ตอนที่ 194 การเจรจาครั้งที่หนึ่ง

ตาอ้วนหลิววางเช็คลงที่ด้านหนึ่ง ก่อนจะหันมาถลึงตามองหยางโป “ทำไม? เธอไม่รู้ว่าเช็คใบนี้เป็นเงินเท่าไหร่เหรอ? งั้นเช็คใบนี้ก็ไม่ใช่ของเธอแล้ว!”

หยางโปแย่งเช็คเงินสดกลับมา ในใจตื่นเต้นยินดี “นี่เป็นเช็คที่ผมถือกลับมา ไม่ใช่ของผม แล้วจะเป็นของใครได้อีก?”

ตาอ้วนหลิวหัวเราะเหอะเหอะ “เล่ามา บอกมาตามตรง เธอกับสาวสวยคนนั้นมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่? ทำไมนัดเจอกับเธอสามสี่ครั้ง ก็ได้เช็คจำนวนเงินมามากขนาดนี้ได้?”

“อย่าคิดเหลวไหล ทำเรื่องของคุณไปเถอะ!” หยางโปพูดด้วยท่าทางรำคาญ

ตาอ้วนหลิวไม่ยอมปล่อย “เรื่องดีงามอย่างนี้ เธอก็ช่วยแนะนำให้ฉันบ้างสิ?”

 

หยางโปส่ายหน้า “จะมีเรื่องดีงามอะไรกันล่ะ?”

“เรื่องดีงามที่สามารถหาเงินสิบล้านมาได้ในสามวันไงล่ะ!” ใบหน้าตาอ้วนหลิวประดับสีหน้ายินดี พลางหันไปพูดกับหยางโป

หยางโปอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว “เรื่องนี้คุณทำไม่ได้หรอก”

“มีอะไรที่จะทำไม่ได้? ขอเพียงเป็นเรื่องที่ผู้ชายสามารถทำได้ ฉันก็ทำได้!” ตาอ้วนหลิวพูดอย่างหนักแน่น

หยางโปจนปัญญา “นี่ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ชายจะทำได้จริงๆ!”

ตาอ้วนหลิวหันไปมองหยางโปอย่างแปลกประหลาด ใบหน้าพิลึกกึกกือ ก่อนจะถามหยั่งเชิงว่า “หรือว่าเธอไปเป็นเป็ดมา?”

 

หยางโปพูดอย่างโมโหว่า “คุณรักษาโรคเป็นไหมล่ะ?”

ตาอ้วนหลิวตกใจ “รักษาโรค? เธอบอกว่ารักษาโรค หรือว่าเธอไปรักษาโรคให้ใครเขามา คนเขาเลยให้เงินสิบล้านเป็นค่าตอบแทน?”

หยางโปพยักหน้า “ที่รักษาได้ก็แค่โชคดีเท่านั้นเอง คุณทำได้ไหมล่ะ?”

ใบหน้าตาอ้วนหลิวกระอักกระอ่วน “ที่แท้เป็นการรักษาโรคนี่เอง ฉันทำไม่เป็นจริงๆ นั่นแหละ”

ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังคุยกัน ก็มีเสียงคนเคาะประตู ตาอ้วนหลิวก็วิ่งไปเปิดประตู

หยางโปมองไม่เห็นคนที่อยู่หน้าประตู แต่ได้ยินเพียงแค่เสียง เขาก็รู้แล้วว่า คนคนนั้นก็คือเลขาของกู้ฉางซุ่น

 

จากนั้นก็ได้ยินเสียงอีกฝ่ายดังขึ้นว่า “ทางประธานกู้ติดต่อกับเบอร์ดาได้แล้วค่ะ พรุ่งนี้จึงจะไปทำการประเมินของ ขอให้ทั้งสองท่านกรุณาเตรียมตัวด้วยค่ะ”

ตาอ้วนหลิวถามอย่างแปลกใจว่า “เจรจากันได้แล้วเหรอ? ราคาที่คุยกันไว้เป็นเท่าไหร่ล่ะ?”

“เรื่องนี้ดิฉันไม่ทราบค่ะ บางทีราคาอาจจะยังไม่ได้ข้อยุติ” พูดจบ เลขาสาวก็จากไป

ตาอ้วนหลิวหันกายกลับมาหาหยางโป พูดกับหยางโปว่า “เบอร์ดาโลภมากจริงๆ ทำให้พวกเราต้องเสียเวลาตั้งนานขนาดนี้!”

หยางโปมองเช็คในมือ “นี่ก็เป็นผลมาจากความเสื่อมถอยและอ่อนแอของประเทศ ถ้าตอนนั้น…”

 

หยางโปพูดไปได้ครึ่งเดียว ก็รู้สึกคร้านจะสนใจ ต่อให้ถ้าหากว่ามีอีกมากมาย ก็ล้วนไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว

ตาอ้วนหลิวยิ้ม ก็ไม่ได้พูดอะไร

หนึ่งคืนผ่านไปโดยไร้บทสนทนา

วันต่อมา หยางโปกับกุ้ยหรงจิ่วรอให้คนมาพร้อมหน้ากัน ทุกคนตามกู้ฉางซุ่นไป เป็นครั้งแรกที่ได้เข้ามาในคฤหาสน์ของเบอร์ดา พ่อบ้านที่ครั้งก่อนปฏิเสธไม่ให้พวกเขาเข้ามาข้างในเดินอยู่ด้านหน้าสุด

ตาอ้วนหลิวดึงกุ้ยหรงจิ่วไว้แล้วเล่าเรื่องเมื่อคืนวาน ทำให้กุ้ยหรงจิ่วหันมามองทางหยางโปไม่หยุด

นอกจากนี้ กุ้ยหรงจิ่วยังวิ่งมาข้างกายหยางโป ก่อนถามว่า “รักษาโรคแล้วได้เงินสิบล้าน เป็นเรื่องจริงเหรอ?”

 

“มีเรื่องอย่างนี้จริงๆ” หยางโปพยักหน้า จากนั้นก็หันไปถลึงมองตาอ้วนหลิวแวบหนึ่ง

เมื่อผ่านเข้าประตูไป ก็เป็นลานขนาดใหญ่ ภายในลานรายล้อมด้วยต้นไม้สีเขียว สามารถมองเห็นคฤหาสน์สีขาวอีกร้อยเมตรได้ไกลๆ เป็นคฤหาสน์เก่าที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิค ดูแล้วงดงามตามแบบฉบับดั้งเดิม

ตาอ้วนหลิวดึงหยางโปทีหนึ่ง “คฤหาสน์หลังนี้มีมูลค่าสูงมาก!”

หยางโปพยักหน้า ในจีนเองคฤหาสน์ก็เริ่มเป็นที่นิยม แต่ระหว่างจีนกับเยอรมันนั้นไม่เหมือนกันเลยแม้แต่น้อย คฤหาสน์ในจีนมากกว่าครึ่งเป็นที่ดินที่มีราคาสูง แต่คฤหาสน์ตรงหน้าหลังนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นคฤหาสน์ของชนชั้นสูง เป็นคฤหาสน์ของตระกูลที่สืบทอดกันมา

 

วังหรือปราสาทประเภทนี้ นับว่าประเมินค่าไม่ได้ มันไม่ได้เป็นที่พักอาศัยที่จ่ายไหวก็จะสามารถซื้อได้ พูดได้ว่ามีตลาดแต่ประเมินค่าไม่ได้ มีนักธุรกิจญี่ปุ่นที่ยอมจ่ายไม่อั้น เพื่อซื้อที่พักอาศัยประเภทนี้ในเยอรมัน แต่รัฐบาลกับวัฒนธรรมในสังคมของท้องถิ่นไม่อนุญาตให้ทำได้ สิทธิ์ในการครอบครองพวกมันปัจจุบันนี้ตกอยู่ในมือของสายตระกูลหรือรัฐบาลเป็นจำนวนมาก บางแห่งก็บำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดี และใช้เป็นบ้านพักมาจนถึงปัจจุบัน บางแห่งก็ทำเป็นพิพิธภัณฑ์หรือโบราณสถานให้สาธารณชนได้เข้าชม

ประเทศฝรั่งเศสที่เป็นเพื่อนบ้านกับประเทศเยอรมนีเองก็มีที่ดินส่วนพระมหากษัตริย์และปราสาทโบราณที่โอ่อ่าที่สืบทอดมาหลายศตวรรษอยู่มากมาย ซึ่งได้บำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดี และก็เป็นสมบัติชาติของฝรั่งเศส

 

เมื่อเข้ามาในห้องโถงใหญ่ หยางโปจึงเห็นชายผิวขาวผมสีขาวดอกเลาคนหนึ่งยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น พอเห็นพวกหยางโปเดินเข้ามา คนคนนั้นก็เดินมาทางด้านนี้สองก้าว ก่อนจะใช้ภาษาเยอรมันถามสารทุกข์สุกดิบ

หยางโปฟังไม่เข้าใจ ล่ามที่อยู่ข้างกายเริ่มแปลภาษา “สวัสดีครับ คุณกู้!”

“คุณเบอร์ดา สวัสดีครับ!” กู้ฉางซุ่นพูด แล้วก็จับมือกับอีกฝ่าย

ทั้งสองคนมองกันพลางยิ้ม ก่อนจะนั่งลง

เบอร์ดาอายุเจ็ดแปดสิบปีแล้ว ใบหน้ายับย่นเป็นริ้ว ยังมีกระฝ้ากระจายเป็นจุดๆ เขาพูดกับกู้ฉางซุ่นว่า “คุณกู้ ผมเคารพนับถือวัฒนธรรมของประเทศคุณเป็นอย่างยิ่ง ถ้วยเคลือบลงสีลายไก่สมัยเฉิงฮั่วนั้นเป็นของชิ้นที่ผมรักที่สุด เดิมทีผมไม่ได้คิดที่จะขาย”

 

หยางโปที่นั่งอยู่ด้านข้างฟังคำพูดจาไร้สาระของเบอร์ดา ในใจก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมา จากนั้นก็ได้ยินเบอร์ดาพูดว่า “แต่ว่าครั้งนี้คุณกู้ให้คนติดต่อมาหลายต่อหลายครั้ง ทำให้ผมประทับใจเป็นอย่างมาก ผมคิดว่าผมควรจะทำเพื่อวัฒนธรรมของประเทศจีน นี่เป็นสมบัติชาติของประเทศจีน และก็เป็นของล้ำค่าของโลกใบนี้!”

กู้ฉางซุ่นยิ้มพลางพูดว่า “ในเมื่อเป็นสมบัติล้ำค่าของประเทศจีน งั้นก็ควรคืนกลับมาให้พวกเราถึงจะถูก”

“ไม่! ไม่!” เบอร์ดารีบพูดพลางโบกมือ “คุณกู้ฟังความหมายของผมไม่เข้าใจ ผมพูดว่านี่เป็นสมบัติล้ำค่าของชาวโลก เอาไว้ที่นี่กับผม นับได้ว่าเหมาะสมยิ่งกว่า”

“ฮิวโก้นักเขียนชาวฝรั่งเศสเคยพูดเอาไว้ว่า มีวันหนึ่ง โจรสองคนบุกเข้าไปในพระราชวังฤดูร้อน คนหนึ่งปล้น คนหนึ่งวางเพลิง” กู้ฉางซุ่นจ้องอีกฝ่าย “ในเมื่อเป็นโจร อย่างนั้นการจะคืนของก็คงต้องมีจุดมุ่งหมาย!”

 

หยางโปฟังคำพูดนี้จบ ก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมอง เห็นใบหน้าอีกฝ่ายแดงเถือก ในใจก็กระจ่างขึ้นมา คำพูดนี้กู้ฉางซุ่นต้องเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วแน่ๆ ตอนนี้สามารถพูดได้ถึงขนาดนี้ นับว่าไม่เลวแล้ว

สีหน้าเบอร์ดาเปลี่ยน ก่อนจะส่ายหน้าทันที “คุณกู้ โปรดระวังคำพูดด้วย!”

“คุณเบอร์ดาคิดว่าคำพูดของผมมีปัญหางั้นเหรอ?” กู้ฉางซุ่นถาม

“ตระกูลเบอร์ดาของผมไม่เคยเป็นโจร!” เบอร์ดาเอ่ยปาก

กู้ฉางซุ่นเอ่ยต่อว่า “ตอนนั้นรัฐบาลอังกฤษกับฝรั่งเศส ถือเป็นโจรที่ตัวใหญ่ที่สุด!”

เบอร์ดายิ้ม พลางส่ายหัว “ราคาที่ทั้งสองฝ่ายเสนอแตกต่างกันมาก คุณกู้ ผมคิดว่าพวกเราคุยกันให้นานอีกหน่อยเถอะนะ!”

 

กู้ฉางซุ่นขมวดคิ้ว เขายังมีธุรกิจในจีนอยู่ ทุกครั้งที่ถูกดึงยืดออกไปหนึ่งวัน เขาล้วนต้องจ่ายต้นทุนที่ราคาสูง ที่สำคัญที่สุดก็คืออาจเกิดผลกระทบกับธุรกิจของเขาได้!

“คุณเบอร์ดา ในเมื่อวันนี้ไม่มีทางที่จะเจรจากันได้แล้ว พวกเราค่อยนัดเวลาแล้วกัน ตอนนี้ผมอยากให้คนของผมประเมินราคาและเฝ้าดูของ” กู้ฉางซุ่นว่า

“ได้สิ” เบอร์ดาตอบรับ