แหวนห้วงมิติ?!

ผู้คนของชนเผ่าวิญญาณจำนวนมากก็พยักหน้า พวกเขาและปีศาจต่างถิ่นนั้นได้เผชิญหน้ากันมานานหลายปี เกิดการต่อสู้นับไม่ถ้วน แน่นอนว่าต้องรู้ถึงสมบัติที่มีชื่อว่าแหวนห้วงมิติเช่นกัน

ซึ่งแม้แต่คนของพวกเขาบางคนก็มีเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เป็่นไปไม่ได้ที่มีอยู่ทั่วไปเหมือนกับสังคมของปีศาจต่างถิ่น มีเพียงแค่ผู้มีอิทธิพลระดับสูงของสำนักวิญญาณหรือว่าผู้อาวุโสของตระกูลที่ยิ่งใหญ่บางตระกูลเท่านั้นที่จะมีคุณสมบัติในการครอบครองสมบัติเช่นนี้

ทว่าพื้นที่ของแหวนห้วงมิตินั้นก็มีจำกัดเช่นกัน ไม่สามารถที่จะรองรับหินวิญญาณเป็นจำนวนกว่าสามแสนก้อนได้อย่างแน่นอน ดังนั้นในช่วงเวลานี้พวกเขาจึงประสาทและไม่คาดคิดถึงจุดๆนี้

“นี่มันไม่ถูกต้อง”

บางคนที่ตะโกนออกมา “ต่อให้เขาจะมีแหวนห้วงมิติเป็นจำนวนมากซึ่งสามารถที่จะเก็บหินวิญญาณจำนวนกว่าสามแสนก้อนได้ทั้งหมดนั้น ทว่าแท้ที่จริงแล้วเขาหลบหนีออกไปอย่างไรกัน?”

“ต้องรู้ด้วยว่าพื้นที่ในระยะรอบๆกว่าร้อยกิโลเมตรนั้นถูกปิดกั้นเส้นทางโดยยอดฝีมือของชนเผ่าวิญญาณของพวกเรา แม้แต่น้ำหยดเดียวก็ไม่สามารถที่จะผ่านไปได้ ต่อให้จะเป็นแมลงวันที่บินออกไป พวกเราก็สามารถที่จะรับรู้ได้อย่างชัดเจน อันที่จริงเขาหลบหนีออกไปได้อย่างไรกัน?”

ผู้คนต่างก็พยักหน้า เพราะว่าจุดๆนี้ พวกเขาจึงไม่ได้เป็นกังวลว่าผู้ที่อยู่ข้างในพื้นที่บาเรียนั้นจะเป็นตัวปลอม เพราะว่าถึงอย่างไรยอดฝีมือของชนเผ่าวิญญาณจำนวนมากก็คุ้มกันอยู่รอบๆสถานที่แห่งนี้ ผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์นั้นก็มีในจำนวนที่นับไม่ได้

ซึ่งการที่พวกเขาห้อมล้อมหุบเขาแห่งนี้อยู่นั้น ถามว่าฝ่ายตรงข้ามจะหลบหนีอออกไปได้อย่างไรกัน

ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็ไม่ได้เป็นกังวลถึงพลังอำนาจของผู้ที่อยู่ข้างในพื้นที่บาเรีย ภายในทวีปโลหิตวิญญาณนั้น ต่อให้จะมีแกนพลังฉีที่ทรงอำนาจนั้น ทว่าก็จะยังคงถูกยับยั้งโดยกฎแห่งธรรมชาติของดินแดนผืนนี้ จะไม่มีทางอยู่เหนือกว่าระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเทียบเท่ากับระดับของพวกเขา

มีเพียงแค่ว่าการที่ฝ่ายตรงข้ามเป็นเซนต์โลหิตวิญญาณซึ่งก็คือผู้ที่สร้างทวีปโลหิตวิญญาณนี้ขึ้นมาเท่านั้นที่จะมีความเป็นไปได้ในการทำลายกฎแห่งธรรมชาติของโลกใบนี้ ไม่เช่นนั้นต่อให้เป็นผู้บ่มเพาะในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าก็ไม่สามารถที่จะก้าวผ่านข้อจำกัดนี้ได้

ดังนั้น ภายใต้การยับยั้งของพลังอำนาจของทวีปแห่งนี้ พวกเขาจึงมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม หากฝ่ายตรงข้ามเป็นตัวปลอม พวกเขาก็จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามได้ล่วงรู้อย่างแน่นอนว่าทำไมดอกไม้ถึงเป็นสีแดง

ทว่าพวกเขาไม่คาดคิดว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นจะไม่ใช่เป็นเพียงแค่ตัวปลอมเท่านั้น ทว่ายังเสแสร้งเป็นเซนต์โลหิตวิญญาณ อีกทั้งยังหลบหนีออกไปจากการห้อมล้อมของพวกเขาอย่างไร้ร่องรอย เหมือนกับหายไปในกลีบเมฆก็ว่าได้

นี่ทำให้พวกเขาโมโหอย่างมาก

“อุโมงค์ใต้ดิน ที่นี่มีอุโมงค์ใต้ดินอยู่ ไอ้ลูกหมานั่นหลบหนีออกไปจากทางนี้” บางคนที่ค้นพบอย่างรวดเร็วว่าข้างใต้พื้นดินแห่งนี้มีรูขนาดใหญ่ปรากฏอยู่

ทว่ารูขนาดใหญ่นี้ลึกเกินไปจนมองไม่เห็นข้างใต้ ผู้บ่มเพาะของชนเผ่าวิญญาณบางคนได้ลงไปสำรวจทันที ค้นพบว่าอุโมงค์ใต้ดินนี้เจาะลึกลงไปกว่าหลายร้อยเมตร ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความยาวกว่าหลายร้อยกิโลเมตร ซึ่งนำทางไปสู่สถานที่อีกแห่งหนึ่งโดยตรงและอยู่ห่างไกลไปจากหุบเขาแห่งนี้อย่างมาก

คาดการณ์ได้ว่าเจ้าอู๋ไท่โต่วนั่นก็คงจะใช้อุโมงค์ใต้ดินนี้ในการหลบหนีออกไปอย่างอิสระ ไม่เกรงกลัวว่าจะถูกใครค้นพบ

เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วต่อให้พลังอำนาจของจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาจะร้ายกาจเพียงใด ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสัมผัสได้ถึงใต้ดินที่ลึกลงไปหลายร้อยเมตร ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีใครที่มีความคิดที่จะทำการสำรวจใต้ผืนโลกอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน

ดังนั้นเจ้าอู๋ไท่โต่วนั่นจึงได้หลบหนีออกไปจากหุบเขาเช่นนี้ ไม่มีใครที่สามารถค้นพบได้

“แม่เจ้า อันที่จริงเจ้านี่ขุดอุโมงค์ใต้ดินด้วยวิธีการไหนกัน? ช่างเป็นเหมือนกับโครงการท่อระบายน้ำที่กว้างขว้าง ไม่คาดคิดว่าจะขุดอุโมงค์ยาวออกไปหลายร้อยกิโลเมตรเพื่อทำเส้นทางหลบหนี เจ้าอู๋ไท่โต่วนี่ช่างเป็นคนเสียสติอย่างแท้จริง”

กลุ่มของผู้คนที่ตกตะลึง การที่ขุดอุโมงค์ใต้ดินที่มีความยาวหลายร้อยกิโลเมตรนั้น พวกเขาไม่สามารถที่จะจินตนาการได้ถึงโครงการที่ใหญ่เช่นนี้ ต่อให้ผู้คนจำนวนหลายหมื่นคนที่ร่วมมือกันนั้น ก็ยังต้องใช้ระยะเวลาหลายเดือน

ในการที่จะทำเรื่องเช่นนี้ได้ อันที่จริงเจ้านี่ใช้ระยะเวลานานแค่ไหนกัน?

ทว่าพวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าการที่ขุดอุโมงค์ใต้ดินนี้สำหรับเซี่ยปิงนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากหรือเรียกว่าง่ายดายสำหรับสไลม์ทองคงจะเหมาะสมกว่า

มันใช้ระยะเวลาเพียงแค่หนึ่งวัน ก็สามารถที่จะขุดอุโมงค์ใต้ดินนี้จนเสร็จสมบูรณ์ ดินในปริมาณที่มหาศาลถูกมันกลืนกินเข้าไปจนหมดจด

หากให้เวลามันที่มากพอล่ะก็ ต่อให้จะขุดทั่วทั้งดาวเคราะห์นั้นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับมัน

“เจ้าบัดซบอู๋ไท่โต่ว ข้าไม่มีวันให้อภัยเจ้าอย่างแน่นอน แม้แต่หินวิญญาณสามแสนก้อนก็ถูกขโมยไปโดยไอ้ลูกหมานี่ ไม่มีแม้แต่เส้นผมที่หลงเหลืออยู่ ช่างละโมบยิ่งนัก ไม่เกรงกลัวว่าจะถูกสวรรค์ลงทัณฑ์หรือ?!”

ผู้อาวุโสของสำนักวิญญาณโมโหขึ้นมา เขานั้นหดหู่อย่างมาก หินวิญญาณจำนวนสามแสนก้อนภายในทวีปโลหิตวิญญาณนั้นก็ถือว่าเป็นจำนวนเงินที่ไม่สามารถจินตนาการได้ แม้แต่ทรัพย์สินเงินทองทั้งหมดของตระกูลที่ยิ่งใหญ่ก็ไม่ได้มีมูลค่าที่มากไปกว่านี้

แม้แต่ปีศาจต่างถิ่นคนอื่นๆที่มาที่ทวีปโลหิตวิญญาณแห่งนี้เพื่อทำภารกิจนั้น หากสามารถที่จะรอดชีวิตกลับออกไปจากสถานที่แห่งนี้ได้ การที่ทุกๆคนก็ได้ครอบครองหินวิญญาณไปสิบกว่าก้อนนั้นก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว

ทว่าตอนนี้ไม่คาดคิดหินวิญญาณจำนวนกว่าสามแสนก้อนจะถูกเจ้าบัดซบนี้ปล้นชิงไปทั้งหมด นี่มันช่างเป็นการขูดเลือดขูดเนื้อของพวกเขาก็ว่าได้

“เจ้าบัดซบนั่นไม่รู้ว่าเป็นบุคคลที่ชั่วร้ายแค่ไหน”

“หินวิญญาณจำนวนสามแสนก้อนก็กล้าที่จะขโมยไป มีที่ไหนบนโลกนี้ที่จะมีนักต้มตุ๋นเช่นนี้อีก”

“ไร้ยางอายอย่างถึงที่สุด โดยเฉพาะการที่ใช้ชื่อของท่านบรรพบุรุษเก่าแก่เพื่อหลอกลวงพวกเราเช่นนี้ ช่างไม่มีความละอายใจแม้แต่น้อย”

“เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ข้าจะสามารถไว้ใจใครได้อีก?”

“ช่างเป็นปีศาจต่างถิ่นจริงๆ แต่ละคนต่างก็ไม่รู้จักความผิดชอบชั่วดี ไม่มีศีลธรรมในหัวใจแม้แต่น้อย”

“เจ้าบัดซบอู๋ไท่โต่ว ข้าขอสาปแช่งให้ลูกชายของเจ้าเกิดมาไม่มีช้างน้อย”

ยอดฝีมือของชนเผ่าวิญญาณจำนวนมากต่างก็ต่อว่าออกมา ปรารถนาที่จะอัดเจ้าเซี่ยปิงอย่างป่าเถื่อน ระบายความโกรธแค้นในหัวใจ

ผู้คนต่างก็โมโหที่ตนเองถูกหลอกลวงเช่นนี้ หากเซี่ยปิงปรากฎตัวขึ้นที่นี่ จะต้องถูกผู้คนที่โมโหเหล่านี้ฉีกกลายเป็นชิ้นๆอย่างแน่นอน แม้แต่เศษซากใดๆของร่างกายก็ไม่มีเหลือ

“อู๋ไท่โต่ว ข้าจะต้องสังหารเจ้าให้ได้!”

ตึบ ฉางซื่อเซิงจ้าวสำนักวิญญาณไม่สามารถที่จะยับยั้งตนเองได้อีกต่อไป เขาใช้ฝ่ามือตบลงไปที่โต๊ะทันที ทันใดนั้นโต๊ะไม้นี้ก็แตกกระจุยกระจายออกไป ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวได้แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา

เจ้าปีศาจต่างถิ่นบัดซบนั่นไม่ใช่เพียงแค่สังหารลูกชายขอตนเอง ทว่ายังปล้นชิงหินวิญญาณจำนวนสามแสนก้อนไปจากทวีปโลหิตวิญญาณอย่างสบายใจ นี่คือความอาฆาตแค้นที่ไม่มีที่สิ้นสุดอย่างแน่นอน

คาดการณ์ได้ว่าคงจะไม่มีใครที่รู้สึกโมโหไปมากกว่าเขาอีก

ผู้คนที่อยู่รอบๆต่างก็รู้สึกได้ถึงความโมโหของฉางซื่อเซิง เป็นเหมือนกับพระวัชระที่คลุ้มคลั่งก็ว่าได้ จะต้องสังหารปีศาจและเดม่อนให้หมดสิ้น กำจัดความชั่วร้ายไปจากสังคม หากเทพเจ้ากีดขวาง ก็จะสังหารเทพเจ้า หากพระอรหันต์ขัดขวาง ก็จะสังหารพระอรหันต์เช่นกัน

“ขอรายงาน!”

ทันใดนั้นยอดฝีมือของสำนักวิญญาณคนหนึ่งก็รีบวิ่งเข้ามาจากระยะที่ห่างออกไป มาถึงข้างกายของฉางซื่อเซิงและคนอื่นๆโดยตรง สีหน้าของเขานั้นแตกตื่นอย่างมาก เหงื่อโชกทั่วทั้งตัว มีท่าทางเหมือนกับว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น

“เจ้าคือหัวหน้าผู้คุ้มกันของสำนักวิญญาณสาขาหลักไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงไม่อยู่คุ้มกันที่สาขาหลัก หรือว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นที่สาขาหลักอย่างนั้นหรือ?!” ผู้อาวุโสของสำนักวิญญาณคนหนึ่งที่จดจำสถานะของคนๆนี้ได้ทันที

หัวใจของฉางซื่อเซิงและคนอื่นๆต่างก็บีบรัดแน่น พวกเขาต่างก็รู้สึกว่าจะต้องมีเรื่องที่ร้ายแรงบางอย่างเกิดขึ้น

คนๆนั้นตะโกนออกมาทันที “เรียนท่านจ้าวสำนักและท่านผู้อาวุโสทุกๆคน ตอนนี้เกิดเรื่องใหญ่กับสำนักวิญญาณสาขาหลัก ตำหนักสืบทอดถูกบุกรุกโดยปีศาจต่างถิ่น ผู้อาวุโสของสำนักวิญญาณจำนวนมากถูกอัดจนหมดสติไป แม้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้สติกลับคืนมา”

“หากไม่ใช่เป็นเพราะสงสัยว่าภายในตำหนักสืบทอดไม่ได้มีเสียงใดๆดังขึ้นมาเป็นระยะเวลานานและได้ส่งผู้คุ้มกันออกไปตรวจสอบนั้น ก็คงจะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องที่ร้ายแรงข้างในตำหนักสืบทอด”

อะไรนะ?!

ผู้คนต่างก็สะดุ้งตกใจขึ้นมา การสูญเสียหินวิญญาณจำนวนสามแสนก้อนนั้น เป็นเพียงแค่การสูญเสียสิ่งของนอกกายเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่โตอะไรมากมาย เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วในทวีปโลหิตวิญญาณนั้นก็ยังคงมีหินวิญญาณอยู่อีกมาก ไม่ช้าก็เร็วจะสามารถหามาทดแทนได้หมด

ทว่าตำหนักสืบทอดนั้นแตกต่างออกไป นี่คือรากฐานการสืบทอดทักษะของชนเผ่าวิญญาณ หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับสถานที่แห่งนั้น ต่อให้พวกเขาจะตายไปเป็นจำนวนนับหมื่นคน ก็ไม่สามารถที่จะชดใช้กับความสูญเสียนี้ได้