเด็กเสริฟว่า “ถ้างั้นก็พอแค่นี้ก็แล้วกัน.. น้าหญิงท่านดื่มเหล้าเป็นไม๊?”

หนิงหลิงยู่รีบร้องห้าม “พี่ใหญ่.. พี่ขับรถห้ามดื่มแอลกอฮอล์นะ..”

หลิงหยุนหัวเราะเสียงดัง “หลิงยู่.. เธอว่าหลัวจ้งจะกล้ามาจับพี่เหรอ? ต่อให้เป็นลุงถังพ่อของถังเมิ่งก็เถอะ..!”

“น้าหญิงคะ.. ดูพี่ใหญ่สิคะ เป็นแบบนี้ทุกทีเลย!” หนิงหลิงยู่หันไปฟ้องฉินตงเฉี่วย และมองนางด้วยสายตาอ้อนวอน

แต่ที่ใหนได้.. ฉินตงเฉี่วยกลับเข้าข้างหลิงหยุน นางหัวเราะคิกคักพร้อมกับบอกหนิงหลิงยู่ว่า

“ไม่เป็นไรหรอกน่า.. วันนี้น้าหญิงมีความสุขมากๆ ดื่มนิดดื่มหน่อยก็ไม่น่าจะเป็นไร! หลิงหยุน.. สั่งเหล้ามาเร็วเข้า..”

ฉินตงเฉี่ยวทำอาหารไม่เป็น ขับรถก็ไม่เป็น แต่เรื่องดื่มนั้นเป็นสิ่งที่นางชื่นชอบเป็นชีวิตจิตใจ อีกทั้งยังดื่มเก่งมากด้วย

หลิงหยุนอุตส่าห์เลือกโรงแรมที่ดีที่สุดในจิงฉูแล้ว มีหรือฉินตงเฉี่วยจะห้าม อีกทั้งนางเองก็อยากจะดื่มอยู่แล้ว!

อาหารและเหล้าถูกนำมาเสริฟอย่างรวดเร็ว ฉินตงเฉี่วยสั่งหลิงหยุนรินเหล้าให้กับหนิงหลิงยู่ด้วย และทั้งสามคนก็เริ่มรับประทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อยและมีความสุข

ฉินตงเฉี่วยดื่มเก่งมากจริงๆ และยิ่งดื่มมาก ก็ยิ่งดูจะมีความสุขมากขึ้น เมื่อครั้งที่อยู่ในโลกบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่นั้น หลิงหยุนเองก็เป็นนักดื่มตัวฉกาจคนหนึ่ง เขาเคยดื่มเหล้าเป็นพันจอกแต่ก็ไม่เคยเมา เว้นแต่เบียร์ที่เขาไม่ดื่มเพราะไม่ชอบรสชาติของมัน แต่หากเป็นเหล้าขาวหรือว่าไวน์แล้วรับรองว่าถึงใหนถึงกัน

หลิงหยุนได้แต่อึ้ง และมองน้าหลานดื่มเหล้าเหมาไถ่หมดหนึ่งขวดไปอย่างรวดเร็ว

“เอามาอีกสองขวด!”

ระหว่างที่รอหลิงหยุนรินเหล้าให้อยู่นั้น ฉินตงเฉี่วยก็ไม่รีรอ นางร้องบอกให้เด็เสริฟนำเหล้ามาเพิ่มอีกทันที

หนิงหลิงยู่ตกใจและรีบร้องเตือน “น้าหญิงคะ ท่านกับพี่ใหญ่ดื่มมากแล้วนะคะ ถ้าอยากดื่มมาก กลับไปดื่มต่อที่บ้านไม่ดีกว่าเหรอคะ!?”

ฉินตงเฉี่วยดื่มเหล้าขาวเข้าไป ใบหน้าของนางถึงกับกลายเป็นสีแดง พร้อมกับตอบหนิงหลิงยู่ไปว่า

“หลิงยู่.. ไม่ต้องห่วง น้าหญิงกับพี่ใหญ่ของเจ้าสบายมาก..”

ตั้งแต่เที่ยงจนถึงบ่ายสองครึ่ง ทั้งฉินตงเฉี่วยและหลิงหยุนต่างก็ดื่มเหล้าขาวไปทั้งหมดสามขวด แน่นอนว่าทั้งคู่ควรจะต้องเมาปลิ้นไปแล้วหากไม่ใช้กำลังภายในรีดแอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย

“เจ้าเด็กดื้อ.. คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะดื่มเก่งแบบนี้..” ฉินตงเฉี่วยพูดพร้อมกับจ้องมองหลิงหยุน

หลิงหยุนเองก็คิดไม่ถึงว่าฉินตงเฉี่วยจะดื่มมากมายขนาดนี้ เขาเองก็ไม่กล้าให้นางดื่มจนเมามาย เพราะไม่เช่นนั้นบ่ายนี้เขาคงไม่เป็นอันได้ทำอะไรแน่ ระหว่างนั้นเด็กเสริฟก็ยังคนนำอาหารขึ้นมาเสริฟเรื่อย

หลังจากที่ทั้งสามคนทานอาหารกลางวันกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว บริกรก็นำบิลค่าอาหารมาให้ หลิงหยุนโยนเงินสดสองปึกให้ไปโดยไม่พูดอะไร จากนั้นก็พาหญิงสาวทั้งสองคนเดินออกจากห้องไป

“นอกจากจะหล่อมากแล้ว ยังรวยมากอีก..” บริกรหนุ่มสองคนมองเงินที่หลิงหยุนวางไว้แล้วก็ได้แต่พึมพำออกมา

“น่าอิจฉาจริงๆ ควงสาวสวยพร้อมกันทีเดียวสองคนเชียว..!” พนักงานโรงแรมชายสองคนแอบคุยกันขณะที่มองหลิงหยุนเดินนำสาวสวยสองคนไปขึ้นรถด้วยความอิจฉา

แม้เสียงของพนักชายจะเบามาก แต่หลิงหยุนกับฉินตงเฉี่วยก็ได้ยินอย่างชัดเจน ทั้งคู่ถึงกับตกใจ แต่ฉินตงเฉี่วยนั้นถึงกับบหน้าแดง และรีบขึ้นไปบนรถทันที

“น้าหญิง.. ท่านคงต้องอยู่ที่นี่อีกหลายวัน พวกเราไปหาซื้อเสื้อผ้ากับบของใช้ที่จำเป็นกันก่อนจะดีกว่า..”

ฉินตงเฉี่วยตอบยิ้มๆ “เรื่องเสื้อผ้าข้าไม่ค่อยใส่ใจนัก แล้วแต่เจ้าก็แล้วกัน..”

หลิงหยุนพาฉินตงเฉี่วยและหนิงหลิงยู่ไปที่ย่านศูนย์กลางค้าใจกลางเมืองจิงฉูตลอดทั้งบ่าย พวกเขาทั้งกิน ดื่ม และเดินช้อปปิ้ง จนกระทั่งใช้เงินที่เหลืออยู่ในแหวนพื้นที่ไปจนหมด และรถแลนด์โรเวอร์ก็ไม่สามารถจุอะไรได้อีกแล้ว

หลิงหยุนพาหนิงหลิงยู่และฉินตงเฉี่วยไปซื้อเสื้อผ้า เขาไม่สนใจเรื่องเงินเลยแม้แต่น้อย ตราบใดที่หญิงสาวทั้งสองคนใส่แล้วสวย เขาก็หยิบเงินจ่ายทันที

สำหรับฉินตงเฉี่วยนั้น ดูเหมือนนางจะไม่แยแสกับเงินสักเท่าไหร่ หากหลิงหยุนอยากจะใช้ก็ใช้ไป แต่หนิงหลิงยู่นั้นอิดออดในตอนแรก แต่หลังจากซื้อเสื้อผ้าไปได้สองสามชุด เธอก็เริ่มสนุกกับการช้อปปิ้ง และดูเหมือนจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

ความสุขของหนิงหลิงยู่ไม่ได้อยู่ที่ราคาของเสื้อผ้า แต่อยู่ที่คนพาไปต่างหาก!

ทุกครั้งที่เห็นสายตาเป็นประกายระยิบระยับของหลิงหยุนในยามที่เห็นเธอสวมเสื้อผ้าสวยๆ หนิงหลิงยู่จะรู้สึกชื่นชอ บและพอใจสายตาเช่นนั้นของหลิงหยุนมาก..

ส่วนฉินตงเฉี่วยนั้น เพื่อไม่ให้หนิงหลิงยุ่รู้สึกเหงากับการช้อปปิ้ง นางจึงได้ช้อปปิ้งเป็นเพื่อนหลานสาว และทั้งคู่ก็ไม่ต่างจากผีเสื้อแสนสวยที่บินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ไปเรื่อย แต่กว่าจะรู้สึกตัว หนิงหลิงยู่ก็หิ้วถุงเสื้อผ้ากลับบ้านเป็นจำนวนมาก

วันนี้หลิงหยุนใช้เงินหมดไปกว่าสองล้าน และล้วนเป็นเงินสดทั้งหมด! เพราะจำนวนเงินที่มากมายขนาดนี้ วงเงินในบัตรเครดิตของเขาก็คงไม่พอ

ทั้งสามคนเดินช้อปปิ้งกันจนถึงทุ่มครึ่ง แม้หลิงหยุนกับฉินตงเฉี่วยจะยังมีพลังงานเหลือเฟือ แต่หนิงหลิงยู่กลับเดินต่อไม่ไหวแล้ว หลิงหยุนจึงพาทั้งคู่ไปทานข้าวเย็นต่อ

ทั้งสามคนรับประทานอาหารเย็นเสร็จตอนสามทุ่มพอดี จากนั้นหลิงหยุนก็พาหนิงหลิงยู่ และฉินตงเฉี่วยกลับบ้านพักผ่อน