ตอนที่ 181

Black Tech Internet Cafe System

ณ วังหลิวหยุน

 

ซูเทียนจิพร้อมสาวกทั้งสองเฟงหัวและยูซินได้เดินทางกลับมาถึงวังอย่างปลอดภัย แต่ .. ถึงยังงั้นพวกเขาก็ไม่สามารถนอนหลับได้เนื่องจากภาพยังคงติดตา

 

ขณะเดียวกันเซียวหยูกำลังหมกหมุ่นกับการอ่านหนังสือใต้แสงไฟ ก่อนหน้านี้ทุกวันเขามักใช้เวลาไม่เกินหกชั่วโมงในคาเฟ่ เนื่องจากเขาไม่ต้องกังวลกับการรอเพื่อเล่นเกมหรือเฝ้าดูละคร ดังนั้นเขาจึงไปมาได้อย่างอิสระ

 

ชีวิตประจำวันของเขาเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่ได้เจอดงชิงลี่ ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเขาเองก็ไม่ได้เดินทางไปคาเฟ่เลย ในมือของเขาตอนนี้มีแผ่นหยกอันงดงามพร้อมตัวละครจำลองสองตัวและนี่คือการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง!

 

“ฮ่าๆ ฝ่ายจิตวิญญาณของวังหลิวหยุนนั่นลึกซึ้งและลึกลับจริงๆ!”

 

เขายืนอยู่หน้ากระจกทองเหลืองพร้อมร่ายคาถาด้วยมือของเขา “ข้าไม่เชื่อว่าพวกท่านจะเห็นข้าในครั้งนี้” เขาพึมพำ เซียวหยูใช้เวลาและพลังงานไปพอตัวกับเรื่องนี้และในที่สุดตอนนี้มันก็สามารถใช้งานได้

 

การแปลงร่างเป็นเวทย์มนตร์ระดับสูงของวังหลิวหยุน มันสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์สถานะบรรยากาศรอบกายได้!

 

ในขณะที่เขาใช้คาถาดวงตาของเขาช่างสดใสและเป็นประกาย “คราวนี้แหละ ข้าจะดูละครกระบี่เทพสังหารตอนที่ห้าและหกพร้อมกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและดื่มโค้กให้สมใจ ..”

 

เมื่อนึกถึงกลิ่นหอมหวลชวนหิวของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในคาเฟ่แล้วท้องของเขาก็คำรามทันที แค่คิดก็อดใจแทบไม่ไหวแล้ว

 

ในไม่ช้าตอนนี้เขาก็ประสบผลสำเร็จกับการร่ายคาถาเปลี่ยนแปลง ไม่เพียงแต่รูปลักษณ์ภายนอกจะเปลี่ยนไปแต่รัศมีรอบกายก็เปลี่ยนตามไปด้วย ราวกับคนอื่นดีๆ นี่เอง!

 

เช้าวัดถัดมา

 

“อรุนสวัสดิ์ท่านอาจารย์ ..” เฟงหัวและยูซินเอ่ยทักทายด้วยสีหน้าซีดเซียวเห็นได้ชัดว่าพวกเธออดหลับอดนอน

 

แม้ว่าผู้ฝึกฝันอย่างพวกเธอไม่ต้องการการนอนหลับมากเท่าคนธรรมดา แต่นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องทรมานอย่างมากเพราะนอกจากจะไม่ได้หลับไม่ได้นอนแล้วภาพที่อยู่ในหัวยังคงติดตาแถมต้องมาระแวงอีกว่าอาจจะมีสัตว์ประหลาดคลานออกมาจากที่ไหนสักแห่งหรือเปล่าในเวลากลางคืน

 

หลังจากเอ่ยทักทายอาจารย์ของพวกเธอแล้ว เธอก็เดินกลับออกไปทันที

 

“ฉันว่าเรากลับไปนอนกันเถอะ ..” เฟงหัวเอ่ยขึ้นพลางเดินกลับไปที่บ้านพัก

 

“วันนี้เราจะไม่ไปจิวหัวกับอาจารย์กันหรอ?” ยูซินถาม

 

“ตอนนี้เราไม่ต้องไปต่อแถวเมือนก่อนแล้ว ค่อยไปสายๆ ก็ได้”

 

เวลาเดียวกันเซียวหยูก็ได้เดินผ่านข้างหน้าของวัง เขาจ้องมองและแอบฟังสิ่งที่สองคนนั้นกำลังคุยกัน นี่พวกเธอจะไม่ไปที่นั้นแล้วหรอ? ที่นั่นมีแต่สาวๆ น่ารักๆ ..

 

เขาต้องระมัดระวังเมื่อได้พูดคุยกับสาวๆ ที่คุ้นเคย! เซียวหยูคิดในใจ เขสจบต้นขาตัวเองทันทีเมื่อคิดออกแล้วว่าจะแกล้งเป็นใคร .. มันช่างเป็นของขวัญที่พระเจ้าส่งมา!

 

หลังจากนั้นไม่นาน .. ศิษย์สาวคนหนึ่งสวมเครื่องแบบชั้นสูงของวังหลิวหยุนเดินออกจากวังเพื่อมุ่งหน้าไปยังเรือจิตวิญญาณที่กำลังจะออกจากท่า

 

“ศิษย์พี่อาวุโสเฟงหัว?” เสาวกคนอื่นเอ่ยเรียก

 

“พี่ไม่ได้ติดตามท่านอาจารย์ซูทุกวันหรอกหรือ ทำไมวันนี้มาคนเดียวละ?”

 

“ท่านจะไปจิวหัวคนเดียวหรอ?” เหล่าศิษย์น้องคำนับเธอ

 

เขายิ้งอย่างภูมิใจ ไม่มีใครจำข้าได้! .. มันช่างเป็นการเริ่มต้นที่ดี

 

หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วงโมงเฟงหัวและยูซินที่มียังคงมีท่าทางง่วงนอนอยู่เล็กน้อย เดินออกมาเพื่อมุ่งหน้าไปยังเรือจิตวิญญาณ

 

“ศิษย์พี่เป็นยังไงบ้าง” ยูซินถาม

 

“ดีขึ้นมาก!” เฟงหัวตอบ

 

“ด้วยเหตุผลบางอย่างข้าไม่รู้สึกกลัวแบบในตอนแรกแล้ว ..”

 

“ข้าก็เช่นกัน”

 

“ในตอนแรกข้ารู้สึกกลัวมาก แต่หลังจากผ่านส่วนที่น่ากลัวที่สุด ข้าก็รู้สึกกลัวน้อยลง ..” เฟงหัวพึมพำด้วยความประหลาดใจ

 

“เกมนี้ออกแบบมาเพื่อทำให้จิตใจของพวกเราแกร่งขึ้น ..” พวกเขาอุทานด้วยความดีใจ “นี่ก็หมายความว่าพลังทางจิตของเราเพิ่มขึ้นหรอ!?”

 

“ข้าไม่ได้ข้าสัตว์ประหลาดเลยนะเมื่อวาน” เฟงหัวกล่าว

 

“ข้าวิ่งไปรอบๆ ด้วยความกลัวอย่างไร้จุดหมาย”

 

“แต่อาจารย์ของเราก็ไม่ได้ระดับเพิ่มหลังจากฆ่าสัตว์ประหลาดเหมือนกัน ..” พวกเธอมองหน้ากันด้วยความแปลกใจ “หรือมันหมายความว่าเกมนี้เราไม่จำเป็นต้องฆ่าสัตว์ประหลาดเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง”

 

“ใช่! เจ้าไม่สังเกตหรอว่าเจ้าของร้านแทบจะไม่ได้ฆ่าสัตว์ประหลาดเลยระหว่างเล่นเกม” พวกเขาพูดคุยขณะเดินไปที่เรือจิตวิญญาณ

 

“เฟง ..” เหล่าสาวกกำลังจะตะโกนทักทายพวกเขา แต่จูๆ ก็ชะงักลง

 

“ทำไมเธอถึงดูพี่อาวุโสเฟงหัวมาก!”

 

“ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้รีบร้อนไปจิวหัวหรอกหรอ?”

 

“บางทีเราอาจมองผิดไป” พวกเขามองหน้ากัน “การตรวจสอบโดยผู้จัดการหยางต้องมีอะไรผิดแปลกไป แน่ๆ แต่ไม่เห็นเขาพบปัญหาใดเลยนี่ ..”

 

วันนี้ฟางฉีเปิดร้านค่อนข้างสาย ตอนนี้เวลาแปดโมงครึ่งแล้ว โชคดีที่ได้ทำการขยายร้านให้ใหญ่ขึ้นผู้เล่นจึงไม่ได้มาเร็วแบบเมื่อก่อน เพราะรู้ว่าตอนนี้ไม่ต้องรอคิวอีกต่อไป

 

เมื่อเขาเปิดประตูร้านมีลูกค้าหน้าเก่าสองสามคนเดินเข้ามา หนึ่งในนั้นคือเฟงหัวที่มีท่าทางหวาดกลัวเมื่อคืน

 

“เจ้ามาเร็วนะวันนี้” ฟางฉีเอ่ยทักทาย “เจ้านายของเจ้าละ? ไม่มาด้วยหรอ?”

 

ฮ่าฮ่าฮ่า! เซียวหยูหัวเราะในหัวอย่างสะใจ เขาได้รับคำทักทายจากฟางฉี เจ้าของร้านที่เคยโยนเขาออกจากร้านอย่างน่าขายหน้า!

 

แต่ตอนนี้เขายืนอยู่หน้าฟางฉีโดยที่เจ้าของจำเขาไม่ได้สักนิด! คาถาทางจิตวิญญาณของวังหลิวหยุนนั้นลึกลับและทรงพลังจริงๆ

 

ฟางฉีขยี้ตา เขาพบว่ารอยยิ้มของเฟงหัวดูเย็นชากว่าปกติ เขากำลังสงสัยว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตาหรือเปล่านะ

 

“ท่าน! เปิดใช้งานละครตอนที่ห้าและหกให้ข้าที!” เขารู้สึกโกรธเคืองที่เรื่องราวคราวก่อนจบอย่างค้างคา

 

วันนี้แหละจะไม่มีใครหยุดข้าจากการดูละครได้!

 

“โอ้ เจ้ายังไม่ได้ดูตอนที่ห้าและหกใช่มั้ย?” ฟางฉีเอ่ยถามพร้อมยื่นมือออกไปรับเงิน

 

“เธออยู่ไหน” เซียวหยูหลบสายตา “ช่างเถอะ เสี่ยวหยูรับเงินไป!”

 

เจียงเสี่ยวหยูเดินไปรับเงินพลางเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์อย่างรวดเร็ว

 

“นั่นพี่เฟงหัวไม่ใช่หรอ? เธอมาที่นี่ด้วยตัวเอง?” เจ้าตัวเล็กถาม

 

“ข้าจะไปรู้เรอะ”

 

ฮ่าฮ่าฮ่า! เซียวหยูนั่งยืดเหยียดบนเก้าอี้และกดเข้าไปในโหมดดูละครอย่างพอใจ แม้แต่เจ้าของร้านก็จำข้าไม่ได้ ดูสิ้! ว่าใครจะหยุดข้าได้ ..​เขาคิดในใจ

 

ทันใดนั้น [ท่านอยู่ในบัญชีดำของร้านค้า โปรดออกจากเกมและรับเงินคืนที่เคาน์เตอร์] ประโยคเด็ดก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ

 

“อ๊ากกกกก!” เขากรีดร้องออกราวกับหัวใจจะสลาย