ตอนที่ 495 : เหตุการณ์ผิดปกติของโลก

ระบบเจ้าสำนัก

ตอนที่  495 : เหตุการณ์ผิดปกติของโลก

บนยอดเขาข้างๆกับบ่อน้ำ จางหยูได้นั่งขัดสมาธิและลองตรวจสอบร่างกายของตัวเอง

 

เขารับรู้ได้ว่าเขาห่างจากการทะลวงผ่านแค่ก้าวเดียว หลังจากที่ผ่านขั้นนี้ไปได้เขาก็จะเป็นเหมือนกับอ้าวเสี่ยวหร่าน ที่ก้าวข้ามขอบเขตตุ้นซวนขึ้นไปยังขอบเขตก้าวข้ามขั้นต่ำ

 

ตอนแรกเขาไม่มั่นใจว่าเขาจะก้าวข้ามขอบเขตที่เหนือกว่าตุ้นซวนได้หรือไม่ แต่ด้วยการที่มีอ้าวเสี่ยวหร่านเป็นตัวอย่าง เขาก็มั่นใจว่าจะทำได้

 

“ ไม่ใช่แค่ข้า…เฉินกู, อ้าวเยว่,อ้าวอู่เหยียนและคนอื่นๆก็ด้วย เมื่อพวกเขาเข้ามาในโลกนภา พวกเขาก็สามารถเข้าถึงขอบเขตก้าวข้ามได้ !” จางหยูคิด

 

ในทางทฤษฎีแล้วตราบใดที่เข้ามายังโลกนภา เราก็สามารถขึ้นไปยังขอบเขตก้าวข้ามได้

 

นี่มันหมายความว่าหากจางหยูเต็มใจ เขาก็สามารถสร้างยอดฝีมือขอบเขตก้าวข้ามขึ้นมาตอนไหนก็ได้ !

 

จางหยูสงสัยว่า หากยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดเข้ามายังโลกนภาแล้ว พวกเขาจะขึ้นไปยังขอบเขตก้าวข้ามขั้นต่ำ, กลาง, สูงหรือว่าก้าวไปยังขั้นสูงสุดได้โดยตรง หรือว่าหยุดอยู่แค่ขั้นต่ำ ?

 

ชัดแล้วว่านี่เป็นคำถามที่น่าสนใจ

 

“ โลกบังสวรรค์เกือบจะสมบูรณ์แล้ว ”จางหยูรับรู้ได้ว่า โลกบังสวรรค์ในวังวนของเขายังอยู่ในช่วงขึ้นรูปร่างอยู่ เมื่อระดับการบ่มเพาะของเขาขึ้นไปถึงขอบเขตก้าวข้ามแล้ว โลกบังสวรรค์ก็จะก่อตัวขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ ทั้งสองอย่างนี้สอดคล้องกัน

 

แน่นอน แม้ว่าโลกบังสวรรค์จะก่อตัวขึ้นมาแล้ว แต่มันก็ยังไม่ใช่โลกที่สมบูรณ์แบบ มีแค่การเล่าเรื่องบังสวรรค์ให้จบเท่านั้น ที่จะทำให้โลกนี้กลายเป็นโลกที่สมบูรณ์ได้เหมือนกับโลกนภาที่มีระบบของตัวเอง

 

ในเรื่องนี้จางหยูคาดหวังกับมันอย่างมาก !

 

เขาอยากเห็นว่าโลกบังสวรรค์ที่สมบูรณ์นั้นเป็นยังไง มันต่างจากโลกนภาและโลกป่าตรงไหน จะมียอดฝีมือในเรื่องบังสวรรค์สักกี่คน….

 

สักพักจางหยูก็ค่อยๆรวบรวมสติและหัวเราะกับตัวเอง “ ข้ายังขึ้นไปไม่ถึงขอบเขตก้าวข้ามเลย การคิดมากเรื่องนั้นจะไปมีประโยชน์อะไร ? ”

 

จางหยูตบหน้าตัวเองเพื่อรวบรวมสมาธิ ก่อนจะทำการบ่มเพาะต่อ

 

เขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นในโลกป่า หลังจากที่เขาส่งอ้าวเสี่ยวหร่านกลับไปที่โลกป่า ไม่งั้นแล้วเขาคงไม่อาจจะนั่งบ่มเพาะที่นี่ได้

 

ที่โลกป่า

 

ตอนที่อ้าวเสี่ยวหร่านปรากฏตัวขึ้นมาในบ้าน ทั้งโลกกลับสั่นไหว

 

ทวีปป่า, เกาะมังกรและเขตทะเลโดยรอบ ทั้งโลกทั่วทุกซอกทุกมุมเหมือนกับแบกรับพลังที่เกินขีดจำกัดของมัน มันเหมือนว่าโลกนี้จะพังลง

 

หลิงชี่ในโลกพุ่งพล่านราวกับน้ำเดือด

 

ที่เขตกลาง

 

เฉินกู, ฝางมู่, เหล่าเซียน,ฉินอู่ตี้และคนอื่นๆต่างก็หยุดมือ และแสดงสีหน้าสับสนออกมา

 

พวกเขารับรู้ได้ว่าโลกนี้เต็มไปด้วยความกลัว, ความอึดอัดและความวุ่นวาย หลิงชี่ทั้งหมดเหมือนกับมีพลังลึกลับกดเอาไว้ แม้แต่ปราณในร่างกายของพวกเขา ก็ไม่อาจจะอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขาอีกต่อไป

 

“ เกิดอะไรขึ้นกัน ?”

 

เฉินกูคิ้วขมวด สายตาเขาแสดงความกังวลออกมา

 

“ไม่ดีแน่ ปราณอยู่เหนือการควบคุมของข้า ! ”

 

“ ไม่ ความแข็งแกร่งของข้ากำลังหายไป ! ”

 

“ เกิดอะไรขึ้นกัน ! ”

 

“ พันธมิตรกลายพันธุ์รึ ! ”

 

เซียนค่ายกล,ฝางมู่และคนอื่นๆพากันลนลาน ในหัวของพวกเขาคิดเพียงอย่างเดียวว่า นี่เป็นฝีมือของพันธมิตรกลายพันธุ์

 

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ ความรู้สึกนี้ของพวกเขา ไม่ได้รู้สึกเพียงลำพังแต่ทุกคนต่างก็รู้สึกเหมือนกัน ตั้งแต่ยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดจนถึงคนที่เพิ่งก้าวเข้ามาสู่ประตูการบ่มเพาะ ต่างก็รู้สึกเช่นนี้

 

การเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดนี้ ทำให้แม้แต่ยอดฝีมือระดับสูงสุดถึงกับลนลาน คนอื่นจะไม่ลนลานได้ยังไง ?

 

ที่เขตใต้

 

อ้าวอู่ซูรวมไปถึงพวกกลายพันธุ์ต่างก็ตัวแข็งทื่อ พลังในตัวพวกเขาก็อยู่เหนือการควบคุมเช่นเดียวกัน

 

ปราณหลุดจากการควบคุมของพวกเขาไป พวกเขารู้ว่าโลกนี้เกิดการสั่นคลอนไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม

 

“ โลกนี้…กำลังกลัวรึ ?” อ้าวอู่ซูสงสัยว่าเขาบ้าไปแล้ว แต่เขารับรู้ได้ว่าโลกนี้เหมือนจะแสดงความหวาดกลัวออกมา

 

โลกไม่ได้มีชีวิต แล้วมันจะมีความรู้สึกได้ยังไง ?

 

ยิ่งกว่านั้นโลกนี้ก็กว้างใหญ่ แม้ว่ามันจะมีชีวิตจริงๆ แต่ก็ถือว่าเป็นตัวตนที่ทรงพลังและไร้เทียมทานที่สุด มันจะมีพลังแบบไหนในโลก ที่ทำให้ตัวตนแบบนี้กลัวได้ ?

 

“ ข้าต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ถึงได้คิดว่าโลกนี้กำลังกลัวบางอย่างอยู่ ”  อ้าวอู่ซูยิ้มแห้งๆออกมา

 

เขาบอกกับตัวเองว่าเขาคิดไปเอง แต่เขารู้สึกได้ถึงความกลัวที่ไม่อาจจะอธิบายได้ ความกลัวที่มาจากสัญชาตญาณ มันมาจากก้นบึ้งของวิญญาณ แม้ว่าเขาจะคอยปลอบตัวเอง แต่เขาก็ไม่อาจจะห้ามตัวเองจากความกลัวที่รุกล้ำเข้ามาในวิญญาณเขาได้

 

ที่เกาะมังกร

 

อ้าวคุนยืนอยู่บนยอดเขา ที่หุบเขามังกรด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

 

เขาแผ่การรับรู้ออกไป จากนั้นเขาก็พบฉากที่เหมือนกับฉากตรงหน้าเขาอยู่ทั่วทุกที่ โลกนี้กำลังสั่นไหวราวกับว่ากำลังกลัวอะไรบางอย่าง หลิงชี่นั้นเดือดพล่านแสดงความกลัวออกมา ปราณในตัวเขาก็อยู่เหนือการควบคุม ราวกับว่าเขาได้เปลี่ยนเป็นคนธรรมดา

 

อ้าวคุนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลกป่าแห่งนี้ มันคือการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาด

 

ตลอดเวลาที่เขามีชีวิต นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น แม้แต่ความทรงจำที่เขาได้รับมา ก็ไม่ได้มีข้อมูลเรื่องนี้อยู่เลย

 

เพราะการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ จึงทำให้เขาที่ถือว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ถึงกับรู้สึกกลัวขึ้นมา

 

“ กรร…”

 

“ โฮก…”

 

ทั่วทั้งเกาะมังกรกลับมีเสียงร้องของมังกรดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เสียงมังกรคำรามดังก้องไปทั่วทั้งโลก ความสูงส่งและยิ่งใหญ่ในอดีตกลับหายไป แทนที่ด้วยความกลัวไม่รู้จบ

 

ที่เขตเหนือ, ตะวันออก, ตะวันตกและเขตทะเล สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต่างก็พากันลนลาน

 

ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์,สัตว์อสูร,มังกรหรือพวกที่เรียกตัวเองว่าสิ่งมีชีวิตแบบใหม่ ต่างก็พากันลนลาน ยิ่งแข็งแกร่งเท่าไหร่ก็ยิ่งรับรู้ได้ถึงความกลัวมากขึ้นเท่านั้น ความรู้สึกอ่อนแอนี้ทำให้พวกเขารู้สึกกลัวยิ่งกว่าเดิม

 

ต้นตอของเหตุการณ์ผิดปกตินี้ กลับมาจากสาวน้อยที่อายุ 16-17 ปีเท่านั้น

 

อ้าวเสี่ยวหร่านบินไปรอบๆบ้าน ก่อนจะหรี่ตามองไปรอบๆ “ แปลกๆ ทำไมทุกที่ถึงสั่นไหว ? ”

 

นางขยี้ตาตัวเองและยืนยันว่าโลกนี้กำลังสั่นอยู่จริงๆ นางไม่ได้ตาฝาด

 

“ ใช่สิ ท่านพี่บอกว่าอย่าเปิดเผยพลังออกมา ” อ้าวเสี่ยวหร่านนึกบางอย่างออก และรีบปกปิดพลังของตัวเองทันที ตอนที่นางดึงพลังทั้งหมดกลับมา นางก็พบว่าโลกที่สั่นไหวนั้นเหมือนจะหยุดลง ทุกอย่างกลับคืนสู่ความสงบ

 

ในเวลาเดียกัน ที่เขตกลาง, เหนือ, ตะวันออก, ใต้, ตะวันตก, เกาะมังกร, เขตทะเลและที่อื่นๆเองก็สงบลงพร้อมกันด้วย หลิงชี่ที่เดือดพล่านกลับคืนสู่ความสงบราวกับว่าสิ่งผิดปกติเมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้น

 

มนุษย์,สัตว์อสูรและมังกรนับไม่ถ้วนต่างก็สามารถควบคุมปราณของตนได้ดังเดิม

 

อ้าวเสี่ยวหร่านที่บินอยู่อดไม่ได้ที่จะตาเป็นประกาย  “ สนุกดีจริงๆ ! ”

 

ต่อมานางก็ได้แผ่พลังของนางออกจากตัว แต่แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่แค่พลังเพียงเล็กน้อยนี้ ก็ทำให้โลกสั่นไหวขึ้นมาอีกรอบ เหตุการณ์เหนือธรรมชาติเมื่อสักครู่ได้เกิดขึ้นมาอีกรอบ

 

เฉินกู, เหล่าเซียนและคนอื่นๆยังไม่ทันได้โล่งอก ก็ต้องสีหน้าเปลี่ยนไปอีกครั้ง  ราวกับว่าพวกเขากำลังตกจากที่สูงอีกครั้ง

 

อ้าวอู่ซูก็รู้สึกเช่นเดียวกัน รวมไปถึงพวกมังกรที่เกาะมังกรด้วย

 

หากจางหยูอยู่ที่นี่ เขาคงเข้าใจว่าอ้าวเสี่ยวหร่านแข็งแกร่งเกินไป เหนือขีดจำกัดของโลกป่า ดังนั้นจึงเกิดเหตุการณ์ผิดปกตินี้ขึ้น หากโลกป่าอยู่ในสภาพนี้นานๆ มันคงไม่ดีแน่ วันหนึ่งมันอาจจะถล่มลงไป เพื่อจะให้โลกนี้รับภาระน้อยที่สุด จางหยูคงให้อ้าวเสี่ยวหร่านปกปิดพลังของตัวเองเอาไว้

 

โชคร้ายที่จางหยูไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย ดังนั้นจึงไม่มีใครห้ามปรามอ้าวเสี่ยวหร่าน

 

ครึ่งชั่วโมงจากนี้ อ้าวเสี่ยวหร่านก็เล่นสนุกไปกับพลังของตัวเองด้วยความพอใจ

 

ตอนนั้นโลกป่าสั่นไหวอยู่หลายครั้ง บางครั้งมันสงบลงอยู่นานก่อนที่จะสั่นไหวขึ้นอีกรอบ  ตอนแรกเหล่ายอดฝีมือระดับสูงสุดต่างก็ตกใจ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ชิน

 

ไม่รู้ว่าเพราะรู้ถึงผลกระทบจากเรื่องนี้ หรือเพราะว่าเบื่อ ตอนที่โลกป่ากำลังจะพังลง อ้าวเสี่ยวหร่านก็หยุดและปกปิดพลังของตัวเองเอาไว้

 

ไม่มีใครรู้ว่าโลกป่าที่กำลังจะเป็นโลกขั้นที่ 7 เกือบจะพังทลายเพราะเด็กสาวผู้นี้ !

 

ไม่มีใครคิดว่าเหตุการณ์ผิดปกติที่เกิดขึ้นกับโลกนี้ เกิดขึ้นเพราะเด็กสาว และคิดว่ามันเกิดขึ้นเพราะเครื่องมือบางอย่าง  เพราะพลังของโลกนี้เกินกว่าที่ทุกคนคาดถึง แม้แต่ผู้ที่อยู่เหนือขอบเขตตุ้นซวนก็อาจจะทำแบบนี้ไม่ได้

 

อันที่จริงแล้วในโลกนภานั้น พลังของอ้าวเสี่ยวหร่านไม่ได้ส่งผลต่อโลกนภาเลย แม้ว่านางจะปล่อยพลังออกมาจนหมด แต่ก็ไม่อาจจะทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ แต่โลกป่านั้นต่างจากโลกนภา มันคือโลกขั้น 6 ส่วนสูงสุด แม้จะเกือบเลื่อนขั้นแล้วแต่ก็ยังมีความต่างจากโลกขั้น 7 อย่างมาก ตราบใดที่ยังไม่เลื่อนขั้น พลังของขอบเขตก้าวข้ามแค่เพียงเล็กน้อย ก็ไม่ต่างจากภัยพิบัติที่ทำลายทั้งโลกเลย

 

หลังจากที่หยุดเล่นแล้ว การรับรู้ของอ้าวเสี่ยวหร่านก็แผ่ไปทั่วเนินเขา ก่อนจะพบโอวเสินเฟิงที่กำลังเดินมาที่ลานของสำนัก

 

ร่างของอ้าวเสี่ยวหร่านไปปรากฏตัวที่ลานอยู่ตรงหน้าโอวเสินเฟิงทันที

 

“ อาจารย์โอว ! ” อ้าวเสี่ยวหร่านยื่นมือขึ้นโบกมือให้กับโอวเสินเฟิง ก่อนจะพูดขึ้น  “ ท่านจะทำอะไรรึ ?”

 

โอวเสินเฟิงได้สติ เขาหรี่ตาลง เมื่อเห็นหน้าตาของสาวน้อย เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา “ เจ้าเป็นใครกัน ?”

 

อ้าวเสี่ยวหร่านเผยรอยยิ้มออกมา “ ท่านเดาดูสิ  ! ”

 

โอวเสินเฟิงขมวดคิ้ว เขามองอ้าวเสี่ยวหร่านอยู่นานและพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ คนนอกห้ามเข้าสำนักคังเฉียง ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครก็ออกไปซะ ! ”

 

แม้ว่าเขาจะสงสัยว่าอ้าวเสี่ยวหร่านอาจจะเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุด และแข็งแกร่งกว่าเขามาก แต่เขาก็ไม่คิดอ่อนข้อให้ เขาห่วงเรื่องสำนักคังเฉียงมากกว่า

 

“ ข้าคือเสี่ยวหร่านยังไงล่ะ ! ” อ้าวเสี่ยวหร่านไม่พอใจขึ้นมา  “ ตอนนี้ข้าโตแล้ว ท่านจำข้าไม่ได้รึ? ”

 

โอวเสินเฟิงเบิกตากว้างด้วยความเหลือเชื่อ “ เจ้าคือเสี่ยวหร่านรึ? อ้าวเสี่ยวหร่านน่ะรึ? ”

 

มังกรน้อยที่ออกจากไข่มาได้ไม่กี่เดือน กลับเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดแล้วรึ ?

 

พระเจ้า โลกนี้มันบ้าไปแล้ว !