ตอนที่ 883 ภาพที่ไม่น่ามอง!
“ทีแรกฉันไม่ค่อยชอบถังหยวนซือเท่าไหร่ คิดว่าเขาไม่ใช่ลูกผู้ชายพอ เห็นๆอยู่ว่าชอบซั่งซินแต่ยังผลักไสซั่งซินไป พอหลังจากที่รู้เหตุผล ฉันก็เห็นใจเขานิดหน่อย บอกตามตรงฉันก็รับไม่ค่อยได้ที่ต้องให้คนที่ตัวเองรักเห็นภาพตัวเองค่อยๆก้าวเข้าสู่ความตาย…มันทรมานเกินไป!”
“…” อวี๋เยว่หานขมวดคิ้วเล็กน้อย เป็นการขมวดคิ้วที่ไม่เห็นด้วย
อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จู่ๆเหนียนเสี่ยวมู่กลับประคองหน้าเขาไว้
พูดอย่างจริงจัง
“อันที่จริงฉันก็เป็นคนเห็นอกเห็นใจคนอื่น ถ้าฉันใกล้จะตาย ฉันจะลากคุณมาด้วยแน่นอน ดีร้ายยังไงก็มีคนมาปะทะคารมในปรโลกด้วยกัน”
อวี๋เยว่หาน “…”
นี่เขามีคู่หมั้นกำมะลอหรือนี่
เหนียนเสี่ยวมู่เงยหน้าขึ้นจูบปลายคางเซ็กซี่ของเขาโดยถือโอกาสตอนที่เขายังไม่รู้ตัว
“เมื่อก่อนฉันเป็นห่วงซั่งซินมาก นึกไม่ถึงเลยว่าอาการของถังหยวนซือจะ…แต่พอตอนนี้มาเห็นพวกเขาเป็นแบบนี้แล้ว ฉันก็มีความสุขมาก บางทีอาจจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นจริงก็ได้”
คำพูดของเหนียนเสี่ยวมู่เต็มไปด้วยความหวัง
ทันทีที่เสียงของเธอลดลง เสียงอุทานของซั่งซินก็ดังมาจากทางเตียงผู้ป่วย
เธอลุกจากอ้อมกอดอวี๋เยว่หานโดยไม่รู้ตัว หันหน้าไปมองทางนั้นด้วยความตกใจ
พอหันไปมอง…ช่างเป็นภาพที่ไม่น่ามองเอาเสียเลย!
ถังหยวนซือถือโอกาสตอนที่ซั่งซินป้อนข้าวให้เขาจูบเธออย่างกะทันหันจนทำให้เธอตกใจ
คาดกว่าเสียงกรี๊ดของซั่งซินก็ทำให้ถังหยวนซือตกใจเช่นกัน
ทั้งสองยังอยู่ในท่าจูบกันอยู่ ต่างฝ่ายต่างมองตากัน
จนทำให้พวกเขาที่เป็นผู้ชมแทบจะเป็นตากุ้งยิง
อวี๋เยว่หานรีบยื่นมือมาปิดตาเหนียนเสี่ยวมู่และกดตัวเธอไว้ในอ้อมกอดตัวเอง
พูดด้วยความหดหู่เล็กน้อย
“เหนียนเสี่ยวมู่ ถังหยวนซือกำลังจะตายอยู่แล้วยังมีแฟนกอดๆหอมๆป้อนข้าวให้ด้วย เมื่อไหร่คุณจะย้ายกลับคฤหาสน์ตระกูลอวี๋ซักที?”
เหนียนเสี่ยวมู่ “o(╯□╰)o……”
รอจนกว่าถังหยวนซือกินอิ่ม เหล่าผู้ชมก็กินอาหารหมาอิ่มแล้วเช่นกัน
ไม่ว่าอย่างไรอวี๋เยว่หานกับเหนียนเสี่ยวมู่ก็เป็นแฟนกัน จึงกอดกันเพื่อแบ่งปันความอบอุ่นได้
แต่คนที่น่าสงสารที่สุดก็คือผู้ช่วยที่คอยช่วยซั่งซินดูแลถังหยวนซือมาตลอด
ตอนที่หมาโสดดีๆ ตัวหนึ่งจากไป เขาก็มีท่าทางเหมือนกินอาหารหมาจนเกิดความสงสัยในชีวิตคน
“สีหน้าประธานถังดูแล้วไม่เลว ดูเหมือนว่าซั่งซินจะมีประโยชน์กว่าน้ำต้มสุกหรือเหล้าพวกนั้นตั้งเยอะ” อวี๋เยว่หานจูงมือเหนียนเสี่ยวมู่ลุกจากโซฟา เดินไปข้างหน้าและพูดติดตลก
เมื่อได้ยินดังนั้น ถังหยวนซือก็เงยหน้าเล็กน้อย ยิ้มอย่างห้ามไว้ไม่อยู่
เขาไม่สนว่าอวี๋เยว่หานจะแกล้งหยอกเขาหรือไม่ เขายื่นมือมากอดซั่งซินและหลุบตาถามเธอ
“หิวหรือยัง? ให้ฉันป้อนเธอนะ”
“ฉันไม่หิว…”
“งั้นลูกคงหิวแล้ว ฉันได้ยิน” ถังหยวนซือไม่ปล่อยให้เธอพูดอะไรอีก เขายกซุปมาจากหัวเตียงและป้อนให้ซั่งซิน
เห็นชัดๆว่าทั้งสองกินข้าวเองได้ แต่กลับกลายไปเป็นเด็กซะอย่างงั้น
ขณะที่ซั่งซินก้มหน้าดื่มซุปก็ถือโอกาสตอนที่ถังหยวนซือเว้นว่างพูดว่า
“เมื่อกี้พ่อฉันโทรมาบอกว่าคนคนนั้นที่พวกเธอให้ตระกูลซั่งช่วยตามหา เราหาเจอแล้วนะ มีชื่อเล่นว่ากุ้ยจื่อ แต่สืบหาสถานะตัวตนของเขาไม่พบ เพิ่งได้รับแจ้งมาว่าดูเหมือนเขาจะรับช่วงต่อธุรกิจอะไรสักอย่างและเพิ่งมาเมือง H ได้ไม่นาน”
“งั้นตอนนี้เขาก็อยู่เมือง H?” อวี๋เยว่หานหรี่ตาลง มีแสงอันตรายแวบผ่านดวงตา
การที่เขาจะตามหาใครสักคนในสถานที่อื่นค่อนข้างเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่ถ้าเป็นเมือง H นั้นถือว่าเป็นถิ่นของตระกูลอวี๋
ซั่งซินพยักหน้า “ใช่ เขาน่าจะมาถึงเมื่อไม่กี่วันก่อน ซ่อนตัวตลอดไม่ยอมเผยตัวเลย เพราะฉะนั้นตระกูลซั่งจึงไม่ได้ข่าวของเขา จนกระทั่งมีคนพบเขาวันนี้”
ตอนที่ 884 จู่ๆ ก็ตาย…
อวี๋เยว่หานรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาและสั่งให้คนไปตรวจสอบที่อยู่ของกุ้ยจื่อ
ขณะที่เขากำลังโทรศัพท์ เหนียนเสี่ยวมู่ก็ยื่นมือแตะคางตัวเองพร้อมกับพึมพำว่า “วันนั้นที่เราไปเมือง N เห็นได้ชัดว่ากุ้ยจื่อยังอยู่ที่เมือง N ทำไมพอเรากลับมาเมือง H เขาก็มาเมือง H ด้วยนะ อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น คงไม่ใช่ว่าสะกดรอยตามเรามา…”
พอเหนียนเสี่ยวมู่นึกถึงคำพูดที่ซั่งซินพูดไว้เมื่อครู่นี้ก็หันหน้าไปมองเธอ
“พ่อเธอตรวจสอบได้ไหมว่ากุ้ยจื่อรับช่วงต่อธุรกิจอะไรถึงได้มาเมือง H?”
“นี่มันก็พูดยาก คนเราต่างคนต่างก็มีขอบเขตของตัวเอง แต่ฉันจะลองให้คนตระกูลซั่งไปสืบดู ดูซิว่าจะสืบไปได้ถึงไหน” ซั่งซินพูดจบได้ไม่นานและยังไม่ทันได้ต่อสายแจ้งตระกูลซั่ง อวี๋เยว่หานที่วางสายเสร็จก็เดินมาหาพวกเขาและพูดอย่างเยือกเย็นว่า
“ไม่ต้องแล้ว เมื่อกี้เพิ่งได้ข่าวมาว่าเซียวเวยตายแล้ว”
“เซียวเวย…”
ทุกคนถึงกับช็อก
ถังหยวนซือและซั่งซินไม่มีความทรงจำกับคนคนนี้ มีแค่เหนียนเสี่ยวมู่เท่านั้นที่จำได้ เซียวเวยคือผู้หญิงที่เหวินหย่าไต้หามาเพื่อให้ปลอมตัวเป็นแม่แท้ๆของเสี่ยวลิ่วลิ่ว
คล้ายเหนียนเสี่ยวมู่อยู่ไม่กี่ส่วน
อย่างไรก็ตามการแต่งหน้าสามารถเพิ่มระดับความคล้ายคลึงกันได้ถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ คนที่ไม่คุ้นเคยมีแนวโน้มว่าจะเข้าใจผิด!
สายตาเหนียนเสี่ยวมู่ฉายแววประหลาดใจ
มองไปทางอวี๋เยว่หานด้วยความตกตะลึง
“เซียวเวยก็ยังดีๆ อยู่ ทำไมจู่ๆ ถึงตายได้ล่ะ?”
“ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์น่ะ ว่ากันว่าตอนข้ามถนนไม่ทันระวังก็เลยโดนรถชน คนขับที่ก่อเหตุยอมเข้ามอบตัวแล้ว กล้องวงจรปิดบริเวณทางแยกก็จับภาพได้ว่าเซียวเวยข้ามถนนโดยไม่มองสัญญาณไฟจราจรจริงๆ ก็เลยประสบอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิต…แต่ว่าตอนที่เซียวเวยโดนรถชน กล้องวงจรปิดก็จับภาพได้ว่ากุ้ยจื่อปรากฏตัวอยู่ที่ทางแยกนั้นพอดี”
“……”
ในหัวของเหนียนเสี่ยวมู่ปรากฏภาพตอนที่เธอเกือบจะถูกรถคันนั้นชนที่เมือง N โดยไม่รู้ตัว
ตอนนั้นเธอยังคิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุ แต่ตอนนี้กลับขนลุกไปทั่วทั้งตัวอย่างบอกไม่ถูก
ถ้าเวลานั้นไม่ได้เป็นเพราะอวี๋เยว่หานมีปฏิกิริยาที่เร็วพอและดึงเธอมาได้ทัน เกรงว่าตอนนี้เธอคงไม่ต่างอะไรกับเซียวเวยที่เหลือไว้เพียงแต่ศพที่เย็นเฉียบ
พอคิดได้ถึงตรงนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะกลัวเล็กน้อย
รู้สึกเสมอว่ามีมือที่มองไม่เห็นคอยควบคุมทุกสิ่งเอาไว้ ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหนก็หนีไม่พ้น …
“คุณยังมีผม”
เสียงแหบดังเข้ามาในหู
อวี๋เยว่หานยื่นมือมาตบหัวเธอเบาๆพร้อมกับมอบอ้อมกอดอันอบอุ่นให้เธอ
ลมหายใจที่คุ้นเคยและน้ำเสียงที่เอาแต่ใจในลักษณะเดียวกันทำให้จิตใจที่ร้อนรนของเหนียนเสี่ยวมู่สงบลงทันที
“ในเมื่อกุ้ยจื่อมาเมือง H แล้วก็อย่าได้คิดที่จะจากไปอย่างเงียบๆ” อวี๋เยว่หานพูดอย่างเด็ดขาด
หลังจากที่ถังหยวนซือรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สายตาก็มืดมน
หลังจากคุยโทรศัพท์ก็บอกว่า “คนตระกูลถังเริ่มออกตามหาคนแล้ว ถ้ามีข่าวอะไรจะรีบแจ้งกลับมา”
คนที่สามารถทำให้อวี๋เยว่หานและถังหยวนซือลงมือในเวลาเดียวกันได้
ยังไงกุ้ยจื่อก็หนีไปไหนไม่รอด!
ภายในหนึ่งชั่วโมง ตอนที่พวกเขากำลังสอบถามแผนการรักษาของถังหยวนซือ โทรศัพท์อวี๋เยว่หานก็ดังขึ้น
เขาหรี่ดวงตาดำขลับและรับสายโทรศัพท์
“คุณชายหาน จับกุ้ยจื่อได้แล้วครับ! มันกำลังพรางตัวอยู่ในสนามบินเพื่อจะออกเดินทางด้วยเที่ยวบินที่เร็วที่สุด แต่โดนคนของเราสกัดไว้ได้!” น้ำเสียงตื่นเต้นของผู้ช่วยหยางดังมาจากปลายสาย
ภายในห้องผู้ป่วยเงียบสงัด ทุกคนล้วนได้ยินกันหมดแล้ว
“พวกเธอคนนึงก็ป่วย คนนึงก็ท้อง ไม่ต้องไปร่วมสนุกกับพวกเราหรอก พวกเราไปกันสองคนก็พอแล้ว” เหนียนเสี่ยวมู่กะพริบตาให้ซั่งซินพลางยิ้มตาหยีลากอวี๋เยว่หานออกไป