บทที่ 238 จ้าวอสูรกระทิงเขียวการเปลี่ยนแปลงทางสายเลือด 11 ครั้ง!

Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์

บทที่ 238 จ้าวอสูรกระทิงเขียวการเปลี่ยนแปลงทางสายเลือด 11 ครั้ง!

วู๊ซซซ!

เย่เทียนบินออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อตามหาร่องรอยของเหล่าสัตว์อสูรต่อไป

จากข้อมูลจากอินทรีปีกทอง เขาเข้าใจสถานการณ์คร่าวๆแล้ว

จ้าวแห่งมังกรดําและจ้าวพยัคฆ์ทมิฬได้ตายไปแล้วเรียบร้อย ส่วนจะมีใครตายอีกหรือไม่นั้นเขายังไม่ทราบแน่ชัดแต่ความแข็งแกร่งของเหล่าจ้าวแห่งสัตว์อสูรนั้นน่ากลัวกว่าแต่ก่อนมาก

บางทีจ้าวแห่งสัตว์อสูรอย่างจักรพรรดิแมวเก้าชีวิตอาจจะยังไม่กลายเป็นสัตว์อสูรระดับพระเจ้าแต่คาดว่ามันต้องใกล้ที่จะทะลวงผ่านแล้วอย่างแน่นอนเย่เทียนจึงจําเป็นต้องใช้โอกาสนี้ฆ่าพวกมันเสียก่อนมิฉะนั้นหากให้เวลาพวกมันต่อไปมันจะไม่ส่งผลดีต่อเขาอย่างแน่นอนยิ่งเย่เทียนตรวจสอบโลกของสัตว์อสูรมากเท่าไหร่ เขาก็ได้รับเบาะแสเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆและในวันนี้

เย่เทียนก็บินมาพบกับซากศพของสัตว์อสูรจํานวนมากและเลือดของสัตว์อสูรเหล่านี้ยังคงสดใหม่เห็นได้ชัดว่าพวกมันเพิ่งจะถูกสังหาร

“มีสัตว์อสูรบางตัวที่กําลังล่าสัตว์อสูรตัวอื่นอย่างบ้าคลั่ง!”

เย่เทียนเดาได้ในทันที

ทันใดนั้น

เขาคิดความเป็นไปได้อย่างหนึ่งนั่นก็คือการเปลี่ยนแปลงทางสายเลือดสัตว์อสูรก็เหมือนกับมนุษย์มันจําเป็นต้องดูดซับพลังปราณจํานวนมากเพื่อทําลายขอบเขต

และพลังปราณปฐมสวรรค์และปฐพีในโลกใบนี้ก็ขาดแคลนเป็นอย่างมากมันเกือบจะพอๆกับโลกของเขาที่พลังปราณเพิ่งเกิดขึ้นได้เพียง 100 ปีจึงนับว่ามันไม่ได้หนาแน่นมากนัก

นอกจากนี้มนุษย์ยังมีค่ายกลรวบรวมลมปราณที่สามารถรวบรวมพลังปราณปฐมสวรรค์และปฐพีได้ถึงสิบเท่าหรือยี่สิบเท่าหากจะทะลวงผ่านขอบเขตก็ไม่จําเป็นที่จะต้องกังวลว่าพลังปราณจะไม่เพียงพอ

แต่กับสัตว์อสูรนั้นแตกต่างกันพวกมันไม่ได้มีค่ายกลรวบรวมพลังปราณดังเช่นมนุษย์การทะลวงผ่านระดับของพวกมันจึงค่อนข้างยุ่งยากเพาะด้วยความเร็วในการดูดซับพลังปราณตามธรรมชาตินั้นเชื่องช้าจนเกินไปจนไม่สามารถเติมเต็มกระบวนการการเปลี่ยนแปลงได้ทันพวกมันจึงล้มเหลวได้ง่าย

ดังนั้นก่อนที่สัตว์อสูรจํานวนมากจะทะลวงผ่านระดับ พวกมันจึงจําเป็นต้องรวบรวมซากศพของสัตว์อสูรจํานวนมากเพื่อกลืนกินสัตว์อสูรเหล่านี้แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานเติมเต็มกระบวนการทะลวง ด้วยวิธีนี้มันจะรับประกันได้ว่าการเลื่อนระดับจะสําเร็จ 100%

“หากมีจ้าวสัตว์อสูรซักตนต้องการทะลวงผ่านไปถึงระดับพระเจ้า จากสถานการณ์พลังปราณของโลกสัตว์อสูรนี้ไม่มีทางที่พวกมันจะมีพลังปราณเพียงพอดังนั้นพวกมันจึงต้องล่าสัตว์อสูรตัวอื่นอย่างบ้าคลั่งเพื่อเติมเต็มพลังงานของตัวเอง!”เย่เทียนคาดเดาทันใดนั้นสีหน้าของเย่เทียนก็เปลี่ยนเป็นจริงจัง

ดูเหมือนว่าจ้าวแห่งสัตว์อสูรตัวใดตัวหนึ่งจะเข้าสู่ระดับพระเจ้าในอนาคตอันใกล้นี้

ดูจากพรสวรรค์ทางสายเลือดของอีกฝ่ายแล้วการเลื่อนขั้นเป็นระดับพระเจ้าแทบจะถูกตอกตะปูไปแล้ว!

“เราต้องหาอีกฝ่ายให้เจอโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้!”

เย่เทียนตัดสินใจ

“พรสวรรค์ในการติดตาม!

เย่เทียนใช้ทักษะติดตามที่หาได้ยากของเขาทันใดนั้นเขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายต่างๆในอากาศและไม่นานก็พบกับกลิ่นอายของพลังปราณที่ทรงพลังบางทีอาจเป็นเพราะอีกฝ่ายกําลังรีบร้อน มันจึงไม่ได้ปกปิดกลิ่นอายของตัวเองมันจึงประมาท และคงไม่คิดว่าใครจะกล้าแอบติดตามมันบวกกับกลิ่นอายที่ยังคงสดใหม่ยังไม่สลายหายไปดังนั้นเย่เทียนจึงสามารถติดตามกลิ่นอายของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย

“ทางนั้น!”

เย่เทียนพุ่งออกไปกลายเป็นล่าแสงหายไปในพริบตา

ตลอดทางเย่เทียนแทบจะไม่พบเห็นสัตว์อสูรเลยเห็นได้ชัดว่าสัตว์อสูรส่วนใหญ่ถูกสังหารไปเกือบหมดผ่านไปไม่นานเย่เทียนก็พบว่ากลิ่นอายทั้งหมดรวมกันอยู่ในที่แห่งหนึ่งมันเข้มข้นแลแข็งแกร่งกว่ากลิ่นอายที่เขาพบก่อนหน้านี้นับหมื่นเท่า

“มันอยู่ตรงนั้น!”

เย่เทียนจริงจังขึ้นมาทันทีเขาพยายามเก็บกลิ่นอายของเขาและเปิดใช้งานพรสวรรค์ล่องหน

เพราะเขาไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งขนาดไหนหากอีกฝ่ายยังไม่เข้าสู่ระดับพระเจ้าอย่างที่เขาคาดเดามันก็จะไม่เป็นไรแต่หากอีกฝ่ายบรรลุถึงระดับพระเจ้าแล้วจริงๆเขาคงจะหันหลังหนีไปโดยไม่พูดพร่ําทําเพลง

ฝ่ายตรงข้ามเป็นถึงจ้าวแห่งสัตว์อสูรไม่ใช่สัตว์อสูรระดับจักรพรรดิทั่วไปแม้แต่จักรพรรดิในการจัดอันดับจักรพรรดิของหอคอยเกียรติยศยังไม่สามารถเลื่อนขั้นเป็นระดับพระเจ้าได้เช่นนั้น

จ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับพระเจ้าความแข็งแกร่งของมันจะน่ากลัวขนาดไหนกัน!

การเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรระดับพระเจ้าเช่นนี้ไม่มีทางที่เขาจะรักษาชีวิตในน้อยของเขาเอาไว้ได้เว้นเสียแต่ว่าเขาจะสามารถทําลายขีดจํากัดของร่างกายได้ถึงสิบครั้งและบรรลุการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ บางทีเขาอาจสามารถต่อสู้กับสัตว์อสูรระดับพระเจ้าที่พึ่งเลื่อนขั้นได้

สถานที่แห่งนี้มีเทือกเขามากมายรายล้อมครบรอบเต็มไปด้วยซากศพของสัตว์อสูรมากมายนับไม่ถ้วนที่กองรวมกันคล้ายกับภูเขาเลือดเนื้อภายใต้เทือกเขาขนาดใหญ่นี้เจ้าของกลิ่นอายที่เย่เทียนติดตามก็อยู่ที่นั่น

เย่เทียนตรวจสอบอยู่พักหนึ่งในที่สุดก็พบทางเข้าที่นําไปสู่ใต้ภูเขา

ดังนั้นเขาจึงเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง

หลังจากนั้นไม่นาน เย่เทียนก็มาถึงพื้นที่ใต้ดินขนาดใหญ่บริเวณใจกลางของพื้นที่ใต้ดินนี้มีทะเลสาบโลหิตตั้งอยู่มันเป็นทะเลสาบที่ถูกสร้างขึ้นจากเลือดของสัตว์อสูรจํานวนมากเห็นได้

ชัดว่าจ้าวแห่งสัตว์อสูรตัวนี้ฆ่าสัตว์อสูรไปมากมายเพียงใด

“เป็นจ้าวแห่งแห่งสัตว์อสูรตัวไหนกัน?”

เย่เทียนกระตุ้นพรสวรรค์ในการคัดลอกปกคลุมทะเลสาบมากกว่าครึ่งเพื่อตรวจสอบพรีบ!

พรสวรรค์ของสัตว์อสูรปรากฏขึ้นในจอประสาทตาของเย่เทียน
ประเภท:อสูรกระทิงเขียว

พรสวรรค์ทางสายเลือด:ตะวัน

พรสวรรค์ด้านพละกําลัง:ลึกลับ

พรสวรรค์ความเร็ว: สูงสุด

พรสวรรค์ในการป้องกัน: ลึกลับ

พรสวรรค์ในการรักษา: สูงสุด

พรสวรรค์แรงโน้มถ่วง: สูงสุด

“จ้าวอสูรกระทิงเขียว!”

เย่เทียนจํามันทันที

จ้าวอสูรกระทิงเขียวมีพลังค่อนข้างแข็งแกร่งด้วยพรสวรรค์ด้านแรงโน้มถ่วงระดับสูงสุดมันสามารถสะกดข่มความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามได้และตัวมันเองก็มีพรสวรรค์ด้านพละกําลังระดับลึกลับ และพรสวรรค์ในการรักษาระดับสูงดังนั้นความแข็งแกร่งของมันจึงน่ากลัวมากแม้ว่ามันจะไม่มีพรสวรรค์ที่สามารถซ้อนทับกันได้แต่พรสวรรค์ด้านแรงโน้มถ่วงก็สามารถชดเชยพรสวรรค์ที่ซ้อนทับกัน

ดังนั้นจ้าวอสูรกระทิงเขียว จึงมีความแข็งแกร่งระดับกลางในบรรดา 12 จ้าวแห่งสัตว์อสูรก่อน

หน้านี้ มันมีความแข็งแกร่งกว่าวจ้ามังกรดําอยู่เล็กน้อย

หลังจากตรวจสอบกันได้สักพักเย่เทียนก็สามารถคาดเดาระดับการบ่มเพาะของจ้าวอสูรกระทิงเขียวได้คร่าวๆ

“มันยังไม่ไปถึงระดับระดับพระเจ้า!”

เย่เทียนตื่นเต้นทันที

กระทิงเขียวก่อนหน้านี้เป็นจ้าวแห่งสัตว์อสูรที่เปลี่ยนแปลงทางสายเลือดสิบครั้งแต่ตอนนี้

กระทิงเขียวน่าจะเปลี่ยนแปลงสายเลือดสิบเอ็ดครั้งแล้วความแข็งแกร่งของมันเพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก

“เราคาดเดาผิดบางทีเหล่าจ้าวแห่งสัตว์อสูรอาจจะไม่ได้รีบร้อนที่จะทะลวงเข้าสู่ระดับพระเจ้าแต่พวกมันต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงทางสายเลือดให้มากยิ่งขึ้นและกระทิงเขียวก็ไม่ได้รวบรวมเลือดและซากศพของสัตว์อสูรจํานวนมากเพื่อทะลวงเข้าระดับพระเจ้า แต่เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงทางสายเลือดครั้งที่ 12!”

เย่เทียนครุ่นคิด

หากในหมู่มนุษย์เกิดผู้ฝึกยุทธ์ที่มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับตะวัน แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่อยากทําลายขีดจํากัดของร่างกายแค่เพียง 10 ครั้งก่อนจะทะลวงผ่านเข้าสู่ระดับพระเจ้าพวก

เขาต้องเลือกที่จะทําลายขีดจํากัดให้ได้มากที่สุดเพื่อความแข็งแกร่งในอนาคตและเหล่าสัตว์อสูรก็เป็นเช่นเดียวกัน

จ้าวอสูรกระทิงเขียวและจ้าวแห่งสัตว์อสูรตนอื่นๆยังเหลืออายุขัยอีกมาก หลังจากที่พรสวรรค์

ทางสายเลือดของมันกลายเป็นระดับตะวันความเร็วในการฝึกฝนของมันก็เพิ่มขึ้นมาหลายเท่าทําให้มันสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงทางสายเลือดครั้งที่ 11 ได้อย่างรวดเร็วหรือแม้แต่ครั้งที่ 12

แล้วพวกมันจะรีบกลายเป็นระดับพระเจ้าไปทําไม?

พวกมันถูกกําหนดให้กลายเป็นระดับพระเจ้าอย่างแน่นอนอยู่แล้ว ดังนั้นทําไมพวกมันถึงจะไม่ทําให้ร่างกายของตัวเองแข็งแกร่งขึ้น

สัตว์อสูรระดับพระเจ้าที่เปลี่ยนแปลงทางสายเลือด 11 ครั้งกับสัตว์อสูรระดับพระเจ้าที่

เปลี่ยนแปลงทางสายเลือด 12 ครั้งแน่นอนว่าไม่ใช่ระดับเดียวกัน

“ถ้าอย่างนั้นเราก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีสัตว์อสูรระดับพระเจ้าปรากฏขึ้น ไม่งั้นฉันคงไม่สามารถฆ่าพวกมันทั้งหมดได!”

เย่เทียนครุ่นคิด

จ้าวอสูรกระทิงเขียวเป็นจ้าวแห่งสัตว์อสูรที่เปลี่ยนสายเลือดสิบเอ็ดครั้งและจากพรสวรรค์

ของมัน ความแข็งแกร่งของมันน่าจะจะเทียบเท่ากับระดับจักรพรรดิหกดาราและก็ไม่ใช่จักรพรรดิหกดาราที่แข็งแกร่ง

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเย่เทียนพรสวรรค์ครับจ้าวอสูรกระทิงเขียวก็ถูกยับยั้ง

เนื่องจากพรสวรรค์ด้านแรงโน้มถ่วงของจ้าวอสูรกระทิงเขียวไม่สามารถต้านทานทักษะกักขังมิติของเย่เทียนได้หากพรสวรรค์ด้านแรงโน้มถ่วงถูกผนึกความแข็งแกร่งของจ้าวอสูรกระทิง

กระทิงเขียวจะลดลงอย่างมากและอาจจะเหลือเพียงจักรพรรดิห้าดารา

แล้วเย่เทียนแข็งแกร่งขนาดไหน? แน่นอนว่าเขาเป็นระดับจักรพรรดิ 6 ดาราที่น่ากลัวที่สุดทักษะการโจมตีทางวิญญาณของเขาก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างความเสียหายให้กับระดับจักรพรรดิ

ทั้งหมด หากไม่สามารถฆ่าเย่เทียนได้ในพริบตาเมื่อเวลาผ่านไป คนที่จะต้องตายก็คืออีกฝ่าย

นอกเสียจากว่าอีกฝ่ายจะมีสมบัติที่สามารถป้องกันวิญญาณ!

แต่สัตว์อสูรอย่างจ้าวอสูรกระทิงเขียวจะมีสมบัติเช่นนั้นได้อย่างไร?

นั่นเป็นเพียงเรื่องตลก!

“เราสามารถสังหารจ้าวอสูรกระทิงเขียวได้อย่างแน่นอน!”

เย่เทียนประเมิน