โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.258 – เกาะพิทักษ์

 

ทำเลของปราการศิลาดำน่ะดีมาก หากสังเกตการณ์จากบนมัน วิสัยทัศน์ของคุณจะทอดยาวได้ไกลออกไปถึงจุดที่ผืนฟ้าและท้องทะเลบรรจบกัน

 

หรือสั้นๆว่าสามารถมองเห็นศัตรูตัวใหญ่ที่กำลังตรงเข้ามาได้อย่างชัดเจน

 

ศัตรูตัวแรก เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมา ครอบครองความยาวกว่า 20 เมตร ยามลอยอยู่เหนือผิวทะเล แทบจะไม่ต่างไปจากเกาะเล็กๆ

 

ด้วยเหตุนี้มันจึงถูกเรียกว่าเต่าเกาะ ทั้งยังเป็นสัตว์ทะเลในเลเวล E8

 

ยังไม่พอ หากกะด้วยสายตาคร่าวๆ จะพบว่ามันมีมากถึง 8 ตัว!

 

ยังมีอีก! หากคุณเพ่งมองดีๆ จะพบว่าในระยะ 100 เมตรเบื้องหน้าพวกมัน ท่ามกลางระลอกคลื่นสีขาวที่กำลังซัดสาด ภายในกลับเต็มไปด้วยสัตว์ร้าย!

 

เพียงแต่สัตว์ร้ายเหล่านี้อ่อนแอมาก ทั้งหมดถูกขับไล่โดยเต่าเกาะ ทำได้เพียงดิ้นรนว่ายหนีตรงมาข้างหน้า

 

กองทัพสัตว์ร้ายระลอกแรก แม้ส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์ทะเลขนาดเล็ก

 

แต่นั่นก็มากพอแล้วที่จะทำให้สีหน้าของทุกคนแปรเปลี่ยนกลับกลายอีกครั้ง

 

มุมปากของหยางปิงกระตุกเล็กน้อย

 

“ไม่นะ อย่าเข้ามา อย่าเข้ามาที่นี่!”

 

ทหารถัดฉินเฟิงออกไป กุมปืนในมือแน่นขึ้น หลับตาเฝ้าอธิฐานต่อสรวงสวรรค์

 

แต่ช่างน่าสงสาร ที่สวรรค์เหมือนจะไม่เมตตาเขา ทิศทางของสัตว์ทะเลทั้งเล็กใหญ่ ชัดเจนว่ามุ่งตรงมาที่เกาะนี้ และกำลังจะซัดเข้าฝั่งในไม่ช้า

 

ปราการศิลาดำสูงมากก็จริง แต่ถ้าต้องปะทะกับสัตว์ร้ายตรงๆ ใครจะไปรู้เล่าว่ามันจะสามารถทานทนได้จริงๆหรือไม่? ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุด คือขับไล่ไม่ก็กำจัดพวกมันก่อนจะเข้าถึงปราการศิลาดำ

 

เพราะยังไงซะ พวกกลุ่มแรกที่ขึ้นมาบนฝั่ง ในความเป็นจริงแล้วล้วนเป็นสัตว์ร้ายเลเวล G ทั้งสิ้น

 

ปัง!

 

ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเป็นคนยิงนัดแรก แต่เมื่อมีเสียงสนั่นของปืนดังขึ้น ทุกคนก็เริ่มหยิบอาวุธขึ้นมา และยิงตอบโต้ พยายามขับไล่สัตว์ร้ายเลเวล G เหล่านั้นทันที

 

อย่างไรก็ตาม แม้จะหยุดระลอกแรกได้ แต่ยิ่งนาน สัตว์ร้ายก็ยิ่งทยอยกันขึ้นฝั่ง กระทั่งเต่าเกาะเองก็ยังคืบคลานขึ้นมา

 

เมื่อได้เห็นชัดๆ ก็พบว่าเต่าเกาะมีขนาดใหญ่มาก!

 

สภาพมันคล้ายกับรถถังต่อสู้ ที่ไม่หวั่นเกรงกระสุนใดๆ

 

“ผู้ว่าการฉิน ถึงคราวของพวกเราต้องลงมือแล้ว” ดวงตาของหยางปิงกระพริบไหว

 

“ตกลง ผมแทบจะทนรอไม่ไหวแล้วที่จะได้เห็นฝีมือของผู้บัญชาการหยาง!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า คงเทียบไม่ได้กับผู้ว่าการฉินหรอก!”

 

ทั้งสองสนทนายกยอกันและกัน ขณะที่ทหารคนอื่นๆกำลังสำลักความกังวลแทบตาย แน่นอนว่าฉินเฟิงเองก็ไม่ต้องการข้องเกี่ยวกับหยางปิงมากไปกว่านี้ พลิกตัวกระโดดลงจากปราการศิลาดำทันใด

 

“ก้าวอัคคี!”

 

เปลวไฟพลันลุกไหม้ ราวกับจรวดที่ถูกจุด ทั้งคนทั้งร่างของฉินเฟิงกระพริบไหว ทะยานออกไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง พริบตาไกลออกไปกว่า 100 เมตร

 

เบนมองมายังอีกหนึ่งเลเวล E –หยางปิงมิได้ก้าวออกไปแต่อย่างใด เขาเพียงเรียกปืนใหญ่มือที่ทรงพลังออกมา

 

ถูกต้อง หยางปิงคือมือปืน นี่เองคือเหตุผลที่เจ้าตัวกระตุ้นฉินเฟิงให้ลงมือ เพราะเขาจะได้มีโล่กำบัง และคอยซ่อนตัวอยู่เบื้องหลัง ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของตนเอง

 

ตรงกันข้าม เป็นฉินเฟิงจากเบื้องหน้าต่างหาก ที่มีแนวโน้มว่าต้องเผชิญกับวิกฤต

 

แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ฉินเฟิงเพียงเข้าไปใกล้ฝั่ง กลุ่มสัตว์ทะเลก็พลันสัมผัสได้อย่างชัดเจน ว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตสองขาเบื้องหน้านี้ไม่มีกลิ่นทะเลติดตัว พวกมันเผยอปากแยกเขี้ยวใส่ทันที

 

ก๊าซซซซ!

 

สัตว์ทะเลคำรามเกรี้ยวกราด โถมทับเข้าหาฉินเฟิง

 

พวกมันถูกขับไล่มาตลอดเส้นทาง จึงหิวโหยเป็นธรรมดา กำลังเฝ้ารอฉีกกินอาหารมื้อใหญ่ และเนื้อน่าอร่อยอย่างฉินเฟิงก็ยกมาเสิร์ฟให้ถึงที่พอดี

 

ฉินเฟิงวาดมือ เปลวไฟลุกไหม้ขึ้นทันใด

 

“พรมโลกันต์!”

 

เปลวไฟกวาดไปทั่วชายฝั่ง อุณหภูมิของมัน แตกต่างจากในทะเลอย่างสิ้นเชิง เหล่าสัตว์ร้ายจากทะเลกรีดร้องน่าเวทนา

 

สิ่งมีชีวิตเลเวล G F กลายเป็นสีโค้ก และถูกเปลี่ยนเป็นเถ้าถ่านทันที

 

เวลานี้ เต่าเกาะค้นพบฉินเฟิงแล้วเช่นกัน

 

ฮู้มมม!

 

เสาน้ำขนาดยักษ์ พุ่งเข้าใส่ฉินเฟิง

 

ฉินเฟิงหลบเลี่ยงทันใด ทั้งยังวาดแขนปลดปล่อยลำแสงเปลวเพลิงออกไป

 

เต่าเกาะขยับกายตึงตัง ร่างอันใหญ่โตเปลี่ยนตำแหน่งของมัน ส่งผลให้ลำแสงเปลวเพลิงของฉินเฟิง แทนที่จะโดนใจกลางหัว ไปปะทะเข้ากับกระดองแทน บังเกิดประกายไฟเล็กน้อยระเบิดออกมา เหลือทิ้งเพียงควันดำๆ

 

ฝั่งหยางปิงเองก็สาดกระสุนออกไป แต่หลังจากที่มันร่วงลงบนกระดองเต่า ก็ปรากฏสะเก็ดไฟเล็กๆ ไม่ส่งผลกระทบใดๆเลย

 

ในแง่ของการป้องกัน เต่าเกาะเทียบเปรียบได้กับโล่พลังงานระดับเมือง

 

อย่างไรก็ตาม ส่วนศีรษะที่มหึมาของมัน ก็ยังถือว่าเป็นจุดอ่อนอยู่ดี ตราบใดที่มันมิอาจหลบเลี่ยงการปะทะส่วนหัวได้ สุดท้ายก็จะถูกศัตรูสังหารลง

 

เพียงแต่เต่าเกาะเองก็มีความยืนหยุ่นว่องไวเหมือนกัน

 

เมื่อมาถึงจุดนี้ มันก็พอคาดเดาระดับความรุนแรงจากการโจมตีของฉินเฟิงได้ เต่าเกาะคำรามเสียงดัง ตัดสินใจคืบคลานเข้าหาฉินเฟิงทันที

 

แม้ตัวจะโต แต่กลับสามารถสับฝีเท้าเข้าหาได้อย่างว่องไว

 

เนื่องจากมันเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องใช้การโจมตีที่สวยหรูอันใด เพียงอ้าปากมหึมา ก็มากพอแล้วที่จะใช้บดขยี้ศัตรู

 

ตรงข้ามกับมัน เห็นแค่เพียงฉินเฟิงที่ยังนิ่งงัน ดูสงบเยือกเย็นจนน่าแปลกใจ

 

“หึหึหึ ได้เวลาทดลองทักษะใหม่ของฉันแล้ว!”

 

พลังสมาธิของฉินเฟิงปะทุโหม

 

“แมกมาโลกันต์!”

 

บนพื้นทราย เปลวไฟอันร้องแรงแผดเผาจนเกิดการหลอมละลาย ก่อตัวเป็นแอ่งลาวา และยุบลงทันใด

 

เต่าเกาะตัวใหญ่ก็ร่วงตกลงไปด้วยเช่นกัน แอ่งลาวานี้แตกต่างกับทะเลที่ให้ความรู้สึกเย็นสบายอย่างสิ้นเชิง อุณหภูมิร้อนแรงแทรกซึมเข้าไปในกระดองของมัน

 

ฮู้มมมมมมมม!

 

เต่าเกาะร้องโหยหวน มันไม่เคยพบเคยเจออุณหภูมิเช่นนี้มาก่อน สะบัดตัวดิ้นรน ลาวาสาดกระเซ็น

 

ฉินเฟิงไม่ปล่อยเวลาให้หมดไปอย่างเปล่าประโยชน์

 

“ก้าวอัคคี!”

 

มีดกษัตริย์ครามในมือฟันฉับลงเป็นเส้นโค้ง

 

“มีดเปลวเพลิง!”

 

ใบมีดที่ลุกไหม้ยืดยาวออกทันใด คมกล้าเปลวไฟตัดเข้าใส่ลำคอของเต่าเกาะที่กำลังร้องโหยหวน

 

ฉัวะ!

 

หัวมหึมาร่วงตกลงไปในแอ่งลาวา พริบตาเดียวก็จมหายลงไป

 

ถูกหลอมเหลวจนสิ้น

 

ฉินเฟิงกำจัดตัวปัญหาไปได้หนึ่ง เขาไม่รอช้าหันไปยังอีกทิศทางทันที

 

เนื่องจากร่างกายของเต่าเกาะใหญ่โตมาก ดังนั้นพวกมันจึงไม่อยู่ประชิดกัน

 

ฉินเฟิงอาศัยประโยชน์จากข้อนี้ ไล่เก็บเจ็ดเต่าเกาะ ที่มีขนาดตัวมหึมาอย่างรวดเร็ว

 

หาดทรายเกือบทั้งหมดแทบถูกหลอมละลายจนกลายเป็นธารลาวา!

 

ทหารบนปราการศิลาดำกลายเป็นโง่งม หยางปิงเองก็กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก

 

ฉินเฟิงแข็งแกร่งเกินไป!

 

ขนาดสิ่งมีชีวิตใหญ่โตเช่นเต่าเกาะ ยังถูกฉินเฟิงสังหารลงทั้งหมดอย่างง่ายดาย!

 

เวลานี้ หยางปิงค้นพบแล้วว่าแผนการของเขาดูจะไม่ง่ายอย่างที่คิด

 

‘ข่าวลือที่บอกว่าฉินเฟิงสามารถต่อกรกับราชันย์จระเข้มังกรได้ ตอนแรกฉันไม่ค่อยอยากจะเชื่อ แต่พอได้มาเห็นกับตา … ดูเหมือนว่าการฉวยโอกาสลอบสังหารฉินเฟิงคงไม่ได้ผลจริงๆ’

 

เมื่อตระหนักได้ถึงจุดนี้ สมองของหยางปิงก็หมุนวนเร็วจี๋

 

ย้อนกลับมาบนหาด ฉินเฟิงยืนหยัดอยู่ที่นั่นเพียงลำพัง

 

“พลังงานของเต่าเกาะแข็งแกร่งมากจริงๆ!”

 

แม้เต่าเกาะจะเป็นเพียงสัตว์ร้ายสามัญ แต่หลังจากที่เสียชีวิต พลังงานที่ฉินเฟิงดูดซับมากลับมหาศาล แม้พละกำลังกายจะไม่เติบโตมากนัก แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงเลือดลมที่สูบฉีด หัวใจเต้นเป็นจังหวะมากขึ้น ในแต่ละครั้งคล้ายกับสามารถก่อผลกระทบอันยิ่งใหญ่ได้

 

สมควรแล้วจริงๆ ที่สิ่งมีชีวิตดังเช่นเต่า จะถูกเรียกว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่คอยกุมความลับของอายุที่ยืนนาน

 

มีหลายคนเสนอราคาสูงลิ่ว สำหรับเลือดและเนื้อของสัตว์ร้ายประเภทเต่า เพราะกล่าวกันว่ามันสามารถช่วยยืดอายุขัยได้ โดยเฉพาะแก่นพลังงานระดับนายพลขึ้นไป มีมูลค่าสูงเป็นอย่างยิ่ง

 

ฉินเฟิงตั้งตารอคอยด้วยความคาดหวัง แต่เห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เต่าเกาะระดับนายพลหรือราชันย์ จะปรากฏตัวขึ้นที่นี่ เพราะยังไงซะร่างกายของระดับนั้นขึ้นไปคงจะใหญ่โตมาก ไม่น่าจะลอยขึ้นมาในน้ำตื้น

 

หลังจากเต่าเกาะลอยขึ้นมา ก็มีสิ่งมีชีวิตอื่นทยอยกันปรากฏกายขึ้นอีกไม่หยุดยั้ง ฉินเฟิงตั้งใจสังหารพวกมันอย่างคึกคัก โดยไม่คำนึงว่าพวกมันจะอ่อนแอหรือแข็งแกร่ง เพราะยังไงซะทั้งหมดจะกลายเป็นพลังงานแก่เขา

 

สีหน้าของหยางปิงยิ่งนานยิ่งหนักอึ้ง

 

ในช่วงเวลานั้นเอง อุปกรณ์สื่อสารของหยางปิงก็ส่งเสียง เขาลดศีรษะลงอ่านมัน สีหน้าแปรผันไปชั่วขณะ แต่ก็ถูกปกปิดเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว

 

มองไปทางไป๋หลี และพบว่าไป๋หลีมีท่าทีซังกะตาย คล้ายเบื่อหน่ายไม่สนใจการต่อสู้ของฉินเฟิงเลย หยางปิงฉวยโอกาสนี้สนทนากับเธอทันที

 

“มิสไป๋ พอดีว่าฉันมีเรื่องเร่งด่วน คงต้องขอตัวกลับก่อน และฉันคิดว่าผู้ว่าการฉินน่าจะรับมือกับพวกมันโดยลำพังได้ ถ้าเขาถาม ฝากคุณบอกเขาว่า ฉันขอตัวกลับก่อนนะ!”

 

ไป๋หลีมองลึกเข้าไปในตาดำของหยางปิงราวกับสามารถเห็นถึงแผนการทั้งหมดในจิตใจของอีกฝ่าย