แดนนิรมิตเทพ บทที่ 373
สีหน้าของเจิ้งซิ่วลี่และฮัวหยู้เฟิงแย่มาก พวกเขาวางแผนด้วยความยากลำบาก และไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะเป็นคนนำผลประโยชน์มาให้เฉินโม่

ว่ากันว่ามู่หรงยานเอ๋อร์เป็นเทพธิดาแห่งความเย่อหยิ่งและเย็นชาใช่หรือไม่? ว่ากันว่ามู่หรงยานเอ๋อร์พูดจาไม่ไว้หน้าผู้ชายไม่ใช่เหรอ?

แล้วความเย่อหยิ่งล่ะ? ความขี้อายล่ะ? หายไปไหนหมดแล้ว?

เกิดความโกลาหลในกลุ่มนักเรียน

“เชี่ย! เทพธิดาซุกอยู่ในอ้อมแขนของคนอื่นจริง ๆ โอ้สวรรค์ ทำไมบุคคลนั้นถึงไม่ใช่ฉัน!”

“ผมรู้จักเจ้าหมอนั้น เขาคือเฉินโม่! เขาเป็นคนที่มีผลการเรียนต่ำที่สุดของโรงเรียนเป็นเวลาสามปีติดต่อกัน! แล้วเทพธิดาจะซุกเข้าไปในอ้อมแขนของเขาได้อย่างไร? ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี?”

“ดอกไม้ปักบนกองขี้ควาย คนไร้ประโยชน์อย่างเฉินโม่ได้ครอบครองหัวใจของเทพธิดามู่หรงได้อย่างไร? หรือว่าเทพธิดาไม่ชอบเด็กเรียน? เปลี่ยนเป็นชอบเด็กกาก?”

สายตาของเฉินหมิงและหวางตงที่อยู่ข้างเฉินโม่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ และอดไม่ได้แทบอยากจะกัดเฉินโม่เพื่อบรรเทาความโกรธ

เจี่ยงหยาวที่อยู่ท่ามกลางฝูงชนเม้มปากต่อเนื่อง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความหึงหวง

อานเข่อเยว่ขมวดคิ้ว แล้วมองมู่หรงยานเอ๋อร์และเฉินโม่ด้วยท่าทางไม่อยากจะเชื่อ “ทำไมยานเอ๋อรถึงได้เลอะเลือนขนาดนี้? นึกไม่ถึงว่าเธอจะชอบเขาจริง ๆ! ไม่ได้! ฉันไม่สามารถปล่อยให้ยานเอ๋อร์ถูกภาพลวงตาของเฉินโม่หลอกได้!”

ดวงตาของเจิ้งหยวนฮ่าวเต็มไปด้วยความประหลาดใจ แต่เขากลับรู้สึกโล่งใจโดยไม่สามารถอธิบายได้ เขามองอานเข่อเยว่ที่อยู่ด้านหน้าโดยไม่ตั้งใจ สายตาประกายความครอบครองอย่างแรงกล้า ถึงแม้ว่ามู่หรงยานเอ๋อร์จะเพอร์เฟคมาก แต่อานเข่อเยว่ถึงจะเป้าหมายของเขา

เฉินโม่ไม่เคยสนใจสายตาคนนอก ถึงแม้ว่าคนทั้งโลกจะต่อต้านเขา เขาก็จะไม่สนใจมัน ผู้บำเพ็ญย่อมมีความเย่อหยิ่งของผู้บำเพ็ญ

เฉินโม่ตบหลังมู่หรงยานเอ๋อร์เบา ๆ และปลอบโยน “เอาล่ะ ฉันไม่เป็นไรและยืนอยู่ตรงนี้แล้วไม่ใช่เหรอ?”

มู่หรงยานเอ๋อร์ถึงได้ผละออกมาจากอ้อมแขนของเฉินโม่ และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เฉินโม่ การที่ได้พบนายอีกครั้ง มันดีจริง ๆ!”

ทันใดนั้น ดูเหมือนเธอจะตระหนักว่าตนเองกับเฉินโม่ใกล้ชิดมากเกินไปแล้ว สีหน้าของมู่หรงยานเอ๋อร์แดงระรื่น ยิ่งมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก

“จริงสิ ทำไมโทรศัพท์ของนายถึงโทรไม่ติด นายเปลี่ยนเบอร์ใหม่เหรอ?” มู่หรงยานเอ๋อร์ถาม

เฉินโม่พยักหน้า “โทรศัพท์เครื่องนั้นหายไปแล้ว ฉันเลยซื้อเครื่องใหม่ เธอบันทึกเบอร์ใหม่ของฉันไว้”

ทั้งสองแลกเบอร์โทรศัพท์มือถือกัน จากนั้นมู่หรงยานเอ๋อร์ปิดหน้าแล้ววิ่งออกไป ตอนนี้เธอมีเบอร์ติดต่อของเฉินโม่แล้ว ต่อไปเธอสามารถหาเฉินโม่ได้ทุกเมื่อ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเขินอายอยู่ที่นี่อีกต่อไป

ถึงแม้ว่ามู่หรงยานเอ๋อร์และเฉินโม่จะสนทนากันไม่นาน แต่นักเรียนทุกคนในโรงเรียนได้เห็นฉากนี้ และประทับอยู่ในสมองของพวกเขาแล้ว

สมองพวกเขามีความคิดเดียวกัน นั่นก็คือเทพธิดาของพวกเขาถูกคนไร้ประโยชน์แย่งชิงไปแล้ว

สายตาของฮัวหยู้เฟิงที่มองเฉินโม่ ราวกับกับภรรยาของตนเองถูกเฉินโม่ลักพาตัวไป ความโกรธแค้นและความไม่เต็มใจแบบนั้นทำให้ใบหน้าที่หล่อเหลาของ ฮัวหยู้เฟิงเปลี่ยนเป็นดุร้าย

เดิมทีตนเองดื่มด่ำกับความชื่นชมของแฟนคลับมากมาย และเดินเคียงข้างสาวงาม บางทีหลังจากผ่านวันนี้ไปเทพธิดาอาจจะเปิดใจให้ตนเอง และได้ครอบครองหัวใจของเทพธิดา

แต่เนื่องจากการปรากฏตัวของเฉินโม่ ทำให้ฮัวหยู้เฟิงกลายเป็นตัวตลกอย่างสิ้นเชิง

หากดวงตาสามารถฆ่าคนได้ เฉินโม่ถูกสายตาของฮัวหยู้เฟิงแทงทะลุหัวใจไปแล้ว

เมื่อเผชิญหน้ากับ ฮัวหยู้เฟิงที่โกรธแค้น เฉินโม่เพียงแค่เหลือมองเขาเบา ๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม ราวกับเทพเจ้าที่มองมดตัวหนึ่งเท่านั้น

คู่ต่อสู้แบบนี้ ไม่เคยอยู่ในสายตาของเฉินโม่เลย

งานฉลองประจำปีของโรงเรียนยังคงดำเนินต่อไป เจิ้งซิ่วลี่กำลังฝืนยิ้ม เธอเกือบจะพูดผิดไปหลายครั้ง ซึ่งมันอึดอัดมาก

เฉินโม่หมดความสนใจรายการแสดงชุดต่อไป เขาแค่ต้องการดูการรำระบำของชาติที่แล้วที่น่าทึ่งของมู่หรงยานเอ๋อร์ด้วยตาตนเองอีกครั้งเท่านั้น เพื่อชดเชยความเสียใจของชาติที่แล้ว

ตอนนี้ไม่เพียงแค่ได้เห็นเท่านั้น แต่ยังได้กอดเทพธิดาอีกด้วย เฉินโม่รู้สึกพึงพอใจแล้ว!