ตอนที่ 277: หินประหลาด 5 สี
มีสิ่งลึกลับต่าง ๆ อยู่ในชั้น 4 ของศาลาสมบัติ มีแผ่นหินที่ลอยอยู่บนอากาศ 1 เมตรขณะที่ค่อย ๆ เรืองแสงสีฟ้าจาง ๆ ไม่มีอะไรอยู่ภายใต้แผ่นหินนั้น ดังนั้นใครก็ตามที่มาเห็นก็จะรู้ว่านี่ไม่ใช่สิ่งของธรรมดา
อีกแท่นสีแดงมีทรายเหล็กสีดำที่กำลังปล่อยเพลิงสีดำลุกโชน ไม่มีอะไรที่จะเป็นเชื้อไฟให้มันได้นอกจากอากาศรอบ ๆ ไฟที่ลุกโชนอยู่ตลอดเวลาโดยไม่มีทีท่าว่าจะดับ
นอกจากนั้นยังมีผลึกแปลก ๆ อีกสองสามก้อนที่กำลังส่องแสงสดใสพร้อมกับเครื่องปั้นดินเผาโบราณ
ชั้น 4 ของศาลาสมบัติไม่ได้มีคนมากมายเหมือนกับชั้นแรก มีคนที่แต่งตัวหรูหราอยู่ประมาณ 20 คนเดินไปรอบ ๆ และเลือกซื้อของที่ถูกใจสำหรับพวกเขา
เจี้ยนเฉินเริ่มปลดปล่อยความรู้สึกที่เขาได้รับรู้จากจิตวิญญาณกระบี่สีม่วง-ฟ้า ก่อนที่จะหยุดอยู่กลางห้อง ด้านหน้าของเขาเป็นโต๊ะแสดงหินที่กำลังส่องแสงกันอย่างพร่างพราว แต่ละอันก็มีขนาดกำปั้นของผู้ใหญ่และเรืองแสงอ่อน ๆ คล้ายกับไข่มุกราตรี แต่พวกมันไม่ใช่ไข่มุกราตรี พวกมันดูเหมือนก้อนหินประหลาดซึ่งมีพลังจาง ๆ อยู่ภายใน
หลังจากที่เก็บสัมผัสรับรู้ของเขาแล้วเจี้ยนเฉินก็ลืมตาขึ้น ก่อนที่จะจ้องไปที่อัญมณีขนาดนิ้วหัวแม่มือ อัญมณีนี้มีรูปร่างกลมมนและมีหลากหลายสี มีลวดลายแปลก ๆ ภายในก้อนหินซึ่งสะดุดตาเป็นพิเศษ
เจี้ยนเฉินรู้ว่าหิน 5 สีแปลกประหลาดก้อนนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้จิตวิญญาณกระบี่สีม่วง-ฟ้ามีความสุขมาก ซึ่งมันหมายความว่ามันไม่ใช่ก้อนหินธรรดา
เมื่อเรียกผู้จัดการที่ชั้น 4 เข้ามาแล้ว เจี้ยนเฉินก็สอบถามเกี่ยวกับราคา
ผู้จัดการชั้น 4 ของศาลาสมบัติเป็นผู้อาวุโสผมขาว แม้ว่าเขาจะดูแก่มาก แต่ดวงตาของเขาทั้งสองข้างก็เปล่งประกายราวกับดวงดารา ผู้จัดการมองไปที่เจี้ยนเฉินก่อนที่จะปรับใบหน้าให้ยิ้มแย้มพร้อมกับพูดออกมา นายท่านช่างมีสายตาแหลมคมยิ่งนักที่ต้องตาอัญมณีพิเศษชิ้นนี้ อัญมณีนี้มีชื่อว่าหินหลากสี แม้ว่าอัญมณีนี้จะมีขนาดเล็ก แต่ราคาก็ค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับอัญมณีอื่น ๆ ราคาขายของมันอยู่ที่ 15,000 เหรียญม่วง
เจี้ยนเฉินกลั้นหายใจขณะที่รอฟังราคา เมื่อเขาได้ยินราคาเขาก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ ราคานี้แพงเกินไป มันสูงจนน่าเหลือเชื่อ
เมื่อสังเกตเห็นท่าทีของเจี้ยนเฉิน ผู้อาวุโสก็รู้ว่าเจี้ยนเฉินกำลังตกตะลึงกับราคา เขาพูดพร้อมกับรอยยิ้มว่า นายท่านได้โปรดอย่าดูถูกหินหลากสี แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าหินก้อนนี้คืออะไรหรือใช้ทำอะไรได้ แต่ราคานี้เป็นราคาที่เหมาะสมอย่างแน่นอน
เจี้ยนเฉินพยายามสูดหายใจขณะที่เขาจ้องมองไปยังก้อนหินขนาดเท่านิ้วโป้ง ผู้อาวุโสผู้ทรงเกียรติ ท่านช่วยอธิบายให้ข้าฟังหน่อยได้หรือไม่ว่าหินก้อนนี้มีอะไรพิเศษบ้าง ?
งั้นก็ได้ปล่อยให้ผู้เฒ่าคนนี้เป็นคนอธิบายให้นายท่านฟัง ผู้อาวุโสกระแอ่มคอก่อนที่จะอธิบายว่า ถ้าเรามองข้ามแสงที่ส่องออกมาจากหินประหลาดก้อนนี้ มันก็เป็นหินที่มีความงดงามและปราณีต แม้ว่ามันจะมีขนาดแค่นิ้วโป้ง แต่มันก็แข็งมาก ไม่มีใครทำให้มันเป็นรอยขีดข่วนได้เลยและน้ำหนักของมันก็เปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ มันเป็นหินที่ลึกลับอย่างมากจริง ๆ
หัวใจของเจี้ยนเฉินเต้นผิดจังหวะไปครั้งหนึ่ง ขณะที่เขาถามออกมาอย่างสงสัย เปลี่ยนน้ำหนักตามสภาพอากาศได้ ? ผู้อาวุโสผู้ทรงเกรียติ ท่านช่วยอธิบายละเอียดกว่านี้ได้หรือไม่ ?
ผู้จัดการหัวเราะ นายท่าน หินหลากสีนี้เพิ่งจะมาถึงเมืองหว่าลู่เหรินของเราเพียงไม่กี่วันที่ผ่านมา มันเป็นสินค้าเหมือนกับอีกหลาย ๆ ชิ้นที่จัดแสดงให้ผู้คนในศาลาสมบัติของเราได้ยลโฉม ความงดงามของหินลึกลับก้อนนี้ได้ถูกบันทึกไว้อย่างละเอียดโดยพวกเรา
ในวันที่ท้องฟ้าแจ้มใส หินหลากสีนี้จะเรืองแสง 5 สีที่แตกต่างกัน ขณะที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยหรือมีฝนตกหนัก หินก้อนนี้จะเรืองแสงจ้าส่องไปทั่วทั้งศาลาสมบัติ อย่างไรก็ตามหากสังเกตมากขึ้นไปอีกเมื่อมันสัมผัสโดนน้ำแม้แต่เพียงหยดเดียว มันก็จะหนักมากขึ้น มันหนักมากจนคนที่มีกำลังไม่มากก็ไม่อาจหยิบมันขึ้นมาได้
โอ้ ? มันมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าพิศวงเช่นนี้ด้วยหรือ ? เจี้ยนเฉินถามออกมาอย่างสงสัย
เมื่อมาถึงจุดนี้ คนอื่น ๆ ที่อยู่บนชั้น 4 ที่ได้ยินราคาของหินหลากสีแล้วก็เริ่มที่จะเข้ามาเพื่อดูมัน
ข้าไม่ได้โกหกแม้แต่คำเดียว ! ผู้อาวุโสผงกหัวด้วยความเชื่อมั่นก่อนที่จะพูดว่า สิ่งนี้ถูกพบเพราะเมื่อหินหลากสีโดนน้ำ มันจะใหญ่ขึ้นจนมันหนักพอที่จะจมลงไปในดิน หลังจากนั้นศาลาสมบัติของเราได้จ้างผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งขุดหินก่อนนี้ขึ้นมาอีกครั้งด้วยความยากลำบาก
โกหกหรือเปล่า หินก้อนนี้จะจมหายลงไปในดินหลายร้อยเมตร ?
ข้ามั่นใจว่าเป็นเรื่องโกหกแน่นอน ข้าไม่เชื่อสักอย่าง…
คนแบบไหนกันที่จะแข็งแกร่งพอที่จะขุดเอาหินก้อนนี้ออกมาจากด้านล่าง ?
เจี้ยนเฉินไม่ได้พูดอะไรขณะที่ผู้คนรอบ ๆ เขาเริ่มพูดอย่างสงสัย
ไม่ว่าท่านจะเชื่อข้าหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับท่าน แต่ด้วยชื่อเสียงของศาลาสมบัติ มันก็ไม่ได้ตกต่ำพอที่จะโกหกในเรื่องเช่นนี้
ข้าไม่คิดว่าหินก้อนนี้เป็นวัตถุลึกลับ ข้าไม่พูดอะไรมาก ผู้อาวุโสผู้ทรงเกียรติ ข้าจะซื้อหินก้อนนี้ เจี้ยนเฉินบอกกับเขาด้วยรอยยิ้ม
การกระทำของเจี้ยนเฉินนี้ทำให้หมิงตงสะดุ้งตัวลอยอย่างฉับพลัน เขารีบคว้าเสื้อผ้าของเจี้ยนเฉินก่อนที่จะพูด เจี้ยนเฉิน เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ! แม้ว่าหินก่อนนี้จะมีพลังลึกลับบางอย่างตามที่เขาพูด แต่มันก็ไม่คุ้มค่ากับเงินที่พวกเขาเสนอขาย
เจี้ยนเฉินหัวเราะเบา ๆ ก่อนที่จะพูด ข้ามีเหตุผลที่จะซื้อหินก้อนนี้
แต่…แม้ว่าหินนี่จะวิเศษมาก แต่มันก็ยังมีราคาสูงถึง 15,000 เหรียญม่วง มันแพงเกินไป หมิงตงพูด เขารู้สึกว่าหินก้อนนี้ไม่คุ้มค่ากับราคาเอาเสียเลย
นายท่าน ท่านต้องการจ่ายเงิน 15,000 เหรียญม่วงเพื่อซื้อหินหลากสีนี้จริง ๆ ? ผู้จัดการมองเจี้ยนเฉินด้วยท่าทางที่แปลกใจ วัตถุนี้ความจริงแล้วมันค่อนข้างลึกลับและดึงดูดสายตาผู้คน ตอนนี้เมื่อแต่ละคนเห็นว่าราคามันสูงเกินไป พวกเขาก็จะหมดความสนใจทันที ดังนั้นหินหลากสีนี้จึงถูกส่งผ่านมายังศาลาสมบัติในเมืองหว่าลู่เหริน
เจี้ยนเฉินยื่นบัตรม่วงให้กับเขาและพูด ผู้อาวุโสผู้ทรงเกียรติ ข้าอยากจะซื้อมันจริง ๆ
เมื่อเห็นบัตรม่วงในมือของเจี้ยนเฉิน ผู้จัดการก็ยังคงมองอย่างไม่น่าเชื่อ เพื่อดูว่าเขาล้อเล่นหรือไม่ มีรอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขาขณะที่เขารับบัตรม่วงมา นายท่านเป็นคนดีมากจริง ๆ หินหลากสีนี้ถูกส่งวนเวียนไปทั่วในศาลาสมบัติต่างสาขาของเรามาหลายสิบปี แต่ตอนนี้ก็ได้พบเจ้าของแล้ว
หลังจากนั้นผู้จัดการชั้น 4 ก็นำคนจากร้านแลกเงินมาทันทีและถอนเหรียญม่วงออกจากบัตรไป 15,000 เหรียญ จากนั้นก็ส่งหินหลากสีให้กับเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินหยินหินหลากสีขนาดเท่าหัวแม่มือและมองดูอย่างใกล้ชิด แม้ว่าหินหลากสีจะมีขนาดเล็กมากในมือของเขา เขาก็ยังยากที่จะจินตนาการว่าหากมันโดนน้ำแล้วมันจะหนักแค่ไหน
ในโลกที่กว้างใหญ่นี้ มีอะไรแปลก ๆ มากมายจริง ๆ เจี้ยนเฉินถอนหายใจกับตัวเอง
ทันใดนั้นจิตวิญญาณกระบี่ในตันเถียนของเขาก็สั่นสะเทือนทันที ในเวลาเดียวกันหินหลากสีในมือของเจี้ยนเฉินก็มีการตอบสนองต่อวิญญาณ จากนั้นแสงทั้ง 5 ก็พุ่งออกมาจากหินก้อนเล็ก ๆ ชั้น 4 ของศาลาสมบัติก็เต็มไปด้วยแสงหลากสี พื้นที่โดยรอบก็สว่างไสวทำให้ทุกคนตื่นตาตื่นใจราวกับว่าพลังวิญญาณของพวกเขาเติบโตขึ้นอย่างกะทันหัน
สวรรค์ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?
แสงนั่นช่างเป็นบุญตาจริง ๆ หินก้อนนี้เป็นสมบัติจริง ๆ !
นี่เป็นหินลึกลับและมีผลกระทบเช่นนี้ เฮ้อ ถ้าข้ารู้เรื่องนี้ล่ะก็ ข้าจะซื้อมันมาก่อน
ข้าตาบอดไปได้อย่างไร ถึงได้พลาดสมบัติ…
ทุกคนในชั้น 4 ก็เริ่มพูดคุยกันเรื่องหินทำให้พื้นที่รอบ ๆ ที่เงียบก่อนหน้านี้กลายเป็นเสียงดังจอแจ ทุกคนพูดอย่างตื่นเต้นขณะที่รู้สึกเศร้าใจที่พวกเขาไม่มีสายตาที่แหลมคมเหมือนกับเจี้ยนเฉิน ชายหลายคนนั้นมองดูหินหลากสีด้วยสีหน้าที่โลภมาก
กะ-เกิด…เกิดอะไรขึ้น ? ผู้เฒ่าของศาลาสมบัติตะโกนออกมาอย่างงงงวย เขาเป็นผู้จัดการของศาลาสมบัติมาหลายปีแล้วและได้ค้นพบอะไรหลาย ๆ อย่าง อย่างไรก็ตามสถานการณ์แบบนี้ตรงหน้าของเขาเพิ่งจะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก
แม้ว่าจะอยู่ในพายุที่รุนแรง หินหลากสีก็ยังไม่ปล่อยแสงที่สว่างขนาดนี้ออกมา นอกจากนี้เขายังบอกได้ว่าหินหลากสีตอนนี้กำลังเปล่งแสงออกมาอย่างผิดปกติ
เป็นไปได้ไหมว่าหินหลากสีก้อนนี้และเด็กหนุ่มผู้นั้นมีชะตาต้องกัน ? หลากคนเคยเห็นหินก้อนนี้ แต่ก็หันหนีไปทันทีเมื่อได้ฟังราคา อย่างไรก็ตามเด็กหนุ่มนี้ก็ยังคงซื้อมันมาโดยไม่ต่อรองใด ๆ ผู้เฒ่าคิดอย่างลับ ๆ กันตัวเอง ตอนนี้เขาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียวในสถานการณ์เช่นนี้
เจี้ยนเฉินก็ตกใจจากแสงที่ฉับพลันของหินหลากสี เขามีปฏิกิริยาอย่างรวดเร็วในการเก็บหินเข้าไปในแหวนมิติ ทันทีที่หินหายไปแสงบนอาคารก็หายไปด้วยเช่นกัน
คนที่อยู่บนชั้น 4 ของศาลาสมบัติก็เดินตามมาทันทีหลังจากที่แสงมันหายไป
ตอนแสงที่ส่องออกมาข้ารู้สึกสบายใจ หัวของข้าไม่เคยรู้สึกโล่งขนาดนี้มาก่อนเลย ! ชายที่แต่งตัวหรูหราอุทานขณะที่เดินมา
ถูกต้อง ข้าก็รู้สึกว่าจิตใจของข้าถูกชำระจนบริสุทธิ์
ข้าไม่อยากจะโกหกมันดีราวกับขึ้นสวรรค์ ข้ารู้สึกว่าข้าแข็งแกร่งกว่าเดิมตั้งหลายเท่า !
ทันทีที่ทุกคนแลกเปลี่ยนความเห็นกัน และพวกเขาก็พบการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ บนร่างกาย ใบหน้าของพวกเขามีความสุขเสียจนมีน้ำตาไหลออกมาและร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ
บัดซบ ! เมื่อเห็นท่าทีแต่ละคนแล้ว หัวใจของเจี้ยนเฉินแทบจะหยุดเต้น เขาคว้าหมิงตงและเหาะไปทางบันไดเพื่อที่จะไม่ต้องอยู่ที่นี่นานกว่านี้
หยุด! ชายวัยกลางคนรู้สึกทันทีว่าเจี้ยนเฉินกำลังหลบหนี เขาตะโกนออกมาครั้งเดียวพร้อมกับกระโดดมาขวางทางด้านหน้าเขา