บทที่ 449 รักษาสัญญา
บทที่ 449 รักษาสัญญา
อวี้ฮ่าวหรานตรวจสอบพิษในร่างถวนถวน จึงพบว่ามีพิษสองชนิดกำลังประสานพัวพันกัน
หากเป็นเช่นนี้ เมื่อพวกมันผสานเข้าด้วยกันจะยิ่งรุนแรงขึ้น และกำจัดได้ยาก
แม้แต่พลังวิญญาณปกติยังไม่สามารถขจัดออกไปได้ เรียกได้ว่าเป็นพิษที่รุนแรง
หากแต่สำหรับคนทั่วไปเท่านั้น
อวี้ฮ่าวหรานใช้ชีวิตในโลกเทวะมาหลายร้อยปี มีพิษใดบ้างที่เขาไม่เคยเห็น?
เขาเพ่งแบ่งพลังวิญญาณเป็นเส้นสายนับสิบ ก่อนส่งทะลุเข้าสำรวจร่างถวนถวน
ทว่าเขากลับต้องนิ่วหน้า…
“อะไรกัน?”
ในร่างของเด็กน้อยมีพลังลึกลับซึ่งไม่ได้ปรากฏขึ้นมานานเกิดขึ้น ปล่อยพลังรุนแรง ขับพิษในกายออกไปอย่างต่อเนื่อง
แน่นอนว่าพลังวิญญาณของเขายังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ความสามารถในตอนนี้จึงมีจำกัด
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังลึกลับอีกครั้ง อวี้ฮ่าวหรานก็ครุ่นคิดก่อนตัดสินใจปลุกพลังนี้
พลังนี้ดูเหมือนจะเชื่อมโยงกับเขา มันประคองอาการของถวนถวนไว้ในยามคับขัน
เมื่อได้รับการกระตุ้น พลังงานในร่างของถวนถวนก็แข็งแกร่งขึ้นในทันที!
ก่อนมันจะกลายเป็นเส้นสายนับไม่ถ้วนกระจัดกระจายช่วยขับพิษออกจากร่าง
ไม่ถึงครึ่งนาที สีหน้าของถวนถวนก็ค่อย ๆ มีสีเลือดฝาดขึ้น ร่องรอยพิษเลือนหายไปในเวลาเดียวกันอย่างน่าตื่นตะลึง
พิษสีเขียวเข้มกลิ่นเหม็นหึ่งไหลออกมาทางนิ้วมือ พร้อมลมหายใจที่สม่ำเสมอขึ้น เด็กน้อยจึงกลับมาเป็นปกติดังเดิม
พิษรุนแรงน่าหวาดหวั่น มันระเหยกลายเป็นไอในทันทีที่หยดลงพื้น
เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่กรดธรรมดาอย่างกรดซัลฟิวริค หากแต่รุนแรงกว่านั้น!
“พ่อจ๋า… ถวนถวนอึดอัดจังเลย…”
เมื่อพิษถูกขับออกจากร่างกายจนหมด เจ้าตัวน้อยก็โผเข้าอ้อมแขนพ่อตนเองพลางพึมพำบอกขึ้น
“ไม่เป็นไร…ไม่เป็นไรแล้วนะลูก”
อวี้ฮ่าวหรานยกมือลูบหลังปลอบลูกสาว
หลูชิงหยวนซึ่งอยู่แถวนั้นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน
ดูจากสถานการณ์แล้ว เขาคงไม่คิดว่าพิษของราชาพิษซึ่งไม่มีทางถอนออกได้จะถูกขจัดออกอย่างง่ายดายเพียงนี้!
“ไม่มีทาง…ไม่มีทางเด็ดขาด…ก็เห็น ๆ อยู่ว่า…”
เขาว่าละล่ำละลักอย่างไม่คิดเชื่อ
เรื่องนี้เกินความคาดหมายของเขาไปมาก
“แก…แกเป็นใคร?”
หลูชิงหยวนมองชายหนุ่มร่างผอม แต่ตอนนี้กลับดูเหมือนเขากำลังแหงนมองหน้าผาสูงน่าหวั่นเกรง
เมื่ออวี้ฮ่าวหรานขับพิษในตัวลูกสาวออกได้ เขาถึงได้มีเวลาจัดการคนไม่สมประกอบบนพื้น
“เป็นคนที่แกสู้ไม่ได้ยังไงล่ะ!”
เขามองคนบนพื้นอย่างเหยียดหยาม ท่าทียิ่งเย็นชา
“แกไม่ตายไปทั้งอย่างนี้หรอก ฉันจะจัดการอสรพิษของแกให้หมด ต่อไปฉันจะตามไล่ล่าทีละคนแน่!”
“ไม่…อย่านะ…”
หลูชิงหยวนรู้สึกเสียวสันหลังไปทั่วร่างเมื่อได้ฟัง องค์กรอสรพิษเป็นความทุ่มเททั้งชีวิตของเขา จะปล่อยให้สาบสูญไปแบบนี้ไม่ได้!
“ฉัน…ฉันยอมแกทุกอย่างเลย ฉันจะตามรับใช้แก! จะให้ลูกน้องของฉันเชื่อฟังแก ได้โปรดไว้ชีวิตฉันเถอะนะ”
“ฮึ น่าเสียดายที่สายเกินไปแล้วล่ะ”
อวี้ฮ่าวหรานแค่นเสียงบอก
หากอีกฝ่ายไม่ทำร้ายครอบครัวของเขา บางทีอาจยังพอคุยกันได้ หากแต่ตอนนี้มีเพียงหนทางเดียวคือความตาย!
หลังประกาศกร้าวใส่หน้าอีกฝ่าย เขาก็ไม่อยู่รอและเดินทางกลับบริษัท
แน่นอนว่าพลังวิญญาณของเขาสามารถกักขังฝ่ายตรงข้ามได้ทุกเมื่อ หากต้องการหลบหนีเขาก็พร้อมโจมตีทันที
บริเวณทางเดินชั้นล่าง พนักงานคนอื่นต่างหนีไปกันหมดแล้ว เหลือเพียงหลิวว่านฉิงซึ่งบาดเจ็บอยู่
เธอคงจะฟื้นขึ้นมาแล้ว
“แค่ก ๆ… ถวนถวน…ถวนถวนเป็นอะไรหรือเปล่า?”
แม้จะเลือดกบปากและบาดเจ็บ เธอก็อดจะถามหาเด็กหญิงไม่ได้เมื่อเห็นเขากลับมา
อวี้ฮ่าวหรานมองเธอ เห็นว่าเธอซี่โครงหัก ก็นิ่วหน้าขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
“อย่าขยับนะครับ ตอนนี้ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรทั้งนั้น”
เขาห้ามเธอที่กำลังพยายามลุกขึ้นไปหาถวนถวน ก่อนนั่งลงปล่อยพลังวิญญาณของตนเป็นเส้นสายเข้าไปในร่างของอีกฝ่าย
“ครูหลิว ถวนถวนขอบคุณมากนะคะ”
ถวนถวนดูไม่กลัวเลือดแต่อย่างใด เธอเอื้อมมือไปเช็ดเลือดมุมปากของครูสาว
อวี้ฮ่าวหรานกำลังเพ่งสมาธิ พลังวิญญาณที่ส่งไปในกายของเธอทำให้เขารับรู้ได้ถึงสภาพร่างกายของเธอ
ไม่ได้การแล้ว!
ต่อให้เป็นผู้ฝึกตนโดนเข้าไปขนาดนี้ยังน่าหวั่นใจ!
นอกจากซี่โครงหักสองซี่ อวัยวะภายในยังได้รับความเสียหายสาหัส ซ้ำยังมีพลังร้ายในตัว
เรียกได้ว่าอาการสาหัส ต่อให้ถูกส่งถึงมือหมอก็อาจรักษาได้ไม่ทั้งหมด!
แน่นอนว่าเขาสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ เพียงแค่ต้องใช้สถานที่เงียบ ๆ เท่านั้น
ตอนนี้ต้องตัดสินใจโดยเร็ว
“อาการของคุณสาหัสมาก ตอนนี้ไปโรงพยาบาลไม่ทันแน่ ผมต้องใช้ที่เงียบ ๆ เพื่อรักษาคุณ”
เขาอธิบายให้เธอฟัง
หากไปโรงพยาบาลตอนนี้ ซี่โครงที่หักอาจทำให้สมานได้ แต่ไม่ใช่สำหรับอวัยวะภายใน พลังร้ายนั้นคงทำลายอวัยวะของเธอให้หยุดทำงานและเสียชีวิต
หลิวว่านฉิงไม่คิดสงสัย ถึงอย่างไรเธอก็เพิ่งได้เห็นฉากคนเหนือมนุษย์ด้วยตาของตนเอง
“ได้ค่ะ แต่ไปบ้านฉันไม่ได้นะคะ ฉันมีเพื่อนร่วมบ้านอยู่ มีคนอยู่เยอะน่ะค่ะ”
เพื่อความประหยัดและราคาถูก ที่พักของเธอเป็นบ้านพักรวม มีคนอาศัยอยู่หลายคน
แน่นอนว่าไม่ใช่สถานที่เงียบ…
“ไม่ต้องห่วงครับ คุณไม่ต้องคิดอะไร ผมจะจัดการทุกอย่างเองครับ”
เขาใช้พลังวิญญาณปกป้องอวัยวะภายในเอาไว้เป็นการชั่วคราว ก่อนเดินออกไปมองนอกอาคาร
หวังเหยียนและโจวเฟยหู่มาถึงพร้อมกับพรรคพวกหลายคน
“ให้ตาย! น้องอวี้…นาย…นายโดนอาวุธหนักเล่นงานมาเหรอ?”
โจวเฟยหู่มองสำรวจอย่างไม่เชื่อสายตา โถงทางเดินพังระเนระนาด กระเบื้องหักไม่มีชิ้นดี ทั้งยังมีโพรงตรงสุดปลายทางเดิน!
ไม่ใช่ฝีมือมนุษย์อย่างแน่นอน
หากแต่อวี้ฮ่าวหรานไม่อยู่ในอารมณ์มาอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น
“คุณมาทันเวลาพอดี รีบจัดการตรงนี้ที ผมไม่อยากให้ตำรวจเข้ามายุ่งมาก”
เขาว่าขึ้นเสียงเรียบ เพราะอีกฝ่ายค่อนข้างถนัดเรื่องทำนองนี้
หากแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหลูชิงหยวนซึ่งถูกทำลายตันเถียนไปจนหมด
“แล้วก็ผู้ชายที่อยู่ทางโน้นเป็นหัวหน้าองค์กรอสรพิษ คุณเอาตัวมันไปเค้นว่าลูกน้องของมันอยู่ที่ไหน!”
โจวเฟยหู่ชะงักเมื่อได้ฟังคำสั่ง หากแต่ก็รีบรับคำทันที
“สบายมาก! เชื่อมือฉันกับหวังเหยียนได้เลย”
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้ารับเมื่อได้ฟังคำตอบหนักแน่นของเขา เมื่อมองหน้าพวกเขาจึงนึกบางอย่างขึ้นได้
“หวังเหยียน คราวหน้าให้แวะมาหาฉัน ฉันจะใช้โอกาสนี้ช่วยนายให้แข็งแกร่งขึ้น”
ถึงเวลาต้องรักษาสัญญาที่ให้เอาไว้แล้ว