“ผมพูดจริง และจริงจังมาก!”หลินหนานตอบกลับทันที พร้อมกับพยักหน้ารัวๆ เหมือนกับไก่จิกข้าวสารก็ไม่ปาน
เขารู้ตัวเขาดียิ่งกว่าใคร ยวี๋น่าเป็นคนที่เขาจะต้องปกป้อง
และยิ่งเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น แม้ว่าสองจะเกิดขึ้นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เขาที่ในฐานะเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง ก็ต้องรับผิดชอบ
ซูฉิงรู้สึกลังเลเล็กน้อย เธอรู้ว่าคนที่ยวี๋น่ารักนั้นเป็นใคร แต่หลินหนานก็มีความจริงใจ เธอ…….
“เอ่อ……….”
หลินหนานที่เห็นซูฉิงผ่อนคลายลงบ้าง ก็อดที่จะก้าวไปข้างหน้าแล้วจ้องตาเธอ พร้อมกับทำหน้าคุ้นเคยและจริงใจ
“พี่ฉิง ผมสาบานว่าผมชอบยวี๋น่าจริงๆ ผมอยากจะปกป้องเธอตลอดชีวิต พี่ช่วยผมหน่อยนะ!”
“………..โอเค”ซูฉิงมองหน้าของหลินหนาน ก็เหมือนจะไม่ได้พูดโกหก สุดท้ายก็ตอบตกลงที่จะช่วย
แต่ว่าเธอรู้นิสัยของยวี๋น่าดี อย่าว่าแต่ต่อไปนี้ ช่วงนี้เธอจะต้องไม่อยากจะหลินหนานแน่
ใจร้อนไม่ได้
ซูฉิงนิ่งแล้วพูดกับหลินหนาน :”เอาอย่างนี้นะ นายกลับไปก่อน อย่าพึ่งผลีผลาม และสองวันนี้นายห้ามไปรบกวนยวี๋น่า ให้เธอได้อยู่คนเดียวเงียบๆ ก่อน”
หลินหนานได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มออกมา เข้าใจในความหมายที่ซูฉิงพูดพร้อมกับพยักหน้า
“ได้ ได้ ครับ งั้นผมกลับไปก่อนนะ พี่ฉิง รบกวนพี่ช่วยพูดกับเธอหน่อยนะ–”
หลินหนานที่เดินออกไปอย่างอารมณ์ดี ซูฉิงที่มองเบื้องหลังของเขาด้วยแววตากังวล จากนั้นก็ส่ายหน้าไปมา แล้วก็เดินกลับเข้าไปในห้องหนังสือ รีบทำงานของตัวเอง
โรงพยาบาล
ถังรั่วอิงนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย หันมองไปทางหน้าประตู
เธอรอนานแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นเงาของฮ่อหยุนเฉิงเลย แม้เขาจะมาจากเมืองY แล้วก็ไม่เคยมาที่โรงพยาบาลเลยสักครั้ง
หรือว่าเขาคืนดีกับซูฉิงแล้วหรอ
ไม่ ไม่ใช่แน่ พี่เฉิงเป็นของเธอ!
ถังรั่วอิงยิ่งคิดยิ่งรู้สึกร้อนใจ เลิกผ้าห่มออกแล้วลุกขึ้นนั่ง หยิบเอาโทรศัพท์ที่หัวเตียงขึ้นมาแล้วโทรหาฮ่อหยุนเฉิง
“ฮัลโหล พี่เฉิง………”
น้ำเสียงรวยรินของถังรั่วอิงดังไปตามสาย
ฮ่อหยุนเฉิงที่มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ อีกมือข้างหนึ่งก็เปิดเอกสาร “ถังถัง มีอะไรหรอ”
เสียงอ่อนโยนของฮ่อหยุนเฉิงก็ดังมาตามสาย ถังรั่วอิงก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ฮ่อหยุนเฉิงส่งเสียงขึ้นมาอีกครั้งเธอถึงเรียกสติกลับคืนมาแล้วพูดเสียงเบา :”พี่เฉิง หลายวันมานี้พี่ยุ่งกับงานหรอ ฉันไม่เจอหน้าพี่นานแล้วนะ”
“พึ่งกลับมาจากเมือง Y ไม่นน ช่วงนี้ที่บริษัทมีงานเยอะให้ฉันต้องจัดการ ปลีกเวลาไม่เยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลไม่ได้เลย”
ได้ยินฮ่อหยุนเฉิงว่าอย่างนี้ ถังรั่วอิงก็ถอนหายใจโล่ง
ไม่ว่ายังไง ฮ่อหยุนเฉิงไม่ได้อยู่กับซูฉิงก็ดีแล้ว
แต่ว่าถ้าหากเป็นอย่างนี้…..
ถังรั่วอิงเม้มริมฝีปาก แล้วก็พูดว่า:”พี่เฉิง ก่อนหน้านี้ฉันได้ถามคุณหมอกับพยาบาล พวกเขาบอกว่าอาการของฉันดีขึ้นแล้ว!”
เธอยิ้ม แล้วก็ได้ตั้งใจฟังเสียงของฮ่อหยุนเฉิงที่อยู่ปลายสาย และลองพูดว่า:”แต่ว่าอยู่แต่ในโรงพยาบาลจนเบื่อแล้ว……..พี่เฉิง ฉันอยากจะออกจากโรงพยาบาล ไปพักที่บ้านของพี่”
บ้านของเขางั้นหรอ
ฮ่อหยุนเฉิงคิ้วขมวดเป็นปม
เขาคิดไม่ถึงว่าถั่วรั่วอิงจะร้องขออย่างนี้ออกมา แต่ว่าตอนนี้พอมาคิดดูแล้ว…..ก็เป็นเรื่องประจวบเหมาะพอดี
ฮ่อหยุนเฉิงนึกถึงแผนของเขากับซูฉิงคิดวางแผนไว้ จากนั้นก็ตอบตกลงออกไป แล้วพูดกับถั่วรั่วอิงว่า:”ได้ งั้นคืนนี้เธอก็นอนพักผ่อนนะ พรุ่งนี้ฉันจะไปรับเธอและจัดการค่ารักษาให้”
……………
เวลาเก้าโมงเช้าของวันต่อมา ฮ่อหยุนเฉิงก็มาที่ห้องพักผู้ป่วยตามที่นัดไว้เพื่อมารับถังรั่วอิง
ถั่วรั่วอิงเก็บของเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว แม้แต่ชุดของโรงพยาบาลก็เปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว
ตอนที่เห็นฮ่อหยุนเฉิงเดินเข้ามา ถังรั่วอิงก็ยิ้มบานออกมา “พี่เฉิง ในที่สุดพี่ก็มารับฉันแล้ว”
“อืม ” ฮ่อหยุนเฉิงเห็นเธอยิ้มอย่างอ่อนโยนเขาก็ส่งเสียงตอบ “ฉันได้จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายเรียบร้อยแล้ว มารับเธอกลับบ้าน”
กลับบ้าน?
พอได้ยินคำนี้ ถังรั่วอิงก็ยิ้มออกมา และยังมีความเขินอายอยู่ด้วย
ในเมื่อฮ่อหยุนเฉิงพูดมาอย่างนี้ งั้นก็แสดงว่าใจของผู้ชายคนนี้มีจะต้องมีเธออยู่!
แม้แต่ซูฉิง เกรงว่าจะเป็นเพียงแค่อดีตไปแล้ว
ถังรั่วอิงหุบยิ้มแล้วเงยหน้าขึ้นมองหน้าฮ่อหยุนเฉิง แล้วพยักหน้าแรงๆ
หากเป็นอย่างนี้ต่อไป แผนของเธอคงใกล้จะสำเร็จแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นเธอก็จะมาแทนที่ซูฉิงอย่างเป็นทางการกลายเป็นคุณนายแห่งตระกูลฮ่อ
ผู้หญิงคนนั้น สุดท้ายแล้วก็เป็นแค่คนต้องเรียกว่ามือที่สาม
รถยนต์ขับไปบนเส้นทางเมืองใหม่สุ่ยเยว่
ถังรั่วอิงเอามือคล้องแขนฮ่อหยุนเฉิง คลอเคลียเขาเหมือนกับนกคลอเคลียคน
“พี่เฉิง ถ้าหากว่าฉันย้ายไปอยู่ที่บ้านของพี่ละก็….คุณซูจะไม่โกรธหรอ”
ถังรั่วอิงที่ทั้งพูดทั้งหันไปมองฮ่อหยุนเฉิง ดูท่าทีของเขา
เธอต้องใจพูดถึงซูฉิงต่อหน้าฮ่อหยุนเฉิง เพื่อจะรอดูว่าเขาคิดยังไงกับซูฉิง
และผลที่ได้คือ ฮ่อหยุนเฉิงที่กำลังดูโทรศัพท์อยู่ ไม่รู้ว่าใครส่งข้อความมา และพอได้ยินคำถามของถังรั่วอิง เขาก็หน้าขรึมลง
“เธอจะโกรธอะไร ตอนนี้ฉันไม่มีอะไรกับเธอแล้ว เธอก็วางใจเถอะ ถ้างานที่บริษัทไม่ยุ่งฉันก็จะกลับมาบ้านบ่อยๆ ”
ถังรั่วอิงได้ยินอย่างนั้นก็พยักหน้า แล้วก็นั่งอย่างว่าง่ายไม่ถามต่ออีก แต่ว่าริมฝีปากยกยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
ดูท่าซูฉิงจะไม่มีตำแหน่งในใจของฮ่อหยุนเฉิงแล้ว
ไม่นานรถก็ขับมาถึงเมืองใหม่สุ่ยเยว่ ถังรั่วอิงก็เดินตามฮ่อหยุนเฉิงเข้าบ้าน แล้วมองห้องที่ประดับตกแต่งอย่างอยากรู้อยากเห็นและเซอร์ไพรส์
ฮ่อหยุนเฉิงนำกระเป๋าเดินทางของเธอวางไว้ข้างตู้เสื้อผ้า แล้วพูดกับถังรั่วอิง:”เอาละ ต่อไปเธอก็พักที่นี่นะ ห้องทางซ้ายเป็นห้องของเธอ ฉันจะให้คนย้ายของของเธอมาที่นี่”
“รบกวนพี่แล้วพี่เฉิง”
ถังรั่วอิงยิ้มเขินแล้วพูดขอบคุณเบาๆ
คิดไม่ถึงว่าวินาทีต่อมา ซูฉิงก็ปรากฏตัวที่หน้าบ้าน “ฉันกลับมาเอา–”
เธอพูดยังไม่จบ ก็มองเห็นฮ่อหยุนเฉิงกับถังรั่วอิงยืนอยู่ที่ห้องรับแขก และมือของฮ่อหยุนเฉิงก็วางอยู่บนหัวของถังรั่วอิง
ถังรั่วอิงได้ยินเสียงก็หันกลับไปดู
พูดด้วยใบหน้าตกใจ”ซูฉิง เธอไม่ได้ยังไง”
ซูฉิงที่อึ้งตะลึงไปชั่วครู่ ก็คิ้วขมวดเผยแววตาโกรธออกมา
เธอรีบเดินเข้ามา ได้ยินคำพูดของถังรั่วอิงก็ทนไม่ไหว แววตาเต็มไปด้วยความไม่ยอม “ทำไมฉันจะมาไม่ได้ ฉันเป็นว่าที่สะใภ้ที่คุณปู่ฮ่อหยุนเฉิงอย่างเป็นทางการ ดีกว่าผู้หญิงอย่างเธอที่ใช้วิธีสกปรกเพื่อที่จะได้ครอบครองบ้านคนอื่นหรอก”
“และยิ่งไปกว่านั้นของของฉันอยู่ที่นี่ และฉันยังมีกุญแจของเมืองใหม่สุ่ยเยว่ แล้วทำไมฉันจะมาเอาไม่ได้ หรือว่าจะต้องขออนุญาตเธอก่อนงั้นหรอ ไม่ดูตัวเองเลยนะว่าเป็นใคร”
ซูฉิงพ่นหายใจออกมาเสียงดัง และมองถังรั่วอิงตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างดูถูก
เมื่อกี้เธอได้รับข้อความจากฮ่อหยุนเฉิง ดังนั้นเลยมาที่นี่ และนี่ก็เป็นหนึ่งในแผนการด้วย