ในตอนเช้าก่อนที่ดวงอาทิตย์จะตกเสียงนาฬิกาปลุกข้างๆหยูรู่ก็ดังขึ้นปลุกเธอขึ้นจากการหลับใหล
หลังจากตื่นนอนและจัดเตียงของเธอแล้วหยูรู่ก็เข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำอย่างรวดเร็วและล้างหน้าแปรงฟันก่อนที่จะไปที่ห้องครัวเพื่อทำอาหารเช้า
เมื่อรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว หยูรู่ก็ถือชามซุปที่เธอเพิ่งปรุงและใส่ของอื่นๆลงไป เดินไปที่ห้องขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวที่ปลายสุดของห้องโถง
“พี่ตื่นแล้วหรอ”
หยูรู่เคาะประตูห้องก่อนจะเข้าไปในห้อง
“พี่ตื่นแล้ว”
หยวนพูด้วยเสียบแหบๆ
“ให้หนูแปรงฟันให้นะ”
หยูรู่ยกหยวนขึ้นสู่ท่านั่งก่อนที่จะแปรงฟันและเช็ดหน้าด้วยผ้าขนหนูอุ่นๆ
ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็เริ่มป้อนซุปที่เธอปรุงเองให้กับเขา
“อุณหภูมิเป็นยังไงบ้าง ร้อนไปไหมคะ?”
“สมบูรณ์แบบเลย”
หยูรู่สวมรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอขณะที่ป้อนอาหารให้เขาทีละช้อนต่อไป
“พี่ชายจะมีวันหยุดสี่วันจากโรงเรียนของหนู และจะหยุดในอีกสามวันข้างหน้า ดังนั้นในที่สุดหนูก็จะได้เล่นเกมกับพี่แล้ว”
หยูรู่พูดกับเขา
“เยี่ยมมาก…พี่อยากให้เธอเจอเพื่อนของพี่ในเกม เด็กคนนั้นทำให้พี่นึกถึงเธอมาก…”
หยวนพูดพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
“เธอ…?”
ใบหน้าของหยูรู่ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเธอรู้ว่า หยวนมีเพื่อนผู้หญิงในเกมคนหนึ่ง
“เธอสวยไหม”
หยูรู่ตัดสินใจถามหยวน
“ใช่เธอน่ารักมาก พี่มั่นใจว่าพวกเธอทั้งสองคนจะเข้ากันได้ดี”
หยวนกล่าวโดยไม่ลังเล
คิ้วของหยูรู่สั่นระริกกับคำพูดของเขา
“เธอเป็นเหมือนน้องสาวคนที่สองของพี่อยู่แล้ว”
“น้องสาวคนที่สอง?!”
หยูรู่อุทานด้วยน้ำเสียงประหลาดใจและเธอก็รีบพูดว่า
“หนูหวังว่าพี่จะไม่โดนเธอหลอก พี่ชายไม่ค่อยมีประสบการณ์กับเรื่องแบบนี้มากนัก หนูกลัวว่าพี่จะโดนเธอหลอก”
หยูรู่กังวลว่าหยวนอาจจะถูกสุนัขจิ้กจองเจ้าเล่ห์หลอกล่อด้วยเจตนาที่ไม่ดี
“ฟังหนูนะพี่ชาย พี่อาจจะไม่รู้เรื่องนี้ แต่มีหลายคนที่เต็มใจแกล้งเป็นเพื่อนของพี่ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว และเมื่อพวกเขาได้สิ่งที่ต้องการจากพี่แล้ว พวกเขาก็จะทิ้งพี่ไปเหมือนขยะ! แม้ว่ามันจะเป็นแค่เกม แต่พี่ก็ต้องระวังตัวให้มาก โดยเฉพาะกับผู้หญิง! พวกเธอเป็นคนที่เก่งที่สุดในเรื่องหลอกคน ใครจะไปรู้ว่า พี่จะเจอคนที่มีปัญหาแบบไหน…”
หยูรู่เตือนหยวนด้วยท่าทางที่เข้มงวด
“ฮ่าๆ…เธอพูดเกินจริงไปแล้ว…”
หยวนหัวเราะเบาๆกับคำพูดของเธอและพูดว่า
“เสี่ยวฮัวไม่ใช่คนแบบนั้น เธอจะเข้าใจเมื่อเธอได้เจอกับเธอ”
“ไม่ต้องห่วงพี่ชาย เรื่องนั้นจะเป็นเรื่องแรกที่หนูจะทำทันทีหลังจากที่ได้เข้าไปในเกม!”
หลังจากคุยกันต่อไปอีกสองสามนาที หยูรู่ ก็พูดว่า
“พี่ชายถึงเวลาที่หนูต้องไปแล้ว หนูจะกลับมาหาพี่อีกทีในคืนนี้”
“ขอให้เป็นวันที่ดีนะหยูรู่”
หยวนพูดกับเธอก่อนที่จะเข้าเกม
เมื่อหยูรู่เดินออกมาจากห้องของหยวน เธอก็ไปทานอาหารเช้าที่คนอื่นเตรียมไว้ให้
“คุณหนู สำหรับอาหารเช้าเรามี…”
หญิงวัยกลางคนสวมชุดแม่บ้านเริ่มอธิบายอาหารบนโต๊ะของหยูรู่
หลังจากหยูรู่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้วสาวใช้ก็พูดกับเธอว่า
“รถพร้อมแล้วค่ะคุณหนู”
หยูรู่เช็ดริมฝีปากด้วยผ้าเช็ดปากอย่างสง่างามก่อนจะพยักหน้า
ในเวลาต่อมาหยูรู่ก็ถูกแม่บ้านอีกคนพาไปข้างนอก
“เห้อะ…ทำไมคุณหนูต้องเสียเวลาอันมีค่าของเธอไปกับคนพิการคนนั้นด้วย ฉันได้ยินมาว่าการแสดงของเธอในโรงเรียนตกต่ำลง เพราะเธอนอนไม่พอ เนื่องจากต้องไปดูแลคนพิการนั่น”
สาวใช้คนหนึ่งถอนหายใจด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดหลังจากที่หยูรู่เดินจากไป
“ไม่มีอะไรที่พวกเราสามารถทำได้คุณหนูยืนยันที่จะดูแลเขาด้วยตัวเอง เธอสั่งแม้กระทั่งห้ามไม่ให้เราเข้าไปในห้องของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาติ”
สาวใช้อีกคนพูดออกมา
“ทำไมเธอต้องดูแลเขามากขนาดนี้ด้วย ฉันสงสัยว่าเขาจะทำอะไรให้เธอได้ ด้วยร่างกายที่ไร้ประโยชน์แบบนั้น”
“ฉันเคยได้ยินเรื่องนี้จากคนรับใช้ที่อายุมากกว่า แต่เห็นได้ชัดว่านายน้อยเคยมีร่างกายที่แข็งแรง”
“มันสำคัญกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตหรอ ไม่ว่าจะยังไงความจริงตอนนี้เขาก็เป็นแค่คนพิการ ฉันไม่เข้าใจความคิดของคุณหนูเลย ในอนาคตคุณหนูสามารถเลือกผู้ชายมากมายนับไม่ถ้วนที่ต้องการเธอ ทั้งฐานะ หน้าตา ความงดงามของเธอ แต่เธอกลับอยากใช้เวลาอยู่กับคนพิการบนเตียงซึ่งอาจจะตายได้ทุกเมื่อคนนั้นเนี่ยนะ”
“เธอควรจะระวังปากของเธอนะ ถ้าคุณหนูได้ยินเข้าละก็ เธอได้ตกงานแน่ๆ”
ขณะที่สาวใช้ในบ้านกำลังคุยกันอยู่นั่น หยวนก็กำลังมีชีวิตที่สนุกสนานอย่างมาก เขากำลังทะยานขึ้นเหนือเมฆอยู่บนท้องฟ้าด้วยดาบที่บินได้
“วู้วววว!! นี่คือความรู้สึกที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลย!!”
หยวนตะโกนด้วยความรู้สึกตื่นเต้นขณะที่เขาบินไปบนภูเขาและแม่น้ำ เขารู้สึกอิสระราวกับนก
“ระวังนะพี่หยวน พี่จะตกลงไป ถ้าพี่สูญเสียการควบคุมพลังงานจิตวิญญานของพี่นะ”
เสี่ยวฮัวเตือนเขาจากทางด้านหลัง เธอแตกต่างจากหยวนที่ต้องการความช่วยเหลือ เพราะเธอบินอยู่ในอากาศด้วยพลังวิญญานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
“พี่ไม่เข้าใจว่าทำไมใครๆถึงเดินกัน ในเมื่อถ้าพวกเขาสามารถขี่สิ่งเหล่านี้ได้ ถ้าเป็นพี่ พี่จะบินไปทุกที่ แม้แต่ตามท้องถนนก็ตาม!”
“การบินจะเหนื่อยมากหากพี่ทำมันนานเกินไป และมันก็ใช้พลังงานทางจิตวิญญานมากเกินไป คนส่วนใหญ่จะประหยัดพลังงานทางจิตวิญญานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเขาต้องเผื่อไว้ในกรณีที่จะเกิดปัญหา เนื่องจากมีคนไม่กี่คนที่ก้าวไปถึงระดับปรมาจารย์วิญญาณ ในสถานที่นี้พวกเราแทบจะไม่เจอผู้ฝึกพลังที่บินได้เลย”
เสี่ยวฮัวอธิบายให้หยวนฟัง
“พี่เข้าใจแล้ว…อีกนานแค่ไหนกว่าเราจะถึงจุดหมาย?”
“เราจะถึงที่นั่นในอีกไม่กี่ชั่วโมง แต่เราจะหยุดพักช่วงสั้นๆก่อน เพราะพี่หยวนไม่สามารถอยู่บนดาบได้นานมากนัก”
“ฟังดูเข้าท่าไปเลย”
หยวนพยักหน้าตอบรับ