ตอนที่ 885 นิ้วที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
ทันทีที่ออกจากห้องผู้ป่วย รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไป
รู้สึกตึงเครียดไปทั้งตัว
กุ้ยจื่อพุ่งเป้ามาที่เธอ เซียวเวยถูกเข้าใจผิดเพียงเพราะมีรูปร่างหน้าตาคล้ายเธอสินะ?
ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ เป้าหมายของกุ้ยจื่อคืออะไรกันแน่?
พวกเขาไม่รู้จักมักคุ้นกันมาก่อนและยังไม่เคยพบกันมาก่อน...
คำถามทั้งหมดถูกกดไว้ในส่วนลึกของหัวใจ รอพบกุ้ยจื่อเพื่อหาคำตอบ
บางทีอาจจะถามได้ว่าถานเปิงเปิงอยู่ที่ไหนก็เป็นได้…
พอคิดถึงตรงนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ให้เธอเครียด
ตอนนี้เธอเครียดมากจนได้ยินเสียงเต้นของหัวใจตัวเอง ตึกตักตึกตัก…
“เหนียนเสี่ยวมู่ ผ่อนคลายหน่อย”
เหนียนเสี่ยวมู่ “คุณไม่ต้องพูด พอคุณพูดฉันยิ่งเครียด”
อวี๋เยว่หานผงะ “งั้นคุณปล่อยมือผมก่อน คุณจับจนผมเจ็บมือแล้วเนี่ย”
พอเหนียนเสี่ยวมู่หลุบตามองก็พบว่านิ้วเรียวของเธอกำลังกำนิ้วของเขาแน่นและยังออกแรงมากเหมือนจะบิดนิ้วเขาหลุด
เอ๊ะ !
เธอรีบปล่อยมือ
พอคิดได้ก็จับไว้อีกครั้ง
เพียงแค่ไม่ได้ออกแรงมากเท่าก่อนหน้านี้ ปากยังบ่นอุบ “นิ้วแค่นิ้วเดียวยังไม่ยอมให้ฉันจับ อวี๋เยว่หาน ตอนนี้คุณไม่ได้รักฉันมากเท่าเมื่อก่อนแล้วสินะ เมื่อก่อนฉันกัดคุณทีเดียวก็ไม่เห็นจะร้องสักแอะ”
อวี๋เยว่หาน “…”
พอผู้หญิงเอาแต่ใจขึ้นมาก็งี่เง่าเสียจริงๆ
เขาพลิกมือมาจับมือเธอไว้พร้อมกับกดคนที่แกล้งทำเป็นว่าไม่เป็นไรและแอบกลัวอยู่ในใจอย่างเห็นได้ชัดไว้ในอ้อมกอดเหมือนเด็กทารก อุ้มเธอเดิน
ตอนที่มาถึงคฤหาสน์ตระกูลอวี๋ กุ้ยจื่อก็ถูกผู้ช่วยพาตัวกลับมาแล้ว
โดนมัดไว้อย่างหนาแน่นอยู่ในห้องอาหาร
เสี่ยวลิ่วลิ่วหลับไปแล้วแต่ยังไม่ยอมกลับห้องตัวเอง ยังคงอุ้มตุ๊กตาลูกหมูฟุบตัวบนโซฟา
กุ้ยจื่อที่ยืนอยู่ห่างจากเสี่ยวลิ่วลิ่วไปไม่ถึงสามเมตรพยายามอ้อนวอน แต่กลับถูกพ่อบ้านเตือนเขาไว้
“เงียบๆหน่อย อย่าแม้แต่จะส่งเสียงหายใจ ถ้าทำให้คุณหนูของพวกเราตื่นล่ะก็ วันนี้แกอย่าคิดจะมีชีวิตออกไปจากบ้านตระกูลอวี๋เลย!”
“……”
กุ้ยจื่อตกใจกลัวจนแทบไม่กล้าส่งเสียงหายใจ
เขามองเจ้าก้อนข้าวเหนียวน้อยที่หลับอยู่บนโซฟาอย่างระมัดระวัง กลัวว่าตัวเองจะทำให้เธอตื่น
เมื่ออวี๋เยว่หานและเหนียนเสี่ยวมู่กลับมาจากข้างนอก กุ้ยจื่อก็กลั้นหายใจจนหน้าแดง
ทว่าอวี๋เยว่หานและเหนียนเสี่ยวมู่ก็ไม่ได้รีบร้อนมาซักถามเขา พวกเขากลับเดินไปที่โซฟาพร้อมกับอุ้มลูกสาวตัวน้อยที่อยู่บนโซฟาอย่างอ่อนโยน
“ทำไมเสี่ยวลิ่วลิ่วมาหลับที่โซฟาได้ล่ะ?” เหนียนเสี่ยวมู่จูบลูกสาวสุดที่รักด้วยความเอ็นดู
ต่อมาก็ได้ยินพ่อบ้านอธิบาย
“คุณหนูบอกว่าป่าป๊าใช้ไม่ได้ เอาแต่โกหกว่าหม่าม้าไม่กลับมา เธอก็เลยอยู่รอด้วยตัวเอง ไม่ยอมนอนจนกว่าหม่าม้าจะกลับมา”
จะพูดให้ชัดก็คือจะไม่นอนจนกว่าแม่จะมา?
แต่ประเด็นสำคัญของประโยคนี้น่าจะเป็น “ป่าป๊าใช้ไม่ได้”
อวี๋เยว่หานที่ยืนอยู่ข้างๆ ปากกระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าพอเขาไม่อยู่บ้านก็โดนเจ้าหญิงน้อยของตัวเองรังเกียจเข้าแล้ว
“ฉันอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วเข้าไปก่อนนะ” เหนียนเสี่ยวมู่รีบอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วเข้าไปในห้องนอนเด็ก
ตอนที่เธอออกมาอีกครั้ง อวี๋เยว่หานก็นั่งอยู่บนโซฟาเรียบร้อยแล้ว ขายาวทั้งสองประสานกันโดยที่มือยังถือแก้วไวน์
เขามองกุ้ยจื่อที่อยู่ตรงหน้าด้วยท่าทางสบายๆ
ออร่าอันทรงพลังกดดันกุ้ยจื่อจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา
เพียงแค่พูดซ้ำๆไม่หยุด “คุณ คุณชายหาน ผมมันมีตาหามีแววไม่ถึงได้ไปแหย่คุณเข้าแล้ว แต่ผมไม่ได้จะตั้งตัวเป็นศัตรูกับตระกูลอวี๋จริงๆ นะครับ…”
ตอนที่ 886 ผมพูด! ผมจะพูดทุกอย่าง!
อวี๋เยว่หานไม่ได้พูดอะไร พอเห็นเหนียนเสี่ยวมู่ออกมาก็ส่งมือให้เธอ
เหนียนเสี่ยวมู่รีบเดินมาอยู่ข้างๆ เขาพลางหันหน้ามองคนที่อยู่ตรงหน้า
พวกเขาไม่ได้จำคนผิด คนที่อยู่ตรงหน้าคือพ่อของเด็กแสบคนนั้นที่สนามบินเมือง N !
และขณะเดียวกันก็เป็นคนที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่าเขาสะกดรอยตามถานเปิงเปิงอีกด้วย…
“ถานเปิงเปิงล่ะ? นายจับตัวเธอไปไว้ที่ไหน?”
“ที่เซียวเวยตาย นายเป็นคนทำใช่ไหม?”
“คนที่นายต้องการจะฆ่าคือฉันใช่ไหม? งั้นตอนที่อยู่สนามบินแสดงว่านายจะเอาชีวิตฉัน งั้นเด็กคนนั้นก็คงไม่ใช่ลูกของนาย…ไม่สิ น่าจะเร็วกว่านั้น ระหว่างทางไปสนามบิน นายก็คิดจะเอาชีวิตฉัน…
คำถามพรั่งพรูออกมาจากปากเหนียนเสี่ยวมู่
กุ้ยจื่อถูกซักถามจนมึนและต้องการปฏิเสธ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาเฉียบคมของอวี๋เยว่หานก็ลังเลเล็กน้อย
เมื่อเห็นสถานการณ์ อวี๋เยว่หานก็ค่อยๆวางแก้วไวน์ลงอย่างช้าๆ นิ้วยาวหยิบมีดปอกผลไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะกาแฟขึ้นมาเล่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ถ้าฉันได้ยินคำโกหกออกมาจากปากนายแม้แต่ประโยคเดียว ฉันจะทำให้นายออกไปจากบ้านตระกูลอวี๋ไม่ได้”
ทันทีที่สิ้นเสียง อวี๋เยว่หานก็ยกมือขึ้นและใช้มีดปอกผลไม้ที่อยู่ในมือแทงผลส้มในตะกร้า
น้ำส้มกระเซ็นมาโดนหน้ากุ้ยจื่อพอดี
ของเหลวเย็นเฉียบทำให้กุ้ยจื่อตกใจจนแทบกระโดดไม่ขึ้น
เขาพูดด้วยความตื่นตระหนก “คุณชายหาน ผมพูด! ผมจะพูดทุกอย่าง! อย่าฆ่าผมเลย…”
อวี๋เยว่หานเลิกคิ้ว ปิดปากเงียบ
ทำหน้าเหมือนกำลังจะบอกว่าก็ต้องดูท่าทีที่นายแสดงออกมา ท่าทางของอวี๋เยว่หานทำให้กุ้ยจื่อไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
อวี๋เยว่หานก็ไม่ได้เร่งเร้า เขาแค่ปล่อยกุ้ยจื่อทิ้งไว้
หันหน้าไปกำชับพ่อบ้านให้ไปเอาคอมพิวเตอร์ในห้องหนังสือของเขาลงมา และเปิดวิดีโอที่อยู่ในนั้น
“คนที่อยู่ในวิดีโอนี้คือนายใช่ไหม?”
“นี่มัน…” กุ้ยจื่อดูวิดีโอบนคอมพิวเตอร์ หลังจากรู้ว่าเป็นวิดีโออะไรก็หลบสายตาเล็กน้อย
เหมือนกลัวๆอยู่บ้าง
สายตาอวี๋เยว่หานดูอึมครึม เท้าข้างหนึ่งเตะไปที่โต๊ะกาแฟ
โต๊ะกาแฟทั้งโต๊ะถูกเตะล้มลงอย่างแรง กระจกบนโต๊ะกาแฟแตกเป็นเสี่ยงๆ…
กุ้ยจื่อตกใจจนตัวสั่นและรีบตอบกลับไปว่า “ผมเอง เป็นผมเอง! คนที่อยู่ในวิดีโอคือผมเอง นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมมาเมือง H ผมเดินรอบสนามบินอยู่หลายรอบเพราะไม่คุ้นเคยสถานที่…”
ก่อนที่กุ้ยจื่อจะพูดจบก็ยิ้มไม่ออกเมื่อเห็นอวี๋เยว่หานเปิดอัลบั้ม
ในอัลบั้มล้วนเป็นภาพที่แคปมาจากวิดีโอ
ทั้งหมดล้วนเป็นภาพเขากับถานเปิงเปิงที่ปรากฏตัวในเวลาเดียวกัน
ที่ใดก็ตามที่กล้องจับภาพถานเปิงเปิงได้ ก็จะมีเขาปรากฏตัวอยู่ไม่ไกล…
ครั้งแรกอาจจะเป็นความบังเอิญ แต่การปรากฏตัวหลายๆ ครั้งก็ยากที่จะอธิบายว่าเป็นมันเพียงความบังเอิญ
กุ้ยจื่อเองก็รู้หลักเหตุผลนี้เป็นอย่างดี ขณะนี้เขากระวนกระวายจนไม่กล้าพูดอะไร
อวี๋เยว่หานยิ้มเยาะพลางยื่นมือดึงมีดปอกผลไม้ที่ติดอยู่ในผลส้มออกมา “ดูท่าแล้วนายคงไม่อยากมีชีวิตออกไปจากคฤหาสน์ตระกูลอวี๋”
เมื่อได้ยินดังนั้นกุ้ยจื่อก็ยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อเย็นเฉียบที่หน้าผาก
เขากลัวตาย
กลัวตายแล้วจริงๆ
ในเมือง H แห่งนี้มีใครบ้างที่ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของคุณชายหาน?
การล่วงเกินอวี๋เยว่หานแทบไม่ต่างอะไรกับการล่วงเกินพญามัจจุราช
กุ้ยจื่อกลัวและไม่เคยคิดมาก่อนว่าวันหนึ่งตัวเองจะถูกเชิญมาที่คฤหาสน์ตระกูลอวี๋ ได้มานั่งพูดคุยอยู่ตรงหน้าอวี๋เยว่หาน…ไม่สิ อวี๋เยว่หานนั่ง ส่วนเขายืน
ดวงตาขุ่นมัวของกุ้ยจื่อเกิดอาการร้อนรน หลังจากนั้นไม่นานเขาก็กัดฟันพูด
“ใช่ ตอนนั้นผมตามผู้หญิงคนนั้นอยู่…”
“ผู้หญิงคนไหน พูดให้ชัด!” อวี๋เยว่หานพูดพลางระงับอารมณ์พลุ่งพล่านของเหนียนเสี่ยวมู่