บทที่ 32 มังกรศักดิ์สิทธิ์

ข้าแค่อยาก “กิน” อย่างเงียบๆ

รุ่งเช้าวันถัดมา

“เจียงหวู่ เจียงหลี่ วันนี้พวกแกต้องตาย”

เจียงหยวนพูดพลางใช้นิ้วคีบหญ้าที่มีใบคมกริบสีแดงสลับเขียวตรงหน้า ก่อนที่ดวงตาจะจ้องมองไปที่หอมังกรศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่นอกหน้าต่างห้องพักของเขา

“ดิ้ง…พลังภายในธาตุไฟยกระดับ ระดับธาตุไฟอยู่ระดับต่ำ ประสิทธิภาพธาตุไฟเพิ่มสูงขึ้นมาก ทักษะที่ใช้พลังภายในธาตุไฟและเคล็ดวิชาที่ใช้พลังภายในธาตุไฟรุนแรงขึ้น โอกาสที่ทักษะไฟหยางดอกบัวเขียวถูกใช้เพิ่มสูงขึ้น”

“ดิ้ง…พลังภายในธาตุไฟของท่านยกระดับ ทักษะและเคล็ดวิชาที่ใช้พลังภายในธาตุไฟยกระดับ”

“ดิ้ง…ทักษะระดับเหลืองขั้นสูง ก้าวย่างอัคคียกระดับเป็นทักษะระดับสูงขั้นสูงก้าวย่างดอกบัวคราม”

“ดิ้ง…ระดับบ่มเพาะของท่านเพิ่มขึ้น ระดับบ่มเพาะของท่านเพิ่มขึ้นสองระดับ ท่านทะลวงข้ามขั้น ท่านอยู่ในระดับจอมยุทธหนึ่งดาว”

เมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังในจุดตันเถียนที่คุ้นเคย เจียงหยวนก็รู้สึกดีขึ้นมาอย่างที่สุด

-ระดับจอมยุทธ ข้ากลับมาแล้ว-

-ว่าแต่ ไอ้ยกระดับธาตุไฟอะไรนี่มันคืออะไรหว่า-

ในขณะครุ่รคิดในเรื่องนี้ เจียงหยวนก็ได้ลองกางมือของตัวเองออก นี่ทำให้บังเกิดเปลวไฟที่มีรูปร่างราวกับดอกบัวสีเขียวครามได้ปรากฎอยู่กลางฝ่ามือ

สุดยอด

ความแตกต่างของเส้นชีพจรยุทธกับพลังภายในนั่นก็คือ ชีพจรยุทธเป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิด แตกต่างจากพลังภายในที่เกิดจากการสั่งสมฝึกตน

แต่ทั้งสองก็ยังมีความเหมือนกันที่สามารถแสดงพลังทำลายออกมาได้อย่างน่าฉงน และแน่นอนว่า ประเภทของธาตุพลังทั้งสองมีส่วนเกี่ยวข้องกันอยู่

แต่เขาไม่เคยนึกมาก่อนว่าระบบของเขาจะยกระดับพลังภายในนี้ได้

สุดยอดเกินไปแล้ว

เพียงแค่ได้รับสมุนไพรหายากมาเพียงชิ้นหนึ่ง กลับยกระดับให้เขาได้มากมายถึงขนาดนี้ และนี่ทำให้เจียงหยวนเต็มไปด้วยมั่นใจในการต่อสู้กับเจียงหวู่และเจียงหลี่

“นายน้อย งานประมูลกำลังจะเริ่มแล้ว ไปกันเถอะเจ้าค่ะ”

เฉียวเว่ยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานจากด้านนอกประตู

“ไปกัน”

หอการค้ามังกรศักดิ์สิทธิ์ พื้นที่ค้าขายที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผู้บ่มเพาะในเมืองเทียนหยาง สถานที่แห่งนี้มีกองกำลังมากมายที่ได้เข้าออกในทุกๆปี มีทั้งการหาซื้อ ขายของ หรือแม้แต่การแลกเปลี่ยนเม็ดยา สมุนไพร รวมถึงตำราทักษะเคล็ดวิชายุทธ อย่างไรก็ตาม สิ่งของเหล่านี้อยู่ในระดับพื้นๆเพียงเท่านั้น

เจียงหยวนที่เดินดูสิ่งของต่างๆ ตอนนี้เขายังไม่เห็นอะไรเข้าตาเลยแม้แต่น้อย ตัวเขาที่ในตอนนี้อยู่ในระดับจอมยุทธ ของธรรมดาเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ไม่ดึงดูดสายตาของเจียงหยวนแต่อย่างใด

ถึงแม้ว่าตระกูลหวังจะเป็นเพียงตระกูลเล็กๆ แต่พวกเขาก็ยังได้รับสิทธิห้องส่วนตัวจากหอการค้ามังกรศักดิ์สิทธิ์

เพียงแค่ก้าวเดินเข้าไป หญิงสาวในชุดหวือหวาก็ได้เดินออกมาต้อนรับ

หวังเย่เองก็ได้ใช้โอกาสนี้ชี้ไปที่เจียงหยวนแล้วพูดออกมา “มอบห้องนี้ให้กับสองคนนี้ แล้วข้าจะไปใช้พื้นที่ที่เคยใช้เมื่อก่อน แล้วก็ ข้ามีสิ่งที่ต้องส่งมอบให้เฒ่าหลี่ด้วย”

“ได้เจ้าค่ะ นายน้อย คุณหนู เชิญทางนี้ค่ะ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ หญิงสาวก็รีบมองไปยังเจียงหยวนและเฉียวเว่ยด้วยรอยยิ้มในทันที

หลังจากก้าวเดินตามหญิงสาวไป เจียงหยวนก็ถูกพาไปยังห้องที่ปิดมิดชิดห้องหนึ่ง ข้างในมีเพียงเก้าอี้เอนหลังกับโต๊ะไม้เล็กๆโต๊ะหนึ่งเพียงเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีผ้าสีขาวผืนหนึ่งที่แขวนไว้กับผนังห้อง

หญิงสาวที่เห็นท่าทางมึนงงของเจียงหยวนก็ได้เผยรอยยิ้มแล้วพูดออกมา “นายน้อยผู้สูงศักดิ์ นี่คงเป็นครั้งแรกที่ท่านทั้งสองได้มายังหอการค้ามังกรศักดิ์สิทธิ์ใช่หรือไม่”

เจียงหยวนเกาหัวไปทีหนึ่งก่อนจะตอบด้วยท่าทางอับอายออกไป “ถูกต้อง แล้วหากข้าต้องการที่จะประมูลสิ่งของจะต้องทำเช่นไร”

“ห้องพิเศษนี้จะมีความพิเศษตรงที่สามารถถ่ายทอดเสียงไปยังห้องใดก็ได้ และสามารถกั้นเสียงจากห้องอื่นได้เช่นเดียวกัน”

เมื่อพูดจบ หญิงสาวได้เดินไปข้างหน้า ก่อนจะผายมือไปที่ผ้าสีขาว

“สิ่งนี้คือผ้าฉายภาพ มันจะแสดงฉากเหตุการณ์เบื้องล่างให้ปรากฎ นี่จะทำให้ตัวตนของผู้คนในห้องพิเศษนี้ไม่รั่วไหลออกไป”