บทที่ 243 ท่านอ๋องตวนไม่คู่ควรกับหม่อมฉัน

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ

ครั้นอวิ๋นหลัวฉวนกลับมาถึงหน้าประตูจวนอ๋องฝนก็เริ่มเทลงมาแล้ว แม้ว่าฝนจะไม่หนักมากนัก แต่ไม่นานมันก็หนักขึ้น

อวิ๋นหลัวฉวนเคาะประตู เตรียมจะเข้าไป

แต่ภายในกลับไม่มีผู้ใดสนใจนาง ได้ยินแต่ตงเอ๋อร์กำลังทะเลาะกับคนของจวนอ๋องตวนภายใน

“ตงเอ๋อร์ เปิดประตูให้ข้าเดี๋ยวนี้”

อวิ๋นหลัวฉวนเคืองโกรธมาก คนเหล่านี้ชักจะเหิมเกริมเกินไปแล้ว นางไม่มีความรู้เหมือนกับพวกเขา พวกเขากลับสร้างความลำบากใจให้นางซ้ำแล้วซ้ำเล่า บัดนี้ฝนตกหนักถึงเพียงนี้ พวกเขายังจะให้นางตากฝนอยู่ด้านนอกเช่นนั้นหรือ?

ยิ่งคิดอวิ๋นหลัวฉวนก็ยิ่งไม่พอใจ ออกแรงถีบประตูด้วยเท้าข้างหนึ่ง

ตงเอ๋อร์รีบพุ่งตัวออกไป หลังจากที่ล้มคนเหล่านั้นได้แล้ว แต่ในขณะที่ตงเอ๋อร์กำลังจะเปิดประตูนั้น จู่ ๆ ก็มีคนสวมชุดดำผู้หนึ่งปรากฏตัวออกมาในจวนอ๋องตวน และถือโอกาสตอนที่ยังไม่ทันตั้งตัว ทุบตงเอ๋อร์จนสลบ

ในจวนจึงเงียบลงอย่างรวดเร็ว

สาวใช้ที่กำลังยืนกางร่มกระดาษน้ำมันให้แก่จวินฉูฉู่ ยืนมองอยู่หน้าประตูภายในจวน ตงเอ๋อร์ถูกลากตัวไป นางจึงได้หมุนตัวกลับเข้าไป

อวิ๋นหลัวฉวนไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นจึงยังคงใช้เท้าเตะประตูอีกสองครั้ง ครั้นไม่มีใครสนใจนางก็เข้าไปไม่ได้ ทำได้แค่ยืนรออยู่ด้านนอก

หลังจากรออยู่สองชั่วยาม ท้องฟ้าด้านนอกได้มืดลง ฝนก็ยังตกหนัก อากาศเริ่มหนาว

จึงคิดหาสถานที่หลบฝนสักแห่ง อวิ๋นหลัวฉวนเดินตรงเข้าไปยังโรงเตี๊ยม นางคิดว่าคงไม่มีที่ใดขับไล่นางออกมา

หลังจากเข้าไปอวิ๋นหลัวฉวนวางเงินแตกเล็กน้อย เรียกให้คนเตรียมอาหารและเหล้า ทันทีที่นั่งลง ก็เห็นอ๋องตวนนั่งเหม่อมองออกไปข้างนอกอยู่ในมุมตรงข้ามกับโรงเตี๊ยม

ครั้นเห็นอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะของท่านอ๋องตวน เพื่อประหยัดเงิน อวิ๋นหลัวฉวนจึงถือเงินแตก ๆ ของนางไปหาท่านอ๋องตวน

อวิ๋นหลัวฉวนนั่งลง ท่านอ๋องตวนจึงหันกลับมามอง ครั้นเห็นอวิ๋นหลัวฉวนก็ผงะไปเล็กน้อย เวลาผ่านไปจึงได้สติกลับมา

“มาหาข้ารึ?”

อวิ๋นหลัวฉวนรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย นางไม่ได้มาหาเขา

แต่ครั้นเห็นอาหารและเหล้าอันโอชะ อวิ๋นหลัวฉวนจึงไม่เกรงใจ

นางนั่งลงและสั่งให้เด็กในโรงเตี๊ยมเพิ่มถ้วยกับตะเกียบหนึ่งชุด อวิ๋นหลัวฉวนกินพลางดื่มเหล้าไปพลาง

ท่านอ๋องตวนแสดงสีหน้าไม่สบายใจนัก : “สตรีเฉกเช่นเจ้า เหตุใดถึงได้มากินเหล้ากินเนื้อด้านนอกเช่นนี้?”

อวิ๋นหลัวฉวนปรายตามอง ดวงตาคู่สวยมองไปยังท่านอ๋องตวนแวบหนึ่ง อยากจะกล่าวบางอย่างแต่ก็ต้องกลืนมันลงไปอีกครั้ง

นางไม่เคยมีความสุขเวลาอยู่ในจวนอ๋องตวนเลย ตั้งแต่เข้าจวนอ๋องนางก็ได้กินเนื้อกินเหล้าและอีกมากมาย ไม่เคยออกมากินข้างนอก นี่คงจะไม่ได้ละเมอกินหรอกกระมัง?

แต่นางไม่มีความรู้เหมือนเขา

อวิ๋นหลัวฉวนดื่มไปอีกสักพักก็เริ่มเมาเล็กน้อย

ท่านอ๋องตวนไม่สนใจ เขาเองก็ดื่มเหล้าเช่นกัน ครั้นดื่มมากขึ้นก็เริ่มเกิดความสับสน ฝนยังคงตกหนักอยู่ข้างนอกแต่ก็เลือกที่จะออกไป

อวิ๋นหลัวฉวนรู้สึกเหมือนมีคนพาตนไป ไม่รู้ว่าไปที่แห่งใด ทำได้แค่เดินตาม

ครั้นท่านอ๋องตวนมาถึงหน้าประตูอ๋องจวนก็เคาะประตู ประตูไม่ยอมเปิด และไม่มีผู้ใด

ทั้งสองคนยืนกอดกัน อวิ๋นหลัวฉวนเริ่มหนาวเล็กน้อย

ท่านอ๋องตวนรู้สึกว่ามีบางอย่างถูกันอยู่ในอ้อมกอด ถูจนร่างกายของเขาร้อนผ่าว

ยามค่ำคืนที่ฝนตกหนัก นอกประตูจวนอ๋องตวน ท่านอ๋องตวนเหมือนกับสัตว์ร้ายที่กำลังคลุ้มคลั่ง แม้ว่าอวิ๋นหลัวฉวนจะเมาจนดิ้นไปมา แต่นางกลับไม่รู้สถานการณ์ที่แน่ชัดราวกับอยู่ในความฝัน รู้แค่ว่ามันเจ็บตรงนี้ และหนาวเหน็บยิ่งกว่าเดิม!

ทั้งสองคนเริ่มกอดรัดกัน

กระทั่งฝนหยุดลง ท่านอ๋องตวนสร่างเมาไปกว่าครึ่งแล้ว ครั้นลืมตามาเห็นคนตรงหน้า ก็ผงะไปชั่วขณะ

และผลักหน้าคนตรงข้ามไปทางอื่น : “อวิ๋นหลัวฉวน?”

สถานที่ที่อวิ๋นหลัวฉวนตื่นขึ้นมาเห็นในตอนเช้าคือห้องหลังจวนอ๋องตวน

เนื้อตัวเปียกชุ่ม ไม่มีผู้ใดยู่ภายในห้อง แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ร่างกายถึงได้เจ็บปวดถึงเพียงนี้ โดยเฉพาะระหว่างขาทั้งสองข้าง

ทันทีที่ขยับนางจะรู้สึกเจ็บเจียนตาย และปวดเอวมาก

ครั้นลุกไม่ไหวจึงนอนกลับลงไป

ตกบ่ายอวิ๋นหลัวฉวนตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ครั้นเดินออกมาก็เห็นท่านอ๋องตวน จึงนึกถึงเรื่องที่ตนเองเมาเมื่อคืนได้ อวิ๋นหลัวฉวนเดินไปกล่าวขอบคุณท่านอ๋องตวน : “เมื่อคืนหม่อมฉันคงตะกละมากไป”

เรื่องอื่นนางจำไม่ได้ จำได้แค่ว่าตนดื่มหนักมาก

นางกลับมาไม่ได้ เช่นนั้นท่านอ๋องตวนคงจะพานางกลับมา

ท่านอ๋องตวนไม่สนใจ มองพิจารณาอวิ๋นหลัวฉวนชั่วครู่และเอ่ยถามว่า : “ร่างกายเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ดีขึ้นแล้ว ข้ารู้สึกปวดตามร่างกาย ไม่ทราบว่าเมื่อคืนในระหว่างที่ท่านอ๋องพาหม่อมฉันกลับมา ไปเผลอกระแทกอะไรเข้าหรือไม่เจ้าคะ” อวิ๋นหลัวฉวนคิดว่าท่านอ๋องตวนคงจะโยนนางลงไปบนเตียง

“ไม่สบายก็อย่าออกมา ไปพักผ่อนในห้องเถอะ มีอะไรก็เรียกคนอื่นให้ไปทำ”

อวิ๋นหลัวฉวนจนปัญญา ภายในมีคนคอยปรนนิบัติ ในจวนของนางก็มีแค่สองคน ตงเอ๋อร์และนาง

ไม่มีตงเอ๋อร์แล้ว นางก็ต้องปรนนิบัติตนเอง

ท่านอ๋องตวนนึกถึงคราวของจวินฉูฉู่ นางถึงกลับไม่ลงจากเตียงเป็นเวลาหลายวัน เอะอะโวยวายพร่ำบอกว่าปวดระบม เขาผู้ที่หนักไม่เอาเบาไม่สู้จึงไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร

แต่อวิ๋นหลัวฉวนดุจดั่งหินผา ปวดแต่ก็ยังวิ่งออกมา

“กลับไปก่อนเถอะ ร่างกายยังไม่ดีอย่าวิ่งมั่วซั่ว” ท่านอ๋องตวนอยากให้อวิ๋นหลัวฉวนกลับไป

“ตงเอ๋อร์หายตัวไปแล้ว ข้าจะไปตามหาตงเอ๋อร์” อวิ๋นหลัวฉวนไม่พอใจเล็กน้อย นางทำเช่นนี้ไม่ได้

ท่านอ๋องตวนประหลาดใจ : “พวกเจ้าพลัดหลงกันด้านนอกหรือ?”

อวิ๋นหลัวฉวนระเบิดอารมณ์ออกมา : “ท่านอ๋อง หม่อมฉันทราบดี ท่านไม่ชอบหม่อมฉัน สมรสกับหม่อมฉันก็ไม่ใช่เรื่องที่ท่านปรารถนาตั้งแต่ต้น แต่หม่อมฉันพยายามไม่สร้างความเดือดร้อนภายในจวนให้แก่ท่าน ท่านไม่ให้หม่อมฉันกิน ไม่ให้หม่อมฉันสวมใส่เสื้อผ้าดี ๆ หม่อมฉันทนได้ หักเงินเดือนที่ฝ่าบาททรงมอบให้แก่หม่อมฉัน หม่อมฉันทนได้

แต่หม่อมฉันต้องการที่หลบภัย

เมื่อคืนหม่อมฉันถูกขังอยู่ด้านนอก ตงเอ๋อร์ก็ถูกใครก็ไม่ทราบพาตัวไป

เรื่องนี้…หม่อมฉันทนไม่ได้

ท่านอ๋อง หม่อมฉันต้องการตงเอ๋อร์ หากเจอตัวเขาแล้วหม่อมฉันจะไปจากที่นี่ หม่อมฉันจะให้หนังสือหย่าแก่ท่าน ในเมื่อท่านไม่หย่าให้หม่อมฉัน หม่อมฉันจะหย่าให้ท่านเองเจ้าค่ะ

หากฝ่าบาทจะทรงลงโทษ ท่านก็ทูลฝ่าบาทว่าหม่อมฉันไม่อยากอยู่ในจวนท่านอ๋องตวนเอง”

อวิ๋นหลัวฉวนเดินอ้อมท่านอ๋องเพื่อออกไปตามหาตงเอ๋อร์ ท่านอ๋องตวนราวกับถูกฟ้าผ่า เขาหันกลับไปมองอวิ๋นหลัวฉวนที่ออกไปตามหาคน

คนในจวนไม่กล้ามองท่านอ๋องตวน ทยอยกันก้มหน้าลง

ท่านอ๋องตวนสีหน้าเย็นชาลง : “ข้าอยากให้พวกเจ้าจัดการเรื่องนี้ หากจัดการไม่ได้ ก็ไสหัวกลับไปให้พ้นหน้าข้า”

บรรดาคนรับใช้ต่างคุกเข่าลง ท่านอ๋องตวนตามอวิ๋นหลัวฉวนออกไปตามหาคน

เมื่อคืนเขาเองก็ไม่รู้ว่าก่อนที่จะสร่างเมาทำเรื่องโง่เขลาไปตั้งเท่าไร แต่ครั้นเห็นอวิ๋นหลัวฉวนเดินซวนเซไปมา เขาก็รู้ทันทีว่าเขาคงจะรุนแรงเกินไป

“เจ้าช้าหน่อยสิ ข้าจะช่วยตามหาเอง” ท่านอ๋องตวนตะโกนไปยังอวิ๋นหลัวฉวน

หลังจากที่อวิ๋นหลัวฉวนอยากจะร้องไห้ นางไม่กล่าวอะไรยังคงตามหาต่อไป

หลังจากที่ออกตระกูลแม่ทัพ มาถึงจวนอ๋องตวน อวิ๋นหลัวฉวนก็ถูกทุกคนสร้างความลำบากใจให้ทุกหนแห่ง

ยิ่งคิดก็ยิ่งน้อยเนื้อต่ำใจ อวิ๋นหลัวฉวนร้องไห้ออกมาทันใด แต่นางไม่ได้ร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนผู้อื่น นางทำได้แค่รีบปาดน้ำตา

ท่านอ๋องตวนรู้สึกระส่ำระสายอยู่ในใจ ราวกับถูกเข็มทิ่มแทง

หลังจากเดินตามไป ก็ถูกอวิ๋นหลัวฉวนผลักออก : “ท่านเป็นสุภาพบุรุษหรือไม่เจ้าคะ? ถึงอย่างไรท่านก็เป็นถึงท่านอ๋อง จวินฉูฉู่เป็นอะไร นางมักจะสร้างความลำบากใจให้แก่หม่อมฉัน แรกเริ่มแค่ไม่ให้หม่อมฉันกิน ต่อมาแม้แต่พืชผักก็ไม่ให้หม่อมฉันแตะต้อง

หม่อมฉันได้รับพระราชโองการ เงินเดือนของหม่อมฉันก็ไม่น้อยไปกว่าท่าน ทุกวันหม่อมฉันได้กินแค่โจ๊กสามมื้อ ท่านอยากให้หม่อมฉันหิวจนตายท่านก็บอกหม่อมฉันสิ เหตุใดท่านต้องรับตัวหม่อมฉันกลับมาด้วย?

เสด็จแม่ส่งคนมาหาหม่อมฉัน เพื่อไม่ให้จวนท่านอ๋องตวนต้องเสียหน้า หม่อมฉันจึงกลับมากับท่าน

ท่านกลับทำเช่นนี้กับหม่อมฉัน หนานกงเหยี่ยน …. ท่านไม่ใช่สุภาพบุรุษ!”

อวิ๋นหลัวฉวนตะโกนเสร็จก็หมุนตัวเดินเข้าไปในห้องเครื่องข้างห้องอาหารหลังจวน ขาของนางหมดเรี่ยวแรง วิ่งไม่กี่ก้าวก็ล้มลงไปกับพื้นแล้ว

ท่านอ๋องตวนรีบเข้าไปประคองอวิ๋นหลัวฉวนทันที อวิ๋นหลัวฉวนกลับผลักท่านอ๋องตวนออก : “อย่ามาแตะต้องตัวหม่อมฉัน ท่านไม่คู่ควรกับหม่อมฉัน”

ท่านอ๋องตวนยืนอึ้งอยู่ที่เดิม อวิ๋นหลัวฉวนถลันเข้าไปในโรงเก็บฟืน กระทั่งเห็นตงเอ๋อร์ถูกมัดอย่างน่าอนาถ

นางจึงรีบเข้าไปแกะเชือก อวิ๋นหลัวฉวนลากตงเอ๋อร์ออกมาจากโรงเก็บฟืน

คนรับใช้ของจวนอ๋องตวนรีบพุ่งตัวออกมา พ่อบ้านกล่าวกับคนถูกพาออกมา : “ตงเอ๋อร์ช่างอาจหาญ เจ้าขโมยเงินจำนวนหกหมื่นตำลึงจากในจวน บัดนี้ยังคิดจะหนีอีก”

ตงเอ๋อร์เบิกตากว้าง : “พวกเจ้าใส่ร้ายผู้อื่น!”

อวิ๋นหลัวฉวนมองไปยังพ่อบ้าน จากนั้นก็หยิบไม้จากด้านข้างไล่ตี