‘การอนุมัติของมู่ชิง…? มู่ชิงคือชื่อของผู้ชายคนนั้นยังงั้นหรอ?’

หยวนงุนงงกับการแจ้งเตือนที่เกิดขึ้น

‘นี่มันเป็นผลแบบไหนกันนะ?’

หยวนยิ่งรู้สึกงุนงงและสงสัยมากขึ้นเมื่อเห็นคำอธิบาย

มันแตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่เขาได้รับความกตัญญูของโม่โจวที่มอบผลลัพธ์เพิ่มทักษะในการใช้ดาบให้กับเขา แต่การอนุมัติของมู่ชิงนี้ไม่ได้ให้อะไรกับเขาเลยนอกจากคำอธิบายที่คลุมเครือ

‘ฉันเดาว่าผลแต่ละอย่างจากความสัมพันธ์ที่ได้มาน่าจะไม่ได้มีผลอย่างความกตัญญูของโม่โจว…’

“เสี่ยวฮัวตอนนี้พี่สามารถเอาชนะมอนเตอร์ระดับนักรบวิญญานได้แล้ว เธอคิดว่าพี่พร้อมที่จะต่อสู้กับมอนเตอร์ตัวอื่นในระดับเดียวกันไหม?”

หยวนถามเสี่ยวฮัวเพื่อความมั่นใจ

“อืม…แต่มอนเตอร์ระดับนักรบวิญญาน มักจะไม่เดินอยู่ในพื้นที่ของแมงมุมปีศาจ ถ้าพี่หยวนต้องการต่อสู้กับมอนเตอร์ระดับนักรบวิญญาน พวกเราจะต้องเดินทางต่อไปทางใต้เพื่อไปยังป่าไผ่ม่วง ที่นั่นเราสามารถพบกับมอนเตอร์นักรบวิญญานในระดับหนึ่งถึงสามได้”

“ที่นั่นอยู่ไกลแค่ไหน?”

“ไม่กี่พันไมล์”

เสี่ยวฮัวตอบเหมือนกับว่ามันเป็นระยะทางใกล้ๆ

“ไม่กี่พัน?!”

ดวงตาของหยวนกลมโตด้วยความตกใจ นี่มันเหมือนกับว่าการเดินทางจากทวีปหนึ่งไปยังอีกทวีปหนึ่งในโลกแห่งความเป็นจริงเลยนะ! ต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการเดินทางโดยที่ไม่มีเครื่องบินหรือยานพาหนะใดๆเลย

“อืม…แล้วเราจะไปที่นั่นได้ยังไง?”

หยวนตัดสินใจถามเธอ

“แน่นอนเราบินไป”

เสี่ยวฮัวตอบด้วยท่าทางใจเย็น

“เว้นแต่ว่าพี่หยวนจะอยากวิ่งไปที่นั่น ถ้าวิ่งไปก็น่าจะใช้เวลาสักสองสามวัน”

“ดะ…เดียวก่อนนะ…เธอพูดว่า ‘บิน’ งั้นหรอ เธอบินได้ไหม!”

หยวนมองเสี่ยวฮัวด้วยดวงตาที่เบิกกว้างพร้อมกับความตื่นเต้น โดยลืมเรื่องทักษะและความสามารถของเธอไปซะสนิท

เสี่ยวฮัวพยักหน้าและพูดว่า

“เมื่อผู้ฝึกพลังฝึกพลังถึงระดับปรมาจารย์วิญญานพวกเขาจะสามารถปรับเปลี่ยนพลังงานจิตวิญญานภายในร่างกายและสภาพแวดล้อมรอบๆตัวเขา และทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าได้ แน่นอนว่าก็ยังมีบุคคลที่มีความสามารถในการบินได้ก่อนที่จะถึงระดับปรมาจารย์วิญญานเหมือนกัน”

“แต่เนื่องจากพี่หยวนยังบินเองไม่ได้ งั้นเสี่ยวฮัวจะใช้พลังของเสี่ยวฮัวควบคุมดาบบินของพี่เอง”

หลังจากพูดจบเสี่ยวฮัวก็หยิบดาบออกมาจากกระเป๋าของเธอและโยนมันขึ้นไปในอากาศ

ใครๆก็คิดว่าดาบจะต้องตกลงที่พื้นด้วยกฏแรงโน้มถ่วงของโลก แต่จริงๆแล้วดาบกลับยังคงลอยอยู่กลางอากาศราวกับว่ามีมือที่มองไม่เห็นถือมันอยู่

“พระเจ้า…”

หยวนจ้องไปที่ดาบที่กำลังลอยอยู่ด้วยดวงตาที่เป็นประกาย

เขาอยากจะทำอะไรแบบนี้มาตลอดตั้งแต่ที่เขาเห็นผู้ฝึกพลังที่ลอยอยู่บนฟ้าและยืนอยู่บนดาบเมื่อเขาเข้ามาที่โลกนี้ครั้งแรก เขาไม่คิดว่าโอกาสแบบนี้จะเกิดขึ้นไวขนาดนี้

“เธอเยี่ยมที่สุดเลยเสี่ยวฮัว พี่รักเธอ!”

หยวนพุ่งเข้าไปกอดเสี่ยวฮัวด้วยความตื่นเต้น

“อะ…อื้ม”

แก้มที่อ่อนนุ่มของเสี่ยวฮัวแดงเล็กน้อยจากการกอดของหยวน

“แล้วพี่จะต้องทำยังไงต่อพี่ก็แค่กระโดดขึ้นไปบนดาบหรอ?”

หยวนถามเสี่ยวฮัวอย่างตื่นเต้น

“อื้มม”

เสี่ยวฮัวพยักหน้าและเธอก็อธิบายต่อ

“เพราะเสี่ยวฮัวจะควบคุมดาบให้พี่หยวน พี่แค่ต้องควบคุมพลังวิญญานที่ขาและเท้าเท่านั้น ไม่ยังงั้นพี่จะหลุดออกจากดาบกลางอากาศ”

“เอาล่ะมาลองดูกัน!”

หยวนหันไปเผชิญหน้ากับดาบบินทันทีด้วยความตื่นเต้น

หลังจากเตรียมตัวแล้วเขาก็กระโดดขึ้นไปบนดาบ

“อา!!”

หยวนล้มลมทันทีในวินาทีต่อมาเนื่องจากความผิดพลาดในการทรงตัว

“นี่มันยากกว่าที่ฉันคิด…”

หยวนพูด แต่เขาก็ไม่ได้หมดหวังและพยายามอีกครั้ง

“อ้าก!”

“อุป!!”

“อ๊อฟ!”

หลังจากทดลองและผิดพลาดมากมายทำให้ใบหน้าของหยวนจูบลงไปกับพื้นหลายครั้งในที่สุดหยวนก็เริ่มคุ้นเคยกับการควบคุมวิญญานของเขาและปรับสมดุลของตัวเองบนดาบ

“ดูสิพี่ลอยได้แล้ว”

หยวนพูดด้วยความตื่นเต้นหลังจากยืนได้บนดาบบินโดยไม่ล้มลงมาหนึ่งนาที

เมื่อเห็นแบบนั้นเสี่ยวฮัวก็เลยพูดขึ้นมาว่า

“เสี่ยวฮัวจะขยับดาบพี่หยวนพยายามอยู่บนดาบให้ได้นะ”

“ค่อยๆขยับนะเสี่ยวฮัว”

หยวนรีบเตือนเธอทันที

ต่อมาดาบบินเริ่มเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ช้ามากๆโดยมันเดินทางเพียงหนึ่งเมตรในทุกๆสองสามวินาที

“ฮ่าๆ ฉันกำลังบิน กำลังบ-”

ในขณะที่หยวนเตรียมพร้อมที่จะตะโกนฉลองความสำเร็จของเขา เขาก็สูญเสียการควบคุมพลังงานจิตวิญญารของเขา และตกลงมาจากดาบอีกครั้ง

“ไม่ต้องห่วงพี่หยวน เดียวพี่ก็ชิน”

เสี่ยวฮัวให้กำลังใจเขา

ดังนั้นหยวนจึงเริ่มฝึกดาบบินในช่วงเวลาที่เหลือของวัน

หลังจากฝึกฝนมานานหลายชั่วโมงในที่สุดหยวนก็สามารถยินอยู่บนดาบได้ แม้ว่ามันจะบินด้วยความเร็ว 100 ไมล์ต่อชั่วโมงก็ตาม เพราะถ้ามันเร็วมากกว่านี้เขาจะหลุดออกจากตัวดาบทันที

ในตอนท้ายที่สุดของวัน ในที่สุดหยวนก็สามารถต้านทานความเร็วของดาบบินที่บินเร็วกว่า 300 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ แน่นอนว่าเขาก็ยังคงต้องให้เสี่ยวฮัวควบคุมดาบให้กับเขา

“เอาล่ะ เสี่ยวฮัวถึงเวลาที่พี่จะต้องออกจากระบบแล้ว พวกเราสามารถเริ่มเดินทางไปป่าไผ่ม่วงได้หลังจากที่พี่กลับมา”

หยวนพูดกับเสี่ยวฮัวในตอนสุดท้ายก่อนจะออกจากระบบ

“อืม”

เสี่ยวฮัวพยักหน้าก่อนจะกลับไปที่สร้อยคอและหยวนก็ออกจากระบบในเวลาต่อมา

หลังจากออกจากระบบหยวนก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆ ใกล้เข้ามาในห้องของเขา และเขาก็รู้ทันทีว่ามันคือหยูรู่

เมื่อประตูห้องของเขาเปิดออกเสียงอันแผ่วเบาของหยูรู่ก็ดังขึ้น

“เมื่อวานนี้หนูขอโทษที่หนูไม่สามารถมาดูแลพี่ได้นะ พี่ชาย”

“เธอไม่จำเป็นต้องขอโทษเลย บางวันเธอก็ต้องพักผ่อนบ้าง แล้วเธอสบายดีไหม พี่ได้ยินจากสาวใช้ว่า เมื่อวานเธอเพิ่งคุยกับพ่อแม่”

หยวนพูดกับเธอ

“ฮ่าๆ…”

เสียงหัวเราะเบาๆหลุดออกมาจากปากของหยูรู่และเธอก็พูดว่า

“แทนที่จะเรียกว่าพูดคุย ต้องพูดว่าถูกดุจะถูกต้องมากกว่า”

“เอ๊ะ? เธอโดนดุงั้นหรอ ทำไมเป็นยังงั้นละ”

หยวนรู้สึกประหลาดใจที่รู้ว่าหยูรู่ถูกดุ เพราะเธอเป็นเด็กที่ดีเธอเชื่อฟังพ่อแม่ของเธอเสมอ

“อืมเกรดของหนูในโรงเรียนลดลงนิดหน่อย หนูก็เลยโดนดุ”

แม้ว่าหยวนจะมองไม่เห็นการแสดงออกของเธอ แต่เขาก็ได้ยินความขมขื่นในน้ำเสียงของเธอ

“พี่เข้าใจ…พ่อแม่ของพวกเราเข้มงวดมากเกินไปในเรื่องนี้”

“บางครั้งพวกเขาก็เข้มงวดกับหนูมากเกินไป…”

หยูรู่ถอนหายใจออกมา

“ช่างมันเถอะพี่…อย่าไปพูดถึงอะไรที่น่าหดหู่แบบนั้นเลย ในตอนนี้หนูกำลังทำความสะอาดให้พี่ ทำไมพี่ไม่บอกหนูเกี่ยวกับประสบการณ์ของพี่ในเกม Cultivation Online หน่อยหละ พี่สนุกกับเกมมากแค่ไหน?”

หยูรู่ถามหยวนเพราะเธอต้องการรู้ว่าพี่ชายของเธอเป็นยังไงบ้าง

“ถ้าจะให้พี่บอกว่าสนุกยังไงละก็ คำว่าสนุกมันยังน้อยไป”

“งั้นหรอ งั้นพี่เหล่าให้หนูฟังหน่อย”

หยูรู่ยิ้มทันทีหลังจากที่ได้ยินเสียงของเขาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและมีความสุขซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยเลยแม้แต่กับเธอก็ตาม