ตอนที่ 188 ขอร้อง

พวกหยางโปสองคนไล่ตามกุ้ยหรงจิ่ว กุ้ยหรงจิ่วมองมา “พวกนายกำลังคุยอะไรกัน?”

“เปล่า ไม่ได้คุยอะไร” ตาอ้วนหลิวโบกมือกล่าว

กุ้ยหรงจิ่วจ้องตาอ้วนหลิว “นายอย่าพาหยางโปไปเสียคนนะ!

ตาอ้วนหลิวยิ้มเฝือดเฝือน “อย่าพูดแบบนี้สิ พูดซะเหมือนผมแย่มากอย่างนั้น ผมไม่มีทางทำเรื่องพรรค์นั้นหรอก!

ทั้งกลุ่มก็เดินหน้าต่อไป หอจัดแสดงบ้างก็เงียบเหงา มีนักเรียนบางคนมานั่งวาดเลียนแบบอยู่ด้านหน้าของภาพ บางครั้งหยางโปก็มองไปครั้งหนึ่งอย่างประหลาดใจมาก

 

ตอนที่หยางโปอยู่ภายในประเทศก็เคยไปการจัดแสดงศิลปะมาบ้าง โดยเฉพาะในจินหลิง ทุกครั้งตอนที่มีการแสดงงานของปรมาจารย์ มักจะมีนักเรียนของสถาบันศิลปะท้องถิ่นจำนวนไม่น้อยไปเยี่ยมชมเพื่อลอกเลียนแบบ

แน่นอนว่าในจำนวนนี้มีนักเรียนศิลปะหญิงจำนวนมากดูมีระดับอย่างมาก หยางโปมองไปทางด้านหน้าก็ชะงักไป เพราะว่าเขามองเห็นคนคุ้นเคยคนหนึ่ง

เสื้อโค้ทสีแดงสด ท่าทีงามสง่า ด้านหน้ามีกระดานวาดภาพแผ่นหนึ่ง หยางโปมองไปก็มองเห็นภาพหนึ่งที่อีกฝ่ายกำลังวาดเลียนแบบคือ <เพอร์ซิอุสช่วยชีวิตอันโดรเมด้า> ภาพวาดสีน้ำมันในรูปแบบของตำนานปกรณัมกรีกผลงานของอันตอน ราฟาเอล เม็งส์

 

พวกของกุ้ยหรงจิ่วมองเห็นหยางโปเดินไปก็รู้สึกประหลาดใจ แล้วก็มองเห็นผู้หญิงผมดำขลับยาวสลวยที่นั่งอยู่ทางนั้นก็อดที่จะหัวเราะขึ้นมาไม่ได้

หยางโปเดินเข้าไป ยืนนิ่งมองภาพวาดที่เพิ่งวาดส่วนเล็กส่วนหนึ่งเสร็จ ตัวละครในภาพมีกล้ามเนื้อทรงพลัง แข็งแกร่งอย่างมาก ดูไปแล้วไม่เหมือนรูปแบบที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะวาดออกมาได้

ภาพนี้วาดมาจากตำนานปกรณัมกรีก อันโดรเมด้าคือลูกสาวของราชาเซอร์ฟิอุสและราชินีแคสซิโอเปียแห่งเอทิโอเปีย แม่ของเธอเพราะไม่หยุดแสดงความงามของตนเองและล่วงเกินแอมโฟรไดท์ภรรยาของโพไซดอนเทพแห่งดาวพฤหัส แอมโฟรไดท์ต้องการให้โพไซดอนแก้แค้นแทนให้เธอ โพไซดอนจึงจัดการส่งซีตุสไปทำลายล้างเอธิโอเปียให้

 

พระราชาตกตะลึงมาก แล้วเชิญผู้ทำนายมา ผู้ทำนายประกาศว่าวิธีเดียวที่จะช่วยได้คือสังเวยอันโดรเมด้าให้กับเทพเจ้า เธอถูกพ่อแม่ของเธอใช้โซ่เหล็กล็อกไว้บนหินก้อนใหญ่ยักษ์ก้อนหนึ่งบนเส้นทางที่ปีศาจทะเลซีตุสมัก

ปรากฏตัว ต่อมาวีรบุรุษเพอร์ซิอุสบังเอิญสังเกตเห็นสถานการณ์น่าเวทนาจึงส่งศีรษะของปีศาจงูสาวเมดูซ่าออกไปทันที ทำให้ซีตุสกลายเป็นหิน เพอร์ซิอุสฆ่าปีศาจทะเลแล้วก็ช่วยเหลือเธอ

หญิงสาวคนนั้นสีหน้าเหม่อลอยอยู่บ้าง ผ่านไปชั่วครู่ถึงได้สังเกตเห็นคนยืนอยู่ด้านข้าง เธอหันหน้ามามอง มองเห็นหยางโปก็พลันชะงักอย่างตกตะลึง “เถ้าแก่หยาง คุณมาเยอรมนีเป็นเย่เหวยหลินเชิญมาช่วยฉันใช่ไหมคะ?”

 

หยางโปประหลาดใจเล็กน้อย หลายวันก่อนเขาเพิ่งพบกับเย่เหวยหลิน แต่อีกฝ่ายไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้เลย เขาจำได้แค่หัวเราะ “น้องสาวหง ผมก็แค่บังเอิญผ่านมาที่นี่เลยมาทักทายคุณเท่านั้นเอง”

สีหน้าของหงซิ่วซิ่วประดักประเดิดอยู่บ้าง เธอลุกขึ้นยืน “เถ้าแก่หยาง ไม่ว่ายังไง ขอร้องล่ะ คุณต้องช่วยพี่ชายฉันนะคะ!”

หยางโปตกใจเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เขาก็รู้ว่าหงอวี้ถูกส่งไปต่างประเทศ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะยังไม่สามารถรักษาได้ “ตอนนี้พี่ชายของคุณอยู่ที่เยอรมนีเหรอ? ไม่ใช่ถูกส่งไปอเมริกาเหรอ?”

หงซิ่วซิ่วสีหน้ามองคล้ำ “ผลการรักษาของอเมริกาไม่ดี ยืดเยื้อมานานขนาดนี้แล้ว เขายังคงเดี๋ยวหลับเดี๋ยวตื่น ดังนั้นที่บ้านก็เลยส่งเขามาที่เยอรมนี ทักษะประสาทวิทยาของทางนี้ดีกว่าเล็กน้อย”

 

หยางโปประหลาดใจมาก เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะถึงกับพัฒนามาถึงขั้นนี้ เพียงแต่เวลาเช่นนี้ กระจกแสงจันทร์ของเขาจะยังใช้ได้ไหมนะ?

“เถ้าแก่หยาง ฉันขอร้องคุณจริงๆ นะ ขอแค่คุณรักษาพี่ชายให้หายได้ ไม่ว่าเงื่อนไขอะไร ฉันก็ตกลงได้ทั้งนั้น ตระกูลหงจะต้องตอบแทนอย่างดีแน่นอน!” หงซิ่วซิ่วขอร้องอย่างขื่นขม ตอนแรกดวงตายังเรื่อแดงเล็กน้อยก็เกือบจะหลั่งน้ำตาแล้ว

หยางโปลังเลใจขึ้นมาเล็กน้อย

ตาอ้วนหลิวเดินเข้ามา “สาวน้อย หยางโปไม่ใช่คนไร้น้ำใจแบบนั้น เธอวางใจเถอะนะ เขาจะต้องรับผิดชอบเธอแน่!”

 

หยางโปหันไปจ้องตาอ้วนหลิวเขม็ง เมื่อกี้พวกเขาสามคนเดินมาแล้ว ไม่ได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคนเลย คิดไม่ถึงเลยว่าตาอ้วนหลิวประโยคแรกก็จะเอ่ยปากแบบนี้ ทันใดนั้นก็ทำให้หยางโปอิหลักอิเหลื่อมาก

“ตาอ้วน อย่าพูดเหลวไหล!” หยางโปเอ่ยด่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเรียกว่าอีกฝ่ายว่า “ตาอ้วน” โดยตรง

ตาอ้วนหลิวชะงักไปเล็กน้อยแล้วหัวเราะอย่างละอาย “ถึงขนาดเจ้าหน้าที่ทางการยังยากจะจัดการเรื่องในครอบครัวใครได้ ฉันไม่พูด ฉันไม่พูดแล้ว!”

พูดจบ ตาอ้วนหลิวก็เดินถอยหลังไปสองก้าว แต่กลับยังจ้องมองทั้งสองคน คิดอยากจะแอบฟังบทสนทนาของทั้งสองคน

 

“เถ้าแก่หยาง คุณวางใจเถอะนะ ช่วงนี้แม่ของฉันไม่อยู่ที่เยอรมัน เป็นฉันที่ดูแลพี่ชายมาตลอด ครั้งนี้ฉันจะไม่ยอมให้เธอรบกวนคุณแน่!” หงซิ่วซิ่วกล่าว

ตาอ้วนหลิวหัวเราะ “เสี่ยวหยาง ในเมื่อเป็นคนอื่นขอร้องมา นายก็ตกลงไปเถอะนะ!”

หยางโปเงยหน้ามองไปทางหงซิ่วซิ่ว “แบบนี้ก็ดี คุณบอกที่อยู่กับผมมา ตอนบ่ายผมจะรีบไป ผมต้องการเวลาเตรียมตัวสักครู่”

สองมือของหงซิ่วซิ่วที่กำชายเสื้อโค้ท ในที่สุดก็คลายลง โค้งคำนับให้หยางโปต่ำมาก น้ำตาร่วงลงมา “ขอบคุณคุณมากจริงๆ!”

หยางโปส่ายหน้า “ผมไม่กล้ามั่นใจ รอจนตอนบ่ายเจอกันแล้วค่อยว่ากันเถอะ!

“เถ้าแก่หยาง คุณบอกที่อยู่โรงแรมของคุณให้ฉันเถอะ พอถึงเวลาฉันจะไปรับคุณเอง!” หงซิ่วซิ่วกล่าว

“ได้” หยางโปพยักหน้าตกลง

 

หงซิ่วซิ่วสีหน้ายินดี เริ่มจัดเก็บผ้าใบตรงหน้า

หยางโปบอกลาแล้วจากไป เดินไปสองสามก้าว ตาอ้วนหลิวก็รู้สึกอดรนทนไม่ไหว ยกนิ้วโปงให้หยางโป “นี่คือไปเดทเหรอ? ยังต้องให้หญิงสาวบ้านอื่นร้องขอความโปรดปราน นายนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ!

หยางโปจนคำพูดเล็กน้อย “อย่าพูดเหลวไหล พวกเรารีบไปตามพวกอาจารย์กุ้ยกันเถอะ ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็จะหายไปนะ”

หงซิ่วซิ่วกำลังจัดเก็บผ้าใบ ชายหนุ่มคนหนึ่งด้านข้างก็รีบเดินเข้ามา “ซิ่วซิ่ว ทำไมเธอถึงได้รีบเก็บของขนาดนี้ล่ะ? ได้ข่าวอะไรที่โรงพยาบาลเหรอ?”

หงซิ่วซิ่วเงยหน้าขึ้นมองแล้วส่ายหน้า

ชายหนุ่มมองเห็นน้ำตาในตอนนี้ของหงซิ่วซิ่วก็เอ่ยอย่างร้อนใจขึ้นมาทันที “ซิ่วซิ่ว เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ใครรังแกเธอ บอกฉันมานะ!

 

หงซิ่วซิ่วรีบส่ายหน้า “ไม่มีอะไร ก็แค่ดีใจไปหน่อย”

กล่าวจบ หงซิ่วซิ่วก็เงยหน้าหันมองไปทางภาพวาดที่อยู่ตรงหน้า

ชายหนุ่มมองตามคลองสายตาของเธอ ถึงแม้ไม่ต้องบอกเขาก็รู้เนื้อหาของภาพนี้อยู่นานแล้ว และก็ยิ่งเข้าใจความคิดของหงซิ่วซิ่ว หงซิ่วซิ่วคาดหวังว่าจะมีวีรบุรุษแบบเพอร์ซิอุสนั่นมาตลอด สามารถช่วยเหลือพี่ชายของเธอได้ เพียงแต่คนแบบนี้ไม่มีตัวตนอยู่จริง!

“ซิ่วซิ่ว ในเมื่อเหนื่อยแล้ว พวกเราก็ไปกันเร็วหน่อยเถอะ อย่ามองภาพนี้อีกเลย ไม่มีประโยชน์หรอก วีรบุรุษเพอร์ซิอุสไม่มีอยู่จริงหรอก” ชายหนุ่มเอ่ยปลอบ

 

หงซิ่วซิ่วจ้องมองภาพวาด ส่ายหน้าแล้วกล่าว “ไม่ ชุยอี้ผิง พี่ชายของฉันมีความหวังแล้ว วีรบุรุษเพอร์ซิอุสอาจจะปรากฏตัวขึ้นแล้ว!

 

ชุยอี้ผิงมองเห็นนัยน์ตาของหงซิ่วซิ่วเปล่งประกาย ทันใดนั้นก็หยุดชะงัก “ซิ่วซิ่ว เธอไม่เป็นไรนะ พวกเรารีบไปกันเถอะ เธอเหนื่อยแล้วแน่ๆ เลย”

“ฉันไม่ได้เหนื่อย เพอร์ซิอุสปรากฏตัวขึ้นแล้วจริงๆ” หงซิ่วซิ่วเอ่ยยืนยัน

ชุยอี้ผิงกอดหงซิ่วซิ่วแน่น “ซิ่วซิ่ว เธอไม่เป็นอะไรนะ?”

หงซิ่วซิ่วดิ้นออกมา “ไม่เป็นอะไร นายไม่ต้องคิดมาก!”