แดนนิรมิตเทพ บทที่ 372
“ให้ตายเถอะ น่าขยะแขยงมาก! เห็นได้ชัดว่าเทพธิดามาเพราะผม!” หวางตงใช้เท้าเตะเฉินหมิงและด่าด้วยรอยยิ้ม

เฉินโม่เหลือบมองแวบหนึ่ง และเห็นว่าจากการนำของเจิ้งซิ่วลี่แล้ว มู่หรงยานเอ๋อร์และฮัวหยู้เฟิงกำลังพูดคุยหัวเราะอย่างใกล้ชิด และเดินมุ่งหน้ามาทางพวกเขา

เมื่อเห็นว่ามู่หรงยานเอ๋อร์และฮัวหยู้เฟิงใกล้ชิดกันมาก ทำให้ เฉินหมิงที่อยู่ด้านข้างเต็มไปด้วยความหึงหวงและกล่าวอย่างฉุนเฉียว “อันธพาลฮัวหยู้เฟิงกำลังฉวยโอกาสเอาเปรียบเทพธิดาของผม คุณดูมือของเขาสิ กำลังจะวางบนขาของเทพธิดาแล้ว!”

เฉินโม่ขมวดคิ้วเล็กน้อย หลังจากฆ่าจระเข้เกล็ดทองที่เขาหลิงอู่แล้ว เขาก็ไม่เคยเห็นมู่หรงยานเอ๋อร์อีกเลย เขารู้ว่ามู่หรงยานเอ๋อร์จะต้องมีคำถามมากมายที่อยากจะถามเขา

เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา เฉินโม่ไม่อยากจะเผชิญหน้ากับมู่หรงยานเอ๋อร์

“ขอโทษที ฉันอยากไปห้องน้ำ” เฉินโม่กล่าวกับจ้าวกาง จากนั้นลุกขึ้นแล้วเดินกำลังจะเดินออกไป

“เฉินโม่ นายรอผมพูดคุยกับเทพธิดาให้เสร็จก่อนสิ!” สีหน้าของเฉินหมิงเต็มไปด้วยความบูดบึ้ง

เฉินโม่พูดไม่ออกชั่วขณะ เพิกเฉยผู้ชายคนนี้โดยตรง

ดวงตาของเจิ้งซิ่วลี่เฉียบคม เมื่อเธอเห็นเฉินโม่ยืนขึ้นและกำลังจะเดินจากไป รอยยิ้มที่เคร่งขรึมประกายอยู่ในดวงตา เธอตะโกนว่า “เฉินโม่ พอดาวโรงเรียนมู่หรงเดินมา นายก็จะไปทันทีเหรอ? นายหมายความว่าอย่างไร?”

คำพูดประโยคหนึ่ง ดึงดูดความสนใจของทุกคนทันที

เฉินโม่รู้สึกทันทีว่าเขาถูกสายตามากมายจ้องมอง และความหนาวเย็นของดวงตาพวกนั้นราวคนนับพันชี้มาที่เขา

เฉินโม่หันกลับมามองเจิ้งซิ่วลี่ด้วยสายตาเย็นชา ผู้หญิงคนนี้แกว่งเท้าเข้าหาเสี้ยน!

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เฉินโม่จะเอ่ยปาก เมื่อมู่หรงยานเอ๋อร์ที่อยู่ไม่ไกลเห็นเฉินโม่ เธอยกกระโปรงขึ้นแล้ววิ่งมาหาเฉินโม่ แล้วกอดเฉินโม่ทันที

“เฉินโม่ ช่วงที่ผ่านมานายไปที่ไหน? ฉันคิดว่าจะไม่ได้พบหน้านายอีกแล้ว!”

มู่หรงยานเอ๋อร์น้ำตาไหลด้วยความตื่นเต้น

นับตั้งแต่เฉินโม่ฆ่าอู๋ไต้ซือที่เขาหลิงอู่เพื่อออกหน้าแทนเธอแล้ว จากนั้นเฉินโม่ก็ปลีกวิเวก และขอให้นักบู๊เหล่านั้นส่งเธอกลับมา หลังจากนั้นเธอรอเฉินโม่อยู่ที่อำเภอเฮยสุ่ยเป็นเวลาหลายวัน

และเพราะเหตุนี้ ตอนที่พรรคภูตผีโจมตีซุนจิ้งไฉ คุณลุงของเธอ ทำให้เธอรอดพ้นจากความตายได้

แต่เฉินโม่ก็ไม่มา แต่เธอกลับได้รับข่าวร้ายของคุณลุง มู่หรงยานเอ๋อร์กลับมาบอกข่าวกับครอบครัวของเธอที่เมืองอู่โจวด้วยความเศร้าโศก

และเมื่อได้รู้ว่าพรรคภูตผีเป็นพรรคของโลกฝึกบู๊ ถึงแม้จะเป็นตระกูลมู่หรงก็ไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ ทำได้เพียงกล้ำกลืนฝืนทน และระงับความโกรธแค้น

แต่ไม่กี่วันต่อมา ได้ยินว่าพรรคภูติผีถูกเฉินไต้ซือทำลายล้างในชั่วข้ามคืน

ทำให้ตระกูลมู่หรงรู้สึกมีความสุขมาก ตระกูลมู่หรงจึงเลี้ยงฉลองกัน มู่หรงยานเอ๋อร์ได้ปลดปล่อยภาระใหญ่หลวงในหัวใจของเธอแล้ว แอบขอบคุณเฉินไต้ซือผู้ลึกลับ

ความแค้นของคุณลุงได้รับการล้างแค้นแล้ว ทำให้มู่หรงยานเอ๋อร์เริ่มเป็นห่วงเฉินโม่ขึ้นมา ไม่รู้ว่าเฉินโม่ที่อยู่บนเขาหลิงอู่นั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง?

เดิมทีเธอคิดจะถามเฉินโม่หลังจากเปิดเทอม แต่หลังจากเปิดเทอมหลายวันแล้ว แต่เฉินโม่ก็ไม่มาเรียน โทรไปก็โทรไม่ติด ได้ยินเพื่อนร่วมชั้นบอกว่าดูเหมือนเฉินโม่จะย้ายโรงเรียนแล้ว!

มู่หรงยานเอ๋อร์รู้สึกผิดหวังมาก เธอคิดว่าไม่มีวันได้พบเฉินโม่อีกแล้ว นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะได้พบเฉินโม่อีกครั้ง ด้วยความตื่นเต้น ทำให้มู่หรงยานเอ๋อร์ลืมไปว่าเพื่อนนักเรียนที่อยู่รอบ ๆ กำลังเฝ้ามองอยู่ และเธอซุกเข้าไปในอ้อมแขนของเฉินโม่

เจิ้งซิ่วลี่และฮัวหยู้เฟิงที่ยืนยู่ด้านข้างอ้าปากค้างและสีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ

เมื่อวาน หลังจากเฉินโม่ทำให้ฮัวหยู้เฟิงอับอายขายหน้าในสนามบาสเกตบอลแล้ว เจิ้งซิ่วลี่ไปพบฮัวหยู้เฟิงและปรึกษาหารือโดยจะอาศัยงานฉลองประจำปีของโรงเรียนในวันนี้ เพื่อใช้ประโยชน์จากการแสดงของฮัวหยู้เฟิงและมู่หรงยานเอ๋อร์บนเวทีด้วยกัน โดยแสดงความรักเพื่อโจมตีเฉินโม่

นี่เป็นเหตุผลที่หลังจากลงมาจากเวทีแล้ว เจิ้งซิ่วลี่เจตนาพามู่หรงยานเอ๋อร์และฮัวหยู้เฟิงเดินมาทางฝั่งเฉินโม่

แต่นึกไม่ถึงว่ายังไม่ทันที่พวกเขาสองคนจะโจมตีเฉินโม่ มู่หรงยานเอ๋อร์กลับเป็นฝ่ายซุกเข้าไปในอ้อมแขนของเฉินโม่ ซึ่งทำให้การโจมตีกลายเป็นความตกใจ!