องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 240 ต้องการตั๋วเงิน
คนใช้เดินกลับโดยไม่กล้าพูดอะไร แม่นมเว่ยยังคงอยู่ในจวน แต่จวินฉูฉู่กลับไม่กล้าให้ใครรู้เรื่องที่นางถูกทุบตี และบอกให้คนอื่นห้ามพูด จึงแอบซ่อนอยู่แต่ในเรือน
หลังจากเผาเสื้อผ้า อาอวี่ลุกขึ้นและจากไป ท่านอ๋องตวนเหลือบมองเศษขี้เถ้าที่อยู่บนพื้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองอาอวี่ที่กำลังจากไปด้วยความไม่ค่อยเข้าใจ
เมื่อเข้ามาประตูมา ท่านอ๋องตวนเดินไปที่เรือนด้านหน้า เมื่อเห็นแม่นมเว่ยจึงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “แม่นมมาที่นี่ได้อย่างไร?”
ท่านอ๋องตวนถูกเลี้ยงดูโดยแม่นมชราสองคนของพระมเหสีหวา จึงทำให้มีความสนิทสนม
แม่นมเว่ยเดินเข้าไปข้างหน้าด้วยความเคารพและก้มตัวโค้งคำนับ “ข้าน้อยคารวะท่านอ๋องตวนเจ้าค่ะ”
“แม่นมลุกขึ้นเถอะ” ท่านอ๋องตวนมองไปรอบๆ “สั่งให้คนมาเปลี่ยนน้ำชา”
มีคนเข้ามา ท่านอ๋องตวนรู้สึกแปลกใจ “พระชายาล่ะ?”
แม่นมเว่ยอธิบายโดยที่ไม่รอให้คนใช้ตอบ “พระชายาไปรับพระชายารองอวิ๋นเจ้าค่ะ ข้าน้อยกำลังรอให้พระชายากลับมาเจ้าค่ะ”
ท่านอ๋องตวนรู้สึกแปลกใจ “จริงหรือ?”
คนใช้หลบๆ ซ่อนๆ อยู่หน้าประตู ท่านอ๋องตวนจึงกล่าวว่า “แม่นมรอก่อน ข้าจะไปเปลี่ยนชุด”
“เชิญท่านอ๋องเจ้าค่ะ”
ท่านอ๋องตวนหันหลังและเดินกลับไปที่เรือนด้านหลัง ระหว่างทางก็มีพ่อบ้านรีบเดินเข้ามารายงาน โดยบอกว่าพระชายาตวนถูกทุบตี
ท่านอ๋องตวนหยุดลง “ถูกทุบตีหรือ? ใครเป็นคนทำ?”
พ่อบ้านกล่าวอย่างลำบากใจ “พระชายาถูกทุบตีเพราะไปที่จวนท่านอ๋องเย่ขอรับ”
“อะไรนะ?” ท่านอ๋องตวนรู้สึกโกรธจัด
“ช่างไม่รู้จักกฎระเบียบจริงๆ พระชายาของข้าไปรับพระชายารองที่จวนของเขา ไม่ส่งคนมาให้ก็ถือว่าไม่เป็นไร แต่ยังกล้าทุบตีคนอื่น? ข้าจะไม่ปล่อยไว้แน่”
ท่านอ๋องตวนเดินกลับเรือนด้านหลังทันที และเดินเข้าไปหาจวินฉูฉู่
จวินฉูฉู่เพิ่งจะเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกมา นางถูกทุบตีด้วยไม้กวาด บนร่างกายมีรอยฟกช้ำ แต่นางปกป้องหน้าของนางเอาไว้ได้ ศีรษะด้านในของนางบวมแต่ใบหน้ากลับไม่เป็นอะไร
เมื่อท่านอ๋องตวนเข้าไป จวินฉูฉู่อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา “ท่านอ๋อง”
“ฉูฉู่ ใครทำเจ้าหรือ?” ท่านอ๋องตวนโกรธจัด
“ท่านอ๋อง เป็นเพราะหม่อมฉันไม่ดีเอง หม่อมฉันชนเข้ากับพระชายาเย่ ไม่เช่นนั้นนางคงไม่ทุบตีหม่อมฉันเพคะ”
“บังอาจ ต่อให้มีเรื่องไม่พอใจอะไร เจ้าอายุมากกว่านาง นางเป็นพระชายาแล้วเจ้าไม่ใช่พระชายาหรอกหรือ? ข้าจะไปหานาง”
ท่านอ๋องตวนโกรธจัดและต้องการไปหาแต่ถูกจวินฉูฉู่ดึงแขนท่านอ๋องตวนไว้ “ท่านอ๋อง มีแม่นมเว่ยอยู่ หม่อมฉันกลัวว่าแม่นมเว่ยจะนำเรื่องที่หม่อมฉันไปรับพระชายารองกลับมาไม่สำเร็จไปบอกกับเสด็จแม่ โดยบอกว่าหม่อมฉันไม่ได้ความ ถึงตอนนั้นแล้วเสด็จแม่มาถามไถ่ หม่อมฉัน……”
จวินฉูฉู่ร้องไห้ขึ้นมา ท่านอ๋องตวนกอดนางไว้ “อย่างร้อง ข้าจะไปรับพระชายารองอวิ๋นกลับมา เจ้าพักผ่อนอยู่ที่นี่ก่อน และข้าจะไปถามให้รู้เรื่อง”
“ท่านอ๋อง ท่านไปรับพระชายารองอวิ๋นกลับมาก่อน อย่าไปมีเรื่องกับพระชายาเย่ เรื่องนี้หม่อมฉันเป็นคนเริ่มพูดไม่ดีก่อน รอให้พระชายารองอวิ๋นกลับมาและแม่นมเว่ยกลับวังหลวงไปรายงาน จากนั้นจึงงค่อยกลับไปหาพวกเขาก็ยังไม่สายเพคะ”
“……”
ท่านอ๋องตวนเห็นจวินฉูฉู่ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด และนึกได้ว่าเสด็จแม่มีอคติต่อนาง จึงตกลงยอมทำตามอย่างปฏิเสธไม่ได้
เมื่อท่านอ๋องตวนออกจากจวนท่านอ๋องก็ไปที่จวนท่านอ๋องเย่ เมื่อมาถึงหน้าประตูจวนก็พบว่าพ่อบ้านกำลังทำการนับจำนวนอิฐอยู่ที่เรือนด้านหน้า
“ระมัดระวังหน่อย ประเดี๋ยวส่งไปอย่าให้ขาด”
คนใช้ทั้งหลายต่างก็ยินดีทำตาม เข็นรถแต่ละคันไปที่จวนท่านอ๋องตวน ท่านอ๋องตวนยืนอยู่หน้าประตูด้วยอาการมึนงง ไม่เข้าใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้าคืออะไรกัน
ขณะนี้พ่อบ้านทำการนับจำนวนเรียบร้อยแล้ว นับได้ทั้งหมดหกร้อยกว่าก้อน นับหนึ่งก้อนแบ่งเป็นสองครึ่ง
“นำไปส่ง ทำตามที่พระชายาสั่งไว้ ไม่ให้ก็กลับมาอย่าไปมีเรื่อง” พ่อบ้านส่งสมุดให้กับอาอวี่ อาอวี่หันหลังกลับและเดินออกไปและติดตามคนที่ส่งอิฐเหล่านั้นไป
ขณะนี้พ่อบ้านเพิ่งจะเห็นท่านอ๋องตวน ถึงแม้จะรู้สึกสงสารท่านอ๋องตวนอยู่บ้าง แต่ก็เดินเข้าไปทักทาย “ท่านอ๋องตวน”
“จวนของเจ้าจะทำการซ่อมแซมเรือนด้านหน้าหรือ?” ท่านอ๋องตวนเดินเข้าประตูด้วยสีหน้าเย็นชา
พ่อบ้านรีบกล่าว “เป็นความประสงค์ของพระชายาขอรับ”
“พระชายาอวิ๋นอยู่หรือไม่?” ท่านอ๋องตวนก็ไม่อยากพูดอะไรมาก เพื่อไม่ให้มีปากเสียงและทะเลาะกันเกิดขึ้น
แต่จวนท่านอ๋องเย่ร่ำรวยมีเงินตั้งแต่เมื่อไรกัน จะซ่อมแซมก็ซ่อมแซมได้เลยหรือ
“พระชายารองอวิ๋นออกไปข้างนอกยังไม่กลับมาเลยขอรับ” พ่อบ้านตอบตามความเป็นจริง
ท่านอ๋องตวนยิ้มอย่างเย็นชา “ไม่อยากคืนคนมาให้มากกว่า?”
ท่านอ๋องตวนก้าวเท้าเดินตรงไปที่เรือนจู๋อวิ๋นไจที่อยู่ด้านหลัง เขาไม่เชื่อว่าเขาจะหาไม่เจอ
เมื่อมาถึงเรือนจู๋อวิ๋นไจ ท่านอ๋องตวนหาไม่เจอจริงๆ และรู้สึกไม่มีความสุขเล็กน้อย “เป็นเพราะว่าพระชายาของเจ้าไม่ยอมคืนพระชายารองอวิ๋นมาให้ข้าใช่หรือไม่?”
พ่อบ้านคิดในใจ ตอนนี้ท่านเพิ่งรู้สึกว่าพระชายารองอวิ๋นเป็นของท่านหรือ ก่อนหน้านี้ท่านไปทำอะไรมา?
หากไม่ใช่จวนท่านอ๋องเย่ ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้พระชายารองอวิ๋นจะไปอยู่ที่ไหน
พ่อบ้านอาวุโสกล่าวว่า “พระชายาของข้าน้อยถูกทำร้ายก่อนหน้านี้ ร่างกายอ่อนแออย่างมาก โดยพักผ่อนอยู่แต่ในห้องตลอดเวลา และไม่ออกมาจากห้องหลายวันแล้ว ส่วนพระชายารองอวิ๋นช่วงนี้ค่อนข้างยุ่งมากและมักไม่อยู่ในจวน ทั้งสองคนต่างไม่มีการพูดคุยกันเลยขอรับ”
เป็นผู้หญิงไม่สะดวกไปที่ห้องคลอด โดยเฉพาะห้องแท้งบุตร จวนท่านอ๋องเย่ปิดบังเรื่องแท้งบุตรของพระชายาเย่มาโดยตลอด และไม่กล้าให้พระชายารองอวิ๋นไป เพราะเกรงว่าจะส่งผลถึงการรักษาร่างกายในอนาคต
พระชายารองอวิ๋นจึงคิดว่าฉีเฟยอวิ๋นไม่ต้องการออกจากห้อง จึงออกไปเที่ยวเล่นคนเดียว
ท่านอ๋องตวนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “หลายวันมานี้?”
“ขอรับ”
ท่านอ๋องตวนรู้สึกหดหู่ เป็นผู้หญิงแต่กลับอยู่นอกบ้านตลอดทั้งวัน ช่างเหลวไหลสิ้นดี
“ข้าจะไปรอด้านหน้า เรียกให้ท่านอ๋องออกมาพบข้า” ท่านอ๋องตวนเดินไปข้างหน้าและพ่อบ้านอาวุโสก็เดินตามไป
“ท่านอ๋องทำผิด วันนี้ถูกผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาทำอนาจาร และกำลังรับโทษอยู่ที่เรือนสวนดอกกล้วยไม้ขอรับ”
พ่อบ้านพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา
ท่านอ๋องตวนหยุดชะงัก “อะไรนะ?”
มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ?
ท่านอ๋องตวนยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย
พ่อบ้านก้มศีรษะลง “วันนี้มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในจวนและท่านอ๋องก็รับแขกอยู่ที่เรือนด้านหน้า แต่ใครจะไปรู้ว่าประตูใหญ่ถูกเปิดออกทั้งหมด นางยังโถมตัวไปที่ท่านอ๋องและทำอนาจาร เดิมทีพระชายาก็เจ็บป่วย แต่เมื่อโกรธจัดก็ออกมาจากเรือนและจับได้คาตา และเพราะเรื่องนี้จึงทำให้ทุบตีผู้หญิงคนนั้น
และนี่ ท่านอ๋องไปรับโทษแล้ว แต่พระชายาก็ยังรังเกียจนี่เรือนด้านหน้าสกปรก จึงกล่าวว่าจะทำการซ่อมแซมขอรับ
และตอนนี้ก็นำอิฐเหล่านั้นไปส่งที่บ้านของผู้หญิงคนนั้นเพื่อแลกเงินมาขอรับ”
“แลกเงินหรือ?”
ท่านอ๋องตวนไม่ได้คิดอะไรมากนักในเวลานี้ แต่กลับรู้สึกน่าขบขัน
“เป็นถึงท่านอ๋องแต่ถูกพระชายาลงโทษ ความสามารถของเขาไปไหนหรือ?” ท่านอ๋องตวนหันหลังกลับไปที่หน้าประตู เขาต้องการไปรออวิ๋นหลัวฉวนและถามนางว่าหายไปไหนมา
พ่อบ้านอาวุโสรู้สึกกังวลมาก พูดมาถึงเช่นนี้แล้ว ทำไมเขายังไม่เข้าใจอีก
ท่านอ๋องตวนไปยืนอยู่หน้าประตูเพื่อรออวิ๋นหลัวฉวน
อาอวี่ไปถึงจวนท่านอ๋องตวนและเรียกให้คนไปตามจวินฉูฉู่ เมื่อคนใช้เห็นอาอวี่เข้าจึงรู้สึกกลัวเพราะก่อนหน้านี้เขามาเผาของ
คนใช้จึงหันหลังกลับไปบอกจวินฉูฉู่ จวินฉูฉู่ยังคงโกรธอยู่เล็กน้อย
“เรียกเขาเข้ามา” จวินฉูฉู่ไม่ได้กลัวสักนิด
เมื่ออาอวี่เข้ามาก็เดินตรงไปที่เรือนด้านหลัง และเมื่อพบจวินฉูฉู่จึงนำคำพูดของฉีเฟยอวิ๋นบอกนางออกไป
ใบหน้าของจวินฉูฉู่ซีดขาวและนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยอาการตาค้าง
อาอวี่กล่าว “พระชายาได้โปรดรีบทำการตัดสินใจ หากกลับไปช้า พระชายาของข้าน้อยจะเข้าวังหลวงไปขอรับ”
จวินฉูฉู่กำมือไว้แน่น ทำไมนางจะไม่รู้ถึงเจตนาของฉีเฟยอวิ๋น
“มานี่ เรียกพ่อบ้านมาที่นี่”
ไม่นานพ่อบ้านก็มาถึงและเข้ามาหาจวินฉูฉู่
ระหว่างสองคนมีเรื่องราวด้วยกันในอดีต พ่อบ้านไม่กล้าที่จะไม่เชื่อฟังคำพูดของจวินฉูฉู่
“พ่อบ้าน ข้ามีเพื่อนที่ต้องการรีบร้อนใช้เงินและต้องการหกหมื่นตำลึง เจ้าไปเอาหกหมื่นตำลึงในตู้มาก่อน อีกสองสามวันข้าจะให้เจ้า”
พ่อบ้านลังเลอยู่ครู่หนึ่งและกลับไปนำเงินหกหมื่นตำลึงมา
เมื่ออาอวี่รับเงินตำลึงมาจึงกล่าวว่า “อิฐอยู่ที่หน้าประตู พระชายาตวนได้โปรดรับและนับจำนวนขอรับ”
เมื่อพูดจบอาอวี่ก็จากไป
จวินฉูฉู่โมโหจนแทบจะเป็นลมหมดสติไป หกหมื่นตำลึงเจ็บกว่าการแล่เนื้อเสียอีก ฉีเฟยอวิ๋นยากจนจนเสียสติไปแล้วหรือ
พ่อบ้านไม่กล้าพูดอะไรมาก จึงถอยออกมาก่อน
เมื่ออาอวี่ได้รับเงินแล้วก็กลับมาจวนท่านอ๋องเย่ด้วยความดีใจ
เมื่อมาถึงประตูก็พบท่านอ๋องตวนเข้าจึงได้ทักทายและก้าวเข้าไปข้างใน
ข้างกายของท่านอ๋องตวนมีพ่อบ้านที่เฝ้าอยู่ด้วย เมื่ออาอวี่กลับมา พ่อบ้านจึงขอตัว เมื่อเห็นเงินตำลึงสีขาวจำนวนมากจึงทำให้รู้สึกมีความสุขขึ้นมาอย่างมาก
เมื่ออวิ๋นหลัวฉวนกลับมาก็เป็นเวลาบ่ายแล้ว