บทที่ 455 ไล่ออกในคราวเดียว
บทที่ 455 ไล่ออกในคราวเดียว
“พวกคุณก็แค่ต้องการอำนาจนี่คะ!”
หลี่หรงรู้ทันความคิดของคนเหล่านี้ เธอก็เอ่ยขึ้นเสียงเย็น
“ฮ่า ๆ คุณหลี่ เราก็แค่แนะนำ ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับคุณตัดสินใจทั้งนั้น”
หนึ่งในชายแก่มองมาอย่างมาดร้าย
ตอนนี้ห้องประชุมกลับมาอึกทึกอีกครั้ง ทุกคนพูดคุยกันเสียงดัง ทันใดนั้นประตูห้องพลันถูกใครบางคนถีบออกอย่างแรง!
“ปัง!”
“ขอโทษทีครับ พอดีประตูบานนี้มันเสีย ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้ว”
อวี้ฮ่าวหรานก้าวเข้ามา สายตาจับจ้องเหล่าผู้บริหารระดับสูงในห้องประชุม
“คุณเป็นใคร? มีสิทธิ์อะไรบุกเข้ามาในห้องประชุมแบบนี้? ผมบอกให้คุณออกไปซะ!”
ชายที่ไม่รู้ว่าเขาคือใครลุกขึ้นตะโกนทันที ชายแก่ข้าง ๆ รีบรั้งเอาไว้เมื่อได้ยินเช่นนั้น
“นั่นพี่เขยคุณหลี่ ระวังหน่อย!”
เขากระซิบบอกอีกฝ่าย แต่เจ้าตัวกลับไม่แยแสแต่อย่างใด
“ฮึ่ม! แล้วมันยังไงล่ะ? บริษัทเราเกี่ยวข้องอะไรกับเขา?”
เขาส่งสายตาเหยียดหยาม
อวี้ฮ่าวหรานตวัดสายตามองอีกฝ่าย มุมปากยกยิ้มเย้ยหยัน
“พูดได้ดี! ผมว่าคุณคงไม่น่ามองเท่าไหร่ คุณถูกไล่ออกตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป!”
ไม่ทันจะได้มาถึงตัวหลี่หรง เขาก็เอ่ยไล่คนออกทันที
“อะไรนะ?”
คนฟังนิ่งไปชั่วขณะ ด้วยอดอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินไม่ได้
“ผมบอกว่าคุณถูกไล่ออกแล้ว! ออกไปจากบริษัทฮัวหรงเดี๋ยวนี้!”
อวี้ฮ่าวหรานประกาศกร้าวเป็นครั้งที่สอง
“คุณ…ทำอย่างนี้ได้ยังไง?”
ชายวัยกลางคนส่งสีหน้าเดือดดาลเมื่อรู้สึกตัว ทันใดนั้น ชายสูงวัยข้าง ๆ พลันลุกขึ้น
“ต่อให้คุณเป็นพี่เขยของประธานหลี่ แต่บริษัทนี้ไม่ใช่ของคุณ! คุณมีสิทธิ์อะไรมาไล่คนออก!”
คำพูดไม่คิดไว้หน้ากัน หากมีความสัมพันธ์ย่ำแย่ต่อกัน เกรงว่าคงได้แตกหักกันโดยง่าย
หากแต่ไม่มีทางสำหรับหลี่หรง
เธอปวดหัวและกำมือจนเจ็บ ฝากความหวังไว้กับผู้ชายที่เธอพึ่งพาได้คนนี้ ดังนั้นเธอจึงไม่ทักท้วงแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นน้องภรรยาไม่เอ่ยปาก อวี้ฮ่าวหรานจึงหันไปมองชายแก่ด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
“ใช่แล้ว…คุณเองก็ถูกไล่ออกเหมือนกัน! หวังว่าจะใช้ชีวิตเกษียณอย่างมีความสุขนะครับ”
ทันทีที่ประโยคนี้หลุดออกมา เสียงพูดคุยจอแจก็เงียบลง พวกเขามองชายหนุ่มหน้าประตูอย่างเหลือเชื่อ
เดินเข้ามาเพียงสามก้าว กลับไล่คนออกไปสองคนแล้ว…
เกิดอะไรขึ้นกัน?
“ปัง!”
“ไอ้บ้านี่! แกมันเสียสติไปแล้ว!”
ชายคนที่ถูกไล่ออกโกรธหน้าดำหน้าแดง ตบโต๊ะเสียงดังลั่นอย่างก้าวร้าว
“คิดว่าบริษัทนี้รอดไปได้เพราะครอบครัวตัวเอง? เลยไล่ใครออกก็ได้อย่างนั้นเหรอ?”
เขาตะโกนสุดเสียง
“ใช่ บริษัทรอดไปได้เพราะครอบครัวผม ตอนนี้คุณออกไปได้แล้ว!”
ท่าทีนิ่งเฉยของอวี้ฮ่าวหรานทำให้อีกฝ่ายผงะ เขายกมือขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนับสิบกรูกันเข้ามาจากด้านนอก!
“โยนสองคนนี้ออกไปที ผมไม่ต้องการเห็นหน้าพวกเขา”
ชายหนุ่มชี้ไปทางคนสองคนที่ถูกไล่ออก พลางเอ่ยสั่งอย่างไม่ทุกข์ร้อน
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบุกเขามา ทั้งห้องประชุมตกอยู่ในความเงียบงัน!
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนเข้ามาคว้าแขนชายแก่เอาไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะได้ขยับ
“คุณหาเรื่องแล้ว! หาเรื่องชัด ๆ! คุณหลี่เชื่อผมสิ! ผู้ชายคนนี้จะทำลายบริษัทฮัวหรง!”
ชายแก่แผดเสียง หากแต่ไม่อาจหยุดยั้งไม่ให้ตนถูกลากตัวออกไปได้!”
ทั้งคู่ถูกนำตัวออกไปตาม ๆ กัน ทุกคนในห้องประชุมต่างตกตะลึงกับภาพที่เห็น ไม่มีใครกล้าปริปากพูดสักคำ
เมื่อเห็นเช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานเผยแววพึงพอใจออกมา
“เอาล่ะ ในเมื่อเป็นการประชุม เราก็ควรคุยเรื่องของบริษัทได้แล้ว”
ชายหนุ่มลากเก้าอี้มานั้งข้างหลี่หรงโดยไม่สนใจสายตางุนงงของทุกคน
“แล้วก็ช่วยระวังคำพูดคำจาด้วย ผมอารมณ์ไม่ค่อยดี ถ้าไม่เข้าหูผมขึ้นมา พวกคุณได้เก็บของกลับบ้านไปได้ทุกเมื่อแน่!”
ชายแก่อีกคนลุกพรวดขึ้นในตอนนี้!
“เฮอะ! คุณไล่ออกก็ต้องออกอย่างนั้นเหรอ? ผมมีหุ้นอยู่! คุณจะไล่ผมออกได้ยังไง?”
เขามองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้วยสายตาเกรี้ยวกราด
“ผมจะบอกให้นะ! ถ้าคุณทำแบบนี้ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจะเดือดร้อนกันหมด! คุณจะทำให้บริษัทล่ม! ทุกอย่างเป็นความผิดของคุณ!”
คนที่เพิ่งถูกไล่ออกเป็นคนที่เขาชุบเลี้ยงมา เขาคงไม่โกรธขนาดนี้หากไม่ถูกไล่ออกในคราวเดียว!
เมื่อเปิดปาก ทุกคนในห้องประชุมดูเหมือนกล้าจะแข็งข้อมากขึ้น
อวี้ฮ่าวหรานแค่นเสียงเอ่ยขึ้น
“ฮ่า ๆ คุณคิดว่าแค่มีพวกแล้วผมจะทำอะไรคุณไม่ได้อย่างนั้นเหรอ? บริษัทอยู่ใต้การควบคุมของคุณหรือยังไง?”
“หึ! อย่างน้อยผมก็ปล่อยให้คุณก่อเรื่องแบบนี้ต่อไปไม่ได้!”
ชายแก่ว่าขึ้นอย่างถือดี
“มีหุ้นนี่มันดีจริง ๆ เลยนะครับ ดูเหมือนผมจะไล่คุณออกทันทีไม่ได้!”
อวี้ฮ่าวหรานเงยมองอีกฝ่าย คำพูดของเขามีนัยยะ
“แต่คุณก็รู้ว่าผมคือประธานของเครือฮ่าวหราน ผมมีเส้นสายกับพวกใต้ดินในเมืองนี้เยอะแยะ ถ้าผมไม่พอใจขึ้นมา…คุณคิดว่าตัวเองจะได้กลับถึงบ้านหรือเปล่าล่ะครับ?”
เขาแหงนเหยียดมองชายสูงวัยอวดดีตรงหน้า
แม้จะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย หากแต่เมื่อเข้าหูชายแก่ สีหน้ากลับกลายหวาดกลัว!
“คุณ! คุณทำแบบนี้ได้ยังไง…”
เขาต้องการสื่อว่าอีกฝ่ายข่มขู่เขา ทว่าสะพรึงกลัวเสียจนไม่อาจพูดออกมาได้
บริษัทใหญ่อย่างเครือฮ่าวหราน หากต้องการกำจัดคนธรรมดาอย่างเขาคงไม่ใช่เรื่องยาก…
“ฮ่า ๆ ใช่แล้ว ผมขู่คุณอยู่ แล้วขอบอกทุกคนเอาไว้ตรงนี้! ถ้าอยากจะหาเรื่องกันที่นี่ ชะตาของคุณคงจบไม่สวยแน่”
เขาว่าจบแล้วเงียบไปชั่วขณะ
“แน่นอนว่าสำหรับคนที่ทุ่มเทเพื่อบริษัท ผมรับปากว่าจะไม่ทำให้ลำบาก มีอะไรจะพูดกันไหม?”
สิ้นประโยคของเขา คนในห้องประชุมซึ่งตั้งท่าจะทักท้วงหยุดการกระทำของตนทันที
หลี่หรงชื่นชมในตัวเขา เพียงแต่ไม่กี่ประโยค เขาทำให้ชายสูงวัยที่ยากรับมือต้องตกตะลึงไปตาม ๆ กัน
ในขณะที่เธอทำได้เพียงตบโต๊ะเพื่อให้พวกเขาเงียบได้ครู่เดียวเท่านั้น
“ดีครับ! ในเมื่อทุกคนไม่ขัดข้อง งั้นผมพูดต่อ”
อวี้ฮ่าวหรานมองไปโดยรอบ ก่อนสายตาหยุดลงที่ชายแก่ซึ่งยืนตรงข้ามด้วยท่าทีไม่พอใจ
“ส่วนคุณ คุณถูกไล่ออก และผมขอแนะนำคุณว่าพอกลับบ้านไปจะมีคนส่งเอกสารไปให้คุณเซ็นโอนหุ้น คุณรับเงินบำนาญไปดี ๆ ซะดีกว่า ไม่อย่างนั้น…”
เขาจงใจละประโยคหลังคำว่าไม่อย่างนั้น
ทว่าชายแก่รู้ดีแก่ใจ สีหน้าตื่นกลัวสุดขีด วงการนี้ก็เป็นแบบนี้ ใครมีอำนาจมากกว่าก็เสียงดังกว่า!