สนุ๊กเกอร์?
เสี่ยวหลัวเงียบไปอยู่ครู่หนึ่ง แผนนี้คงเป็นอีกหนึ่งในกลอุบายของชูเยว่ สินะ เสี่ยวหลัวเผยรอยยิ้มที่มุมปากของเขาโดยไม่รู้ตัวโดยไม่รู้ตัวขณะที่เขาตอบว่า “ฉันเคยเล่นแค่พลูเท่านั้น ไม่เคยลองเล่นสนุกเกอร์มาก่อนเลย!”
ฝู เจียเว่ย หัวเราะเบาๆอยู่ในใจของเขา: จะเคยเล่นมันก็แปลกแล้วเพราะกีฬาสนุกเกอร์มันเป็นของพวกชนชั้นสูง!
การแสดงออกของ ฝู เจียเว่ย ดูสงบในขณะที่เขาชี้ไปยังสถานที่ไม่ไกลจากฟลอร์เต้นรำ “พี่สนใจไหม? ผมบังเอิญมีโต๊ะสนุกเกอร์อยู่ที่นี่พอดี”
มองไปในทิศทางที่ ฝู เจียเว่ย ชี้ มันมีอาคารกลางแจ้งที่ดูเหมือนหงส์ขาวขนาดยักษ์ เสี่ยวหลัวเดินเข้ามาดูข้างใน มันมีโต๊ะสนุ๊กเกอร์อยู่ และมีลูกบอลสีแดงสิบห้าลูก ลูกบอลหลากสีอีกหกลูก และมีรูอยู่ที่มุมทั้งสี่ของโต๊ะ โต๊ะมีลักษณะเป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า พื้นผิวสีเขียวของโต๊ะราบเรียบเหมือนดั่งกระจก
เสี่ยวหลัวยิ้ม“ฉันจะลองเล่นดูสักหน่อยก็ได้!”
เสี่ยวหลัวเขาไม่สนใจคนเหล่านี้ว่ากำลังจะทำอะไร ตอนนี้ที่เขาสนใจก็คือแต้มที่เขาจะได้
เย่ หยิงหยิง ยืนขึ้นแล้วพูดว่า “เสี่ยวหลัว ฉันจะเล่นกับคุณเอง”
“ฉันชอบที่จะมีผู้หญิงสวยๆมาเล่นด้วย”
เสี่ยวหลัวพยักหน้าแล้วพูดว่า“เพียงแค่เล่นเฉยๆ มันดูไม่ค่อยน่าสนใจสักเท่าไหร่”
เย่ หยิงหยิง รู้สึกประหลาดใจชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็หยิบบัตรธนาคารออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า“โอเคได้ ในการ์ดใบนี้มีอยู่ 50,000 หยวน ฉันไม่ได้ขอให้คุณทำคะแนนสูงกว่าฉัน คุณจะชนะถ้าคุณทำคะแนนได้ 10 คะแนน และสามารถเอาการ์ดใบนี้ไปได้เลย”
“เธอแน่ใจเหรอ ฉันต้องขอบอกเธอไว้ก่อนเลยนะว่าฉันก็ไม่ได้เลวร้ายนักในการเล่นพลู พอฉันได้สิบคะแนนแล้วฉันจะชนะเลยงั้นเหรอ? เธอไม่คิดว่านี่มันไม่ง่ายเกินไปสำหรับฉันเหรอ?”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเสี่ยวหลัวนั้นสดใสมาก ไม่เพียงแต่เขาจะได้กินอาหารดีๆหลังจากมาเข้าร่วมงานปาร์ตี้ แต่เขายังสามารถชนะและได้เงินมาอีกด้วย สำหรับผู้ชายอย่างเขาที่ไม่มีเงินมากนักได้แค่นี้ก็ความสุขมากแล้ว
‘ไอโง่นี่พลูมันจะเหมือนกับสนุ๊กเกอร์อย่างไร’
ใบหน้าของ เย่ หยิงหยิง เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เยาะเย้ยความไม่รู้ของ เสี่ยวหลัว
แม้ว่าพลูและสนุ๊กเกอร์ต่างก็มีทั้งบิลเลียด แต่มันก็มีความแตกต่างกันอย่างมาก ระหว่างพวกมัน เริ่มด้วยโต๊ะ โต๊ะพูลมีความยาวประมาณ 2.5 เมตรและกว้าง 1.2 เมตร ในขณะที่โต๊ะสนุ๊กเกอร์มี 3568 มม. x 1778 มม. หลังใหญ่กว่าพลูมากและความยากในการเล่นของพวกมันก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน
ประการที่สองมันต้องใช้สมองอย่างมากในการควบคุมลูกบอล และการวางกลยุทธ์ก็มีความสำคัญในการเล่นสนุกเกอร์ ผู้ที่ไม่เคยลองเล่นมันมาก่อนจะไม่มีแนวคิดดังกล่าวในใจ จิตใจของพวกเขาจะว่างเปล่าเหมือนกับคนที่ไม่เคยสัมผัสบาสเก็ตบอลและถูกโยนลงให้ไปเล่นในสนามบาสเกตบอลเพื่อเล่น
“ถ้าคุณคิดว่ามันง่ายเกินไปสำหรับคุณ แต่ถ้าคุณแพ้คุณจะต้องให้บางอย่างกับฉันเพื่อให้มันยุติธรรม” เย่ หยิงหยิง เย้ยหยัน
เสี่ยวหลัวแบมือของเขา“ฉันไม่ใช่คนร่ำรวยอย่างคุณ! ฉันไม่มีเงิน 50,000 หยวน ติดตัวหรอก!”
“ฉันไม่ต้องการเงิน นอกจากนี้ทำไมฉันที่เป็นถึงลูกสาวของตระกูลเย่ ฉันเหมือนคนขาดเงินขนาดนั้นเลย?”
การแสดงออกของเสี่ยวหลัวกลายเป็นอยากรู้อยากเห็น“ดังนั้นคุณต้องการอะไร”
“ถ้าคุณแพ้ ฉันอยากให้คุณเห่าสักสองสามครั้งเหมือนหมาต่อหน้าทุกคน และก็เช็ดรองเท้าของฉันให้สะอาด” เย่ หยิงหยิง ยกรองเท้าส้นสูงของเธอขึ้น
ทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ แขกทุกคนก็เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น: เย่ หยิงหยิง กำลังพยายามทำให้เสี่ยวหลัวเสียศักดิ์ศรี
ดวงตาของเสี่ยวหลัวกลายเย็นชา เขาไม่คิดเลยว่าในหัวใจของ เย่ หยิงหยิง จะเยือกเย็นมากขนาดนี้ “นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับศักดิ์ศรีของฉันในฐานะลูกผู้ชาย ฉันคิดว่าเงิน 50,000 มันไม่ค่อยจะคุ้มค่าสักเท่าไหร่”
“ถ้าอย่างนั้น ฉันให้สิ่งนี้เพิ่มเข้าไปอีก!”
เย่ หยิงหยิง ถอดนาฬิกาข้อมือที่เธอสวมอยู่ “นี่คือ นาฬิกา Omega Galaxy ของสวิสมูลค่าอย่างน้อย 50,000 หยวน”
“มันก็พอได้ แต่…!”
เสี่ยวหลัวแสร้งทำเป็นลังเล แต่จริงๆแล้วในใจของเขากำลังยิ้มอยู่ ตอนนี้อ้อยกำลังเข้าปากช้างเขาจะปฏิเสธไปได้อย่างไร
“แสดงความกล้าหาญของคุณในฐานะลูกผู้ชาย หรือว่าคุณไม่ใช่ลูกผู้ชาย?” มือของ ฝาง ชูหลาน กอดหน้าอกของเธอ ขณะที่พูด
“ใช่ตอบตกลงเร็วๆสิ ถ้าไม่เล่นก็หมายถึงว่านายยอมรับแล้วว่านายไม่ใช่ลูกผู้ชาย!”
“เขาต้องกลัวที่จะแพ้แน่ๆ ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ไม่เคยเล่นสนุ๊กเกอร์มาก่อน”
“ใช่ ถ้าเขาแพ้เขาก็ต้องเห่าเหมือนสุนัข เขาคงไม่ต้องการที่จะทำตัวขายหน้าแบบนั้น”
ใบหน้าของ ฝู เจียเว่ย เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ เมื่อทำสิ่งนี้สำเสร็จ ชูเยว่ ก็อาจมีความประทับใจในตัวของเขา เมื่อเขาคิดถึงวันที่เขามีเทพธิดาอยู่เคียงข้างเขาก็รู้สึกมีความสุขมาก
จากที่ไกลออกไป ไป่หลิง พูดด้วยความกระวนกระวายใจว่า“ชูเยว่เธอคิดว่าเสี่ยวหลัว จะเห็นด้วยกับข้อเสนอของ เย่ หยิงหยิง หรือเปล่า”
“หืมถ้าเขาไม่เห็นด้วย ฉันก็จะดำเนินการตามแผนการที่ชั่วร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์!” ชูเยว่ เธอตั้งใจจะทำให้เสี่ยวหลัวเสียศักดิ์ศรี
แผนการที่ชั่วร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์?
ไป่หลิงไม่สามารถช่วยอะไรได้ ได้แต่รู้สึกเห็นใจเสี่ยวหลัว
ในเวลานั้นเสี่ยวหลัวก็บิดคอของเขาแล้วถามว่า “คุณเย่ รหัสผ่านบัตรบัตรเครดิตธนาคารของคุณคืออะไร”
เขาพูดว่าอะไรนะ!
ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นแข็งค้าง และสงสัยว่าเสี่ยวหลัวกำลังทำอะไร
เย่ หยิงหยิง ก็ดูงงงวยเช่นกัน
เสี่ยวหลัวแบมือของเขาแล้วพูดว่า“ไม่มีรหัสผ่านแล้วฉันจะถอนเงินออกจากการ์ดใบนี้ได้อย่างไร?”
รหัสผ่าน…..
หลังจากที่ได้ยินคำพูดที่ออกมาจากปากของเสี่ยวหลัว พวกเขาก็คิดว่าผู้ชายคนนี้มันจะมั่นใจอะไรขนาดนั้น
ฝู เจียเว่ย เพียงแค่หัวเราะและคิดในใจว่า “เกมและสนุ๊กเกอร์เป็นงานอดิเรกที่สำคัญที่สุดของ หยิงหยิง แม้แต่ลุงต้าผู้เล่นสนุ๊กเกอร์ในการแข่งขันระดับนานาชาติก็ยังยอมรับในทักษะการเล่นของ หยิงหยิง ต่อให้เสี่ยวหลัวมีสามหัวหกแขนเขาก็ไม่มีวันที่จะชนะ หยิงหยิง ได้”
เย่ หยิงหยิง รู้สึกโกรธมากจากนั้นเธอพูดด้วยน้ำเสียงต่ำว่า“รหัสผ่านคือศูนย์หกตัว รอให้คุณชนะก่อนเถอะแล้วค่อยมีความสุข ถ้าคุณทำได้อะนะ”
“ดี เรามาเริ่มเล่นกันเลย!”
เสี่ยวหลัวก้าวเดินไปที่โต๊ะสนุกเกอร์
แขกที่กำลังดื่มเหล้ากินขนมพวกเขาก็เปลี่ยนท่าทีของพวกเขา และเห็นว่าการแข่งขันสนุ๊กเกอร์ที่น่าสนใจกำลังจะเริ่มขึ้นพวกเขาก็เดินไปข้างหน้าเพื่อที่จะมองเห็นการแข่งขันได้ชัดเจนขึ้น
เสี่ยวหลัวเลือกไม้สนุ๊กเกอร์และชั่งน้ำหนักมันอยู่ในมือของเขา “ฉันไม่ได้เล่นมันมาเป็นเวลานานแล้ว ขอฉันระลึกถึงมันสักหน่อย”
ขณะที่เสี่ยวหลัวพูดเขาก็ก้มลงและแทงลูกบอลสีขาวด้วยไม้คิวของเขา การเคลื่อนไหวของเขามันรุนแรงและแข็งทื่อ การแทงในครั้งนี้ของเขาทุกคนกำลังคาดหวังต่อมันอยู่ เขาแทงวืด แรงผลักดันเกือบทั้งหมดจากไม้คิวแทงไปที่ขอบของลูกบอลสีขาวทำให้เกิดการหมุนระยะทางสั้นๆ เท่านั้น
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ …”
เพื่อนๆของ ฝาง ชูหลาน และ เย่ หยิงหยิง ระเบิดเสียงหัวเราะ
“เขาไม่แม้แต่จะแทงลูกบอลได้! ที่เขาบอกว่าไม่เคยเล่นมาก่อน ดูท่าจะจริงแหะ!”
“ก่อนหน้านี้เขาพูดคุยโวว่าเขาเล่นพลูเก่ง แต่ดูตอนนี้สิ นี่มันมือใหม่ชัดๆ”
“ใช่แล้วฉันไม่เคยเห็นคนโง่แบบนี้มาก่อนเลย ในหัวของเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่? ฉันสงสัยว่าเขารอดชีวิตบนโลกใบนี้มาจนถึงทุกวันนี้ได้อย่างไร”
จากที่ไกลๆ ชูเยว่ รู้สึกตื่นเต้น“ชายคนนั้นกำลังจะเห่าเหมือนสุนัขในไม่ช้า! ฮ่า ๆ …”
ไป่หลิง ไม่เห็นด้วย ‘เกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวหลัวกัน? เขาไม่ควรเห็นด้วยถ้าเขาไม่รู้วิธีเล่น’ แต่หลังจากที่คิดไปคิดมาเธอก็โล่งใจอยู่เล็กน้อย ‘แต่อย่างนี้ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยชูเยว่เธอก็ไม่ได้ใช้แผนการอันโหดร้ายของเธอ’
ตั้งแต่ชูเย่ที่กล่าวว่ามันเป็นแผนการที่ชั่วร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ มันก็ไม่ได้เป็นการพูดเกินจริงเลย มันอาจจะโหดร้ายกว่านี้สิบเท่าด้วยซ้ำ