ตอนที่ 180

Black Tech Internet Cafe System

สถานการณ์เริ่มเลวร้ายมากขึ้น ทุกคนที่เฝ้าชมต่างกลัวจนแทบกระโดดกอดคอกัน!

 

พวกเขาต่างไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์ข้างหน้าจะเกิดอะไรไม่คาดฝันขึ้นอีก .. ผู้เล่นจะพบศพที่ดูเหมือนตัวพวกเขาหรือไม่ บรรยากาศในเกมยิ่งลึกเท่าไรยิ่งน่ากลัวมากขึ้นเท่าใน ส่งผลให้บรรกาศในคาเฟ่ชวนขนลุกไปตามๆ กัน

 

ด้วยบรรยากาศทั้งภายนอกและภายในที่ชวนขนลุกนั้น จึงส่งผลให้ผู้คนต่างเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครหลักมากขึ้น

 

“เราจะ ..​ หยุดดูหรือดูต่อ” หลายคนรู้สึกไม่อยากดูต่อ

 

“ไม่! หากเรากลัวเพราะดูการถ่ายทอดสด ลองนึกถึงเจ้าของร้านสิ พวกเจ้าคิดว่าเขาไม่กลัวหรอ!?”

 

“ดูก่อนสิ! เจ้าของร้านต้องกลัวแน่นอน” สาวกจากเฉิงจิ้งและซียี่ให้กำลังใจกัน

 

“ความกลัวอาจทำให้กางเกงเขาเปียก” สาวกขำคิกคัก

 

“ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าเด็กคนนี้ไม่กลัว!” ซูเทียนจิไม่เชื่อและยังเฝ้าดูต่อไป

 

ในขณะเดียวกันเขาเห็นฟางฉีเดินไปยังปลายทางอีกด้านของชั้นสาม เขากำลังเปิดประตู สัตว์ประหลาดที่มีเลือดเต็มตัวมีหัวเป็นสามเหลี่ยมกำลังทรมานหุ่นสองตัวด้วยความรุนแรงจนร่างกายของหุ่นนั้นบิดเบี้ยวไม่เป็นชิ้นดี

(ผู้แปล : หัวสามเหลี่ยมหรือปีรามิดเฮด (อีกชื่อหนึ่งคือ Boogey Man และ  Red Piramid) เป็นสุดยอดปีศาจในโลกของเกม Silent Hill)

 

ฟางฉีหลบหลีกมันด้วยการคลานเข้าไปในตู้เสื้อผ้า ในเวลาเดียวกันปิรามิดเฮดก็หันหัวมาเห็นฟางฉีพอดี!

 

หัวใจทุกคนตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม! เขาเสร็จแน่ เขาถูกต้อนเข้ามุมอย่างแน่นอน!

 

ตึกตัก .. ตึกตัก เสียงหัวใจของผู้เล่นดังออกมาอย่างใจหาย

 

เวลาเดียวกันฟางฉีพบกุญแจในตู้ เขาหันตัวกลับออกจากตู้เสื้อผ้าพลางหยิบปืนที่ได้รับออกมารัวยิ่งใส่สัตว์ประหลาดโดยทันที!

 

มันไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย แถมยังเดินเข้าไปหาฟางฉีใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนมองดูเหตุการณ์นี้ด้วยความระทึกใจ

 

สัตว์ประหลาดตัวนี้มันตัวอะไรกัน! แม้แต่กระสุนก็ทำอะไรมันไม่ได้เลยหรอ? เขาจะต่อกรกับมันอย่างไร?

 

ก่อนหน้านี้เขายังสามารถกำจัดมันด้วยไม้เท้าธรรมดาได้อยู่เลย แต่นี่เป็นถึงปืนทำไมไม่สามารถสร้างความเสียหายใดได้เลย!

 

“ฉันต้องทำอะไรนะ เขารีบวิ่งและปิดประตูลง!” ฟางฉีปิดประตูด้วยความตื่นตระหนก สัตว์ประหลาดตัวร้ายพยามที่จะกระแทกประตูด้วยความโกรธ แต่เขาก็ไม่อยู่ให้มันฆ่าหรอก!

 

ในเวลานี้ฟางฉีออกจากเกมและถอดชุดหูฟัง VR อย่างรวดเร็ว

 

“ท่าน! หยุดเล่นทำไมละ”

 

“ฮ่าๆๆ เขากลัวมาก” หลายคนหัวเราะอย่างสะใจเมื่อเห็นฟางฉีเลิกเล่นเกมอย่างรวดเร็ว

 

“เขากลัวแน่”

 

ฟางฉีชี้นิ้วไปที่มุมขวาล่างของหน้าจอ “ตอนนี้มันเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว ได้เวลากลับบ้าน!”

 

“ไป ..” พวกเขารทำหน้าเซ็ง เมื่อรู้ว่าฟางฉีออกจากเกมเพราะมันหมดเวลาตั้งหาก!

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขาไม่มีเวลาที่จะมานั่งเถียงกัน เพราะกำลังกังวลใจกับสิ่งที่น่ากลัวกว่า ในเวลาแบบนี้และต้องกลับบ้านหลังจากดูหนังสยองขวัญ บรื๋ออออ!

 

พวกเขาลืมนึกถึงสิ่งนี้ไปเลย แต่ตอนนี้ ..

 

“ฮือออ ..” ทุกคนกำลังทำท่าเหมือนจะร้องไห้

 

“ท่าน!” ซงฉิงเฟิงมือสั่นเมื่อหันมองถนนอันมืดมิดข้างนอกร้าน “ข้าขออยู่ที่นี่จนเช้าได้มั้ย”

 

เขาไม่อยากไป!

 

“ไม่!” ฟางฉีกลอกตา “ข้าถามพวกเจ้าแล้วนะว่าจะดูถึงสี่ชั่วโมงใช่มั้ย”

 

พวกเขาทั้งหมดหน้าซีด

 

ซูฉีซินและเฉินชิงชิงเองก็ต้องการถามคำถามเดียวกับซงฉิงเฟิง พวกเขาต้องการอยู่ที่นี่คืนนี้!

 

คนธรรมดาอาจนอนบนพื้นของร้าน แต่ .. สมาชิกของราชวงศ์และสาวกชั้นยอดคงไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถนอนกับพื้นได้อย่างแน่นอน!

 

มันน่าอาจเกินที่จะคิดถึงเรื่องนี้!

 

“เฟงหัวยูซิน!” ซูเทียนจิเรียก “กลับกับฉัน!”

 

“รับทราบค่ะ!” เด็กหญิงทั้งสองเดินไปหาซูเทียนจิ

 

“ไม่มีอะไรต้องกลัว!” นาหลันฮงวูเบ้ปากและเดินออกไปด้วยความภาคภูมิพร้อมประสานมือไว้ด้านหลัง “ผู้เฒ่าไปกันเถอะ!”

 

“รุ่นพี่พูดถูก!” เหลียงเฮอหูเอ่ยเสียงดัง “สาวกของเฉิงจิ้งตามข้ามา!”

 

สาวกของเฉิงจิ้งกอดคอกันและเดินออกนอกประตู ฟางฉียิ้มมุมปากเมื่อเห็นองค์หญิงและองค์ชายทั้งสองปะปนไปในกลุ่มของสาวก

 

“ฉันจะขอให้ชิงเฮมารับฉัน!” ตงชิงลี่ส่งข้อความทันที ข้างนอกมันมืดมากเธอจะกลับได้ยังไงกัน!

 

“ท่าน! ช่วยไปส่งเราที่หน้าประตูสำนักได้มั้ย!?” ซงฉิงเฟิงมองไปด้านนอกแล้วเอ่ยขอร้อง

 

ฟางฉีกลอกตา “ในฐานะลูกผู้ชาย โตแล้วก็ต้องกลับเองได้สิ”

 

“เราไม่ใช่ผู้ชาย!” เฉินชิงชิงเหลือบมองหน้าซงฉิงเฟิง “ท่านพาเรากลับที อย่าไปสนใจเขา!”

 

“ท่าน! ข้าด้วย” หลันยันหันมาทันทีเมื่อได้ยิน

 

“ฉันด้วย!” นาหลันหมิงสื่อที่ดูสงบเย็นชา แต่แฝงความกลัวอยู่ข้างใน

 

ฟางฉียืนนิ่งพลางจ้องมองที่หญิงสาว “ลาละ! ข้าจะไม่ไปส่งใครทั้งนั้น!”

 

นี่ท่านกำลังล้อเล่นใช่มั้ย? ท่านเป็นคนสร้างปัญหาให้พวกเรากลัว!

 

“โปรดกลับได้แล้ว นู้นประตู!” ฟางฉีนั่งบนเก้าอี้พร้อมชี้นิ้วไปที่ประตู “ข้าจะปิดร้านแล้ว!”

 

“ท่านไม่กลัวหรอ?” นาหลันหมิงสื่อจ้องที่ฟางฉีด้วยความสงสัย

 

“ไม่มีอะไรให้กลัว มันเป็นแค่ขนมเค้กชิ้นหนึ่งสำหรับข้า!” ฟางฉีโบกมือบ๊ายบาย

 

สาวกของทั้งสองสำนักพร้อมซูเทียนจิและคนอื่นๆ ที่เพิ่งเดินออกจากประตูได้ยินคำพูดของเขา ทุกคนหน้ากระตุก!

 

พวกเขาพ่ายแพ้ครั้งใหญ่! พวกเขาไม่รู้เลยว่าฟางฉีกลัวหรือไม่ แต่ .. พวกเขากลัวจนไม่กล้าเดินกลับบ้าน!

 

มันช่างน่าโมโหมาก!

 

ฟางฉีนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างสบายใจมองเห็นลูกค้าหลายคนที่กำลังเดินออกจากร้านด้วยความไม่พอใจ “นั่นคือสิ่งที่พวกท่านได้รับจากไหวพริบและความกล้าหาญ” เขาเอ่ย

 

ทุกคนที่ได้ยินอยากจะเดินกลับมาบีบคอเขาให้รู้แล้วรู้รอด!

 

ไม่ถึงสิบนาที .. ทุกคนกลับออกไปกันหมด ได้เวลาที่ทุกคนจะนอนไม่หลับ

 

เรือจิตวิญญาณที่บินไปวังหลิวหยุน เกือบจะซวนเซเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องจากหญิงสาวทั้งสองที่มาจากร้านศาลาลมและพระจันทร์

 

ใบบ้านพักส่วนตัวของสำนักหลิงหยวน เวลาเที่ยงคืนกว่าแล้วไฟยังคงเปิดอยู่

 

“นา นาหลัน .. ฉันขอนอนด้วยได้มั้ยคืนนี้” หลันยันเอ่ยร้องขอ

 

“มาสิ”

 

“อ่า!” สองสาวกรีดร้องและนอนกอดกันตัวกลมในผ้าห่ม

 

ขณะเดียวกัน ณ คาเฟ่อินเตอร์เน็ต

 

“เสี่ยวหยู มานี่หน่อย” ฟางฉีที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตะโกนเรียกเจ้าตัวเล็ก!

 

“ว่างไงเจ้านาย! มีอะไรรึ?” เจียงเสี่ยวหยูทำหน้านิ่ง เธอนั่งอยู่ไม่ไกลจากเขา!

 

“ช่วยข้าด้วย! ขาของขามันกลายเป็นเยลลี่ไปแล้ว!”

 

เจียงเสี่ยวหยูน้ำตานอง “ฮือ .. เจ้านายขาของข้าก็เช่นกัน ..”