บทที่ 450 การรักษา
บทที่ 450 การรักษา
ใช่ว่าอวี้ฮ่าวหรานจะต้องการช่วยอีกฝ่ายโดยไม่มีเหตุผล เขาแค่ต้องการคนที่แข็งแกร่งมาปกป้องครอบครัวของเขา
ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้มีเวลาตลอด…
ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา หวังเหยียนก็อดจะตะลึงไม่ได้ สีหน้าเปี่ยมล้นไปด้วยความปลื้มปริ่ม
“งั้น! งั้นผมขอขอบคุณน้องชายไว้ล่วงหน้าเลย”
“ฮ่า ๆ ฉันเองก็ขอบคุณน้องอวี้ที่ทำเพื่อพยัคฆ์เวหาของเรา!”
โจวเฟยหู่รีบกล่าวขอบคุณเขาเช่นกัน ด้วยตัวเขาเองไม่มีความสามารถพอจะฝึกขั้นพลังภายใน
ดังนั้นในหมู่สมาชิกพยัคฆ์เวหา หวังเหยียนจึงถือว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด หากแต่ก็อยู่ขอบเขตพลังภายในขั้นสูงเท่านั้น ซึ่งถือว่ายังห่างชั้นกับหลิ่วอวี้จิงซึ่งอยู่ในขอบเขตกำลังภายในขั้นสูงสุด คราวนี้จะได้เทียบชั้นกับอีกฝ่ายได้เสียที
หลังจากเอ่ยขอบคุณ พวกเขาก็พาคนไปเก็บกวาดที่เกิดเหตุทันที อีกไม่นานตำรวจคงจะมาถึง
“ไปกันครับ ผมจะพาคุณไปที่เงียบ ๆ”
อวี้ฮ่าวหรานโอบกอดหลิวว่านฉิงซึ่งบาดเจ็บสาหัสเอาไว้
มองเพียงแวบเดียวก็บอกได้ว่าเธอบาดเจ็บเพราะปกป้องถวนถวนเอาไว้
“ขอบคุณนะครับ”
ชายหนุ่มเป็นฝ่ายเอ่ยขอบคุณเธอ
แม้จะช่วยบังเอาไว้ได้เพียงชั่วครู่ หากแต่มันสำคัญกับอวี้ฮ่าวหรานมาก
ทั้งสามขึ้นรถ ด้วยระแวงว่าอาจมีคนขององค์กรอสรพิษแอบซุ่มอยู่ หวังเหยียนจึงตามไปด้วย
ภายในรถ…
อวี้ฮ่าวหรานครุ่นคิดก่อนโทรหาเฉิงชิวอวี้
“ตอนนี้บ้านคุณมีใครอยู่หรือเปล่า?”
“ห๊ะ?”
เสียงปลายสายฟังดูแปลกใจ เห็นได้ชัดว่าไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะถามเช่นนี้
“ไม่ค่ะ พ่อฉันไปดูงานต่างประเทศ เขาคงไม่ได้กลับมาภายในสองวันนี้ คุณอยากมาหาฉันเหรอคะ?”
“ดีเลยครับ ผมจะพาบางคนไปที่นั่น”
“อ่อ? ได้ค่ะ งั้นฉันกลับไปรอที่บ้านนะคะ”
เฉิงชิวอวี้ดูผิดหวังเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าเขาจะพาใครบางคนมา หากแต่ทำน้ำเสียงเป็นปกติโดยเร็ว
ก่อนสายโทรศัพท์จะถูกตัดไป
“เป็น…ผู้หญิงที่คุณรู้จักเหรอคะ?”
หลิวว่านฉิงซึ่งนั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับถามขึ้นทั้งสีหน้าซีดเซียว
“ครับ บ้านเธอค่อนข้างเงียบน่ะ”
อวี้ฮ่าวหรานตอบอย่างไม่คิดมาก
“เราไม่ไปได้ไหมคะ?”
“ไม่ไปเหรอ? ทำไมครับ?”
เห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของเธอแล้ว ทำเอาเขางุนงงเล็กน้อย
หากพากลับบ้านคงลำบาก ไม่เช่นนั้นด้วยความช่างสังเกตของหลี่หรง เธออาจรู้เรื่องได้
หลังตรองดูจึงมีเพียงบ้านของครอบครัวเฉิงชิวอวี้ที่เหมาะสม หากแต่หลิวว่านฉิงไม่อาจพูดสิ่งใดได้เมื่อเห็นแววสงสัยของเขา
“ไปก็ได้ค่ะ”
สุดท้ายเธอถึงรู้ว่าตนเองทำพลาดไป ก่อนพยักหน้าตอบตกลง
“ครับ”
รถสปอร์ตสีเหลืองสดแล่นออกจากเครือฮ่าวหราน ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มาถึงบ้านของเฉิงชิวอวี้
เจ้าของบ้านผงะเมื่อออกมาต้อนรับเขา
“มาถึงเร็วจังค่ะ เอ๊ะ!? เธอ…”
เฉิงชิงอวี้ยังคงอยู่ในชุดทำงานเต็มยศ เมื่อมองสำรวจร่างซีดเซียวภายในรถ เธอก็อดจะตกใจไม่ได้
“คนขององค์กรอสรพิษเพิ่งบุกโจมตีครับ เธอบาดเจ็บหนักมาก ผมจึงต้องการที่เงียบ ๆ”
อวี้ฮ่าวหรานเปิดประตูรถพลางอธิบาย
หลังจากผ่านประสบการณ์มาก่อนหน้านี้ อีกฝ่ายย่อมรู้เรื่ององค์กรอสรพิษดี
“แล้วคุณเป็นอะไรไหมคะ?”
เฉิงชิวอวี้รีบมองสำรวจชายหนุ่มตรงหน้า สายตาฉายแววเป็นกังวล
“ไม่เป็นไรครับ พาเธอเข้าไปด้านในก่อนเถอะ อาการของเธอแย่ทีเดียว”
หลังลงจากรถ อวี้ฮ่าวหรานอุ้มหลิวว่านฉิงออกมา หวังเหยียนอุ้มถวนถวนออกจากรถเช่นกัน
เจ้าตัวน้อยกลับมาเป็นปกติแล้ว ตอนนี้ร่าเริงเหมือนเก่า
“สวัสดีค่ะ พี่ชิวอวี้!”
เธอกล่าวทักทายอย่างสุภาพ ทำให้เฉิงชิวอวี้ชื่นใจ ปกติแล้วเด็กรุ่นนี้มักเรียกเธอว่าน้า
แต่ใครจะอยากถูกเรียกว่าน้ากันล่ะ?
“ถวนถวน! มาสิ! ที่บ้านมีของอร่อยเต็มไปหมดเลย เดี๋ยวพี่จะเอาให้กินนะ”
เธออุ้มเด็กน้อยขึ้นด้วยความเอ็นดู
“น้องอวี้ ผมไม่เข้าไปนะ เดี๋ยวจะอยู่คอยคุ้มกันด้านนอกกับพวกเขาให้”
หวังเหยียนชี้ไปทางบอดี้การ์ดด้านนอกบ้านขณะเอ่ยขึ้นแข็งขัน
เขาไม่ใช่คนโง่ ย่อมรู้ว่าอีกฝ่ายพาเขามาด้วยจุดประสงค์อะไร
“ได้”
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าเมื่อได้ยิน บอดี้การ์ดของครอบครัวเฉิงชิวอวี้อ่อนแอเกินไป ส่วนใหญ่ฝึกถึงขั้นกำลังภายนอกเท่านั้น ไม่มีใครเข้าขั้นพลังภายในสักคน
พวกเขาเข้าไปในบ้านด้วยกัน
หลิวว่านฉิงหน้าซีดเผือดและตกอยู่ในอาการไม่ได้สติ เห็นได้ชัดว่ากำลังอยู่ในช่วงคับขัน
เฉิงชิวอวี้ไม่ได้ถามไถ่ รีบจัดห้องที่เงียบที่สุดให้ทันที
อวี้ฮ่าวหรานวางร่างสั่นเทาของหญิงสาวในอ้อมแขนลงบนเตียง ก่อนหันไปมองโดยรอบ เห็นว่าที่นี่เหมาะสมมากทีเดียว
ภายในถูกตกแต่งไว้สวยงาม พรมขนปุยสีขาวให้ความรู้สึกสุขสงบสบายใจ ขณะที่ด้านนอกหน้าต่างคือป่าหยาง ความเขียวชอุ่มชวนให้สดชื่นขึ้นมา
“ปกติใครใช้ห้องนี้เหรอครับ?”
อวี้ฮ่าวหรานถามขึ้นด้วยความสงสัย
เมื่อเฉิงชิวอวี้ถูกถามเรื่องนี้ แก้มไร้สีของเธอกลับกลายแดงเรื่อ
“คือ…พ่อฉันบอกว่าต่อไปจะให้มาอยู่ที่นี่หลังจากแต่งงานค่ะ”
“ห้องหอเหรอครับ?”
“ไม่…ไม่ใช่นะคะ! ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ฉันไม่แต่งงานกับชายอื่นเด็ดขาดค่ะ”
เธอบอกปัดพัลวันราวกับกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิด
หลังผ่านเรื่องราวมามากมาย หัวใจของเธอก็ตกเป็นของชายตรงหน้า แล้วเธอจะแต่งงานกับคนอื่นได้อย่างไร?
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้า หากแต่เขาไม่ได้คิดมากนัก นาทีนี้เขาเป็นห่วงเพียงหลิวว่านฉิงซึ่งนอนบาดเจ็บอยู่ตรงหน้า
“คุณพาถวนถวนออกไปก่อนนะครับ ผมต้องการอยู่ตามลำพังสักพัก”
หลังจากเคลื่อนย้ายพลังวิญญาณของตน เขาจึงหันหน้าไปบอกเธอว่า…
“ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันจะไม่มารบกวนคุณเด็ดขาด”
เฉิงชิวอวี้พยักหน้ารับ ก่อนพาถวนถวนออกจากห้องไป
บ้านหลังนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุด เมื่อประตูปิดลง เสียงจากทางเดินด้านนอกถูกปิดกั้นสนิท
เหลือเพียงเสียงกรอบแกรบจากทางหน้าต่างซึ่งได้ยินเลือนราง คงเป็นเสียงลมที่พัดผ่านป่าหยาง
“คุณอยู่นิ่ง ๆ นะครับ ผมจะช่วยรักษาคุณให้”
อวี้ฮ่าวหรานบอกก่อนวางมือลงบนหน้าอกเนียนของอีกฝ่าย
พลังวิญญาณแทรกซึมผ่านเนื้อหนังไปถึงหัวใจโดยไม่แผ่วลงแต่อย่างใด
พลังร้ายที่หลงเหลืออยู่มีศูนย์กลางอยู่ที่นี่
“ยุ่งยากเหมือนกันนะเนี่ย”
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณรุนแรง อวี้ฮ่าวหรานจึงอดที่จะหน้านิ่วไม่ได้
ร่างกายของคนทั่วไปอ่อนแอเกินไป หากทำพลาดไปเพียงนิด อาจทำให้อวัยวะภายในเสียหายได้
ดังนั้นเขาจึงเพ่งจิตเปลี่ยนพลังวิญญาณเป็นเส้นสาย ตวัดรัดพลังร้ายนั้นด้วยการควบคุมขั้นสูง!
ในที่สุดพลังนั้นก็ถูกพันเอาไว้จนมิด
“ออกมาซะ!”
อวี้ฮ่าวหรานยกมือขึ้นและกระชากพลังวิญญาณออกมา มันถูกเขาทำลายสลายหายไปกับตากลางอากาศอย่างง่ายดาย!