“บัดซบ พวกเขาหลบหนีไปได้”

ฉางซื่อเซิงมีสีหน้าที่บิดเบี้ยว เขาสังเกตเห็นว่ากลุ่มเจ็ดนักฆ่ามือฉมังนั้นได้หายไปจากจุดเดิมอย่างกะทันหัน หายไปโดยที่ไร้ร่องรอย

“นี่มันเรื่องอะไรกัน? ทำไมพวกเขาถึงหลบหนีออกไปจากการห้อมล้อมของพวกเราได้อย่างกะทันหันเช่นนี้?”

บางคนที่รู้สึกงุนงงอย่างมาก

“นี่คือยันต์พิเศษของพวกปีศาจต่างถิ่น มีพลังอำนาจที่ไม่สามารถคาดฝันได้ สามารถที่จะหลบหนีไปจากจุดเดิมอย่างกะทันหัน มันมีพลังอำนาจของห้วงมิติอยู่ ทว่ายันต์นี้เป็นสิ่งที่ล้ำค่าเช่นกัน ไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนปกติธรรมดาจะมีได้”

ชายชราพูดออกมาอย่างเคร่งขรึม เขานั้นได้ผ่านการต่อสู้กับปีศาจต่างถิ่นมานับครั้งไม่ถ้วน ล่วงรู้ถึงวิธีการต่างๆของฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเชน ทว่าเขาก็ไม่คาดคิดว่าปีศาจต่างถิ่นเหล่านี้จะมียันต์ที่พิเศษอยู่เช่นกัน

“ทว่าการที่ปล่อยให้พวกปีศาจต่างถิ่นหลบหนีไปได้เช่นนี้ หากพวกเรานำเรื่องนี้ไปรายงานกับท่านบรรพบุรุษเก่าแก่ นี่จะไม่ใช่เป็นความผิดที่ร้ายแรงหรือ?”

บางคนที่พูดออกมาด้วยสีหน้าที่หม่นหมอง

อย่างแรกไม่ต้องพูดถึงการที่พวกเขาทำภารกิจล้มเหลว เพียงแค่การปล่อยให้ปีศาจต่างถิ่นที่ชั่วร้ายเหล่านี้หลบหนีไปได้นั้น ในอนาคตจะต้องเกิดปัญหาที่ยิ่งใหญ่ตามมาอย่างแน่นอน แค่คิดพวกเขาก็สั่นเทาด้วยความหวาดกลัว

“ไม่ต้องเป็นกังวลไป ในตอนนี้ทั่วทั้งเมืองฮวายหนิงนั้นปกคลุมไปด้วยค่ายกล ผนึกฟ้าปิดกั้นพสุธา พวกเขาไม่สามารถที่จะหลบหนีไปจากเมืองฮวายหนิงได้ ตราบใดที่พวกเราทำการสำรวจหาอย่างละเอียด ไม่ช้าก็เร็วจะต้องตามหาเจ้าพวกปีศาจต่างถิ่นเหล่านั้นได้” จิตสังหารของฉางซื่อเซิงเดือดดาลออกมา เพื่อที่จะทำการซุ่มโจมตีและสังหารปีศาจต่างถิ่นเหล่านี้ให้สิ้นซากนั้น เขาจึงได้จัดเตรียมค่ายกลไว้ล่วงหน้า

“ยอดเยี่ยม!”

ผู้คนต่างก็พยักหน้า จากนั้นพวกเขาก็แยกตัวกันออกไปตามหากลุ่มเจ็ดนักฆ่ามือฉมังเหล่านั้นทันที เมื่อใดที่พบเจอ สามารถที่จะจัดการในทันที ไม่จำเป็นที่จะต้องรอคนอื่นๆ

………….

ในช่วงเวลานี้ กลุ่มเจ็ดนักฆ่ามือฉมังได้เคลื่อนย้ายมาที่มุมหนึ่งของเมืองฮวายหนิง

เดิมทีพวกเขาต้องการที่จะเคลื่อนย้ายออกไปจากเมืองฮวายหนิง ทว่ากลับถูกค่ายกลของเมืองฮวายหนิงสกัดกั้นไว้ การที่พื้นที่แห่งนี้ถูกปิดกั้นไว้นั้น ดังนั้นพวกเขาจึงตกลงมากลางคัน ตกลงมาสู่พื้นที่ห่างไกลแห่งหนึ่ง

ยิ่งไปกว่านั้นถึงแม้ว่าพวกเขาจะหลบหนีออกมาอย่างรวดเร็ว ทว่าการที่เผชิญกับการโจมตีของฉางซื่อเซิงและคนอื่นๆก่อนหน้านี้นั้น มันก็ส่งผลให้จิตวิญญาณของพวกเขาได้รับเสียหายอย่างหนัก สูญเสียพลังการต่อสู้ไปถึง90%

ตอนนี้พวกเขากำลังหอบหายใจกันอย่างหนัก ทั่วทั้งร่างกายมีเลือดไหลออกมา อยู่ในสภาวะที่บาดเจ็บสาหัส

“บัดซบ อันที่จริงกลุ่มของคนเหล่านั้นค้นพบพวกเราได้อย่างไรกัน? ไม่คาดคิดว่าจะถูกห้อมล้อมได้ เกือบที่จะตายด้วยน้ำมือของกลุ่มชาวพื้นเมือง นี่มันเป็นความอัปยศ เป็นความอัปยศที่ยิ่งใหญ่ อ๊าก!”

ฟางกุ่ยโมโหอย่างมาก เขาได้คำรามออกมาอย่างเสียงดัง ในฐานะที่เป็นนักฆ่านั้น ไม่คาดคิดว่าจะมีสักวันที่ตนเองถูกศัตรูห้อมล้อมโดยที่ไม่รู้ตัว นี่มันช่างเป็นความอัปยศอดสูอย่างแท้จริง

“ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินกลุ่มพวกบัดซบเหล่านั้นพูดถึงบรรพบุรุษเก่าแก่สักอย่าง บอกว่าต้องการจับตัวอู๋ไท่โต่ว ดังนั้นจึงได้ห้อมล้อมพวกเรา” ขงนั่วกัดฟันพูดออกมา “อีกทั้งดูเหมือนว่าพวกเขานั้นจะไม่ได้ต้องการจับตัวพวกเราโดยเฉพาะ แต่ว่าต้องการจับตัวเจ้าอู๋ไท่โต่วนี้ เป็นการที่ได้รับข้อมูลผิดๆมา จึงได้ปรากฏขึ้นมาที่รังชั่วคราวของพวกเรา”

“บัดซบ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็เป็นเหมือนกับแพะรับบาปอย่างนั้นหรือ? ช่างเป็นเคราะห์ร้ายที่ไม่คาดคิด อันที่จริงเจ้าบัดซบอู๋ไท่โต่วนี่เป็นใครกัน ข้าจะสังหารเขาในทันที”

น้องสองเหมาปู้โมโหจนกระอักเลือดออกมา แค่คิดว่าพวกเขานั้นเกือบที่จะถูกสังหารโดยชาวพื้นเมือง เขาก็เดือดระอุอย่างมาก ไม่ได้ตายไปด้วยน้ำมือของเซนต์เพชฌฆาตบ้าคลั่ง แต่เกือบที่จะต้องตายไปด้วยความเข้าใจผิดที่เกี่ยวโยงกับบุคคลที่มีนามว่าอู๋ไท่โต่ว

สถานการณ์ที่หดหู่เช่นนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะอดทนอดกลั้นได้

หากก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้ตัดสินใจอย่างรวดเร็วและหลบหนีออกมาโดยที่ใช้ยันต์เคลื่อนย้ายขนาดเล็กซึ่งได้ซื้อมาในราคาแพงนั้น บางทีพวกเขาอาจจะต้องตายไปจริงๆ

เรียกได้ว่านี่มันเป็นความอาฆาตแค้นที่ไม่มีที่สิ้นสุด

“อู๋ไท่โต่ว”

“ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ใด ก็อย่าให้ข้าได้พบเจอเจ้าเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นข้าจะทำให้เจ้าได้ชดใช้อย่างสมสม!” ฟางกุ่ยคำรามออกสู่ท้องฟ้า เขานั้นเกลียดชังเจ้าอู๋ไท่โต่วนี่จนถึงไขกระดูกทั้งๆที่ไม่เคยพบเจอกันมาก่อน

หากไม่ใช่เป็นเพราะว่าไอ้ลูกหมานี่ที่ได้ยั่วยุยอดฝีมือของสำนักวิญญาณนั้น เป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาจะเผชิญกับเคราะห์ร้ายเช่นนี้ เกือบที่จะถูกฆ่าตาย

ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อที่จะรักษาชีวิตของตนเองนั้น พวกเขาก็ต้องใช้ยันต์ที่ล้ำค่าในการหลบหนีออกมา นี่เป็นยันต์ที่พวกเขาได้ซื้อมาด้วยราคาที่สูง มีที่ไหนที่คิดจะใช้ในสถานที่แห่งนี้

เพียงแค่ยันต์เคลื่อนย้ายขนาดเล็กนั้น ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เงินในจำนวนมากเท่าไหร่เพื่อที่จะซื้อมาอีกครั้ง ครั้งนี้พวกเขานั้นเผชิญกับความสูญเสียที่ร้ายแรงอย่างถึงที่สุด

“โอ้ ทำไมหรือ? เจ้าต้องการที่จะทำอะไรข้าอย่างนั้นหรือ?”

วิซ ในตอนนี้เสียงได้ดังขึ้นมา ทันใดนั้นภาพเงาก็ได้ปรากฏขึ้นมาต่อหน้ากลุ่มเจ็ดนักฆ่ามือฉมังอย่างกะทันหัน

อะไรนะ?!

ได้ยินเสียงนี้ ฟางกุ่ยและคนอื่นๆก็สะดุ้งตกใจ พวกเขาไม่คาดคิดว่าการที่หลบซ่อนอยู่ในสถานที่ลับแห่งนี้ จะมีคนที่ค้นพบที่อยู่ของพวกเขาอย่างรวดเร็วเช่นนี้

พวกเขาหันไปมองทันทีและเห็นถึงตัวตนของผู้ที่ปรากฏขึ้นมานี้

“เซี่ยปิง?!”

ฟางกุ่ยและคนอื่นๆต่างก็มีดวงตาที่เบิกกว้าง เพราะว่าผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นมาต่อหน้าพวกเขานั้น ก็คือเป้าหมายที่พวกเขาต้องการที่จะสังหารนั่นเอง

ต่อให้ตายพวกเขาก็ไม่คาดคิดว่าจะมีสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ในตอนนี้การที่เห็นเซี่ยปิงปรากฎตัวขึ้นมานั้น ช่างเป็นเรื่องที่เหนือจินตนาการ ทว่าในสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขากลับไม่ได้รู้สึกดีใจแม้แต่น้อย

เพราะว่าก่อนหน้านี้พวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสมาจากบรรดายอดฝีมือของชนเผ่าวิญญาณ ต่อให้จะต้องการกำจัดเซี่ยปิงในตอนนี้นั้น ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

“นี่เจ้าหมายความว่าอะไร? เจ้าคืออู๋ไท่โต่วอย่างนั้นหรือ? นี่เจ้ารู้หรือว่าพวกเราวางแผนลอบสังหารเจ้า?”

ฟางกุ่ยและคนอื่นๆต่างก็นึกได้ถึงคำพูดที่เซี่ยปิงพูดออกมาเมื่อครู่นี้ พวกเขาต่างก็ตกตะลึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพวกเขาก่อนหน้านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ว่าเป็นแผนการของเจ้าบัดซบนี่

แต่ปัญหาก็คือว่า ทำไมยอดฝีมือของชนเผ่าวิญญาณถึงต้องฟังคำพูดของเจ้าเด็กนี่กัน?

อีกทั้งสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือพวกเขานั้นไม่ได้เปิดเผยตัวเอง ไม่แม้แต่จะเคลื่อนไหวไปใกล้เซี่ยปิงด้วยซ้ำ ทว่าทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงล่วงรู้ว่าพวกเขาต้องการที่จะลอบสังหาร ช่างแปลกประหลาดเกินไป

“ถ้าพวกเจ้าอยากรู้ล่ะก็ ก็ลงไปถามยมราชซะ”

ดวงตาของเซี่ยปิงเปล่งประกาย เขาค้นพบตำแหน่งที่แน่นอนของฟางกุ่ยและคนอื่นๆผ่านทางระบบ จากนั้นก็เดินทางมาที่นี่โดยตรง เป้าหมายก็เพื่อถอนรากถอนโคนให้หมดสิ้น มีที่ไหนที่จะต้องการพูดจาไร้สาระกับพวกเขา

คนเหล่านี้เป็นนักฆ่าที่มีวิธีการลอบสังหารมากมาย รวมถึงมีวิธีการหลบหนีที่มากมายเช่นกัน หากปล่อยให้พวกเขาได้มีโอกาสหลบหนีแม้แต่นิดเดียวล่ะก็ มันจะต้องทำให้เกิดปัญหาที่ตามมาในอนาคตอย่างแน่นอน

ดังนั้น เขาจึงได้เตรียมการไว้ทั้งหมด จะต้องสังหารกลุ่มนักฆ่าเหล่านี้ให้สิ้นซาก

ทักษะหมัดดวงตะวันศักดิ์สิทธิ์!

ภายในพริบตา เซี่ยปิงก้ได้ประเคนหมัดออกไป บนอากาศมีพลังหมัดเปลวไฟปรากฏขึ้นมาเจ็ดหมัดอย่างกะทันหัน เป็นเหมือนกับดวงอาทิตย์เจ็ดดวงก็ว่าได้ พุ่งออกไปสู่พวกเขาทุกคน มีพลังอำนาจที่จะสามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง

“ม่ายย!”

กลุ่มเจ็ดนักฆ่ามือฉมังตะโกนเสียงดังออกมา ในฐานะผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดนั้น พวกเราสามารถที่จะต้านทานการโจมตีนี้ได้ ทว่าในตอนนี้พวกเขามีอาการบาดเจ็บสาหัส ทั่วทั้งร่างกายมีพลังอำนาจไม่ถึง10%ด้วยซ้ำ

การที่เผชิญกับทักษะหมัดนี้ของเซี่ยปิงซึ่งได้ล็อกออร่าในร่างกายของพวกเขาทุกคน

อีกทั้งการที่ไม่ได้เตรียมตัวก่อนเช่นนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาจะสามารถต้านทานได้

“เดี๋ยวก่อน หยุดก่อน เจ้าไม่ต้องการรู้หรือว่าใครส่งพวกเรามาลอบสังหารเจ้า?” ฟางกุ่ยและคนอื่นๆต่างก็แตกตื่นอย่างถึงที่สุด พวกเขาได้ตะโกนออกมาอย่างรวดเร็ว หวังว่าจะสามารถใช้ความลับนี้ในการแลกเปลี่ยนกับชีวิตของตนเอง

“ไม่จำเป็น ตายไปซะ”

เซี่ยปิงประเคนหมัดออกไปโดยที่ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย

ปัง!

พลังหมัดที่น่าสะพรึงกลัวได้ระเบิดใส่ร่างกายของนักฆ่าทั้งเจ็ดคน วินาทีต่อมา ทั่วทั้งร่างกายของพวกเขาก็ระเบิดเป็นชิ้นๆและถูกแผดเผาโดยเปลวไฟจนเปลี่ยนกลายเป็นเถ้าถ่าน

ตึบ มีเพียงแค่แหวนห้วงมิติของพวกเขาเท่านั้นที่หลงเหลืออยู่