“เธอแน่ใจนะ “สวีหว่านเอ๋อร์มองไป๋หลานอย่างสงสัย
ไป๋หลานก็พยักหน้า สวีหว่านเอ๋อร์ก็พยักหน้าด้วยความพอใจ เพราะเวลาผ่านนานขนาดนี้แล้ว ล้วนเป็นไป๋หลานที่คอยอยู่ข้างๆ วางแผนให้เธอ
“ได้ งั้นฉันจะรอข่าวดีจากเธอ”
พอถึงตอนเย็น ซูฉิงก็มาเยี่ยมอู๋เทียนเหอที่โรงพยาบาล ยวี๋น่าก็กำลังเตรียมตัวจะกลับ และตอนที่เห็นยวี๋น่าเดินเข้ามาก็แสดงความตกใจอย่างเห็นได้ชัด
“ยวี๋น่า ”
ซูฉิงเอ่ยทักทาย แล้วก้มหน้ามองผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียง แล้วเอ่ยถาม”อู๋เทียนเหอ ขาของนายเป็นยังไงบ้าง รู้สึกดีขึ้นมาบ้างมั้ย”
คิดไม่ถึงว่าอู๋เทียนเหอจะทำเหมือนไม่ได้ยินเสียงเธอ เพียงแค่หันมองออกไปทางนอกหน้าต่าง แม้แต่ยวี๋น่าที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างก็หลบตาไม่พูด
ซูฉิงสัมผัสได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ แล้วหันไปมองยวี๋น่า “เป็นอะไรไป พวกเธอ……มีเรื่องอะไรรึเปล่า”
ยวี๋น่าได้ยินอย่างนั้นก็เงยหน้าขึ้นฝืนยิ้มให้กับซูฉิง แล้วก็ฉุดแขนเสื้อของเธอ”ไม่มีอะไร …….พวกเราออกไปพูดข้างนอกกันเถอะ อย่ารบกวนการพักผ่อนของเทียนเหอเลย”
รอยยิ้มที่ยิ้มอย่างฝืนๆ นั้น ซูฉิงสามารถมองออก
แต่ว่าเธอก็ไม่พูดอะไร แล้วเดินตามยวี๋หน้าออกไปจากโรงพยาบาล
เห็นยวี๋น่ายังมีท่าทางเศร้าใจ ซูฉิงก็อดที่จะเดินตามไปจับแขนของเธอให้หยุด”ยวี๋น่า เมื่อกี้ในห้องพักผู้ป่วย เธอกับอู๋เทียนเหอล้วนมีท่าทีแปลกๆ พวกเธอเป็นอะไรกัน เกิดอะไรขึ้น”
“ฉันตัดสินใจเลิกกับเทียนเหอแล้ว ตามที่เขาอยากเลิก ” เห็นซูฉิงมีท่าทีเป็นห่วง ในที่สุดยวี๋น่าก็พูดออกมา พร้อมทั้งร้องไห้ออกมา
“ทำไม”ซูฉิงถามอย่างแปลกใจ
ความรู้สึกที่ยวี๋น่ามีต่ออู๋เทียนเฟอนั้น คนมีตาต่างก็ดูออก ไม่งั้นก็คงไม่ไปตามหาเขาในขณะที่เกิดภัยพิบัติอย่างนั้นหรอก แล้วทำไมอยู่ดีๆ ก็ถึงได้ตกลงที่จะเลิกกันละ
“เธอไม่ใช่ไม่อยากจะเลิกกับอู๋เทียนเหอมาตลอดหรือ แล้วทำไม……..”
ยวี๋น่าส่ายหน้า สูบจมูก พยายามควบคุมอารมณ์ แล้วเงยหน้าขึ้นมองซูฉิง จากนั้นก็เล่าเรื่องคร่าวๆ ของเธอที่ไปดื่มเหล้ากับหลินนานที่ร้านบาร์ และจากนั้นทั้งสองก็เกิดมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันขึ้นที่โรงแรมให้ซูฉิงฟัง
“อะไรนะ?! เธอกับหลินหนาน……..”ซูฉิงที่ได้ฟังเรื่องจนจบก็ตกใจมาก
ไม่ว่ายังไงก็ตามเธอก็คิดไม่ถึงว่า ฉากเหมือนในละครจะเกิดขึ้นกับยวี๋น่า
“ฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นอย่างนี้ได้ยังไง “ยวี๋น่าส่ายหน้าพร้อมกับขอบตาแดงก่ำ
เห็นยวี๋น่าเป็นอย่างนี้ ซูฉิงก็ถามอย่างเป็นห่วง “แล้วเธอคิดยังไง ที่จริงแล้ว เรื่องนี้มันก็เป็นอุบัติเหตุ…….”
“ไม่ “ยวี๋น่าส่ายหน้า เธอเป็นผู้หญิงหัวโบราณ เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นกับตัวเอง เธอก็ไม่รู้จะพูดกับอู๋เทียนเหอยังไง
เทียนเหอ จะรับเธอได้มั้ย
“ซูฉิง ฉันรักเทียนเหอมาก ในใจของฉันมีแต่เขาคนเดียว……แต่ว่าฉันนั้นไปมีอะไรกับหลินหนานแล้ว เกิดเรื่องผิดพลาดอย่างนี้ขึ้น ไม่สามารถย้อนกลับไปได้ ฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะบอกเรื่องนี้กับเทียนเหอยังไงดี เขาจะต้องรับไม่ได้แน่”
“ในเมื่อเรื่องเป็นอย่างนี้ งั้นฉันก็เคารพการตัดสินใจของเธอ เลิกกับเขา……..เพียงแค่เขารักษาหาหายดีแล้ว ฉันก็จะไม่เจอกับเขาอีก เมื่อถึงตอนนั้นฉันก็จะกลับไปเริ่มตนชีวิตใหม่ที่ฝรั่งเศส ส่วนเรื่องทั้งหมดที่นี่…….”
เธอก้มหน้าลง หัวเราะเยาะตัวเอง
“ฉันจะคิดเสียว่ามันเป็นเพียงแค่ฝัน แล้วก็จะลืมมันไปซะ”
ซูฉิงรู้สึกหดหู่มาก เธอรู้ว่าตอนนี้นี้จิตใจของยวี๋น่าไม่ดีแน่ เธอตบเข้าที่ไหล่ของยวี๋น่า พูดด้วยน้ำเสียงดึงดัน”ยวี๋น่า ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจยังไง ฉันก็สนับสนุนเธอ”
ยวี๋น่าพยักหน้า แล้วก็ฝืนยิ้ม “เอาละ ได้ยินเธอพูดอย่างนี้ ฉันก็สบายใจขึ้นมา ฉันจะกลับแล้ว เธอก็รีบกลับไปเถอะ ”
ซูฉิงคิ้วขมวดมองยวี๋น่าเดินจากไปเหมือนกลับมาสบายใจมากขึ้นแล้ว อยากจะพูดอะไรแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกมา
เธอจะต้องรู้สึกเสียใจมากแน่เลย
……….
หลินหนานมองโทรศัพท์ที่ไม่ได้รับ ก็คิ้วขมวด
ผ่านมาหนึ่งวันกับหนึ่งคืนแล้ว ยวี๋น่าก็ไม่รับสายของเขา โทรไม่ติดหรือบางทีโทรติดแล้วแต่ก็ไม่มีคนพูด
แม้แต่ไปหาเธอที่โรงแรม ยวี๋น่าก็หลบหน้าไม่มาเจอ
หลินหนานที่ตอนนี้รู้สึกไม่ดี เขาอยากจะคุยกับยวี๋น่า กลับไม่มีวิธีไหนที่จะได้เจอเลย
คิดอยู่ชั่วครู่ หลินหนานคิดออกว่าจะให้ซูฉิงช่วย
พี่ฉิงกับพี่น่าเป็นเพื่อนรักกัน น่าจะรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน
สิบนาทีต่อมา หลินหนานเคาะประตูบ้านซูฉิง
“ใคร “ซูฉิงที่อยู่ในห้องส่งเสียงถาม แต่ตอนที่เธอเดินมาเปิดประตู และตอนที่เธอเห็นว่าเป็นหลินหนาน จากใบหน้าที่ยิ้มแย้มก็พลันหายไป แล้วหันหลังเดินกลับพูดเสียงเรียบ”นายมาที่นี่ทำไม”
หลินหนานเข้ามาในห้องแล้วพูดกับซูฉิงอย่างซื่อๆ “พี่ฉิง พี่รู้มั้ยว่าพี่น่าอยู่ที่ไหน เขาไม่รับโทรศัพท์ผมเลย ผมอยากจะคุยกับเขา แต่ว่าผมติดต่อเขาไม่ได้เลย…..”
ซูฉิงเลิกคิ้วถาม”คุยหรอ นายจะให้ยวี๋น่ามาคุยกับนาย หลินหนาน ไม่ใช่ว่าฉันจะว่านายนะ นายก็โตแล้ว และยังเป็นนักแสดง ทำไมยังไม่รู้ตัวอีกว่าควรทำอะไร คืนวันนั้นน่าน่าดื่มจนเมาไม่ได้สติ นายก็ยังยอมไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนเธอ จน…….”
ซูฉิงพูดไม่จบ รู้สึกกระดากปากเกินไป
เธอหยุดแล้วพูดต่อว่า”นายก็เห็นอยู่ว่า ยวี๋น่านั้นรักอู๋เทียนเหอ ยังทำเรื่องอย่างนี้ได้ยังไง! ตอนนี้ยวี๋น่ารู้สึกผิดต่ออู๋เทียนเหอ ตอนนี้เธอนั้นยุ่งมากจะมีอารมณ์มาเจอนายหรอ ฉันว่านายกลับไปก่อนเถอะไม่ต้องตามหาเธอแล้ว!”
หลินหนานที่ยืนนิ่งอยู่กับที่ พูดติดอ่าง “พี่ฉิง พี่ พี่รู้เรื่องผมกับพี่น่าแล้วหรอ”
ซูฉิงที่ตอนนี้อารมณ์เย็นลงมาก เธอคิ้วขมวด”เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะไม่รู้ได้ยังไง ตอนนี้ยวี๋น่าเธอเสียใจมาก นายอย่าไปรบกวนเธอเลย”
“พี่ฉิง “หลินหนานปิดเปลือกตาลง เหมือนกับกำลังรวบรวมพลัง แล้วเงยหน้าพูดกับซูฉิง”ที่จริงแล้ว ผมแอบชอบพี่น่ามาตลอด ผมอยากจะเป็นแฟนของเธอ วันนั้น……วันนั้นที่ได้เจอเธอที่ร้านบาร์เป็นเรื่องบังเอิญ ผมเห็นพี่น่าเสียใจ ก็อยากจะดื่มเป็นเพื่อนเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าจะดื่มจนเมา แล้วก็ทำเรื่องที่ไม่ควรทำ”
หลินหนานที่ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกเสียใจ และรู้สึกผิดต่อยวี๋น่า เขาก็คิดไม่ถึงว่าจะเกิดมาถึงขั้นนี้ แต่จะพูดอะไรตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว
ตอนนี้เขาอยากเจอ ยวี๋น่ามากที่สุด ตอนนี้มีเพียงซูฉิงเท่านั้นที่ช่วยเขาได้
“พี่ฉิง ผมรู้ว่าผมผิด ผมไม่ควรวู่วาม แต่ว่าผมก็ได้คิดดีแล้ว ผมอยากจะรับผิดเขา อยากจะขอร้องพี่น่า ให้เธอเป็นแฟนของผม ขอให้พี่ช่วยผมด้วย!”หลินหนานพูดอย่างจริงใจออกมา
“นายพูดจริงหรอ “ซูฉิงเม้มปากถาม