บทที่ 31 สมุนไพรเป็นเหตุ

ข้าแค่อยาก “กิน” อย่างเงียบๆ

“ปล่อยเจ้าไปรึ งั้นข้าขอถามเจ้าหน่อยว่าพ่อของข้า เจียงเหวิ่น ได้ทำผิดต่อเจ้าตั้งแต่เมื่อใดกัน”

เจียงหยวนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา พลางสั่งกระบี่ก่อร่างความยาวสามนิ้วของตนกดลงไปบนคอของหวังเย่จนมีเลือดไหลออกมาเป็นทางยาว

“เมื่อไม่กี่วันก่อน ข้าพบดงสมุนไพรหนึ่งบนหุบเขาหมาป่าสวรรค์แล้วได้เก็บกลับมา แต่เจียงหวู่ที่ไม่รู้ว่าไปได้ยินเรื่องนี้มาจากที่ไหนได้มาที่ตระกูลของข้า แล้วทำตัวราวกับว่าข้าได้ติดข้างบุญคุณมันเอาไว้ พร้อมกับข่มขู่ข้าว่าจะทำให้ตระกูลของข้าล่มสลาย”

หวังเย่ได้พูดออกมาเบาๆในขณะที่ดวงตาพยายามเหลือบมองกระบี่ก่อร่างของเจียงหยวนที่จ่ออยู่ที่คอ

เจียงหยวนที่ได้ยินก็มีท่าทางสนใจในทันทีจนต้องถามออกมา “สมุนไพรใดกัน”

เมื่อหวังเย่ได้ยินแบบนี้ก็รีบพูดตอบออกมาในทันที “เป็นสมุนไพรระดับต่ำ หญ้าตะวันคลั่ง หากนายน้อยใหญ่ต้องการ ตาแก่ผู้นี้ยินดีที่จะมอบมันให้ท่านกับมือทั้งสองข้างของข้า(หมายถึงน้อมส่งให้ด้วยความยินดี)”

“หญ้าตะวันคลั่งรึ มันเป็นหญ้าอาทิตย์ครามที่เข้มมากจนเหมือนเหมือนกับหญ้าตะวันคลั่งรึเปล่า มันนานแล้วนะที่พวกมันไม่ปรากฎในหุบเขาหมาป่าสวรรค์ของพวกเรา แถมทุกครั้งที่พวกมันปรากฎออกมามันจะถูกเฝ้าไว้ด้วยฝูงสัตว์ปีศาจอีกนี่”

ก่อนที่เจียงหยวนจะได้พูดอะไรต่อ หลิวเฟิงที่อยู่ข้างๆก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา

“เป็นของจริง ข้ายืนยันได้”

เจียงหยวนพยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนจะพูดต่อ “บอกแผนการวันพรุ่งให้ข้าฟังสิ แล้วข้าอาจจะปล่อยพวกเจ้าไป เพียงแต่พวกเจ้าห้ามยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลเจียงอีก”

“พรุ่งนี้ ที่หอประมูลมังกรศักดิ์สิทธิ์ จะมีการประมูลสมบัติลับที่นั่น ข้าเองคิดจะประมูลสมบัติชิ้นนั้นด้วยหญ้าตะวันคลั่ง”

“และในระหว่างนั้น ข้าจะต้องให้คนนำผงสลายพลังกับท่านผู้นำตระกูลเจียง”

“หลังจากที่ท่านผู้นำตระกูลเจียงประมูลหญ้าตะวันคลั่งนี้ไปแล้ว จะมีคนที่แกล้งไปปล้นชิงหญ้านี้จากท่านผู้นำตระกูลเจียงแล้วฆ่าเขาซะ”

เมื่อพูดจบ หวังเย่ก็ได้ถอดถอนลมหายใจออกมาแล้วพูดต่อ “ต้องขอบคุณท่านจริงๆท่านนายน้อยใหญ่ ในวันพรุ่งข้าจะพาคนในตระกูลหวังทั้งหมดออกไปจากเมืองเทียนหยางแห่งนี้”

เป็นตอนนี้เองที่มุมสายตาของเจียงหยวนได้เผยให้เห็นอาการแปลกๆ ก่อนที่เขาจะพูดออกมา “ไม่ใช่ในวันพรุ่ง วันพรุ่งนี้ข้าต้องให้เจ้าอยู่แสดงละครไปก่อน แต่เป้าหมายคือหม่าเหยา”

หวังเย่ที่ได้ยินก็ไม่กล้าจะถามอะไรมาก เขาเพียงแค่พูดตอบรับออกมา “ได้ ข้าจะดำเนินการตามแผนการของท่านในวันพรุ่ง นายน้อยเองก็โปรดเตรียมตัวให้พร้อมก็แล้วกัน”

“เดี๋ยว มอบหญ้าตะวันคลั่งมาให้ข้าก่อน”

หวังเย่ที่ได้ยินก็นึกสับสนแล้วเร่งถามออกมา “เอ่ออออ ข้ามอบให้ท่านได้ก็จริง แล้ว…จะให้ข้าทำเช่นไรเรื่องการประมูลวันพรุ่งล่ะ”

เจียงหยวนส่ายหน้าไปมาก่อนจะพูดตอบ “มอบหญ้าฟื้นพลังให้ข้าต้นหนึ่ง หญ้าฝันนิรันดร์สองต้น หญ้าแดงสี่แฉกสองต้น แล้วก็ผงหินอีกสักหยิบมือนึงก็พอ”

ถึงแม้ว่าตระกูลของหวังเย่จะไม่ได้มีสมุนไพรมากมาย แต่สมุนไพรที่เจียงหยวนบอกมาทั้งหมดนั้นเขามีครบ นี่จึงทำให้หวังเย่รีบให้คนของตนไปนำมาให้โดยไม่ถามว่าเอามาทำอะไร

ไม่นานหลังจากนั้น สมุนไพรต่างๆก็ได้มาครบ

เจียงหยวนได้นำสมุนไพรทั้งหมดตรงเข้าห้องว่างห้องหนึ่งไป

หลังจากเจียงหยวนประสานมืออยู่ครู่หนึ่ง เตาหลอมยาที่เต็มไปด้วยอักขระก็ได้ปรากฎ

ในตอนนี้ หลังจากตัวยาทั้งหลายได้ถูกไฟเผาไหม้สิ่งเจือปนไปจนหมด กลิ่นหอมของตัวยาก็ได้ฟุ้งกระจายไปทั่วสวนของตระกูลหวัง เจียงหยวนก็ได้เดินออกมาจากห้องของตนด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ก่อนจะถือยารวมพลังระดับสูงจำนวนสามเม็ดเอาไว้ในมือแล้วยื่นออกไป

“เจ้าสามารถใช้ยาทั้งสามเม็ดนี้ในการประมูลได้”

“ยารวมพลังรึ ด้วยเวลาสั้นเพียงเท่านี้แต่กลับหลอมมันได้ถึงสามเม็ด นี่มันสัตว์ประหลาดโดยแท้”

เป็นตอนนี้ที่หลิวเฟิงได้อุทานออกมาอย่างไม่อาจเก็บเอาไว้ได้อีก พร้อมใจที่คิดได้ว่าตนเองเลือกติดตามคนถูกจริงๆรึเปล่า เพราะคนที่เขาเลือกติดตามนั้นไม่ใช่อัจฉริยะ แต่เป็นสัตว์ประหลาดขนานแท้

หวังเย่ขมวดคิ้วแน่นพลางพูดออกมา “ถึงแม้ว่ายาเม็ดรวมพลังพวกนี้จะมีราคาสูง แต่ข้าเกรงว่าเมื่อเทียบกับสมบัติลับชิ้นนั้นแล้ว…”

“ดูดีๆก่อน”

เจียงหยวนพูดพลางส่งเม็ดยาทั้งสามใส่มือของหวังเย่

หลังจากที่ได้เห็นลวดลายที่ปรากฎบนเม็ดยารวมพลังอย่างชัดเจน หวังเย่ก็ถึงกับนิ่งอึ้งไป

“ระดับสุดยอด..เม็ดยารวมพลังระดับสุดยอด”

ถึงแม้ว่าหวังเย่จะทำเพียงแค่หาสมุนไพรไปขาย แต่เขาเองก็รู้เรื่องเกี่ยวกับเม็ดยาอยู่ไม่น้อย

เจียงหยวนที่เห็นท่าทางของหวังเย่แล้วก็รีบพูดออกมาราวกับเริ่มรำคาญ “น่าจะพอแล้วนะ เอาล่ะ ส่งหญ้าตะวันคลั่งให้ข้าสักที”