บทที่ 397 ยิงปืนใหญ่
บทที่ 397 ยิงปืนใหญ่
ทัพหน้าของทัพแห่งความมืดนั้นมีกำลังทหารราว ๆ สามสิบล้านตน พวกมันส่วนใหญ่เป็นโครงกระดูก ดังนั้นจึงมองเห็นเป็นกลุ่มคลื่นสีขาวที่ดูไร้ที่สิ้นสุดทอดยาวออกไปด้านหลัง ทหารโครงกระดูกอันเป็นเอกลักษณ์ของเผ่าอันเดดนี้ยิ่งมีจำนวนมาก มันก็ยิ่งไร้เทียมทานมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ด้วย
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ศัตรูของพวกมันไม่ได้มีน้อยกว่าเสียแล้ว ดังนั้นสิ่งที่ควรจะได้เปรียบกลับกลายเป็นความเสียเปรียบไปแทน อย่างเช่น จำนวนของผู้เล่นที่มีมากกว่ากองทัพโครงกระดูกถึงสามเท่า! ทำให้เหล่าทัพโครงกระดูกที่ดูจะแข็งแกร่งเมื่ออยู่กันเป็นจำนวนมาก กลายเป็นเพียงบ่อเก็บค่าประสบการณ์ของผู้เล่นขนาดใหญ่ไปแทน
“ฆ่ามันเลย!”
“ไปเลย! เพื่อค่าประสบการณ์! ของแรร์จ๋า ฉันมาแล้ว!”
“หุบปากโว้ย! พวกมันเป็นของฉัน! สิบตัวข้างหน้านั่น ห้ามใครมาแตะต้องเด็ดขาด!”
“อย่ามาพูดให้ขำน่า! ไปเล็งตัวอื่นไป๊!”
ตอนนี้ กลายเป็นว่าเหล่าผู้เล่นที่ไม่ได้โหมทัพด้วยความโกรธนั้น น่ากลัวกว่าทัพอันเดดขึ้นมาเสียอย่างนั้น พวกเขาดูจะตื่นเต้นกับการไล่ล่าราวกับสัตว์ป่าที่โหยกระหาย!
และนั่นก็เพราะว่าจำนวนของศัตรูไม่เพียงพอต่อพวกเขาทุกคน การแก่งแย่งมอนสเตอร์กันจึงเกิดขึ้นภายในสมรภูมินี้ หากไม่ติดว่ามันยังมีมอนสเตอร์ระดับสูงรองจากบอสเลเวล 50 ซึ่งจำเป็นต้องใช้ผู้เล่นหลายคนในการจัดการปะปนอยู่ด้วยแล้วล่ะก็ เป็นไปได้ว่าบางทีทัพหน้าของทัพแห่งความมืดอาจจะโดนกำจัดตั้งแต่ที่ทั้งสองทัพปะทะกันแล้วก็ได้
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร คลื่นทะเลสีขาวที่เป็นทัพของอันเดดโครงกระดูก ก็ถูกคลื่นผู้เล่นโถมและกลืนกินเข้าไปจนหมดอยู่ดี
“โหดร้ายชะมัด”
บนป้อมปราการ กลุ่มของหัวหน้ากิลด์พันธมิตรฟากใต้ต่างก็มองลงไปยังสนามรบเบื้องล่างด้วยความสะพรึงและชื่นชมใน ‘จำนวนที่เหลือล้น’ ของผู้เล่นเขตฮัวเซีย พวกเขาทั้งหมดต่างได้รับภารกิจป้องกันเมืองกันทั้งสิ้น แต่ตอนนี้มันดูเหมือนว่าพวกเขากำลังทำภารกิจกวาดล้างกันอยู่เสียแล้ว
ชินห่าวที่อยู่อีกมุมหนึ่งได้แต่มองด้วยความเงียบ เขาดูความคืบหน้าของภารกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วก็อดไม่ได้ที่จะคิดเหมือนกับหัวหน้ากิลด์คนอื่น ๆ
ภาพด้านล่างนี้มันน่ากลัวเกินไปแล้ว…ไม่ใช่ว่าผู้เล่นต้องถูกบุกเหรอ? ทำไมกลายเป็นว่าเผ่าพันธุ์แห่งความมืดถึงถูกล่าเสียเองล่ะ?
อย่าบอกนะว่าสงครามครั้งนี้ ทัพแห่งความมืดจะไม่สามารถแม้แต่จะแตะต้องเมืองแห่งความโศกเศร้าน่ะ?
โชคดีของชินห่าวที่ตอนนี้พวกบอสที่อยู่ศูนย์กลางของทัพแห่งความมืดยังไม่ได้ถูกโค่นลงไป เขายังพอมีหวัง ที่ถูกกำจัดไปมีแต่มอนสเตอร์ยิบย่อยที่อยู่รอบนอกทัพเท่านั้น ซึ่งสิ่งที่ชินห่าวคาดหวังนั้นเอง ก็เป็นสิ่งเดียวกับที่เหล่าหัวหน้ากิลด์แห่งพันธมิตรฟากใต้กำลังจับตามองอยู่ด้วย
“บอสเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว!”
ใครสักคนตะโกนขึ้นมา มันทำให้สีหน้าของทุกคนบนป้อมปราการตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง นั่นเพราะนี่คือสิ่งที่พวกเขาหวั่นเกรง บอสพวกนี้แข็งแกร่งกว่ามอนสเตอร์รอบนอกเป็นอย่างมาก และพวกมันก็ยังเป็นสิ่งที่พวกเขาจำเป็นต้องป้องกันให้อยู่ห่างจากเมืองแห่งความโศกเศร้าให้สำเร็จด้วย
ตอนนี้กลุ่มของผู้บัญชาการที่แต่เดิมอยู่ใจกลางของทัพหน้าของทัพแห่งความมืดก็เริ่มเคลื่อนไหวกันเสียทีหลังจากที่แนวหน้าถูกกำจัดไปเป็นจำนวนมากโดยฝีมือของผู้เล่นปริมาณมหาศาล!
ประเมินจากภาพที่เห็นในวีดีโอถ่ายทอดสด นอกจากบอสลิชคิงที่เป็นระดับตำนานที่ยังยืนเฉย ๆ แล้ว บอสตนอื่นก็เริ่มเคลื่อนทัพกันหมดเลย พวกมันเป็นบอสระดับเทพเจ้าทั้งหกตัวที่พร้อมจะบดขยี้ผู้เล่นหลังจากที่สงบมานาน
“ถอยกลับ! ถอยกลับตอนนี้เลย!”
หัวหน้าหลายกิลด์ของสัมพันธมิตรฟากใต้รีบสั่งการให้ถอยตาม ๆ กันผ่านช่องสื่อสารกิลด์ พวกเขาเหล่านี้เคยเข้าร่วมกับภารกิจบุกทะลวงกันมาก่อนหน้า ดังนั้นย่อมรู้ถึงจังหวะอันตรายกันดีอยู่แล้ว และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียของรางวัลไป การถอยกลับในยามจำเป็นจึงตอบโจทย์ที่สุด
ทันใดนั้น กลุ่มคนเล็ก ๆ หลายกลุ่มก็เริ่มแยกตัวกันแล้วหนีออกจากคลื่นผู้เล่น พวกเขาเหล่านี้เป็นสมาชิกของกิลด์หลัก ๆ ภายในสัมพันธมิตรฟากใต้ที่ซึ่งเห็นแล้วว่าสถานการณ์ตอนนี้สมควรแก่การถอยออกไปตั้งหลักมากที่สุด หากยังฝืนยืนต่อไป พวกเขาจะเสียเปรียบ
แต่ถึงจะบอกว่าเป็นกลุ่มเล็ก ๆ แต่ผู้เล่นภายในกลุ่มนั้นก็มีจำนวนมากถึงหลักสิบล้านคนเลย นับเป็นหนึ่งในสิบของจำนวนคนในคลื่นผู้เล่นเลยก็ได้ สัมพันธมิตรฟากใต้ที่นำโดยหลิวเฉียงเหว่ยนั้น ในตอนนี้พวกเขาได้พัฒนามาไกลถึงขนาดที่มีกิลด์ขนาดใหญ่ตัดสินใจเข้าร่วมด้วยมากถึงเจ็ดสิบแปดกิลด์ ไม่ต้องพูดถึงกิลด์มิดซัมเมอร์ กิลด์ขนาดใหญ่เหล่านี้ต่างก็มีขนาดเทียบเท่ากับวอร์สปิริตฮอลล์ที่อยู่ในเลเวล 9 นอกจากนี้พวกเขายังมีกิลด์ขนาดกลางจำนวนสี่สิบสองกิลด์ และกิลด์เล็ก ๆ ที่ไม่ได้อ่อนแอรวมอยู่ด้วย ในส่วนของกิลด์ขนาดเล็กที่มีผู้เล่นต่ำกว่าหมื่นคน จะยังไม่สามารถเข้าร่วมกับสัมพันธมิตรฟากใต้ได้
ยึดตามจำนวนผู้เล่นในเขตฮัวเซีย กิลด์ขนาดใหญ่ทั้งหมดต่างก็มีสมาชิกมากถึงสิบล้านคน กิลด์ขนาดกลางมีมากกว่าหนึ่งล้าน และกิลด์เล็ก ๆ จะมีมากกว่าแสนคน
ถึงแม้ว่าผู้เล่นที่ถูกเรียกว่าทัพหน้าของแต่ละกิลด์จะไม่ถูกเรียกตัวกลับ แต่การที่เหล่าสมาชิกระดับสูงถอนตัวออกจากทัพใหญ่ มันก็ทำให้ผู้เล่นกว่า 10% หายฮวบลงไปทันที
เมื่อพูดถึงจำนวนของผู้เล่นแต่ละกิลด์ประจำเขตฮัวเซียแล้ว กิลด์ขนาดใหญ่ทุกกิลด์ภายในเขตนี้ ถือเป็นกิลด์ขนาดใหญ่อันดับ 1 ในเขตอื่นกันหมด เพราะงั้นแล้วจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะมีคนหวั่นกลัวเมื่อได้ยินชื่อของกิลด์หลัก ๆ ในเขตฮัวเซีย
จำนวนผู้เล่นในเขตฮัวเซียนั้นมากจนน่ากลัว และถ้าเขตอื่นคิดจะโค่นล้มฮัวเซียแล้วล่ะก็ หากไม่ร่วมมือกัน พวกเขาก็คงไม่มีทางชนะได้
ในภารกิจครั้งนี้ มีกิลด์จำนวนไม่มากในสัมพันธมิตรฟากใต้ที่เข้าร่วมการโจมตีทัพหน้าของทัพแห่งความมืด นั่นเพราะรางวัลของภารกิจมันค่อนข้างจะเรียบง่ายเกินไป ถึงแม้ว่ามันจะเป็นที่สนใจของผู้เล่นทั่วไป แต่ในสายตากิลด์ใหญ่ก็ไม่ได้น่าสนใจขนาดนั้น ดังนั้นกิลด์ส่วนใหญ่จึงไม่ได้เข้าร่วม
ส่วนกิลด์ที่มาเข้าร่วมก็เพราะพวกเขามาเพื่อป้องกันเมืองแห่งความโศกเศร้าโดยเฉพาะ เมืองที่ให้ผลประโยชน์แก่พวกเขา ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ทำได้เพียงกำจัดมอนสเตอร์บางส่วนเพื่อให้ได้เงินกลับมาบ้าง และถอยทันทีเมื่อเห็นสถานการณ์ที่เสียเปรียบ
ผู้เล่นกิลด์ที่ถอยกลับมานั้น นับเป็นเพียงหนึ่งในสิบของผู้เล่นทั้งหมดในภารกิจนี้เท่านั้น เพราะงั้นมันจึงไม่กระทบกับขนาดทัพโดยรวม หลังจากที่ปลีกตัวออกจากทัพผู้เล่นหลักแล้ว พวกเขาก็ใช้เวลาครึ่งค่อนชั่วโมงในการจัดการมอนสเตอร์โดยรอบเพื่อตีขนาบรอบกลุ่มมอนสเตอร์ระดับสูงที่อยู่ตรงกลาง ความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ระดับสูงเลเวล 50 นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรับมือด้วย ต่อให้มีบัฟจากนักบวชก็ยังยากที่จะเผชิญหน้าตรง ๆ แต่ในครั้งนี้ ผู้เล่นมีจำนวนเยอะกว่ามาก ๆ พวกเขาได้เปรียบเรื่องจำนวน มอนสเตอร์ระดับสูงแต่ละตัวจะมีผู้เล่นประจันหน้าอยู่ตัวละราว ๆ สิบคนขั้นต่ำ ดังนั้นพวกเขาค่อนข้างมั่นใจว่าจะชนะมาก ๆ ทว่าการสังเวยเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
ถึงแม้ว่าอัตราการตายของผู้เล่นจะไม่ได้สูงมาก ยังไงเสียมอนสเตอร์ระดับสูงของทัพแห่งความมืดก็มีแค่ห้าล้านตน ซึ่งมองดูก็รู้แล้วว่ามันไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับผู้เล่นที่มีจำนวนมากกว่าถึงสิบเท่าได้เลย แต่เพราะทัพแห่งความมืดไม่ได้มีเพียงมอนสเตอร์ระดับสูงเพียงอย่างเดียว ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปหลังจากที่บอสของพวกมันเข้าสู่จุดปะทะ
“บ้าเอ๊ย! บอสพวกนั้นรอจังหวะอยู่งั้นเหรอ! มันเป็นบอสระดับเทพเจ้าจริง ๆ ด้วย! ดูนั่น! ผู้เล่นจุดนั้นหายกันเป็นกลุ่มเลย!”
ใครบางคนอุทานอยู่บนป้อมปราการ นั่นเพราะบอสที่มีรูปร่างเหมือนประตูที่ประดับประดาไปด้วยโครงกระดูกนั้นปรากฏตัวขึ้นและสูบเอาผู้เล่นที่อยู่ใกล้ ๆ เข้าไปในตัวมันจนหมด ผู้เล่นหลักหมื่นคนถูกฆ่าในพริบตา จากนั้นตัวบานประตูก็เปิดออกและปล่อยทหารโครงกระดูกออกมาจำนวนพอ ๆ กับผู้เล่นที่ถูกกลืนกินเข้าไป ไม่เพียงเท่านั้น ทหารโครงกระดูกเหล่านั้น ยังสวมใส่อุปกรณ์ของผู้เล่นที่ถูกมันฆ่าตายไปด้วย ชัดเจนเลยว่า เจ้าสิ่งนี้กำลังเปลี่ยนผู้เล่นที่ตายให้กลายเป็นทหารโครงกระดูก
“มีพวกมันมาเพิ่มอีกแล้ว! เวร! บอสระดับสูงพวกนี้น่ากลัวจริง ๆ!”
“เชี่ยไรวะเนี่ย! นั่นมัน มังกรกระดูกตัวเบ้อเริ่มเลยไม่ใช่เหรอ! ดูนั่น แค่มันโฉบ คนเป็นพันก็กลายเป็นแสงไปหมดแล้ว!”
เสียงตะโกนดังขึ้นอีกครั้ง แม้ว่ารูปแบบสกิลของบอสเหล่านี้จะไม่ได้แตกต่างกับตัวอื่นมากนัก อย่างเช่น การพ่นไฟ แต่เพราะสกิลดังกล่าวมันถูกร่ายโดยบอสหลาย ๆ ตัวที่อยู่ในระดับสูง ดังนั้นการหลบให้พ้นจึงเป็นเรื่องยาก ทุกสกิลจึงสามารถฆ่าผู้เล่นได้ที่ละจำนวนมาก
โดยเฉพาะหนึ่งในบอสเหล่านั้นที่มีรูปร่างแบบมังกรกระดูก มันมีความกว้างราว ๆ สิบเมตร ด้วยขนาดที่มหึมานี้ เพียงแค่มันโฉบลงมาและใช้เล็บอันแหลมคมสุ่มขย้ำลงไปในกลุ่มผู้เล่น มันก็ทำให้มีคนหลักแสนที่ต้องตายโดยที่ไม่ทันตั้งตัวเสียด้วยซ้ำ
ภายใต้การโจมตีด้วยสกิลระเบิดของบอสระดับสูง ผู้เล่นที่เผอิญอยู่ใกล้ต่างก็พากันล้มตาย และด้วยปริมาณผู้เล่นที่หนาแน่น มีผู้เล่นที่ถูกฆ่าจากการระเบิดเหล่านั้นไปมากถึงหนึ่งล้านคนเลยทีเดียว เห็นได้ชัดเจนเลยว่าคลื่นผู้เล่นเริ่มเจือจางลงไปแล้ว
ผู้เล่นที่รวมกันเป็นคลื่นมนุษย์เริ่มตระหนักได้ถึงความเสียเปรียบแล้ว พวกเขาเริ่มถอยร่นกลับมาอย่างรวดเร็ว ยังไงเสียพวกเขาก็มาเพื่อทำภารกิจ สิ่งที่เขาต้องทำก็คือ กำจัดมอนสเตอร์ รับค่าประสบการณ์และเก็บไอเทมที่ดร็อป ไม่ใช่เอาชีวิตมาทิ้งโดยที่ไม่ได้อะไรเลย แต่มันก็ดูเหมือนจะยากเหลือเกิน
“เราไว้วางใจผู้เล่นทั้งหมดไม่ได้จริง ๆ ด้วย ดูเหมือนจะต้องหาทางไปต่อแล้ว!”
“ท่านหัวหน้าโรสครับ พวกเราจะจัดการมอนสเตอร์รอบ ๆ เอง แต่พวกเราทำอะไรบอสไม่ได้นะครับ!”
เหล่าหัวหน้ากิลด์ของสัมพันธมิตรฟากใต้ที่มองเหตุการณ์ด้านล่างอยู่เริ่มเดินหน้าขึ้นมา ถึงเวลาที่พวกเขาจะทำอะไรบ้างแล้ว ในเมื่อพวกเขาเติบโตขึ้นมากับเมืองแห่งความโศกเศร้า ดังนั้นเขาจำเป็นต้องตอบแทน
ยิ่งไปกว่านั้น เมืองแห่งความโศกเศร้าก็ถือเป็นฐานที่มั่นของสัมพันธมิตรฟากใต้ด้วย
“เข้าใจแล้ว ขอบคุณทุกคนมาก ปล่อยบอสไว้ให้พวกเราจัดการเอง” หลิวเฉียงเหว่ยตอบรับ
ได้ยินเช่นนั้น เหล่าหัวหน้ากิลด์ก็พยักหน้าและจากไปเพื่อจัดการทีมของตนเองทันที
ในตอนนั้นเอง ผู้เล่นมากมายได้ถอยร่นมากันจนเกือบหมดแล้ว ถึงแม้พวกเขาจะถือเป็นจำนวนมาก แต่ทุกคนก็เป็นผู้เล่นทั่วไปเท่านั้น
เมื่อไม่มีใครหรือสิ่งใดขวางทางแล้ว ทัพหน้าของทัพแห่งความมืดก็เริ่มเดินหน้าตรงสู่เมืองแห่งความโศกเศร้าทันที แต่จากการปะทะครั้งก่อนก็ทำให้ทหารของพวกมันที่ยังเหลืออยู่นั้นมีไม่มากแล้ว ทัพแห่งความมืดเหลือประชากรเพียงหนึ่งในสิบ หรือประมาณไม่ถึงสามล้านตนเท่านั้น เห็นได้จากขบวนทัพของมันที่ดูจะเบาบางลงไปเยอะมาก ๆ
และในตอนนั้นเอง ประตูเมืองแห่งความโศกเศร้าที่ไม่เคยปิด ก็ปลดปล่อยผู้เล่นอีกกลุ่มหนึ่งออกมา แต่เมื่อเทียบกับคลื่นมนุษย์ก่อนหน้าแล้ว พวกเขาดูจะมีระเบียบในการเดินทัพมากกว่าเยอะ ทุกการกระทำของผู้เล่นกลุ่มนี้ดูมีแบบแผนและเป็นระบบราวกับถูกฝึกมาอย่างดี
พวกเขาคือเหล่าผู้เล่นระดับสูงที่ถูกส่งมาจากกิลด์หลักภายในสัมพันธมิตรฟากใต้ ที่ถึงแม้จะมีจำนวนไม่มาก แต่ก็ยังอยู่ในระดับหลายสิบล้านคน จำนวนของผู้เล่นเหล่านี้มีน้อยกว่าคลื่นมนุษย์ก่อนหน้าเพียง 10% เท่านั้น และพวกเขาทดแทนมันด้วยพลังในการต่อสู้ที่สูงกว่าเป็นเท่าตัว อีกหนึ่งความแตกต่างระหว่างผู้เล่นธรรมดาและผู้เล่นระดับสูง นั่นก็คือแผนการและความเคร่งครัดในระเบียบวินัยดุจทหารจริง ๆ!
ไม่นานนัก เหล่าผู้เล่นระดับสูงก็แสดงแสนยานุภาพของพวกเขาให้ประจักษ์!
แทนที่พวกเขาเหล่านี้จะเข้าปะทะกับทัพหน้าของทัพแห่งความมืดตรง ๆ พวกเขากลับเลือกที่จะแยกออกไปซ้ายขวาแทนโดยไม่สนใจกลุ่มของบอสระดับสูงที่กำลังตรงไปหากำแพงเมือง จากนั้นก็เลือกเข้าโจมตีขนาบข้างซ้ายขวาเข้ามาพร้อมกัน!
ความเกลียดชังของเหล่าอันเดดระดับสูงถูกล่อหลอกออกไปรอบข้าง ผู้เล่นเหล่านี้ค่อย ๆ ล่อให้เหล่าทัพหน้าของทัพแห่งความมืดเริ่มแตกขบวนจากการเข้าโจมตีแล้วถอยออกมา ซึ่งบรรดามอนสเตอร์ที่ตามออกมาเองก็มีบอสระดับต่ำที่ไม่ได้ยากเกินกว่าจะชนะติดออกมาด้วย!
ทัพของผู้เล่นระดับสูงที่แยกออกเป็นสองทางนั้นเสมือนเป็นใบตัดขนาดใหญ่ที่ค่อย ๆ บดขยี้ทัพแห่งความมืดไปพร้อม ๆ กันตลอดเวลา มอนสเตอร์มากมายถูกกำจัดไปอย่างรวดเร็วจนสามารถเห็นได้ว่าทัพของพวกมันกำลังโดนทัพของผู้เล่นระดับสูงนี้กลืนกินอย่างช้า ๆ เสมือนเนื้อที่ค่อย ๆ ถูกหั่นทีละนิด ๆ
ไม่ถึงสิบนาที ทัพหน้าของทัพแห่งความมืดที่มีประชากรเกือบสามล้านตนก็เหลือเพียงหนึ่งล้านตนสุดท้ายแล้ว
พวกมันยังเดินทัพมาไม่ถึงหน้ากำแพงเมืองเลยด้วยซ้ำ เพราะงั้นแสดงว่าทัพของผู้เล่นยังมีโอกาสป้องกันมันไว้ได้!
การต่อสู้ดำเนินมาตลอดจนกระทั่งทัพแห่งความมืดเดินทางมาถึงสมรภูมิด้านหน้าเมืองแห่งความโศกเศร้าพร้อมกับทหารอันเดดราวแสนตน! สมแล้วที่เป็นพลังของผู้เล่นระดับสูง!
“โตวโตว อาร์คบิชอปเรนัลด์ยังไม่กลับมาอีกเหรอ?” หลิวเฉียงเหว่ยถามขึ้นด้วยความกังวลใจเล็กน้อย เมื่อเธอยังไม่เห็นว่ามีใครโผล่กลับมาจากแท่นเทเลพอร์ตบนป้อมปราการนี้
“ยังค่ะ…” เฉียนโตวโตวเองก็ดูจะกระวนกระวายไม่แพ้กัน เธอเดินไปมาอยู่รอบ ๆ แท่นเทเลพอร์ตนั้นเป็นสิบรอบแล้ว แน่นอนว่าทั้งสองคนรู้ดีว่าอาร์คบิชอปเรนัลด์นั้นกลับไปเพื่อขอกำลังเสริมมาช่วยที่เมืองนี้
“ไม่ทันแล้ว พวกทัพหน้าของทัพแห่งความมืดกำลังเดินเข้ามาใกล้เมืองแล้ว เราจะชักช้ากว่านี้ไม่ได้!” หลิวเฉียงเหว่ยส่ายหน้าแล้วหันไปทางซือเยี่ยจิ๋งที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด
“จิ๋งจิ๋ง เธอส่งข้อความเรียกตัวเซียวหลิงกลับมาที่เมืองนี้พร้อมกับเสี่ยวไป๋ตอนนี้เลย!” เมื่อกล่าวไปเช่นนั้นกับซือเยี่ยจิ๋งแล้ว เธอก็รีบหันกลับไปที่กัปตันโบลตันต่อ
“กัปตันโบลตันคะ บิชอปไคเซอร์ ท่านหนี่อู๋ เริ่มงานได้เลยค่ะ เราช้าไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว เดี๋ยวพวกเรานักผจญภัยจะช่วยสนับสนุนจากแนวหลังให้อีกทีหนึ่ง!”
“การชำระล้างซึ่งความมืดเป็นสิ่งที่พวกเรา ผู้ศรัทธาในแสงสว่าง จำเป็นต้องทำอยู่แล้ว ดังนั้น ท่านรองเจ้าเมือง ได้โปรดไว้ใจ! พวกเราจะเข้าปะทะกับศัตรูเอง!”
กัปตันโบลตันแสดงความเคารพเฉกเช่นพาลาดินคนอื่น เขาไม่รอช้าที่จะนำเหล่านักรบพาลาดินที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของตนมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองแห่งความโศกเศร้าทันที
“ดูเหมือนพวกเราจะต้องสั่งสอนเพื่อนเก่ากันสักหน่อยแล้วมั้ง”
บิชอปไคเซอร์โบกคทาในมือ ควบคู่กับกับหนี่อู๋และบิชอปคนอื่น ๆ พวกเขาเองก็ลงมายังเมืองพร้อม ๆ กับเหล่าอัศวินด้วยเช่นกัน
ตู้ม!
กระสุนปืนใหญ่สีม่วงถูกยิงออกจากเมืองแห่งความโศกเศร้าด้วยเสียงอันดังกึกก้อง เปลวเพลิงสีม่วงที่ลุกโชนนั้นลากเป็นหางเหมือนดาวตกจากจุดที่มันถูกยิงออกมาโดยมีปลายทางเป็นทัพหน้าของทัพแห่งความมืดที่เข้าใกล้เมืองที่สุด!
มันคือปืนใหญ่ผลึกอสูรที่ถูกยิงออกไป และเมื่อมันปะทะเข้ากับปลายทางจนเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง สิ่งนี้ก็กลายเป็นสัญญาณ ว่าการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับบอสได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!