“เพราะถังหนิงมาทำให้ผมสนใจในตัวเธอแล้วก็ทำลายมันด้วยมือของเธอเอง ในฐานะคนที่ไม่ชอบถูกเอาเปรียบ ผมเลยต้องเผชิญหน้าตาต่อตากับเธอไง” หันซิวเช่อตอบ “ถังหนิงมาท้าทายผมแล้วเธอก็ยังหวาดกลัวเกินกว่าจะโผล่หน้ามาอีก ตอนแรกเธอไปหลบอยู่ที่อังกฤษจากนั้นก็หนีไปอเมริกา ถ้าคุณจะโทษใครสักคนก็ต้องโทษถังหนิงแล้วล่ะครับ
“อันที่จริงผมก็ไม่ได้ต้องการให้คุณทรมานมากนักหรอก คุณแค่ยกหุ้นให้ผมสักหน่อยแล้วให้ผมเป็นนายใหญ่ก็พอ ถ้าคุณทำให้ผมได้ ผมก็จะปกปิดเรื่องนี้แล้วเอสเอเจก็จะถ่ายทำต่อไปได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น” เขาว่าขึ้น “ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้เช้าทุกคนจะได้รู้ว่าเอสเอเจถูกจับได้ว่าเสพยา เมื่อเวลานั้นมาถึง ไม่เพียงแต่ความพยายามทั้งหมดของคุจะสูญเปล่า แต่จู้ซิงมีเดียจะต้องเดือดร้อนไปด้วย”
“ฉันไม่ใช่คนเดียวที่ตัดสินใจเรื่องของจู้ซิงมีเดียได้หรอกนะ”
“ผมรู้ว่าหลินเฉี่ยนเองก็ถือหุ้นอยู่แต่หุ้นส่วนใหญ่ก็อยู่ในมือของคุณนี่ครับ” เขาเอ่ยพลางมองหน้าหลงเจี่ย “ผมรับรองได้ว่าผมจะบริหารจู้ซิงมีเดียเป็นอย่างดี และมันจะไม่แย่ไปมากกว่าที่เป็นอยู่หรอกครับ
“เว้นเสียแต่คุณจะอยากเห็นจู้ซิงมีเดียต้องปิดตัวลง”
หลงเจี่ยนึกไม่ถึงว่าหันซิวเช่อจะขุดหลุมพรางให้เธอตกลงไปลึกขนาดนี้
ตอนนี้ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจอย่างไรก็ไม่มีทางเลือกไหนที่ดีทั้งนั้น
“คิดให้ดีๆ นะครับ…” หันซิวเช่อพูดขณะที่นั่งลงบนโซฟาและรอคำตอบของเธอ “อย่าลืมว่าผมมีวิดีโออยู่ในมือแล้วมันก็เห็นหน้าชัดเจนด้วย…ที่สำคัญที่สุกคือถ้าทั้งสี่คนถูกเปิดโปงว่าเสพยา คนอาจจะโทษคุณว่าปล่อยปละละเลยและปิดบังความผิดให้พวกเขาทั้งที่คุณเป็นผู้จัดการด้วยนะครับ”
เธอหลับตา รู้สึกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้มันแย่กว่าครั้งที่โดนหลานซีหักหลังเสียอีก
มากไปกว่านั้นเธอไม่เคยเชื่อใจหลานซีแต่ไม่ใช่กับหันซิวเช่อ
“ฉันไม่ชอบถูกข่มขู่…”
หันซิวเช่อยักไหล่อีกครั้ง “แต่ว่ามันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมนี่…”
“ถังหนิงทำอะไรให้คุณเจ็บปวดนักหนา ทำไมคุณต้องเกลียดเธอขนาดนั้นด้วย”
“คุณต้องไปถามเธอเองแล้วล่ะ” เขาสวนกลับอย่างเย็นชา “หลงเจี่ย ผมไม่อยากจะเสียเวลามากไปกว่านี้นะ ทุกวันนี้คุณจัดการจู้ซิงมีเดียอยู่ ผมจะซื้อหุ้นของคุณตามราคาตลาดในปัจจุบัน คุณจะได้ไม่เสียผลประโยชน์ไง นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมจะให้คุณได้แล้ว
“ถ้าคุณไม่รับเงินของผมและถอนตัวไปโดยไม่เสียหายอะไรก็ต้องพังไปด้วยกัน ผมจะให้เวลาคุณคิดสามวินาทีนะครับ”
มาถึงจุดนี้ หลงเจี่ยจะทำอะไรได้อีก
“คุณรับปากได้ไหมว่าคุณจะไม่ทำอะไรกับจู้ซิงมีเดีย” หลงเจี่ยถาม
“ผมรับปากว่าตราบใดที่ผมเป็นนายใหญ่ของจู้ซิงมีเดีย ผมจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ”
มันอยู่ในกรณีที่เขายังเป็นนายใหญ่อยู่
หลงเจี่ยสูดหายใจลึก หันซิวเช่อเป็นคนหัวหมอและเธอเองก็โง่เง่าเกินไป หากเธอระวังเขาต่อไป ทุกอย่างจะลงเอยแบบนี้ไหมนะ
“ตัดสินใจว่ายังไงล่ะครับ”
“ฉันมีทางเลือกอื่นด้วยเหรอ”
“ผมชอบที่คุณรู้จักยอมรับชะตากรรมของตัวเองนะครับ ยังไงจู้ซิงมีเดียก็เป็นของถังหนิงมาตั้งแต่ต้นแล้ว ตอนนี้คุณช่วยเธอชดใช้สิ่งที่เธอทำไว้ ต่างฝ่ายต่างมีความสุข”
หลงเจี่ยหันไปมองหันซิวเช่อก่อนว่าถากถาง “ฉันไม่รู้ว่าถังหนิงไปท้าทายอะไรคุณหรอกนะ แต่ฉันรู้ว่าเธอจะต้องทวงจู้ซิงมีเดียคืนมาจากคุณแน่ๆ ”
“ผมจะรอให้มันเกิดขึ้นแล้วกันนะครับ…”
หันซิวเช่อเตรียมการมาอ่างดี เขาหยิบสัญญาโอนหุ้นและมีทนายความมาเป็นสักขีพยานด้วย ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในพริบตาเดียว ไม่มีใครคาดคิดว่าจู้ซิงมีเดียที่ครั้งหนึ่งเคยเลื่องชื่อจะถูกเปลี่ยนมือเจ้าของในชั่วข้ามคืน
หันซิวเช่อรักษาคำพูดและปล่อยให้เอสเอเจถ่ายทำต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เว้นแต่เรื่องที่จู้ซิงมีเดียถูกเปลี่ยนมือเจ้าของไปแล้ว
คนที่หลงเจี่ยเฝ้าผลักดันและทุ่มเทปั้นขึ้นมาพลันถูกเปลี่ยนเป็นของคนอื่น
และทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะถังหนิง…
ถึงกระนั้นหลงเจี่ยไม่ได้บอกหันซิวเช่อว่าถังหนิงกำลังจะกลับจีน
เมื่อเอสเอเจรู้ว่าหลงเจี่ยออกจากบริษัทไปแล้วพวกเขาก็พุ่งเข้าไปหาเธอที่ห้องทันที เมื่อประตูปิดลงพวกเขาก็คุกเข่าลงทันที “หลงเจี่ย เราไม่ได้ตั้งใจนะครับ ได้โปรดยกโทษให้พวกเราเถอะ…เราไม่รู้ว่าหันซิวเช่อใช้พวกเราเป็นเครื่องมือ”
หลงเจี่ยเก็บเสื้อผ้าลงในกระเป๋าและนั่งหันหลังให้สมาชิกทุกคนอยู่บนเตียง “พูดตอนนี้แล้วได้อะไรขึ้นมาล่ะ พวกเธอตั้งใจกับการถ่ายทำต่อไปเถอะ…”
“หลงเจี่ย…เราทำให้คุณอับอายเหรอครับ”
“แล้วพวกเธอจะให้ฉันทำยังไงล่ะ” หลงเจี่ยถามขณะที่หันมา “ฉันให้ทุกอย่างของฉันไปหมดแล้ว ต่อไปนี้พวกเธอก็ดูแลตัวเองไปแล้วกัน” พูดจบเธอก็คว้ากระเป๋า เดินผ่านสมาชิกทั้งสี่คนออกไปจากโรงแรม
ในขณะเดียวกันไม่ห่างออกไป หันซิวเช่อกำลังเอนตัวพิงหินพร้อมรอยยิ้มงาม “ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องเสียใจขนาดนี้นะครับ หลงเจี่ย ลาก่อน…”
หลงเจี่ยไม่ได้พูดอะไรสักคำขณะที่เธอออกจากโรงแรมไป
เธอยังคงไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร และไม่อาจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้
หากแต่เธอก็ไม่อาจโทษใครได้
อย่างไรก็ตามหลงเจี่ยไม่ได้กลับปักกิ่ง เธอแค่ย้ายไปพักที่โรงแรมอื่นและเอาแต่นั่งเหม่อลอย เธอไม่รู้ว่าหันซิวเช่อจะวางแผนอะไรไว้อีก แต่ถึงเขาจะมีแผนมากกว่านี้ เธอก็ไม่มีอารมณ์จะมาสู้รบตบมือกับเขา
…
เมื่อผู้จัดการของหันซิวเช่อรู้ว่าเขาแย่งจู้ซิงมีเดียมาจากหลงเจี่ยได้แล้ว เธอหันไปตะโกนด่าเขาทันที “ไอ้สารเลว!
“หลงเจี่ยไม่ได้ทำอะไรให้คุณเลย คุณนี่มันเลวจริงๆ ต่อไปนี้ฉันจะไม่ช่วยอะไรคุณอีกแล้ว ฉันจะบอกให้พี่ชายของคุณหาผู้จัดการคนอื่นให้คุณ…”
“เรื่องของเธอสิ”
“หันซิวเช่อ คอยดูเถอะ ถังหนิงจะต้องทำให้คุณพบจุดจบที่เลวร้ายแน่ๆ ”
“ตอนนี้เธอกลัวเกินกว่าจะโผล่ออกมาด้วยซ้ำ” หันซิวเช่อหัวเราะ
ผู้จัดการไม่ได้โต้ตอบอะไร เดิมทีวันนี้เธอต้องไปรับศิลปินคนอื่นที่สนามบิน ทว่าบังเอิญเห็นคู่รักโม่กลับจีนมาอย่างเงียบๆ
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะปลอมตัวอย่างแนบเนียน เรียวขาของถังหนิงก็เป็นที่สังเกตอยู่ดี
อีกอย่างมีโม่ถิงอยู่ข้างๆ ทั้งคน จะจำเธอไม่ได้ได้อย่างไร
หากแต่ในเมื่อหันซิวเช่อมั่นใจขนาดนั้น มันก็ไม่มีเหตุผลที่เธอจะต้องบอกสิ่งที่เธอเห็นให้เขารู้
ในเมื่อเขาชอบเล่นเกมนัก เธอก็จะปล่อยให้ถังหนิงสั่งสอนเขาให้รู้จักเชื่อฟังบ้าง
ในขณะเดียวกันหลังจากหันซิวเช่อกลับมาปักกิ่ง สิ่งแรกที่เขาทำคือการติดต่อหม่าเวยเวย “เรียบร้อยแล้วล่ะครับ”
“คุณจะให้จู้ซิงมีเดียกับฉันจริงๆ เหรอ โดยไม่เสียเงินเหรอ” หม่าเวยเวยถามอย่างสงสัย “ฉันไม่มีเงินหรอกนะคะ”
“แน่นอนว่าไม่เสียเงินสิครับ คุณจะทำอะไรกับมันก็ได้ ต่อให้มันจะดีกว่าถ้าคุณจะล้มมันก็ตาม ยังไงก็อย่างลืมป่าวประกาศให้คนรู้เรื่องนี้ด้วยล่ะครับ”
หม่าเวยเวยได้ครอบครองหุ้นของจู้ซิงมีเดียอย่างเป็นทางการแล้ว หากสื่อรู้เรื่องนี้เข้า พวกเขาจะต้องเสียสติแน่ๆ
ว่าแต่ของๆ ถังหนิงมาตกอยู่ในมือของสำเนาของเธอได้อย่างไรกัน
นี่เป็นการแสดงชุดใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น หันซิวเช่อไม่เชื่อว่าถังหนิงจะทนอยู่เงียบๆ ถ้ามันเกิดขึ้น
…
ในเวลาเดียวกันสิ่งแรกที่ถังหนิงทำหลังจากกลับมาถึงจีนคือการโทรหาหลงเจี่ย หากแต่อีกฝ่ายกลับปิดเครื่อง
เจ้าตัวบอกไว้ว่าเธอจะไปทำงานที่ต่างประเทศ ดูท่าแล้วเธอน่าจะยังไม่กลับมา