ตอนที่ 921 อย่าไปยุ่งกับดอกไม้ริมทาง

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

เสี่ยวเชี่ยนเชื่ออย่างหนักแน่นว่า หากผู้หญิงต้องการมีชีวิตดุจนางพญา นอกจากจะต้องมีนิสัยที่พึ่งพาตัวเองได้ไม่ต้องง้อใครแล้ว ยังต้องมีความสามารถด้วย ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องรู้จักประนีประนอม เก็บอารมณ์ ทำตัวเป็นแม่บ้านตามแบบฉบับโบราณ ยอมเสียสละเพื่อครอบครัว ขอแค่ตัวเองยอมเป็นแบบนั้นใครจะกล้าพูดว่านี่ไม่ใช่ชีวิตที่เรียบง่ายแต่มีความสุขล่ะ?

ที่น่ากลัวที่สุดก็คือตอนหาคู่ครอง มองว่าแค่มีอวัยวะสืบพันธุ์ก็พอแล้ว หลังแต่งงานพอผู้ชายไม่เป็นไปตามที่ตัวเองหวังก็หาเรื่องทะเลาะกันทุกวัน ร้องไห้บ้าง ใช้กำลังบ้าง ใช้ชีวิตอยู่อย่างเป็นทุกข์ คิดแต่จะให้อีกฝ่ายเปลี่ยนแต่กลับไม่คิดว่าทำอะไรเพื่อตัวเองได้บ้าง

ไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิง ขอแค่ไม่มองว่าตัวเองเป็นคนดีจนเกินไป ไม่คิดว่าคู่ครองจะต้องเป็นคนดีแสนเพอร์เฟค ก็จะไม่สร้างความกดดันให้ทั้งตัวเองและคนอื่น เสี่ยวเชี่ยนใช้วิธีนี้ทำให้พี่สะใภ้กำจัดความไม่ชอบลูกตัวเองให้น้อยลง ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนธรรมดาไม่สมบูรณ์แบบ คิดหาวิธีเพิ่มคุณค่าในตัวเองแล้วค่อยตั้งเงื่อนไขให้อีกฝ่ายปฏิบัติต่อตัวเองอย่างเท่าเทียม ไม่อย่างนั้นไม่เพียงแต่จะเป็นการทรมานตัวเองยังทรมานอีกฝ่ายด้วย

ในอนาคตจู้จื่อกับพี่สะใภ้อาจมีเรื่องขัดแย้งเล็กๆน้อยที่สร้างความรำคาญใจเกิดขึ้นได้อีก แต่ถ้าใช้วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องก็ย่อมอยู่ด้วยกันต่อไปได้ ต่อให้อยู่ด้วยกันไม่ได้แต่พี่สะใภ้ก็มีความสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้แล้ว หย่าไม่หย่าก็เป็นเรื่องของเขา ชีวิตของคนทั่วไปก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น

เสี่ยวเชี่ยนคิดถึงหลวงจีนวัดเส้าหลินของตัวเองขึ้นมาหน่อยๆแล้ว…ในบรรดาคนนับล้านเธอได้มาเจอกับคนที่ไม่ธรรมดาอย่างเขา เธอรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากจริงๆ

ยังเหลือเวลาอีกระยะหนึ่งกว่าจะประกาศผลคะแนน พอเสี่ยวเชี่ยนจัดการเรื่องในบ้านเสร็จก็กลับเมืองหลิน รีบกลับไปก่อนที่ฟู่กุ้ยจะกลับมา

เธอจินตนาการท่าทางของแม่วัยทองออกยามที่เห็นฟู่กุ้ยขาหักแล้วปิดบังคนที่บ้านไว้ ถึงตอนนั้นเธอในฐานะที่เป็น ‘ผู้ร่วมกระทำความผิด’ รู้แล้วไม่บอกจะต้องโดนด่าหูชาแน่ รีบหนีดีกว่า

เพื่อป้องกันแม่โทรมาด่า เสี่ยวเชี่ยนจึงปิดมือถือ

ถึงจะไม่ได้กลับบ้านมาหลายวัน แต่ภายในบ้านก็สะอาดสะอ้านไร้ฝุ่น เสี่ยวเฉียงคงกลับมานอนบ้านด้วย เดาได้เลยว่าช่วงที่ผ่านมาเขากลับดึกมาก เพราะเมื่อวานตอนที่เธอได้ข้อความจากเขาก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว

เธอไม่ได้บอกเขาว่าจะกลับมาวันนี้ อยากให้เขาเซอร์ไพร้ส์

ที่นั่งเล่นริมหน้าต่างของเธอมีโต๊ะไม้ตัวเล็กแบบโบราณเพิ่มเข้ามา เสี่ยวเชี่ยนเดินเข้าไปลูบ คล้ายกับเพิ่งทำขึ้นมาใหม่ หรือจะเป็นไม่พะยูงไหหลำอย่างที่เธอต้องการ?

เธอจำได้ว่าก่อนแยกกับเสี่ยวเฉียงเธอบ่นๆว่าอยากได้โต๊ะไม้ตัวเล็ก บอกว่าอยากได้แบบนี้ ไม่คิดว่าเขาจะเก็บเอามาใส่ใจ

ไม่รู้ว่าเขาทำเองหรือซื้อมา ไม้พะยูงไหหลำแบบนี้มีกลิ่นหอมอ่อนๆ นี่น่าจะเป็นชนิดที่ดีที่สุด ดูท่าทางเหมือนทำขึ้นมาใหม่ เขามีเงินอยู่เท่าไรเธอรู้ดีแก่ใจ ต่อให้ตอนนี้ไม้พะยูงไหหลำจะราคาไม่แพงแต่เขาก็คงไม่มีเงินซื้อ

ก็แสดงว่าไปปล้นน้าฉีเยี่ยมา จากนั้นก็เอามาทำเอง

เสี่ยวเชี่ยนลูบไปมา เนื้อไม้เป็นไม้อย่างดี ดมแล้วรู้สึกสดชื่น ต้องเป็นของดีแน่นอน และที่น่าชื่นชมก็คือ ถึงฝีมืองานไม้ของเสี่ยวเฉียงจะไม่เก่งเท่าช่างไม้มืออาชีพ แต่กลับทำออกมาได้สวย รักษาลายไม้อันโดดเด่นได้เป็นอย่างดี ไม่ทำให้ไม้เนื้อดีเสียของ

เสี่ยวเชี่ยนนั่งพินิจเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่ของบ้านอยู่สักพัก ทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นมาได้

เธอเปิดมือถือ มองข้ามเบอร์แม่ที่ไม่ได้รับแล้วโทรหาน้าฉีเยี่ย

“น้าคะ หมิงหลางไปเอาไม้มาจากน้าเหรอคะ?”

“ไม่ใช่แค่ไม้นะ…แม้แต่สร้อยข้อมือลูกประคำก็ไม่ยอมปล่อย ปล้นไม้ไปหลายแผ่นยังไม่เท่าไร นี่ยังปล้นสร้อยข้อมือไม้ประดู่ไปด้วย แถมยังปล้นจี้ไข่มุกที่ประดับบนหยกเจไดต์ บอกว่าเตรียมไว้ให้ลูกสาวในอนาคต เสี่ยวเชี่ยน ดูเขาบ้างสิ แบบนี้มันทำกันเกินไป บุกเข้ามาทางหน้าต่างบ้านน้าตอนตีสี่กว่า น้ากำลังนอนอยู่ลืมตาขึ้นมาเจอตกใจเกือบฉี่ราด!”

น้าฉีเยี่ยเจอคนที่ระบายด้วยได้แล้ว

ไอ้หลานจอมเผด็จการมันน่าโมโหจริงๆ!

“เอ๋? หนูเห็นแค่โต๊ะไม้ตัวเล็กนะคะ เขาเอาไม้ไปหลายแผ่นเลยเหรอคะ?”

“อืม บอกว่ารถเขาขนไปไม่ได้ เดี๋ยวครั้งหน้าจะเอารถใหญ่มาบรรทุก อยากทำเตียงเตรียมไว้ให้ลูกสาวในอนาคต…เสี่ยวเชี่ยน! ไอ้หลานคนนี้มันทำเกินไปแล้วนะ! ทำไมรักลูกสาวมากกว่าลูกชาย? ถ้าเกิดเป็นลูกชายก็จะไม่ทำเตียงให้ ปล่อยนอนพื้นงั้นเหรอ? เสี่ยวเชี่ยน เรามาตกลงกันนะ ถ้าอีกหน่อยลูกเธอเป็นผู้ชายเอาจี้ไข่มุกนั่นมาคืนน้าได้ไหม จี้อันนั้นเนื้อดีมาก ลวดลายบนเนื้อหยกกับไข่มุกมันเพอร์เฟกสุดๆ!

“…น้าคะ จริงๆน้าเสียดายจี้ไข่มุกนั่นใช่ไหมคะ? ถ้าหมิงหลางรู้ว่าน้าแช่งให้เขามีลูกชายเพียงเพราะอยากได้จี้ไข่มุกคืน ไม่เพียงแต่เขาจะไม่คืนจี้ให้ ยังจะหาทางปล้นจี้มาให้ลูกชายอีกหลายๆอันด้วย อย่างปลาหัวมังกรหยกเอย แผ่นหยกแกะสลักเอย จี้มังกรคู่เอย…น้าว่ามีอันไหนบ้างที่สู้จี้ไข่มุกไม่ได้คะ?”

น้าฉีเยี่ยฟังแล้วก็กลัว ขนลุก…

“ฉันเห็นธาตุแท้แล้วพวกเธอมันจอมโจร ถนัดเรื่องปล้นคนในบ้าน!” เขายังชื่นชมไม่พอเลยนะ จี้อันนั้นเขาทำด้วยความมั่นใจมาก ยังคิดจะเอาไปประกวดด้วย!

“อย่าเพิ่งเสียใจไปเลยนะคะ หนูมีงานดีๆมาให้”

“อะไรเหรอ?”

“ไม้ที่น้าซื้อเก็บไว้ยังหาซื้อได้อีกไหมคะ? ไม้พะยูงหรือไม้พะยูงไหหลำของแท้น่ะค่ะ”

“ได้สิ เธอจะซื้อเหรอ?”

“หนูแค่จะแนะนำให้น้าซื้อเก็บไว้เยอะๆค่ะ”

“ของพวกนี้มันกินพื้นที่นะ เธอซื้อมาแล้วมีที่วางเหรอ? เมื่อสี่ปีก่อนโลละยี่สิบ ตอนนี้ขึ้นมาเป็นโลละร้อยแล้ว ขึ้นมาห้าเท่า คงไม่ขึ้นไปกว่านี้หรอก ถ้าเธอจะทำเฟอร์นิเจอร์ซื้อแค่พอใช้ก็พอนะ”

“เชื่อหนูเถอะค่ะ ซื้อมา! เอาเงินหนึ่งในสามที่น้ามีอยู่ไปกว้านซื้อมา แล้วเช่าโกดังเก็บไว้”

“เธอไปได้ยินข่าวอะไรมาเหรอ?”

“ขึ้นมาห้าเท่ายังน้อยไป น้าไปซื้อเถอะค่ะ ซื้อไม้ที่เก่าแก่กลิ่นหอม อย่าสนเรื่องราคา ถ้าหนูยังไม่ให้ขายก็ห้ามขายนะคะ”

ห้าเท่าก็พอใจแล้ว? อีกไม่กี่ปีหลังจากนี้จะขึ้นเป็นร้อยเท่า!

แน่นอนว่าหลังจากนั้นราคาก็จะลดลงอย่างน่ากลัว ราคาไม้ก็เหมือนชาผูเอ่อร์ ถูกปั่นราคาขึ้นมา ถึงไม้พะยูงไหหลำในธรรมชาติจะน้อยลงขึ้นทุกวัน แต่ราคาที่สูงขึ้นก็เพราะคนปั่น เสี่ยวเชี่ยนต้องการให้น้าฉีเยี่ยทำกำไรจากตรงนี้

ครั้งก่อนที่เสี่ยวเชี่ยนพูดในลักษณะนี้ก็เมื่อสองปีก่อน ตอนนั้นเธอให้น้าฉีเยี่ยซื้อพวกหินอัญมณีที่ยังไม่ได้เจียระไน ซึ่งต่อมาน้าฉีเยี่ยก็ได้กำไรมหาศาล ดังนั้นครั้งนี้ก็ยิ่งเชื่อเสี่ยวเชี่ยนเข้าไปใหญ่

“งั้นครั้งนี้เธอจะซื้อเท่าไร?” ฉีเยี่ยคิดว่าเสี่ยวเชี่ยนก็จะลงทุนด้วย

“หนูเหรอ?”

เสี่ยวเชี่ยนนึกถึงผู้ชายชุดขาวคนนั้นอีกแล้ว ถ้าเธอเล่นซื้อขายไม้พวกนี้ แบบนั้นช้าเร็วก็ต้องได้เจอเขา

“หนูไม่ซื้อหรอกค่ะ น้าซื้อไปเลย”

ชาตินี้เธอมีครอบครัวแล้ว เรื่องรักๆใคร่ๆอย่าพยายามให้เกิดเลยดีกว่า เงินจะหาเมื่อไรก็ได้ แต่คนๆนี้เสี่ยวเชี่ยนไม่อยากเจอแล้ว

ข้างหูเหมือนมีเสียงตะโกนใส่ อย่าไปเด็ดดอกไม้ริมทาง ย้าก~