“คุณชาย! เจียเหวินผู้นี้เป็นคนที่มีอิทธิพลในเมืองนี้ และเขาก็ยังทำความชั่วไว้มากมาย คนในเมืองนี้ต่างก็รับรู้เรื่องนี้ดี! เจ้าควรกลับคำเสียไม่เช่นนั้นเจ้าจะต้องเสียใจกับเรื่องนี้!”

“ใช่แล้ว!”

“…”

ผู้คนที่อยู่รอบข้างพยายามเกลี้ยกล่อมนาง หากแต่ซูหวานหว่านก็พูดออกมาว่า “ขอบคุณสำหรับความหวังดีของพวกท่าน แต่ว่าวันนี้เป็นวันที่ฟ้าประทานโชคลาภมาให้ข้า ข้าจะไม่รับมันได้อย่างไรกัน? พวกท่านต้องเป็นพยานให้ข้า เมื่อข้าได้เงินหนึ่งร้อยตำลึงมาแล้ว ข้าจะแบ่งปันให้เงินพวกท่านเล็กน้อย”

ซูหวานหว่านพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับหยิบหินออกมาสองก้อนแล้วยื่นเงินให้กับพ่อค้าที่กำลังตัดหินอยู่ แต่แล้วหญิงสาวก็พูดขึ้น “เดี๋ยวก่อน!”

“เป็นอะไร? เจ้าจะกลับคำพูดอย่างงั้นรึ?” เจียเหวินหัวเราะเสียงดัง “หากเจ้าคิดกลับคำ ข้าจะถือว่าเจ้าแพ้การเดิมพัน!”

หลังจากพูดออกมาอย่างนั้น เจียเหวินก็ขยิบตาให้กับคนใช้แล้วก็พูดออกมาทันทีว่า “ไปเอาพู่กัน หมึก กระดาษ และหินหมึกมาร่างสัญญาทาสที่นี่”

ความหมายมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว ถ้าซูหวานหว่านไม่เดิมพันตั้งแต่แรกนางก็จะไม่ถูกบังคับให้ลงนามสัญญาทาสนั่น! ทุกต่างรู้สึกตื่นตระหนก แต่ซูหวานหว่านกลับยังนิ่งเฉย “คุณชายเจีย อย่าเพิ่งรีบร้อนไป! ข้าว่าท่านควรเตรียมเงินหนึ่งร้อยตำลึงเอาไว้ก่อนจะดีกว่า!”

พูดจบซูหวานหว่านก็เดินเข้าไปและทาแป้งบนหินไปสองสามครั้ง จากนั้นนางก็หยิบเครื่องมือของพ่อค้าแผงลอยขึ้นมาแล้วเคาะลงไปบนเปลือกหินสีดำ ไม่นานหินก็แตกออกเป็นชั้น ๆ แต่ว่าข้างในของหินมันยังคงเป็นสีดำ!

เจียเหวินหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง “เจ้าจะพยายามไปเพื่ออะไร? สุดท้ายเจ้านั้นแหละที่จะต้องเป็นคนอับอายเสียเอง!”

“มันก็ไม่แน่เสมอไปหรอก” ซูหวานหว่านยังคงมีท่าทางสงบนิ่ง และยังคงเคาะก้อนหินต่อไป แต่ภายในหินสีดำนั้นมันยังเป็นสีดำ! และก็เศษหิน!

ณ ตอนนี้ คนรับใช้ของเจียเหวินนำสัญญามาเป็นที่เรียบร้อย เจียเหวินโยนสัญญานั่นใส่ซูหวานหว่านพร้อมกับพูดว่า “หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว! รีบลงนามซะ! รองเท้าของข้าสกปรกมาก เจ้าจงมาเลียทำความสะอาดซะ!”

แต่เมื่อสิ้นเสียงของเจียเหวินก็ปรากฏสีเขียวบนหินในมือของซูหวานหว่าน จากนั้นหญิงสาวก็หยิบเปลือกหินที่กะเทาะออกโยนทิ้งไป เผยให้เห็นว่าข้างในหินเป็นสีเขียวมรกตคล้ายกับหยก!

สีเขียวนี้ เป็นสีเขียวเหมือนหยกมาก!

แน่นอนว่าสามารถนำหินนี้ไปทำเครื่องประดับ และขายมันได้ในราคาเจ็ดร้อยหรือแปดร้อยตำลึง! และถ้าช่างมีฝีมือชำนาญมากพอที่จะแกะสลักเป็นลวดลายก็สามารถทำเป็นของขวัญให้กับซุนซ่างชูได้ แน่นอนว่าในอนาคตต่อไปการทำการค้าในเมืองนี้ของเขาก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปแน่ ๆ!

เจียเหวินทั้งประหลาดใจและดีใจ กำลังจะเข้าไปหยิบหินเขียวนั้น แต่ถูกฉีเฉิงเฟิงเข้ามายืนขัดขวางเอาไว้ และหยิบสัญญาทาสในมือของเจียเหวินมาฉีกพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “คุณชายเจีย เจ้าแพ้แล้ว นำเงินหนึ่งร้อยตำลึงมาให้พวกเราเสีย”

เงินหนึ่งร้อยตำลึงก็ถือว่าเป็นเงิน! เขาไม่อยากให้! เจียเหวินมองไปที่ซูหวานหว่านด้วยใบหน้ามืดมน “พวกเจ้าสองคนคือคนที่อยู่บนเรือในวันนั้นใช่หรือไม่? แน่นอนว่าข้ายังไม่ได้จัดการพวกเจ้าในเรื่องนี้ ทว่าพวกเจ้าก็ควรมอบก้อนหินก้อนนี้มาให้ข้าสิถึงจะถูก แล้วข้าจะไม่เอาความพวกเจ้าเลย!”

อยากได้ก้อนหินที่อยู่ในมือของนางอย่างงั้นหรือ? อีกทั้งยังมาพูดข่มขู่นางด้วยการที่อ้างเอาเรื่องที่เกิดขึ้นบนเรือมาพูด ยังมีหน้ามาพูดจาแบบนี้กับนางอีก! ซูหวานหว่านถอนหายใจออกมาอย่างเย็นชา เก็บก้อนหินเอาไว้ในห่อผ้าพร้อมกับพูดเยาะเย้ยออกมาว่า “ถ้าเจ้าไม่อยากให้ข้าพูดถึงรายละเอียดที่เกิดขึ้นบนเรือในวันนั้น เจ้าก็เอาเงินหนึ่งร้อยตำลึงมาให้ข้าก่อน”

“นี่เจ้า!” ทำไมจู่ ๆ กลายเป็นอีกฝ่ายที่เอ่ยขู่เขาขึ้นมาได้? แต่ถ้าเขาไม่ให้และข่าวเรื่องนี้แพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้าง ชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไรกัน! เจียเหวินกัดฟันแน่นและให้คนใช้นำเงินหนึ่งร้อยตำลึงมาให้กับซูหวานหว่าน

แต่หญิงสาวก็ไม่ได้เอาเงินเก็บเอาไว้ใช้เอง นางกลับแจกจ่ายเงินให้กลุ่มชาวบ้านที่ยืนเป็นพยานให้นางทันที “ขอบคุณสำหรับการที่มายืนเป็นพยานให้แก่ข้า เงินหนึ่งร้อยตำลึงนี้ข้าจะแบ่งให้กับทุกคน! คุณชายเจียเหวินดูท่าจะเป็นไก่อ่อนไปเสียแล้ว พวกเรามามีความสุขด้วยกันดีกว่าที่ชนะเขาได้!”

เรียกเขาว่าไก่อ่อนอย่างงั้นหรือ? เมื่อได้ยินเช่นนี้เจียเหวินก็หน้าซีด โกรธจนตัวสั่นจนอยากที่จะเดินจากไป แต่เขาก็เหลือบจ้องมองไปยังหินพนันที่ซูหวานหว่านยังไม่ได้กระเทาะเปลือกผิวออก เขาโยนเงินสองเหรียญไปที่แผง และพูดกับเจ้าของร้านว่า “งั้นหินก้อนนี้ ข้าเอานะ!”

“ตกลง!” พ่อค้ารับเงินมาพร้อมกับพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม คิดไม่ถึงเลยว่าซูหวานหว่านที่เอาเศษขยะไปจากเขา เปิดออกมามันจะหินหยกที่มีมูลค่าได้ เขาพลันรู้สึกไม่มีความสุขขึ้นมา เมื่อได้รับเงินมาจากเจียเหวิน พ่อค้าก็หยิบเงินอีกครึ่งหนึ่งที่ซูหวานหว่านให้ไว้ก่อนหน้านี้ออกมาและพูดว่า “คุณชาย ต้องขอโทษด้วย หินพนันนี้…”

“ไสหัวไปให้พ้น! เนื่องจากหินนี้เป็นเป็นหินที่ซื้อขายแล้ว ตอนนี้เห็นได้ชัดว่ามันคือของข้า เจ้าจะซื้อมันไปได้อย่างไรกัน?” ซูหวานหว่านยิ้มออกมา พร้อมกับหยิบหินที่นางซื้อขึ้นมาใส่ไว้ในอ้อมกอดของตัวเอง “ข้าจะบอกอะไรให้กับพวกเจ้าได้ฟังกัน ข้าเกิดในเมืองที่มีการเล่นการพนันหินมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นมีหรือที่จะไม่เคยเห็นการพนันหินชนิดต่าง ๆ มาก่อน หินพนันก้อนนี้ถ้าดูผิวเผินอาจจะเหมือนก้อนหินธรรมดา แต่ที่จริงแล้ว…” มันก็เป็นแค่เศษขยะ!

ซูหวานหว่านพูดไปครึ่งประโยค ทว่าก็ทำเอาทุกคนพากันตกใจ เมื่อเห็นว่าหินก้อนนั้นมีราคา พวกเขาจึงคิดว่าหินก้อนสามารถเป็นหินหยกได้ด้วยเช่นกัน และแน่นอนเจียเหวินก็ต้องการมัน เขาโยนเงินให้หนึ่งร้อยตำลึงออกมาพร้อมกับพูดว่า “การพนันหินมีความเสี่ยงสูง และดูเหมือนว่าข้างในหินจะมีหยกอยู่แน่ ๆ! หนึ่งร้อยตำลึงนี้สำหรับเจ้า ข้าต้องการมัน!

“นี่…” ซูหวานหว่านแสร้งทำเป็นถามและพูดช้า ๆ “แน่นอนว่าหินพนันก้อนนี้ต้องดีมากแน่ ๆ! และมันจะต้องมีขนาดใหญ่กว่าก้อนที่ข้าเพิ่งกะเทาะออกมาอย่างแน่นอน! เป็นไปไม่ได้ที่คุณชายเจียจะไม่รู้เรื่องนี้ อีกทั้งถ้าเอามันไปแกะสลักทำเป็นเครื่องประดับ งานศิลปะอาจจะขายได้ถึงพันตำลึง แต่ว่าเจ้ากลับให้เงินข้าแค่เพียงหนึ่งร้อยตำลึงเท่านั้น… นี่มันจะไปเพียงพอที่ไหนกัน!”

เงินหนึ่งร้อยตำลึงก็ให้มากพอแล้วนะ! ยังไม่พอใจอีก! เจียเหวินรู้สึกโกรธเคือง แต่เมื่อคิดว่าวันเกิดของซุนซ่างชูกำลังใกล้เข้าแล้ว และเขาก็ยังหาหยกเนื้อดี ๆ ไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงนำเงินออกมาพันตำลึงสำหรับการซื้อหินพนัน “แค่นี้พอหรือไม่?”

ซูหวานหว่านรีบเก็บเงินเอาไว้ทันที พร้อมกับวางหินนั้นลงบนพื้นแล้วถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ราวกับว่านางกำลังจะสูญเสียของที่มีค่ามากไป “ในเมื่อคุณชายเจียอยากได้และมีความจริงใจเช่นนี้ ข้าจะขายมันให้ก็ได้! ไม่อยากที่จะพูดว่าในเมื่อสิ่งนี้เขาเรียกว่ามันเป็นการพนันหินนั้นก็แปลว่ามันคือการเสี่ยงโชค คุณชายเจียเจ้าอยากจะลองคิดดูใหม่อีกสักครั้งหรือไม่?”

จะคิดใหม่ด้วยเหตุใดกัน! เมื่อมองไปยังท่าทางของซูหวานหว่าน ก็คิดว่านางคงอยากที่จะหลอกให้เขาเล่นการพนันนี้อีกรอบ เขาจึงส่ายหัวออกมาพร้อมกับพูดว่า “คุณชายอย่างข้านั้นมีเงินมากมาย! แล้วมันจะเป็นอะไรไปที่ข้าอยากที่จะซื้อหินพนันนี้ไปสักชิ้น? เจ้าก็แค่รับเงินไป แล้วไสหัวไปให้ไกล ๆ ข้าก็แค่นั้น อย่ามาขวางทางข้าอีก!”

“ถ้าเจ้าพูดออกมาอย่างนั้น ข้าก็…เฮ้อ” หลังจากถอนหายใจ ซูหวานหว่านก็หมุนกายเดินจากไปทันทีพร้อมกับเงินที่อยู่ในอ้อมแขน นางยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย ทำให้ฉีเฉิงเฟิงรู้ได้ในทันทีว่าหินนั้นมันเป็นหินธรรมดาเท่านั้น!

ไม่นานหลังจากที่ทั้งสองคนเดินจากไป เจียเหวินก็อยากให้พ่อค้าแผงลอยนั้นช่วยผ่าหินออกให้เขาทันที แต่เขาก็กลัวว่าพ่อค้าแผงลอยจะผ่าไปโดนเนื้อหยกด้านใน จึงขอให้ห่อหินพนันด้วยผ้าฝ้ายอย่างดี และนำหินพนันนี้ไปที่ร้านหยก ‘เตี้ยนสือเซิง’ ขอให้ช่างมีฝีมือผ่ามันออกอย่างระมัดระวัง หลังจากผ่าไปหนึ่งชั้น ก็พบว่ามันเป็นเพียงหินธรรมดา พอผ่ามันเข้าไปอีกก็ยังคงเป็นหินธรรมดา!

เจียเหวินไม่อยากจะเชื่อ และบอกให้ช่างผ่ามันออกเป็นสองส่วน ซึ่งเขาก็ต้องตกใจเป็นอย่างมาก มันเป็นเพียงก้อนหินธรรมดาเท่านั้น! เขาเอาเงินทั้งหมดไปซื้อก้อนหินธรรมดาเพียงก้อนเดียวกลับมาเท่านั้น!

เจียเหวินรู้สึกหมดหนทาง เขาส่งเสียงคำรามออกมาในทันที “ใครก็ได้! จับเขามาให้ข้าที! ข้าจะฆ่ามันให้ตาย!”

เมื่อทุกคนได้เจียเหวินพูดแบบนี้ ทุกคนก็พากันพูดคุยซุบซิบเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันที จากนั้นซูหวานหว่านก็ปรากฏตัวขึ้นในร้าน ‘เตี้ยนสือเซิง’ พร้อมกองหินพนัน!

และก็เงยหน้าขึ้นมองสบตาเจียเหวิน!