ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 1348 –ความเปลี่ยนแปลงในครึ่งปี

 

นอกจากนี้ยังมีผู้คนจำนวนน้อยในตระกูลชิงที่จะมีความแข็งแกร่งในระดับหมิงเยวี่ย ห่ายตงชิง มู่ชิง โดยเฉพาะกลุ่มของเด็กรุ่นใหม่และคนชรา

 

นอกจากนั้นยังมีคนที่ชิงสุ่ยกังวลเป็นอย่างมากนั้นก็คือสือฉิงฉวง จรู้ชิง หยุ่นต้วนที่กำลังแข็งแกร่งขึ้นอย่างช้า ถึงแม้พวกเธอนั้นจะอ่อนแอกว่าคนอื่นๆแต่อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกนั้นกำลังแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องมาจากทักษะของชิงสุ่ยนั้นทำให้ความแข็งแกร่งของทุกๆคนในตระกูลชิงเพิ่มขึ้นมารวดเร็วกว่าเมื่อก่อน และนอกจากนี้มันยังทำให้รากฐานของพวกเขานั้นมั่นคงอย่างมาด

 

แต่ถึงอย่างไรหยุ่น ต้วนและสือฉิงฉวงนั้นยังไม่ต่อยพอใจกับผลลัพธ์ในครั้งนี้เท่าไร โดนเฉพาะสือฉิงฉวงเพราะเธอนั้นมักจะนำตัวเองไปเทียบกับคนอื่นๆ นอกจากนี้เธอนั้นยังภรรยาคนแรกของชิงสุ่ยอีกด้วย ถึงแม้เธอจะไม่กล่าวออกมาโดยตรงแต่ชิงสุ่ยนั้นก็สามารถสัมผัสได้ผ่านทางสายตาของเธอ

 

ในทางตรงข้ามจรู้ชิงนั้นรู้สึกพอใจกับความแข็งแกร่งของเธอในตอนนี้อย่างมาก เธอมักใช้เวลาส่วนมากในการดูแลเหล่าเด็กมากกว่าทำการบ่มเพาะ นั้นเพราะเธอชอบบรรยากาศที่มีเหล่าเด็กๆอย่ารอบๆข้างกายเธอตลอกเวลา มันทำให้ชิงสุ่ยนั้นรู้ได้ทันทีว่าเธอนั้นต้องการที่จะมีลูกเป็นของตัวเองเช่นเดียวกัน

 

ชิงสุ่ยนั้นได้พยายามใช้ยาและทักษะต่างๆมากมายเพื่อรักษาเธอ แต่ถึงอย่างไรมันก็ไร้ความหมาย เขานั้นไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของเธอได้ในที่นี้

 

ตลอดเวลา6เดือนที่ผ่านมาชิงสุ่ยรู้สึกมีความสุขอย่างมาก นั้นเพราะสัตว์อสูรของเขาทุกๆตัวนั้นมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน พวกๆมันทุกๆตัวนั้นได้อัดแน่นไปด้วยพลังธรรมชาติที่พร้อมจะประทุออกมาตลอดเวลา

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยนั้นให้ความสำคัญกับมังกรไอยราของเขาอย่างมาก เนื่องจากเวลา6เดือนในโลกภายนอกนั้นมีค่าเท่ากับ10ปีในดินแดนหยก ในช่วงเวลาดังกล่าวเขาไม่เคยลืมที่ป้อนยาให้กับมันเลย จึงทำให้มันนั้นเติบขึ้นอย่างมากภายในเวลาดังกล่าวพลังของมันนั้นมีความเสถียรมากขึ้นเมือเทียบกับเมื่อก่อน แต่ถึงอย่างไรมันก็ยังแอบซ่อนความรุนแรงและอันตรายเอาไว้

 

ในตอนนี้ความแข็งแกร่งของมันอยู่ที่ 45สุริยาซึ่งเป็นพลังที่จัดได้ว่ามากมายสำหรับสัตว์อสูรในชั้นจักรพรรดิ ตอนนี้ชิงสุ่ยกำลังสงสัยว่ามันนั้นจะมีโอกาสที่จะทะลวงขึ้นเป็นสัตว์อสูรอมตะได้หรือไม่?

 

ชิงสุ่ยได้แต่มองที่ไปมันอย่างช้าๆ!

 

พลังคชสารผสานมังกร:พลังที่จะช่วยเพิ่มความเข็งแกร่งของมังกรไอยราขึ้นอีก 70เท่า

 

จากสองเดือนก่อนที่ชิงสุ่ยนั้นได้สังเกตมัน เขาพบว่าในครั้งก่อนมันสามารถเพิ่มพลังให้กับมังกรไอยราได้เพียงแค่ 60เท่าๆนั้นซึ้งในตอนนี้มันนั้นได้เพิ่มขึ้นมีอีกถึง10เท่า ด้วยพลังดังกล่าวจะทำให้ความแข็งแกร่งของมันนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย

 

นอกจากนี้ก้าวพสุธามังกรไอยรานั้นได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นสมบูรณ์แบบเรียบร้อยแล้ว ด้วยพลังของมันจะให้การจู่โจมของมันเพิ่มขึ้นอีก 8เท่า และมีโอกาสที่ทำให้ติดสถานะมึนงงอีกด้วย

 

วชิระลี้ภัย:ภายใต้ระยะสามพันเมตร มันให้มังกรไอยราสามารถเคลื่อนที่ไปบริเวณไหนก็ได้ในพริบตา

 

ปราณกระบี่วชิระ:หลังจากที่ปลดปล่อยปราณออกมา ปราณที่แท้จริงจะเข้าจู่โจมอีกฝ่ายมีโอกาสอย่างมากที่จะให้เกิดอาการบาดเจ็บที่รุนแรง นอกจากนี้ยังมีโอกาสสามารถลดความเร็วของอีกฝ่ายลงได้ถึง 20% มีผล2ชั่วยาม

 

วชิระสยบอสูร:ภายใต้รัศมีหนึ่งพันเมตรฝ่ายตรงข้ามจะถูกจำกัดความแข็งแกร่งลง10%  มีผล2ชั่วยาม

 

การจู่โจมมังกรไอยราคุ้มคลั่ง:เมื่อใช่มันออกมาจะเพิ่มความแข็งแกร่งทางกายภาพเพิ่มขึ้นอีก10เท่า เมื่อจู่โจมออกไปในครั้งเดียว

 

เพลิงนรก:เปลวเพลิงสีดำที่อยู่ด้ายล่างเท้าของมังกรไอยรา จะให้พลังจู่โจมของมันเพิ่มขึ้นอีก20% เมื่อมันได้กระทืบออกมา นอกจากนี้ยังให้ความเร็วของมันเพิ่มขึ้นอีก20%เมื่อมันนั้นเคลื่อนที่ในอากาศ

 

เกราะเกล็ดมังกร:เป็นทักษะติดตัวที่ช่วยเพิ่มพลังป้องกัน และเพิ่มความอดทนให้กับมันได้ถึงสามเท่า  นอกจากนี้มันยังเป็นทักาะที่ทรงพลังที่สุดของมังกรไอยรา

 

ชิงสุ่ยมองไปที่ทักษะสุดท้ายด้วยความตกตะลึง เขาไม่เคยคิดว่า เกราะเกล็ดมังกรจะเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นได้เป็น3เท่า ด้วยทักษะดังความจะทำให้มันมีพลังป้องกันที่มากถึง 1แสนสามหมื่นสุริยา ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะมีสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิเทียบเท่าพลังป้องกันของมัน

 

ในช่วงเวลาหกเดือนที่ผ่านมีความแข็งแกร่งของชิงสุ่ยนั้นได้เพิ่มขึ้นมาเพียง 1สุริยาเท่านั้นซึ่งทำให้เขามีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ21สุริยา

 

แต่ด้วยพลังของกระบี่ดารายุพฆาตและพลังที่อยู่ในตันเถียนของทำให้เขามีความแข็งแกร่งมากกว่า 1หมื่นสุริยา และเมื่อปลดพลังทั้งหมดออกมา เขาจะมีความแข็งแกร่งไม่น้อยกว่า 1แสนสุริยา นอกจากนี้เขายังมีความสามารถจู่โจมทวีคูณอยู่ นั้นทำให้เขานั้นสามารถจู่โจมด้วยพลังสูงสุดถึง 2แสนสุริยา ในขณะที่หุบเขาเก้าเทวาของเขานั้นมีพลังถึง 2.9แสนสุริยาในตอนนี้ ด้วยพลังของเขาในตอนนี้อีกไม่นานเขาก็จะสามารถทะลวงเข้าสู่ระดับจุดสูงสุดของปราณจักรรพรรดิได้ในอีกไม่ช้า

 

ในตอนนี้หากบอกว่าเขาไม่มีความสุขนั้นก็จะเป็นเรื่องโกหก พลังของหุบเขาเก้าเทวานั้นมากมายและมหาศาลอย่างมาก มันนั้นเป็นอาวุธที่ร่ายกาจและสำคัญอย่างมากสำหรับเขา ด้วยพลังที่มากจนเกือบถึง 3แสนสุริยา ทำให้มันเป็นเรื่องยากที่จะผู้บ่มเพาะในระดับจักรพรรดิจะสามารถต่อกรกับเขาได้

 

นอกจากนี้พลังวิญญาณของชิงสุ่ยนั้นก็มีความแข็งแกร่งอยู่ที่ 1.6แสนสุริยา และเมื่อเขาใช้ตราประทับวิหกศักดิ์ออกมามันจะทำให้พลังวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นถึง 2.8แสนสุริยา และเมื่อเขาใช้การจู่โจมทวีคูณออกมามันมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นถึง 5.6แสนสุริยาในทีเดียว นั้นเป็นพลังที่มากที่สุดเท่าที่เขาใช้ออกมาได้ในตอนนี้

 

ในตอนนี้เคล็ดกายาเสริมสร้างบรรพกาลของเขาได้มาถึงจุดสูงสุดในระดับชั้นสวรรค์ที่7เรียบร้อยแล้ว ชิงสุ่ยรู้สึกว่าเขานั้นได้ปีนขึ้นมาอยู่กลางยอดเขาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งยอดเขาดังกล่าวนั้นได้ทีประตูขนาดใหญ่ที่ปิดกั้นทางเดินต่อไปอยู่ ซึ่งในตอนนี้ เขานั้นยังไม่มีวิธีที่จะเปิดประตูบานนั้นเพื่อเดินทางต่อ

 

แต่ถึงอย่างไรเขาก็มั่นใจว่าอีกไม่นานเขานั้นจะสามารถเปิดมันออกและก้าวขึ้นไปสู่ยอดเขาที่แท้จริงได้ในไม่ช้า

 

เมื่อเขาก้าวผ่านชั้นสวรรค์ที่ 8  เขารู้สึกว่าเขาจะสามารถปล่อยมือในสิ่งต่างๆที่เขาแบกรับอยู่ได้  ชั้นสวรรค์ที่8จะทำให้ร่างกายของเขามีพลังมากยิ่งขึ้น และทำให้ภาระที่เขาแบกอยู่นั้นลดลงไป

 

ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าเขาจะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองขึ้นถึง 5แสนสุริยาได้เมื่อไร่กัน  หากเขานั้นต้องมีความแข็งแกร่งในระดับนั้น เขาจำเป็นต้องมีความแข็งแกร่งที่แท้จริงในตอนนี้ให้ถึง 40สุริยาเสียก่อน ด้วยยาเม็ดสวรรค์หยางที่เขามีเขาเชื่อว่าอีกไม่นานเขาจะสามารถไปถึงจุดๆนั้นได้ในไม่ช้า เมื่อไปถึงจุดๆนั้นได้ระดับบัญชาสวรรค์พินาศคือเป้าหมายต่อไปของเขา และนอกจากนี้เขายังเชื่ออีกว่าหากเขาทะลวงไปสู่ชั้นสวรรค์ที่8ได้ เขานั้นก็สามารถการเป็นผู้บ่มเพาะระดับบัญชาสวรรค์พินาศได้อย่าแน่นอน

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยรู้สึกพึงพอใจกับสิ่งที่เขานั้นกำลังคิดอยู่อย่างมาก หากเมื่อเวลานั้นมาถึงแม้เขาจะยังไม่ได้ก้าวสู่ระดับบัญชาสวรรค์พินาศ แต่เขาก็จะมีพลังไม่ด้อยกว่าผู้บ่มเพาะระดับนั้น ด้วยพลังที่เขามีจะทำให้ผู้บ่มเพาะในจุดสูงสุดของปราณจักรพรรดินั้นแทบไม่สามารถแต่ต้องเขาได้เลยแม้แต่น้อย

 

แต่ถึงอย่างชิงสุ่ยก็รู้ว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นยังเป็นเรื่องที่ยากเกินไปสำหรับเขาในตอนนี้ เขายังไม่สามารถหาหนทางที่จะเปิดประตูบานนั้นเพื่อก้าวต่อไปได้

 

เช่นเดียวกับฮี่หวง กูหวู่ที่ได้ก้าวผ่านประตูสวรรค์ไปแล้วทำให้ความสามารถของเธอนั้นได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผนวกด้วยรูปแบบพยัคฆ์ที่ชิงสุ่ยนั้นได้ถ่ายทดให้ทำความแข็งแกร่งของเธอนั้นเพิ่มขึ้นกว่าเก่ามากนัก รวมถึงกลิ่นที่ดุดัยที่ปลดปล่อยออกมานั้นก็ยังมีความเสถียรมากกว่ามากนัก ซึ่งในตอนแรกชิงสุ่ยคิดว่าเธอนั้นต้องใช้เวลาอีกประมาณสิบปีที่จะกลับที่ตระกูบฮี่หวงได้ แต่ในตอนนี้เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของเธอมันทำให้เขาต้องคิดเสียใหม่

 

“ไม่เกินสามปี!”

 

6เดือนที่ผ่านมาอำนาจของหอคอยจักรพรรดิได้แพร่ออกไปทั่วเมื่องฮี่หวง แม้กระทั้งเมืองใกล้เคียงนั้นก็ยังได้รับผลกระทบของชื่อเสียงของหอคอยจักรพรรดิ พวกเขานั้นต่างเดินทางมาเมืองแห่งนี้เพื่อ ทำความรู้จักกับชิงสุ่ย

 

หนึ่งในนั้นคือคนของตระกูลเทียนฮี่ พวกเขานั้นเคยมาของความช่วยเหลือจากชิงสุ่ย แต่ถึงอย่างไรพวกเขานั้นก็ไม่ได้พยายามสร้างมิตรภาพที่ลึกซึ้งกับชิงสุ่ยเท่าไร  ภายในหกเดือนที่ผ่านมาชิงสุ่ยนั้นยังไม่ดีมีสหายที่แท้จริงเท่าไร คนที่เข้ามาหาเขานั้นต่างก็หวังผลประโยชน์จากเขาเกือบทั้งหมด จึงทำให้การพบเจอสหายที่ดีเช่นหมอปิศาจนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่ยากอย่างมากสำหรับเขา

 

ผลประโยชน์ ยาล้ำค่า สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่แอบซ่อนอยู่เบื้องหลังของผู้คนที่มากหาเขา!!

 

ในเวลาหกเดือนที่ผ่านมาหมอปิศาจและหยวนสู่นั้นมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมายความแข็งแกร่งของพวกเขาค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆแต่มั่นคง แต่สิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับชิงสุ่ยนั้นก็คือทักษะทางการแพทย์ของทั้งสอง ที่เพิ่มขึ้นราวเป็นคนละคน สิ่งนี้ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกมีความสุขและผ่อนคลายเป็นอย่างมาก

 

ใน6เดือนที่ผ่านมาชิงสุ่ยได้ทำการรักษาปู๋หยาง ชิงเดือนละ4 –5ครั้ง อย่างต่อเนื่อง จนในตอนนี้อาการของเธอนั้นแทบจะหายดีแล้ว หากในช่วงนี้ไม่เกิดข้อผิดพลาดขึ้นเขาก็จะหายดีและกลายเป็นผู้บ่มเพาะบัญชาสวรรค์พินาศ

 

 

เคยมีคนกล่าวว่าผู้บ่มเพาะบัญชาสววรค์พินาศนั้นเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองฮี่หวงแห่งนี้ แต่การทะลวงเข้าสู้รัดับนั้นเป็นเรื่องที่ยากเย็นอย่างมาก จากข้อมูลที่ชิงสุ่ยได้รับมันให้เขานั้นรู้ได้ดีว่าการกลายเป็นผู้บ่มเพาะบัญชาสวรรค์พินาศสำหรับเขานั้นเป็นสิ่งที่ยากกว่าคนอื่นๆมากกว่าหลายเท่า นอกจานี้มันยังเป็นเรื่องที่เสียงต่อชีวิตของเขามากๆเช่นเดียวกัน มีผู้คนมากมายที่ต้องตายลงไปเพื่อต้องการทะลวงขึ้นสู่ระดับสวรรค์พินาศ นี่จึงทำให้เห็นว่ามีผู้บ่มเพาะบัญชาสวรรค์พินาศเพียงน้อยนิดในโลกใบนี้

 

ดังนั้นในตอนนี้ปู๋หยาง ชิงได้ทะลวงขึ้นสู่ระดับใหม่ชิงสุ่ยจึงอยู่ใกล้ๆเธอ และค่อยช่วยเหลือฝังเข็มเพื่อให้ทุกๆอย่างนั้นผ่านไปได้อย่างราบรื่น และเพิ่มโอกาสที่จะช่วยเหลือเธอให้ก้าวหน้าขึ้นไป ซึ่งในครั้งนี้มันให้เขาพบว่าเส้นทางของหมอและเส้นทางของผู้บ่มเพาะบัญชาสวรรค์พินาศนั้นเป็นเส้นทางที่สอดคล้องกัน